เข้าวีคที่ 2 ของการคุมแคล

ทำคนไข้ประจำที่ ร.พ. เลิกงานมาเจอคลินิก ตกวันละ 12 ชั่วโมง

คุมแคลวันละ 1400 แต่ก่อนกิน 2800

ออกกำลังกายไปแล้วในวีคนี้ 3 ชั่วโมง(เริ่มนับวันจันทร์) เดิน+วิ่งลู่ล้วนๆ กะจะทำ HIIT ไม่ไหว วิ่งเสร็จจะไปเวท ไม่ไหว ได้แต่เซ็ตวอร์มไป 2 -3 ท่า

งดมื้อดึก แต่เมื่อวานก็เผลอซัดไป 140 แคล พอดีเหมือนจะน้ำตาลต่ำ ก็เดินไปซื้อท่าโร่ low sodium 70 แคล + เจเล่ที่มัน 20 แคลอ่ะ แล้วก็ ไอติมฟรุทอะไรสักอย่าง 70 แคล กินเสร็จหิวกว่าเดิมอีก แต่ก็ไม่หน้ามืด

แต่โรคเครียดปวดหัวที่หลังต้นคอ + นอนไม่หลับคือหายไปเลย เหมือนหลังที่ปวดๆจะลดลงเยอะด้วย

1400 นี่น้อยนะครับ คำนวณ BMR ก่อน TDEE ดีแล้วใช่มั้ยครับ

ชัก 1 ครั้ง ใช้ไปกี่แคลฮะ

ครั้งแรกที่เห็นทาโร่โซเดี่ยมต่ำ(สีขาว) คิดในใจสวรรค์มาโปรดผมนี่พุ่งไปหยิบมา 2 ซองเลย แต่พอพลิกกลับไปดู เอิ่ม วางไว้ที่เดิมให้ไว ลดได้แค่นี้เองหรอเนี่ย

จริงๆมันก็ 21% แต่ผมว่าโซเดียมที่ WHO ให้มาคือยังไงล่ะ มันไม่เหมาะกะคนไทยมากๆ เพราะเราเป็นประเทศร้อนเสียเหงื่อเยอะ ความต้องการเกลือเราจะมากอยู่แล้ว

ผมคิดว่าถ้าไม่เค็มจนแสบคอในแต่ละมื้อ แล้วไม่ผงชูรสมากขนาดเป็นทัพพีก็ใช้ได้แล้วล่ะ

ว่าแต่ WHO เคยไปวัดพวกฝรั่งจริงๆไหมเนี่ย อาหารบางอย่างเค็มชิบ

จริงๆ 1700 ครับ แต่ผมคงเซ็ตวันที่ใช้ + น้ำหนักที่ลง หักโหมไปหน่อย ว่าจะคำนวนใหม่อยู่ครับ รอพ้นวีคนี้ก่อน อีกอย่างตรง TDEE ในแต่ละวีคผมกิจกรรมไม่เท่ากัน

ดูเครียดนะครับ

สู้ๆฮะ

ล้ามากกว่าครับ แต่สภาพอารมณ์ + ความเร็วในการคิดนี่ดีขึ้นมากกว่าตอนก่อนออกกำลังกายแบบรู้สึกชัดเลย

โซเดียมอย่าไปซีเรียสมากครับ ออกกำลังกาย กินน้ำเยอะๆ เหงื่อออก ฉี่ออกได้อยู่ เราไม่ได้ไปปั้นหุ่นเพาะกาย ไม่ต้องซีเรียสขนาดนั้น

ครับโดยปกติจะตัดลงยังไงก็ได้ครับแล้วแต่สะดวก แต่ท้ายที่สุดจะไม่ตัดต่ำกว่าBMR ครับ ไม่งั้นร่างจะพัง ไม่เป็นผลดี

ทำไมดูเครียดจังครับ ความเครียดก็มีผลนะครับลองหาแนวทางที่มันไปดูกันกับชีวิตประจำวันก็ดีนะครับ