ผมเข้าใจในการตัดสินใจของ Mikel นะ


เราต้องโฟกัสไปที่เกมส์รับมากพอๆกับเกมส์รุก


ทีมเปรียบเสมือนสมอง ที่ต้องประสานเกมส์รับกับเกมส์รุก เข้าด้วยกัน


ผมจะย้ำเตือนนักเตะเกมส์บุกของทีมทุกคนเสมอๆ


ถ้าคุณจะวิ่งขึ้นไปบุกแล้ว คุณก็ต้องวิ่งกลับลงมาช่วยเกมส์รับทีมด้วย


การเล่นเกมส์รับอาจดูน่าเบื่อ ไม่สร้างสรรค์ แต่ในเกมส์ฟุตบอลโดยเฉพาะเกมส์ระดับสูงคุณจะละเลยมันไปไม่ได้


คุณคิดว่า top team ของโลกจะโฟกัสไปที่การบุกของตัวรุกอย่างเดียวหรอ เปล่าเลย


Bayern ­Munich แชมป์ยุโรปทีมล่าสุดนั่นไง Serge Gnabry และ Thomas Muller ทั้งคู่ลงต่ำมาช่วยทีมเล่นเกมส์รับตลอดเวลา


Liverpool ก็เช่นกัน Roberto Firmino และ Sadio Mane ทำให้เห็นแล้วว่ากองหน้าที่ไม่ได้มีดีแค่เกมส์บุกเล่นยังไง


คุณไม่ควรโยนภาระเพิ่มให้แก่คนอื่นๆ


โอเคแหละเค้ามีพรสวรรค์ระดับสุดยอด มันอาจจะมีส่วนในเกมส์ใหญ่ๆ บางเกมส์และทีมใหญ่บางทีม แต่คุณก็ต้องปรับตรงจุดอื่นเพื่อให้ทีมไม่เสียดุลย์ไป


แต่สำหรับผมยืนยันเลยว่า ผมอยากให้นักเตะในทีมทุกคน ช่วยเกมรับเช่นเดียวกับการเล่นเกมรุก


ยิ่งคุณให้ทีมเล่นแบบอิสระมาก มันก็จะคอนโทรลทุกอย่างได้ยากเช่นกัน


Ozil คือนักเตะมหัศจรรย์ เค้ามีจินตนาการและไอเดียที่สามารถจ่ายบอลในพื้นที่สุดท้ายได้อย่างเยี่ยมยอด


แต่คำว่าทีมมันไม่ได้มีแค่นั้นนะ ถ้าสิ่งที่เค้ามีมันไม่มากพอที่จะแลกกับสิ่งที่ทีมเสีย เมื่อถึงเวลานั้นมันจะกระทบกับทีมทั้งเกมส์รับและเกมส์รุก


ถ้าเรามีนักเตะที่ไม่อยากทำหน้าที่ ระบบและทีมก็จะเสียไป ความสามารถเป็นสิ่งสำคัญแต่ความขยันก็ขาดไม่ได้ด้วยเช่นกัน

เฟอร์มิโน่ มาเน่ กนาบรี้ มุลเลอร์

มีทักษะการเล่นตํ่าตรงไหนเหรอครับ

ตรรกะที่ถูกควรจะเป็นว่า

"ถึงทักษะการเล่นจะดีแล้ว

ก็ยังควรช่วยเกมส์รับได้ดีด้วย

นั่นคือนักเตะที่ฟุตบอลสมัยใหม่ต้องมี"

ส่วนคนที่ไม่ปรับตัวตามโลกฟุตบอล

ก็ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ก็แค่นั้นเอง

ผลของค่านิยมสมัยใหม่ ที่โฟกัสการวิ่งมากกว่าทักษะ

เดี๋ยวนี้เค้าทำหน้าที่เป็นโฆษกทีมแล้ว สักพักคงมีพากย์บอลไลฟ์สตีม

เค้าไม่ได้ลงเพราะเรื่องอื่นครับจารย์

เฟอร์มิโน่ มาเน่ กนาบรี้ มุลเลอร์

มีทักษะการเล่นตํ่าตรงไหนเหรอครับ

ตรรกะที่ถูกควรจะเป็นว่า

"ถึงทักษะการเล่นจะดีแล้ว

ก็ยังควรช่วยเกมส์รับได้ดีด้วย

นั่นคือนักเตะที่ฟุตบอลสมัยใหม่ต้องมี"

ส่วนคนที่ไม่ปรับตัวตามโลกฟุตบอล

ก็ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ก็แค่นั้นเอง

555 ร็อดเจอร์สเข้าใจสนับสนุนนะ คือ ถ้าเป็นคล็อปป์เขาคงไม่คิดแบบนั้น ตอนมาแรกๆ หงส์แดงแทบจะไม่เป็นระเบียบแต่แฟนบอลดูสนุก โค้ชสร้างอารมณ์ร่วมกับนักเตะ...อย่างที่แฟนบอลต่างๆชื่นมื่นถึงผลงานในรอบปี..มันก็แค่ทีมเข้าชิง แต่แฟนบอลกลับรู้สึกอิ่มเอิบกับคล็อปสไตล์ หลังจากเขาเริ่มปรับทีละน้อยเพราะแทบจะเห็นข้อผิดพลาดในแต่ละจังหวะกับสไตล์นักเตะ...มีซื้อเข้า ขายออก ประมาณคนอยู่ก็ดีใจ คนจากไปก็คิดถึง จนถึงทุกวันนี้...คือมันเกินคำว่าเพอร์เฟคไปแล้ว ในวันที่แย่ๆก็อาจจะแค่นักเตะฟอร์มตก แต่ระบบ...มันยังคงอยู่ แต่อาร์เตต้ามาอีกแบบแทบจะตรงกันข้ามเลย ถ้ากลัวความผิดหวังขนาดนี้ ก็ไม่น่าจะมาคุมปืนครับ...เอกลักษณ์ปืนตั้งแต่เวนเกอร์เข้ามาเปลี่ยน นั่นคือทีมที่จะประสบควสมสำเร็จยาวๆครับ...

Firmino หลังๆ เล่นเกมส์รับด้วยการมองและวิ่งลดลงมากเลย
จริงๆแล้วที่ Trent เล่นเกมส์รับหลวมเพราะไม่มี Salah ลงมาช่วย double back หน้าที่นี้เลยไปอยู่ที่ Henderson
พอ Henderson ไปช่วยทางขวา กลางจะโล่ง หน้าที่ที่ควรลงมาปิดพื้นที่ Henderson ควรเป็นของ Firmino แต่ระยะหลัง เล่นดุดันน้อยวิ่งน้อยลง เสียบอลง่าย (เสียบอลง่ายนี่ แต่ไหนแต่ไรแล้ว) กลางเลยหลวม แผงหลังก็เลยตัวช่วยน้อยลง

ถ้า Firmino เล่นเหมือนตอนที่ถูกจับมาเล่น false 9 ใหม่ๆ กลางลิเวอร์พูลน่าจะแน่นกว่านี้

ไม่มีชื่อลงทะเบียน25ผู้เล่นเพราะเล่นเกมส์รับไม่เก่ง???

ผีกับปืนยุคที่ครองเกาะ เป็นทีมเล่นเกมบุกเป็นหลัก

ถ้าอาร์เตต้าจะเอาโอบาเมยองเล่นปีก โอซิลก็เอามาเล่นf9แบบโน่ได้ หรือเปลี่ยนเล่นหน้าคู่เหมือนเบิร์กแคมป์กับอองรี เอากลาง4ตัวรับ มันคงไม่ทำให้เกมรับเสียหรอกครับ แถมเวลาเล่นรุก มีตัวเติมสอดจากกลางและหลังได้อีกเยอะ

การมีนักเตะเปลี่ยนเกมได้ยืนค้ำหน้า มันก็ดันแผงหลังได้ทั้งแผงด้วยนะครับ

แฟนปืนบางคนเขาอาจจะอยากอยู่กลางตารางตลอดไปก็ได้ครับ ขอแค่มีนักบอลในดวงใจก็พอ

สมัยมูคุมมาดริดก็ไม่เคยว่าแกเรื่องเกมส์รับนะ รับแบบสไตล์ตัวรุก ใครก็เข้าใจได้ ขอแค่ทำหน้าที่ตัวเองเต็มที่พอ

ไม่กล้าพูดถึงเรื่องหลักเพราะกลัวกลุ่มทุนจีนจะแบน แต่จะพูดตรงๆก็ไม่ได้เดี๋ยวจะเสียความเสรีภาพที่ฝั่งตัวเองเชิดชู
ทางออกคือต้องมาโจมตีเรื่องวิ่งเยอะแทน อ้อมแอ้มไปเรื่องอื่นทำอย่างกับเรื่องวิ่งเยอะมันเป็นปัญหาใหญ่ที่แก้ไขไม่ได้

รู้ว่าปัญหานี้มันน้ำท่วมปากพูดไม่ได้แต่แทนที่จะเงียบๆทำไมถึงโจมตีนักเตะอยู่นั่น จนตอนนี้สื่อเอาไปเล่นซ้ำควรจะสงสารใครดี
โควต้า25คนมีไว้สำหรับคนที่วิ่งเยอะจะทำทีมบอลหรือทีมมาราธอนอ่ะ ไปตัดชื่อทิ้งไม่คิดว่าโอซิลจะปรับตัวได้มั่งเลยเหรอ

ปัญหามันใหญ่กว่านั้นไงแต่ก็มีคนลากไปทางฟุตบอลให้ได้ ถ้ามันแค่เรื่องฟุตบอลอย่างเดียวทีมระดับอาเซน่อลแก้ปัญหาได้อยู่แล้ว

ผมว่าเหตุผลอาเตต้าไม่น่าเกี่ยวกับช่วยเกมส์รับอ่ะ
ตอนโอซิลอยู่มาดริดยุค มูริญโญ่
น้ามูแกเน้น เขี้ยวแค่ไหน
ถ้าเป็นนิสัยแกมีตัวรุกระกับเทพ 2 คน
คือ กาก้า กับ โอซิล แล้วโอซิลไม่ค่อยวิ่ง
หรือขี้เกียจ ยังไงนิสัยมูแกก็เอากาก้าลงก่อนแน่
เพราะแกเอาเรื่องเกมส์รับมาเป็นอันดับแรก แถมเขี้ยวลากดิน
แต่โอซิลวิ่งครับพอๆกับคนอื่น แค่อาจจะไม่ค่อยสปริน
แต่แกก็วิ่งหาช่องไปส่งไปทำเกมส์อยู่ตลอด
เกมส์รับแกก็คอยประคองช่วย แค่ไม่ค่อยเข้าแทคเคิล
แต่ไม่ยืนเฉยไม่สนโลก