เจมี่ คาร์ราเกอร์ กููรูลูกหนังคนดังเชื่อว่า ความพยายามของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะดึง เจดอน ซานโช่ มาร่วมทีมให้ได้ในซัมเมอร์นี้ คือความผิดพลาด


ทีมปิศาจแดง ยังคงตกเป็นข่าว พยายามโน้มน้าวใจทำทุกวิถีทางเพื่อจะคว้า ปีกอนาคตไกลทีมชาติอังกฤษจากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาร่วมทีมให้ได้ในซัมเมอร์นี้ ภายหลัง โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ วางให้เป็นเป้าหมายเสริมทัพอันดับต้นๆ

โซลชาร์ อยากได้นักเตะที่ครีเอตเกมรุกเก่งๆ เข้ามาช่วยประสานงานร่วมกับ อองโตนี่ มาร์กซิยาล และมาร์คัส แรชฟอร์ด

แต่ติดปัญหาตรงที่ ดอร์ทมุนด์ ต้องการค่าตัวนักเตะที่ 108 ล้านปอนด์ (120 ล้านยูโร) ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ทัพปิศาจแดงไม่พร้อมจ่าย แต่ยังดันทุรังพยายามหาวิธีจะคว้าตัวนักเตะมาครองให้ได้

ดีลนี้อาจทำให้แฟนบอลพอใจ แต่คาร์ราเกอร์ กลับรู้สึกว่า ทีมผีควรล้มเลิกแผนตามซื้อตัวได้แล้ว และให้หันไปมองเป้าหมายอื่น โดยเฉพาะให้ความสำคัญกับพัฒนาการอย่างต่อเนื่องของ เมสัน กรีนวู้ด


"ความลังเลใจของยูไนเต็ด ที่จะสู้ค่าตัวของซานโช่ จนถึงตอนนี้รู้สึกเหมือนเป็นความพยายามจะย้อนกลับวัฒนธรรมจ่ายเงินที่แพงมากเกินไป" คาร์ราเกอร์ กล่าว

"กับนักเตะคนอื่นที่ดีพอๆกับซานโช่ เขามีค่าตัว 108 ล้านปอนด์หรือเปล่า"

"และดีลนี้มันจะส่งผลกระทบอย่างไรกับโอกาสลงเล่นของ เมสัน กรีนวู้ด ซึ่งดูเหมือนจะเป็นผู้เล่นดาวรุ่งเกมรุกที่ดีที่สุดของประเทศนี้ กับผลงานยิงไป 17 ลูกจากเมื่อฤดูกาลที่แล้ว"

"ถ้ายูไนเต็ดคิดว่าซานโช่คุ้มค่า ดีลนี้ก็ควรจะเรียบร้อยไปนานแล้ว"

"สิ่งที่ผมไม่เข้าใจก็คือ ถ้ายูไนเต็ดคิดว่าไม่คุ้มค่า ทำไมพวกเขาไม่มูฟออน"

"ถ้าราคามันไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะทำให้แฟนบอลผิดหวังแค่ไหน ให้เดินออกมาแล้วซื้อเป้าหมายอื่นแทนที่สามารถสื่อถึงความแข็งแกร่ง ไม่ใช่ความอ่อนแอ"

ทั้งนี้ ยูไนเต็ด เพิ่งจะเสริมทีมในซัมเมอร์นี้ได้เพียงรายเดียวเท่านั้นคือ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค แต่ถึงกระนั้นกับเวลาที่เหลืออยู่ไม่ถึง 2 สัปดาห์ในตลาดซื้อขาย ยังเชื่อว่าทีมจะสามารถทำสัญญากับผู้เล่นใหม่เพิ่มได้อีก

อาจได้เห็นเซอร์ไพรส์ปิดดีลคว้าซานโช่ หรืออาจเป็น อเล็กซ์ เตลเลส ฟูลแบ็กปอร์โต้ ที่ทีมกำลังเจรจาอยู่ด้วยก็เป็นได้

เฮ้อ!!

ใช่มันนานมากไปแล้วถึงเป็นตำแหน่งที่ต้องการมากแต่ไม่ได้ซ๋ะที ไปเล็งปิดแผลเก่าตำแหน่งอื่นก่อนเถอะท้ายตลาดไม่โดนกดก็ได้ราคาถูกอะทีนี้วัดฝีมือคนซื้อไปอีก ไปจริงจังตัวอื่นป่านนี้ได้ LB CB ไปแล้วมั้งก็รู้อยู่เขาจะเอา 108mยังจะแหย่80 90อยู่นั้น

ไม่ได้​เสียเวลาในการจีบ แต่เสียเวลาเพราะทำงานช้า

ดีลเดียว จะล่อกัน 2เดือนแล้ว

มันค่อนข้าง​ชัดนะว่าราคามันอยู่ตรงไหน แต่เหมือนทีมซื้อขายจะเชื่อว่าจะได้สิ่งที่กำลังต่อรองอยุ่

หรือไม่ก็แย่กว่านั้นคือ PR ยื้อเวลา(ตามถนัด)​ให้ดูเหมือนว่ายังพยายามอยู่ ตลอดช่วงที่ตลาดยังเปิด ทั้งที่จริงๆ ไม่มีกำลังซื้อ หรือไม่ยอมจ่าย 120m แน่ๆแล้ว

แต่ถ้าออกตัวว่าไม่ไหวตั้งแต่ต้นตลาดมันจะดูกระจอกเกินไป กระแสโจมตีจะเข้ามาตลอดทั้งซัมเมอร์​ (อย่างน้อยพอตลาดปิดแล้วมันก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว สุดท้ายกระแสต่างๆจะเทไปที่ผลงานในแต่ละนัดแทน

จริงๆถ้าแมนยูหลังแน่นนี่ผมอุ่นใจกว่าได้ซานโช่อีก

ไม่ใช่เจรจาซานโช่อยู่ และไม่ใช่ไม่มูฟออน
แต่.. ตูจะไม่ซื้อใครเเลยต่างหาก

ดีลนี้ถ้าตอนปิดตลาดต้องไปซื้อตามราคาที่ดอทมุนตั้งไว้ก็เท่ากับเสียเวลาเปล่า ถ้าไม่ได้ใครเลยก็ยิ่งเสียเวลา ถาจะให้ได้คำชมในดีลนี้ต้องซื้อมาให้ได้ในราคารวมกันไม่เกิน 90 ล้านไม่งั้นคงไม่คุ้มกับเวลาที่เสีย อย่างน้อย ๆ ก็น่าจะเอาแบบทีมอื่นที่ไปติดต่อคุยกับนักเตะทางเลือกไว้หน่อยเผื่อเวลาใกล้หมดจะได้มีตัวสำรองให้เลือก

ไม่มีเงินสดมากมายพร้อมจ่ายขนาดนั้น
ยื่นไปรอบสุดท้ายเพื่อจะหาทางออกจากดีล แบบไม่ให้โดนด่า ของเอ๊ด

ที่เจ็บใจไม่ใช่ว่าจะไม่ได้ซานโช่ แต่คือ ไม่ยอมไปหาดีลอื่นที่จำเป็นเหมือนกัน
อย่างเซ็นเตอร์แบ็ก ที่เป็นจุดอ่อนของทีมมาตลอด
ปีกว่าตัวอื่นๆ ในยุโรปก็น่าจะพอมี เอามาสลับกับ กรีนวูดส์ ก็ได้อยู่
น่าผิดหวังจริงๆ

ไม่ลุ้นอะไรแล้ว วันนี้มีเตะยังไม่มีอารมณ์จะดู

เสียเวลา ที่ให้คนไม่มีความรู้ด้านฟุตบอล ไปเจรจาซื้อขายนักฟุตบอล นี่แหละ

ใช่ เห็นด้วยเลย ดอร์ทมุนด์เขาชัดเจนแล้ว เขาไม่ขายต่ำกว่านั้น ยังจะมัวแต่ยึกๆยักๆ จะทุ่มก็รีบทุ่ม ไม่กล้าทุ่มก็ไปหาตัวใหม่ซะที

นักข่าวแซม จาก แมนเชสเตอร์อีฟนิ่งนิวส์เขียนเรื่องดีลนี้ไว้ได้น่าสนใจถึงปกติไอ้คนนี้จะดูมั่วๆ ปกติผมจะไม่ค่อยอยากเชื่อที่เขาเขียนเท่าไร

แต่หยิบยกประเด็นที่ล้อกับปฏิทินการลงบัญชีไตรมาสซึ่งอันนี้เป็นเรื่องจริงที่มั่วไม่ได้ขึ้นมา ซึ่งเป็นไปได้เหมือนกันว่าอาจจะเป็นคีย์หลักทำให้ยังไม่ยื่น

เพราะไตรมาสที่ 1 (กค-กย) ของปฏิทินงบประมาณยูไนเต็ด จะตัดที่ 30 กย. จริง ถ้าซื้อก่อนวันนี้ ค่าใช้จ่ายใดๆ ก็ตามรวมถึง ค่าตัวของซานโช่จะลงบัญชี ค่าใช้จ่ายไตรมาส 1 ทันที ความหมายคือ ไตรมาสนี้ตัวเลขผลประกอบการแทบจะรู้อยู่แล้วว่าแย่จากผลโควิทขนาดไหน และจะไปอยู่ในรอบที่ต้องแถลงผลประกอบการในช่วงเดือน พย.

แต่ถ้าซื้อตั้งแต่ 1 ตค. เป็นต้นไปเท่ากับตัดไปลงค่าใช้จ่ายในบัญชีอยู่ไตรมาส 2 ความหมายคือ มีเวลาอีกทั้งไตรมาส (ตค-ธค) ที่จะหารายได้ทางใดก็ตามมาโปะตัวเลขให้ปิดงบได้สวยๆ รวมถึงได้เวลาหายใจรอดูแนวโน้มที่ดีขึ้นหลังโควิท ว่าแฟนกลับเข้าสนาม มีตัวเลขกลับมาช่วยแค่ไหน

120 ล้านยูโรเวลาซื้อมาไม่ได้ลงบัญชีตูมเดียวทั้งก้อนก็จริง เพราะใช้เป็นวิธีหารลงบัญชีแบบในรูปแบบหักค่าเสื่อมหารจากระยะเวลาสัญญาที่เซ็นแล้วนับแต่ละปี เช่น ถ้าสัญญา 5ปี ลงบัญชีปีละ 24 ล้านยูโร แต่ถ้าดึงไปหลัง 30 กย. ได้ก็จะเริ่มนับลงบัญชีไตรมาส 2

อิแซมจะชัวร์หรือจะมั่วก็ไม่รู้แต่ก็ถือว่ายกประเด็นมาได้น่าสนใจไม่วนซ้ำพวกคูเปอร์ ดั้กเกอร์ที่ลงข่าวเมื่อวานรอดูหลังวันที่ 30 กย. ก็แล้วกันว่า ตาแซมจะหลุดจาก Tier of shame จากตอนเบอร์เก้มั้ย

ปล. ใครเป็นนักบัญชีแม่นๆ ลองช่วยประเมินดูให้ด้วยครับว่าทฤษฏีอีแซมมีความเป็นไปได้มั้ยครับ ผมก็ไม่ใช่สายตรงบัญชี แต่เป็นสายบริหารอาจจะไม่เป๊ะเท่า


ที่มาแบบ Eng จากตาแซม

United will complete their fiscal first quarter on September 30 2020 and any transfer activity before that date would be reflected in the financial reporting and accounts dated September 30, which would then be reported to investors in mid-November.

There is an incentive for United to delay any bid for Sancho until after September 30, which would mean the transfer would only be reflected in the fiscal second quarter accounts ending December 31 2020. As a public company, there is logic in United delaying a bid until between October 1-5, given the benefit of reporting such a material transaction in the quarter ending December 31, rather than in the current quarter that will detail severe losses.

Edit แก้ตัวสะกดคำผิด

เอาจริงๆ สถิติฤดูกาลที่แล้วหลังก็ค่อนข้างแน่นนะ

แต่นัดแรกทำไมโดนในบ้านไปได้ตั้ง 3 ลูก

กลายเป็นนอกจากเกมรุกขวามีปัญหาแล้ว เกมรับก็กลับมามีปัญหาใหม่อีก