พอดีผมพอมีเงินเก็บไว้ในแบงนิ่ง ๆ เลย 7 หลัก ตอนนี้รู้สึกอยากลงทุนละ

อยากรู้คร่าว ๆ ประมาณนี้ครับ

1 ลงทุนในหุ้นกี่เปอเซ็น ของเงินเก็บ

2 พอทที่ผ่านมา กำไรหรือขาดทุน ปีละประมาณกี่เปอ

3 แหล่งเรียนรู้การซื้อขายหุ้นที่เข้าใจง่าย ๆ

ขอบคุณครับ

อยากรู้เรื่อง หุ้นรายวัน forex พวกนี้เหมือนกัน ว่าถ้าจะทำกำไรวันละ 300-500 มันเสี่ยงมากไหม เป็นไปได้ไหม ต้องใช้เงินหมุนเวียนหลักแสนเลยรึเปล่า

https://www.facebook.com/groups/175006576423691/

บางตัวขึ้นไปเยอะแล้ว เลือกดีๆ ขอให้โชคดีครับ ผมก็เพิ่งหัดเล่น

https://www.tactschool.com/index

หวังว่าพอจะช่วยได้ครับ

ถ้าไม่เคยลงทุนเลยแนะนำลงทุนในกองทุนรวมก่อนครับ ... แล้วอ่านหนังสือก่อนเลยครับ ลงทุนในความรู้ก่อนจะเป็นเหยื่อของความไม่รู้ คือ ผมคิดว่าเสียตังแบบมีเข้าใจ มันยังพอทำใจได้ง่ายกว่าเสียตังแบบงง ๆ ... ลงทุนเพิ่มเติมในกองทุน SSF หรือ RMF ไปก่อนก็ไม่แย่ ได้เอาไปลดหย่อนภาษีด้วย

ช่วงนี้แนะนำอย่าเพิ่งเอาไปลงหุ้นทั้งหมดครับ ... ถ้าอยากลง แบ่งลงทุนเป็นก้อน ๆ อย่าเพิ่งจัดเต็มหมดบัญชี

ส่วนแหล่งความรู้ พวกเพจลงทุนแมน stock2morrow อ่านข่าวหุ้น หาหนังสือการลงทุนมาอ่านหน่อย ของค่าย stock2morrow ก็อ่านง่ายดีครับ

forex ไม่ต้องใช้เงินเยอะครับ ... หลักหมื่นก็เล่นได้แล้วครับ ... แต่มันเสี่ยงหน่อยนะ แนะนำให้ลองโหลดโปรแกรม MT4 มาก่อน แล้วเปิด Demo account ลองหัดเล่นดูก่อน ถ้าเริ่มมั่นใจค่อยลงเงินจริง .... ต้องศึกษาเยอะ ๆ ครับ ตามข่าวบ่อย ๆ หน่อย แถมด้วย Money management ด้วยครับ

ถ้าแบบเสี่ยงน้อยๆ ก็คือต้องเป็นแบบถือยาวใช่มั้ยครับ ผมก็พยายามศึกษาอยู่เพราะ forex มันมีความเสี่ยงสูง มือใหม่ๆน่าจะ มีค่าครูเยอะแน่ๆ

มันคืออาชีพนึงอะครับการลงทุน ถ้าจะเก่งจะเอาจริงเอาจังก้เหมือนต้องเรียน ต้องศึกษาหลายปีแล้วใช้เวลาเยอะ ถ้าแพสชั่นไม่เยอะจริงก้กองทุนดีกว่าครับ

การลดความเสี่ยง มันทำได้หลายวิธีครับ เช่น ลดปริมาณในการซื้อ (ลด Lot ลง) จาก 1 lot เป็น 0.01 lot แบบนี้ก็ช่วยได้ครับ แต่กำไรก็จะลดลงตาม lot ที่ลดลงไป ไม่ก็เน้นเข้าเร็วออกเร็ว แบบพอมันสวิงให้หลุดค่า com + กำไรนิดหน่อยก็ออกเลย แต่อันนี้ต้องเล่นช่วงที่มัน สวิงสูง ๆ หน่อย .... การถือยาวอันนี้ผมไม่ค่อยชัวร์เท่าไหร่ ผมเข้าใจว่าเป็นการใช้ time frame ใหญ่ในการเทรด อย่างสมมติปกติใช้ 4 hours ก็ปรับมาใช้ 1 day แบบนี้มันจะช่วงลด noise ของกราฟได้ แต่ถ้าเข้าผิดทางก็เจ็บหนักเอาเรื่องอยู่ครับ ... แนะนำให้ศึกษา Money management เยอะ ๆ ครับ มันช่วยคุมความเสี่ยงได้ดี

ประเมินจากลักษณะคำถาม และปริมาณเงินเย็น ก็สรุปคร่าวๆว่าน่าจะรับความเสี่ยงได้สูง
เพราะฉะนั้น ขอแนะนำการจัดสรรพอร์ตตามนี้ครับ

เงินสดพร้อมใช้ 5
กองทุนตลาดเงิน 5 - 10
ตราสารหนี้ 30-40
หุ้น 50-60

ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของท่านด้วยว่า ระยะสั้น กลาง ยาว ท่านวางแผนการเงินของท่านไว้ยังไง

แนะนำว่าให้ปรึกษานักวางแผนที่ท่านรุ้จักดีกว่าครับ
ถ้าไม่มีจะถามผมก็ได้

1 ลงทุนในหุ้นกี่เปอเซ็น ของเงินเก็บ
- 90%

2 พอทที่ผ่านมา กำไรหรือขาดทุน ปีละประมาณกี่เปอ
- แล้วแต่ปี บางปีกำไร บางปีขาดทุน ปีนี้ฟลุคเยอะ

3 แหล่งเรียนรู้การซื้อขายหุ้นที่เข้าใจง่าย ๆ
- หนังสือหุ้นต่างๆ ลองเอาเงินไปเทรดสักนิดสักหน่อยก็ได้

เห็นถามเรื่องการลดความเสี่ยง ผมตอบให้คร่าวๆละกัน
- กระจายลงทุนหลายๆตัว ลดความเสี่ยงได้ แต่ลดผลตอบแทนเช่นกัน
- การมีความรู้สำคัญสุด หาได้จากสามทาง 1.อ่านเอา 2.อาศัยประสบการณ์คนอื่น 3.ประสบการณ์ตัวเอง เค้าบอกให้เน้น 1 กะ 2 เยอะๆ แต่ผมเพิ่งมารู้ที่หลังว่าถ้าไม่มี 3 บางที 1 กะ 2 มันก็ได้ผลไม่เยอะ
- ระยะเวลาไม่ได้ช่วยให้ลดความเสี่ยงสำหรับผม โลกทุกวันนี้เปลี่ยนเร็วมาก ถ้าคุณลงทุนแบบลงมั่งไม่ลงมั่ง เข้ามาแพ้แน่นอน
- คนที่ชนะตลาดมีน้อย (แค่ชนะตลาดนะ) ส่วนคนกำไรจริงๆมีน้อยกว่านั้นอีก
- ไม่อยากศึกษาอะไรมาก ลองไปดูพวกกองทุน ผมขายได้แต่ผมไม่ขายนะ ขี้เกียจ ค่าคอมน้อย
- ลองศึกษาจากเรื่องถนัดก่อนครับ ง่ายๆเลย
- ระวังพวกโชว์พอร์ทกำไรเยอะๆ คนเก่งๆในวงการนี้ที่เป็นของจริงมีไม่กี่คน ส่วนของปลอมมีเยอะมาก ระวังตัวดีๆ เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร

ปล. ผมเห็นประสบการณ์การลงทุนแย่ๆมาเยอะ ผมเลยรู้ว่าแบบไหนไม่ควรทำ แต่บางทีก็ยังทำนะ

ลงประมาณ 20% ของเงินเก็บครับ แล้วก็ดูพอร์ตให้ที่บ้านด้วย ปีที่ผ่านมาได้ประมาณเกือบ 10% ทั้ง 2 พอร์ต(ไม่รวม stgt ที่ได้ ipo มา ถ้ารวม+ประมาณ 20%) ช่วงแรกทำการบ้านหนักมาก ศึกษาถึงเที่ยงคืนทุกวัน ตัดสินใจพลาดก็เยอะ ตอนนี้พออยู่ตัวแล้วตัดสินใจถูกมากขึ้น สิ่งที่ทำมีประมาณนี้ครับ

1. ศึกษาจากเซียนหุ้นหลายๆคน ดร.นิเวศน์ เซียนฮง เซียนมี่ โจ ลูกอีสาน ลองอ่านแนวคิด+หาคลิป youtube ตามดู นอกนั้นก็มีเสี่ยยักษ์ เสี่ยป๋อง etc

2. ทำความเข้าใจว่าขีดจำกัดเราประมาณไหน ทนขาดทุนได้แค่ไหน มีเวลาดูหุ้นแค่ไหน เป็นคนที่ใจแข็งพอหรือเปล่า(สำหรับผมการตัดสินใจขายยากกว่าการตัดสินใจซื้อมาก) เงินที่เอามาใช้เล่นหุ้นควรเป็นเงินเย็นแน่นอน แต่ความอดทนยังไงก็ไม่เท่ากัน รู้ลักษณะนิสัยเพื่อเลือกหุ้นและสไตล์การเล่นในแนวทางที่เหมาะสมสำหรับตัวเอง

3. ศึกษาวิธีดูพื้นฐานของหุ้น ดู p/e d/e ratio หรืออัตราส่วนทางการเงินให้เป็น ดูกำไร ขาดทุน profit margin ev/ebitda อาจไม่ต้องละเอียด แต่ดูพอให้รู้ทิศทางของบริษัท แล้วอาจศึกษาเทคนิคอลคร่าวๆเพื่อสามารถหาจุดซื้อ/ขายได้ จะดีมากถ้าพอประเมิน p/e ในอนาคตของบริษัทคร่าวๆได้

4. วิเคราะห์ธุรกิจที่ตัวเองอยากลงทุน ตามข่าว อ่านบทวิเคราะห์ ฟังสัมภาษณ์ผู้บริหาร อ่านสรุปงบการเงิน แล้วใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจ รู้ให้ได้ว่าธุรกิจเรามีความเสี่ยงอะไรบ้าง เราไม่สามารถทำนายได้ว่าธุรกิจที่เราลงทุนจะทำกำไรได้เท่าไหร่ แต่อย่างน้อยเราต้องรู้ว่าธุรกิจเรามีแนวโน้มที่ดี เสมอตัว หรือไม่ดีในสถานการณ์ปัจจุบัน และมีราคาถูก/แพงถ้าเทียบกับความสามารถในการทำกำไร

5. (หลักการที่ใช้) อันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละคน แต่ส่วนตัวผมมองหาหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการค่อนข้างดี หลังจากนั้นก็ดูพื้นฐานบริษัทว่ายังพอมี gap ให้ขึ้นต่อ อาจไม่ได้ซื้อหุ้นที่ราคาถูกที่สุดแต่เรารู้ว่าถ้าผลประกอบการออกมา(ที่เราเก็งไว้ว่าดี จากการสังเกตหรือตามข่าว) ราคานี้จะค่อนข้างถูก (p/e ลดลงจนอยู่ในระดับที่ถูกถ้าเทียบกับอดีต) หลังจากนั้นก็ดูเทคนิคในการเข้าซื้อ สำหรับผมความสามารถในการทำกำไรมาก่อนเสมอ อย่างตอนนี้งบ q3 ออกเกือบครบก็เริ่มมองหาว่ากลุ่มไหนที่น่าจะดีใน q4 แล้วก็เริ่มหาจุดเข้าซื้อ แต่บางคนเน้นหุ้นที่มั่นใจว่าราคาถูกจริงๆ หรือสายเทคนิคเล่น Day Trade เข้าไวออกไว ก็อาจทำกำไรได้เป็บกอบเป็นกำเหมือนกัน

6. ตัวช่วยในการหาข้อมูล อันนี้สำคัญมาก ถ้าเครื่องมือพอเราจะกรองตัวเลือกในการซื้อหุ้นได้เยอะมาก สำหรับผมเครื่องมือที่ใช้มีประมาณนี้:

Jitta ช่วยประเมินมูลค่าหุ้นคร่าวๆโดยการให้คะแนนเพื่อใช้วัดว่าถูกหรือแพง แต่!!ประเมินได้แค่ผลการดำเนินงานในอดีตเท่านั้น เราต้องมั่นใจว่าอนาคตบริษัทจะไม่แย่จนมูลค่าหุ้นเปลี่ยนจากถูกกลายเป็นแพงถึงจะจูงใจให้ซื้อ

Finnomena ดูงบย้อนหลังได้ 10 ปี ดูกำไร/ขาดทุน หนี้สิน อัตราส่วนได้ค่อนข้างละเอียด ดูผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ด้วย ที่เดียวดูได้เกือบครบ

Line: @news เพื่อดูงบย้อนหลังได้ 5 ปี ดูได้ว่าผู้บริหารหรือต่างชาติมีซื้อขายหุ้นอะไรบ้าง มีพาดหัวข่าวให้รู้ว่าตัวไหนมีข่าวอะไรบ้างก่อนจะไปหาข่าวอ่านเพิ่มอีกที

IAA Consensus ในเว็บ Settrade อันนี้ดูได้เฉพาะตัวใหญ่ๆหรือหุ้นในกระแส แต่มีบทวิเคราะห์ช่วยให้เห็นภาพธุรกิจมากขึ้น แต่อย่าไปเชื่อราคาเป้าหมายมาก

Pantip:บ้านนักลงทุนสายฮา ดูหน้าข่าวหนังสือพิมพ์หรือหุ้นตัวที่เราติดตาม หรือข่าวอะไรที่น่าสนใจก็จะมีคนโพสต์ไว้เรื่อยๆ พยายามหลีกเลี่ยงข่าวที่ใส่อารมณ์หรืออคติลงไป

อาจมีเคร่องมืออื่นบ้างประปรายแต่หลักๆประมาณนี้ครับ

สุดท้ายเล่นหุ้นอีก 1 อย่างที่สำคัญมากคือการบริหารอารมณ์ ข้อมูลแน่นมาก วิเคราะห์ถูกหมดแต่แพ้ภัยอารมณ์ตัวเองก็แพ้อยู่ดี ขอให้ทุกท่านโชคดีกับการเทรดครับ

สำคัญไม่แพ้หุ้น คือ money management
ผมว่าศึกษาควบคู่กันไป ช่วยลดการขาดทุนได้พอสมควร

forex มีความรู้แล้วต้องมีจิตใจที่แข็งแกร่งด้วย

ผมมีเพื่อนคนนึง อ่านกราฟเก่งมาก
ผมให้เค้าปั้น 10$ เป็น 300$ ในเวลา 6 ชม
และปั้นแบบนี้อีกหลายรอบ
แต่...ตัวเค้าไม่สามารถควบคุมจิตใจได้
พอเห็นเงินเยอะ แล้วคำว่า ขออีกนิดมันจะวิ่งอยู่ในหัว
วิ่งไปวิ่งมา จนบางทีจากกำไรเป็นขาดทุน
จากขาดทุนกลายเป็นล้างพอร์ทฝ
เค้าบอกผมเลยว่า
กูบอกมึงได้ ว่ามันจะไปจุดไหน แต่มึงต้องควบคุมใจมึงเองนะ
ถึงจุดที่พอคือพอ อย่าโลภ

ก่อนอื่นแยกให้ออกก่อนนะครับ
1.เงินเย็น เย็นไปอีกกี่ปี?
2.ยอมให้เงินต้นหายได้มากแค่ไหน
3.อยากเล่นหุ้นแบบ เก็งกำไร หรือ ลงทุน

คำตอบข้อ 1. ที่ถามว่าเงินเย็นไปอีกกี่ปี เพราะเมื่อมันถึงเวลาที่จะต้องกลายเป็นเงินร้อน จะบอกได้ว่าคุณเหมาะลงทุนแนวไหน (สั้น-ยาว, เสี่ยงมาก-น้อย)

คำตอบข้อ 2. คุณยอมให้เงินต้นหายได้แค่ไหน? เพื่อจะรู้ว่าคุณรับความเสี่ยงได้แค่ไหนและเหมาะจะเอาเงินไปลงกับ Asset ประเภทไหน (การลงทุนบางแบบ หมดคือหมดนะ ถ้าไม่ระวังหรือเฝ้าดีๆ)

คำตอบข้อ 3. วันๆนึงคุณมีเวลาให้มันได้แค่มากไหน?

ถ้าคุณอยากเก็งกำไร คุณต้องอยู่กับมันแทบจะทั้งวันจนกว่าตลาดจะปิดได้ หลังตลาดปิดคุณใช้เวลาทำการบ้านสำหรับสงครามพรุ่งนี้ต่อ

ถ้าคุณอยากลงทุน คุณต้องเสียเวลาศึกษาพื้นฐานธุรกิจ(รายตัวหรือรายกลุ่มธุรกิจ) วิเคราะห์โมเดลธุรกิจ ดูงบการเงิน ดูTrendของโลก ดูความเสี่ยงด้านการถูกDisruption ดูนู่นนี่นั่นโน่นเยอะแยะ แล้วยังต้องมองไป5-10ปีข้างหน้าว่าคุณยังเห็นหุ้นที่คุณเล็งมันยังอยู่ในธุรกิจมั้ย อาจต้องทำแบบนี้สัก3-6เดือน/ครั้ง



ในการลงสนามลงทุนเอง มันไม่ค่อยบ่อยหรอกที่จะเจอหมูวิ่งมาชนปังตอ ทุกคนที่ลงมาในสนามนี้มาด้วยความโลภกันทั้งนั้นและไม่มีใครอยากเป็นผู้แพ้ คุณต้องทำการบ้านให้หนักและที่สำคัญที่สุดคืออย่าไปลงทุนในสิ่งที่คุณยังไม่เข้าใจมันดีพอ