มีประเด็นขึ้นมาอีกครั้งกับคำว่า 'Negrito' หลัง Cavani ได้ใช้คำนี้ขอบคุณเพื่อนใน story ที่มาได้ยินดีกับการทำประตูชัย ให้แมนยูพลิกกลับมาชนะ เซาธ์แฮมตั้นได้ที่สกอร์ 2-3

ทำให้ต้องย้อนกลับไปดู บรรทัดฐานในการตัดสินคดีที่เคยได้ใช้กับคำที่ใกล้เคียงกัน คือ นักเตะชาวอุรุกวัย เพื่อนร่วมชาติของเขาเอง Luis Suarez



และประเด็นคือ คู่กรณีของ Suarez คือ Patrice Evra แบ็คซ้ายชาวฝรั่งเศส ที่เป็นนักเตะแมนยูอยู่ในตอนที่เกิดคดีขึ้นด้วย

ณ ตอนนั้น สิ่งที่เป็นประเด็นคือ เจตนาของคำที่ Suarez ได้ใช้ คือ 'Negro' ที่ Suarez ได้พยายามชี้แจง ว่าในขณะที่เกิดเหตุ การที่เขาใช้คำนี้ มันไม่ได้มีเจตนาเหยียดผิวแม้แต่อย่างใด

เพียงแต่เขาใช้เรียก Evra ในเชิงเรียกเพื่อนที่มีผิวดำ ซึ่งเป็นการเรียกแบบเป็นมิตร ในบริบทของประเทศเขา

โดยที่ Suarez อธิบายว่าภรรยาของเขา บางทีก็เรียกเขาว่า 'Negro' และแม้แต่ยายของเขา ก็เรียกเขาและคุณตาเขาว่า 'Negrito' ซึ่งเรียกกันด้วยความเอ็นดู

ในตอนนั้น Evra นั้นได้ประท้วง และยืนยันว่าเขานั้นฟังภาษาสเปนออก และเข้าใจความหมายว่า Suarez นั้นไม่ได้มีเจตนาดี

ทำให้ในขณะนั้น เสียงของ Suarez นั้นไม่ได้ถูกรับฟัง และได้ถูกลงโทษ แบนไป 8 นัด

และล่าสุดทำให้เราต้องกลับมานึกถึงบริบทการใช้คำนี้กันอีกรอบ เมื่อ Cavani ได้ตอบกลับ ig story

โดยตอบเพื่อนเขาว่า 'Gracias negrito' ขอบใจ ไอ้เพื่อนมืด

หรือว่าเจตนาและบริบทการใช้คำนี้ สำหรับชาวอุรุกวัย จะไม่ใช่เป็นเจตนาเหยียดผิว แต่เป็นการใช้เรียกฉันท์มิตรจริงๆ

โดยมองเชิงภาษาศาสตร์ ในภาษาสเปน การเรียกคนดำตรงๆ แปลว่า 'Negro' ซึ่งหมายถึง คนที่มีผิวดำ และมักมีเชื้อสาย Africa

แต่การเติมต่อท้าย '-ito' เข้ามาท้ายคำ ในภาษาสเปน ทำให้คำนี้ หมายถึงตัวเล็ก ตัวน้อย เหมือนเติมคำว่า little นั่นเอง



ตัวอย่างเช่น Javier Hernandez กองหน้าเก่าของแมนยู ที่ถูกตั้งฉายาว่า 'Chicharito' ซึ่งแปลว่า 'ไอ้ถั่วน้อย' นั่นเอง ซึ่งคำว่า 'ถั่ว' ใบภาษาสเปนคือ 'Chicharo' การเติม '-ito' เข้าไปท้ายคำจึงทำให้มีความหมายประมาณว่า ไอ้ตัวน้อยเท่านั้นเอง

และคำว่า 'Negrito' เป็นคำที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายในภาษาสเปน โดยมักไม่ได้มีเจตนาใช้เป็นคำด่า และมีเจตนาเหยียดผิวเหมือนกับคำว่า 'Nigger' หรือ N-word ในภาษาอังกฤษ

เพราะฉะนั้นในเชิงภาษาศาสตร์ล้วนๆ การใช้กับคน แม้ว่าคำว่า 'Negrito' จะหมายถึง ไอ้มืดตัวน้อย หรือ little black man แต่ถึงอย่างนั้น การใช้คำนี้ อาจมีความหมายอธิบายแบบตรงตัวว่า คนดำที่ตัวเล็ก ตรงๆเลยก็ได้เช่นกัน ทำให้ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคำด่าได้

ซึ่งอาจเป็นการไม่รู้ถึงบริบทคำ ที่ทำให้ Evra นั้น คิดว่า Suarez ใช้คำว่า 'Negro' เพื่อด่าตัวเอง

เพราะฉะนั้นขึ้นอยู่กับผู้รับสารนั้น ว่าจะเข้าใจคำพูดนั้นไปในเชิงไหน ซึ่งเป็นโจทย์และเป็นบรรทัดฐานสำคัญ ที่ FA ต้องใช้พิจารณาเทียบกับกรณีที่เคยเกิดขึ้นในอดีต และกรณีที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วยเช่นกัน

จึงน่าจับตามองว่า FA นั้นจะตัดสินกรณีของ Cavani ออกมาอย่างไร กับการใช้คำว่า 'Negrito' ซึ่งเป็นการแผลงคำจาก 'Negro' ที่ Suarez นั้นได้ใช้

credit ที่มาของเคส Suarez: https://bleacherreport.com/articles/992410-luis-suarez-breaking-down-what-he-said-to-patrice-eva

https://www.theguardian.com/football/2014/oct/26/luis-suarez-am-i-a-racist-no-absolutely-not-i-was-horrified

Edit: แก้เหตุการณ์ และคำที่ซัวเรสใช้ ไม่ใช่ Negrito แต่เป็น Negro

ก็โยงกับซัวเรสกันจังเลยทั้งๆที่แมรงคนละบริบทกันเลย งงจะโยงไรนักหนา

เคสกาบานี่น่าจะโดนคล้ายๆเคสแบนาโต้กับเมนดี้ ไม่โดนหลายเกมหรอก

เคสซัวเหยินต้องเข้าใจด้วยว่าบริบทตอนนั้นมันบวกกัน เลยอาจจะดูรุนแรง

สงสัยคาวานี่จะไม่โดนแบน

อังกฤษมันประสาท มันใช้คำนี้เหยียดคนแล้วไปเหมาว่าประเทศอื่นใช้เป็นคำเหยียดด้วย

เคสคาวานี่คือชัดเจนว่าใช้เรียกเพื่อนกัน คนประเทศเค้าไม่ได้เดือดร้อนกับคำนี้ มันต่างวัฒนธรรมกัน เอาของประเทศตัวเองมาเป็นบรรทัดฐานใช้ตัดสินได้หรอ

ถ้าผมจะมองมุมของผมแบบนี้ได้มั้ย

สมมุติว่าผมมีเพื่อนคนไทย ผิวดำๆหน่อย
แล้วผมอยากเรียกเพื่อนเพราะสนิทกันว่า
เห้ยไอดำ มันก็จบเพราะเพื่อนพูดหยอกกัน

แต่ทีนี้ผมไปแข่งบอลต่างประเทศ
แต่ผมโมโหนักเตะต่างชาติทีมนึงที่ผิวดำ
แล้วอยากด่ามันว่าไอดำ แต่ไม่รู้ว่าจะด่ามันดำในภาษามันยังไง
ก็เลยด่ามันว่า ไอดำแต่เป็นภาษาไทยเนี่ยแหละ

แต่เค้าดันเข้าใจภาษาผม

ผมก็ผิด ถูกมั้ย

ฉะนั้นผมว่ามันอยู่ที่เจตนานะ

เผลอๆ คำว่า Negrito ถ้าเอาไปใช้บ้านเค้า
กับคนไม่รู้จัก มันก็คือคำด่าเหมือนกันนี่แหละ
อยู่ๆผมไม่รู้จักเค้า แต่ไปเรียกเค้าว่า Negrito ก็คงไม่ได้ ถูกมะ

ผมว่าคาวานี่ถ้าจะเทียบ น่าจะกรณีเดียวกับแบนาโด้
ที่แซวเพื่อนบนทวิตเตอร์ ละโดนแบน 2-3เกมส์มั้ง ผมจำไม่ได้
คิดว่าคาวานี่ก็คงโดนประมาณนั้นแหละ แต่ประเด็นคืออีก2นัดเจอซิตี้
เห้อออออ

เคสนี้เราพูดอะไรมากไมไ่ด้ครับ แบนาโด้โดนมาแล้ว แซวยขำๆกับเพื่อนตัวเองบนทวิต
โดนแบนเลย ซึ่งผมว่าาคาวานี่ไม่น่ารอด น่าจะโดนเหมือนกัน แต่จะกี่นัดคงว่ากันอีกที

พูด "i-to" ในอังกฤษคงไม่เป็นไร

อย่ามาพูดบ่อยๆในไทยแล้วกัน...

คิดว่าจบแบบแบนาโด้

1.คุณไม่ได้เหยียด
2.คำนี้ไม่ใช้ในอังกฤษ

ปล่อยให้ FA เค้าตัดสิน จะได้จบๆไปสักที

ก็โยงกับซัวเรสกันจังเลยทั้งๆที่แมรงคนละบริบทกันเลย งงจะโยงไรนักหนา

น่าจะเหมือนแบร์นาโด้มากกว่า คือโพส-เม้นกับเพื่อน

ของซัวเรสมันเรื่องในสนามกับคู่แข่งโดยตรง เลยโดนหนัก

บริบทต่างกันนิดๆ ผมว่า ซัวเรสดันไปใช้เรียกนักเตะทีมคู่แข่ง เอฟร่าซึ่งไม่ใช่คนเมกาใต้จะตีความว่าเหยียดก็ไม่แปลก
ส่วนของคาวานี่เป็นการตอบคุยกับเพื่อน ผมว่ามันต่างกันนิดหน่อยตรงเจตนาของซัวเรสไม่มีใครยืนยันเจตนาให้เจ้าตัวได้
แต่ของคาวานี่เพื่อนเขายืนยันให้ได้แน่ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คือ FA อังกฤษมันอ่อนไหวเกิน

โมเมนตั้มกำลังมา

เสียดายชิบ

เข้าเมืองตาหลิ่ว ก็ต้องหลิ่วตาตาม อ่ะแหละ
ท้องถิ่นไหนเขามีประเพณีว่าหยาบ มันก็คือหยาบ เหยียด
เหมือนคนไทยเรา ถ้าเราชู 2 นิ้วแบบหันหลังมือ ในบ้านเรา ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
แต่ลองไปทำแบบนี้ใส่ใครที่อังกฤษ โดนต่อยฟันร่วงแน่

ถ้าโดนแบนซักนัด 2 นัด ก็ถือว่าเป็นบทเรียนไป
แต่คงไม่ถึงขนาด 8 นัดแบบซัวเรซนะ อันนั้นปัญญาอ่อนละ FA