มาดามไม่ถูกใจสิ่งนี้ หลังเจอเด็กเก่า “เจนรบ สำเภาดี” ทำแสบ ยิงให้ “เดอะ แรบบิท” ขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 13 ก่อนปิดจ็อบบุกทุบ “สิงห์เจ้าท่า” ตายคาบ้าน 1-0 ไร้แต้ม 2 นัดติด

ฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2020 นัดที่ 6
วันเสาร์ที่ 19 กันยายน 2563
สนาม : แพท สเตเดียม

การท่าเรือ เอฟซี 0-1 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
ผู้ทำประตู : 0-1 เจนรบ สำเภาดี น.13

“สิงห์เจ้าท่า” ถูกปรับแพ้ โปลิศ เทโร เอฟซี 0-2 จากเหตุการณ์ไฟสนามดับเกิน 60 นาที และเกมนี้ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน อดิศร พรหมรักษ์ และ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ที่มีอาการบาดเจ็บ รวมถึง ธนาสิทธิ์ ศิริผลา ติดโทษแบน แต่ยังได้ โก ซุล กิ พ้นโทษแบนกลับมาเป็นตัวจริง

ส่วน “เดอะ แรบบิท” ถูกเลื่อนการแข่งขันที่ต้องพบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลัง อัคบาร์ อิสมาตุลลาเยฟ ติดโควิด-19 ขณะที่ความพร้อมไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บและติดโทษแบน โดย เจนรบ สำเภาดี ถูกส่งลงเจอทีมเก่านัดแรก

ครึ่งแรก

นาทีที่ 4 ทีมเยือน บีจี ได้โอกาสลุ้นก่อนจากจังหวะ สารัช หลุดเข้าไปยิงเดี่ยวๆ แต่ รัตนัย ยังล้มตัวปัดบอลเซฟเอาไว้ได้

มาถึงนาทีที่ 13 กองเชียร์ “เดอะ แรบบิท” ได้เฮจาก เจนรบ สำเภาดี ได้จังหวะแตะหลบ เอเลียส ในเขตโทษ ก่อนยิงเรียดบอลเสียบเสาสองเข้าประตูไปให้ทีมเยือนออกนำไปก่อน 1-0

นาทีที่ 22 ท่าเรือ ได้ลุ้นบ้างจาก เควิน ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนตัดสินใจยิงไกลด้วยซ้าย แต่บอลเรียดไม่ตรงกรอบออกหลังไป

นาทีที่ 26 โอกาสบุกขึ้นมาอีกครั้งของท่าเรือ มาร์ติน เปิดบอลเข้ากลางให้ เฮแบร์ตี้ ตวัดยิงเร็วด้วยซ้ายบอลพุ่งเรียด แต่ไม่ตรงกรอบออกหลังไปอีกครั้ง

นาทีที่ 30 ท่าเรือ บุกต่อเนื่อง มาร์ติน สตูเบิ้ล เลี้ยงบอลตัดเข้ากลาง ก่อนซัดด้วยขวาเต็มแรง บอลพุ่งเข้ากรอบ แต่ ฉัตรชัย พุ่งปัดบอลออกหลังไปได้

นาทีที่ 36 ท่าเรือ ได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ เฮแบร์ตี้ รับหน้าที่ยิงด้วยซ้าย บอลพุ่งแรงข้ามกำแพง แต่ก็โด่งข้ามคานออกไป

ช่วงท้ายครึ่งแรก ท่าเรือ พยายามเดินเกมบุกหวังตีเสมอให้ได้ แต่ก็ยังไม่สำเร็จ จบ 45 นาทีแรก บีจี ยังรักษาสกอร์นำ 1-0

ครึ่งหลัง

ทั้งสองทีมยังไม่เปลี่ยนตัวผู้เล่น โดยรูปเกมช่วง 10 นาทีแรก ท่าเรือ พยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่ แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คมพอ

นาทีที่ 55 บีจี บุกขึ้นมาบ้าง ก่อนที่ สารัช จะยิงไกล บอลไปตรงตัว รัตนัย รับเข้าซอง

นาทีที่ 58 ท่าเรือ แก้เกมเปลี่ยน 2 คนรวด ทิตาวีร์ อักษรศรี ลงเล่นแทน ทศพล ลาเทศ ที่เจ็บต้นขาซ้าย และ เนลสัน โบนีญ่าลงเล่นแทน ปกรณ์ เปรมภักดิ์

นาทีที่ 61 บีจี ได้ลุ้นจาก ดาเนี่ยล โรดริเกวซ เลี้ยงจากซ้ายตัดเข้ากลาง ก่อนซัดเต็มข้อ แต่ รัตนัย ยังล้มตัวปัดออกหลังไปได้

นาทีที่ 66 ท่าเรือ ได้เตะมุมเข้ามาหน้าประตู ฉัตรชัย ออกมาตัดบอลพลาด แต่ยังบล็อกลูกยิงของ โก ซุล กิ ได้สองครั้งซ้อน

นาทีที่ 67 ท่าเรือ ต้องเปลี่ยนผู้เล่นคนสุดท้าย หลังจาก โบนีญ่า มีอาการบาดเจ็บทั้งที่เพิ่งเปลี่ยนลงมา โดย “เซอร์เด็จ” ส่ง บดินทร์ ผาลา ลงมาเล่นแทน

นาทีที่ 78 บีจี เปลี่ยนตัวคนแรก ส่ง สุรชาติ สารีพิมพ์ ลงมาแทน เจนรบ สำเภาดี

นาทีที่ 77 ท่าเรือ ได้ลุ้นจากฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ แต่ เฮแบร์ตี้ ยิงบอลพุ่งแรงข้ามคานออกหลังไปไกลไม่ได้ลุ้น

นาทีที่ 83 ท่าเรือ น่าได้ประตูตีเสมอสุดๆ จากจังหวะโหม่งของ บดินทร์ ที่เสาสองให้ ซัวเรซ ได้ตวัดยิงด้วยซ้าย บอลพุ่งเรียดเฉียดเสาสองออกไปนิดเดียว

นาทีที่ 84 บีจี เปลี่ยนตัวคนที่สอง ส่ง เชาว์วัฒน์ วีระชาติ ลงแทน สุมัญญา ปุริสาย

ช่วงท้ายเกม ท่าเรือ พยายามโหมบุกหนัก แต่ไม่สามารถเจาะแนวรับ บีจี เข้าไปทำประตูได้ โดยนาทีสุดท้าย ท่าเรือ มีลุ้นจากลูกโหม่งของ ซัวเรซ ที่เสาแรก แต่ออกหลังไป

จบเกม การท่าเรือ เอฟซี แพ้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 0-1 ทำให้ “สิงห์เจ้าท่า” ยังไม่มีแต้ม หลังกลับมาจากเบรกโควิด 2 นัด หยุดนิ่งที่ 10 คะแนนเท่าเดิม ขณะที่ “เดอะ แรบบิท” ยังรักษาสถิติไม่แพ้ใคร ชนะ 4 เสมอ 1 มีเพิ่มเป็น 13 คะแนนเท่ากับ ราชบุรี มิตรผล แต่ประตูได้เสียดีกว่า จึงขึ้นรั้งจ่าฝูงชั่วคราว

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

การท่าเรือ เอฟซี : รัตนัย ส่องแสงจันทร์ (GK) - นิติพงษ์ เสลานนท์, ทศพล ลาเทศ, เอเลียส ดอเลาะ, เควิน ดีรมรัมย์ - ปกรณ์ เปรมภักดิ์, กานต์นรินทร์ ถาวรศักดิ์, โก ซุล กิ, เซร์คิโอ ซัวเรส, มาร์ติน สตูเบิล - เฮแบร์ตี้ แฟร์นันเดส

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด : ฉัตรชัย บุตรพรม (GK) - อิรฟาน ฟานดี้, อันเดรส ตูเญซ, วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ - สารัช อยู่เย็น, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, สุมัญญา ปุริสาย, มิสึรุ มารุโอกะ, สันติภาพ จันทร์หง่อม, ดาเนี่ยล โรดริเกวซ - เจนรบ สำเภาดี

ยังลุ้นแชมป์ไหมนิ

ท่าเรือไหวไหมครับเนี่ย

พึ่งดูคู่นี้ครึ่งหลัง

บีจีโต้เต็ม100 กางตำราเกมส์รับ อิรฟาน วันนี้ทางขวาบีจี เก็บเรียบ

ตูเนซ วิคเตอร์ การ์โดโซ่ วันนี้หัวโนละ โหม่งเคลียร์แล้วเคลียร์อีก ฉัตรชัยวันนี้บอลทุกทางทำได้ดีหมด

ท่าเรือ ก็เล่นไม่มีทรงอะไร โยนไปก็หวังลูกขลุกขลิก ถึงบีจีจะพลาดท่าบ้างเวลาโยนไม่ไปตรงจุดที่ ตูเนซ การ์โดโซ่ อยู่

เฮแบร์ตี้ ก็เข้าขั้นคิดไรไม่ได้ละ กลายเป็นเล่นแย่ บดินทร์ลงมาเกมส์ดูดี ถึงจะทำให้ อิรฟานหลังหัก แต่ก็ยังผ่านไม่ได้

สรุป จเด็จ+เทิดศักดิ์ วันนี้แพ้ให้กับ ง้วน+โอ่ง

เกมส์บิ๊กแมตช์ที่ดูค่อนข้างจะน่าเบื่อ

อาทิตย์นี้ไฟไม่ดับ

ท่าเรือนี่ดูไม่ค่อยมีทรงเท่าไหร่เลยแฮะ แต่ลูกเจนรบก็สุดจริงลอดขามายิงด้วย

ท่าเรือถ้ายังไม่เปลี่ยนโค้ช ก็ได้ระมาณนี้แหละ

บอลออกข้างแล้วก็โยน หรือไม่ก็ฝากตัวต่างชาติ

มีแค่นั้น

ว่านัดเจอเซเรส นัดเจอเทโร เนือยแล้วนะ ทรงบอลท่าเรือ

นัดนี้หนักกว่าอีก โอกาสบุกเนื้อๆเน้นๆ มีน้อยครั้งเหลือเกิน

เล่นเป็นเจ้าบ้านยังไงให้ดูไม่ใช่ตัวเองเป็นเจ้าบ้าน

ถ้ายังฝืนใช้พ่อเด็จก็ทรงๆนี้แหละลุ่มๆดอนๆ หลังบีจีตัวใหญ่ทั้งนั้นยังขยันใช้แผนเดิมออกปีกแล้วเปิดกลาง

ปกรณ์ คอมโบ แฮร์เบอร์ตี้ นี่มันบอลชายเดี่ยว

เสียดายช่วงก่อนหน้า เจนรบ โดนจับไปเล่นกลางรับ กับ กลางรุก

ทั้งๆ ที่นี่คือ กองหน้าไทยที่มีสัญชาติญาณความเป็นเพชรฆาตมากที่สุดคนนึงในยุคนี้

การพัฒนาเลยขาดความต่อเนื่อง แต่มาอยู่บีจี ที่มีกองกลางดีๆ มากมาย

หวังว่าน้องมันจะผลิตประตูจนกลับมาสู่สารบบทีมชาติอีกครั้ง

บีจีบอลเน้นผลครับ