------------จากที่สังเกต ยิ่งทีมใหนแกเพรซซิ่งเก่ง ยิงมีอีโก้ในการเล่น จะไม่ยอมเตะทิ้งง่ายๆ มักจะยอมเสี่ยงมากกว่าที่จะเสียการครองบอล ซึ่งจุดนี้เป็นทั้งจุดดีและจุดด้อยในเวลาเดียวกัน

------------จุดดีคือแกะเพรซได้ ทีมก็ได้บุกต่อเนื่อง ทีมไม่เสียการครองบอล คู่แข่งแย่งไม่ได้ซักทีก็จะท้อในการไล่ ทำให้รูปเกมดูดีกว่าคู่แข่ง

------------จุดด้อยคือมีความเสี่ยง ถ้าเจอคู่แข่งเพรซเก่งๆ ก็มักเป็นโอกาสที่ทำให้ทีมพลาด และเสียประตูง่ายๆ

------------ผมเชียร์แมนซิ ก็เห็นจังหวะแบบนี้มาเยอะ คือปกติทีมแกะเพรซได้เก่งมาก (น่าจะดีสุดในลีค) แทบจะครองบอลฝั่งเดียวอยู่ตลอด แต่ก็มีพลาดบ้าง(นานๆที) หลายครั้งพลาดจนเสียประตู เหมือนหลายๆครั้งที่ผมตั้งมู้เกี่ยวกับกองหลัง
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1906273
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1900514

------------ที่แปลกคือการแกะเพรซต้องช่วยกันทั้งทีม แต่ๆๆ เวลาแกะเพรซได้ กองกลางมักได้รับคำชม เวลาแกะเพรซพลาด กองหลังมักเป็นแพะ

------------อย่างนัดมาดริด ที่วารานพลาด ก็มาจากต้องการแกะเพรซ เสียดายการครองบอล จนเสี่ยงไม่ยอมเตะทิ้ง (พลาดคนเดียวจนเสีย2ประตู)
------------หรือนัดเมื่อวาน บาร์ซา ก็พลาดเสียบอลในแดนตัวเองเยอะมาก จนทำให้ทีมเกือบจะเสียประตูจากการแกะเพรซอยู่หลายครั้ง (สเตเก้นกับเซเมโด้ ก็แพะไป)
------------ทั้งสองทีมนี้เจอทีมเพรซดุทั้งคู่ อย่างแมนซิและบาร์เยิร์น


------------จากที่เห็นสเตเก้นเล่นเมื่อวาน ผมไม่ได้มีความแปลกใจเลยแม้แต่น้อย ประตูที่เล่นสไตล์นี้ มักมีความเคยชินกับการออกบอลเสี่ยงๆเพื่อแก้เพรซ แต่เกมเมื่อวานบอลเสี่ยงนั้น ก็ทำให้เพื่่อนลำบาก หลายจังหวะส่งผลให้โดนส่องจนเกือบเสียประตู จังหวะเสียของสเตเก้นเมื่อวาน ผมเห็นจากเอเดอซอนมาบ่อยมาก (แค่ในเกม FAcup เจอน่อล ก็หลายลูกละ)

------------บางทีปัญหามันก็เหมือนจะแก้ง่ายๆ ด้วยการแค่เริ่มมีจังหวะเสี่ยง ก็เตะบอลทิ้งไปเลยสิ

------------แต่คิดกลับกัน ถ้าทุกครั้งที่คุณเสี่ยง คุณเตะทิ้งหมด ต่อไปทีมคุณก็จะไม่ใช่ทีมที่แกะเพรซดีอีกต่อไป มันก็จะกลายเป็นเหมือนทีมอื่นทั่วๆไป

------------การแกะเพรซ ถ้าพลาดอาจถึงเสียประตู แต่ถ้าแกะได้ ก็อาจเป็นลูกสวนกลับสวยๆ จนทีมได้ประตู ถ้าเกมนึงเตะทิ้ง 10 ครั้ง ก็เท่ากับเสียโอกาสในการโต้กลับสวยๆไป10ครั้ง

------------หรือถ้าบอกนักเตะว่าเจอเกมใหญ่ อย่าเสี่ยง เตะทิ้งๆไปก่อน เจอทีมเล็ก ค่อยเล่นเสี่ยงได้ แต่เชื่อเหอะว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเหมือนปรัชญาของทีมไปแล้ว รูปแบบการเล่นบอลมันฝังลึกไปกับนักเตะแล้ว คงยากที่ต้องให้นักเตะเปลี่ยนวิธีเล่นตามทีมที่เจอ ทำได้มากสุดคือเตือนให้วันนี้รัดกุมหน่อยนะ

------------สำหรับผม ผมชินไปแล้วกับจังหวะแบบนี้ ถ้าจังหวะทั้งหมดมี100ครั้ง ทีมแกะเพรสได้95ครั้ง แต่อีก5ครั้งพลาดเสียประตู คือเรตชนะมัน 95% คุณยังจะด่านักเตะลงอีกเหรอ (ที่จริงทุกครั้งก็ด่าแหละ แต่ด่าแบบเข้าใจความรู้สึกเอ็งนะ แต่เอ็งพลาดก็ต้องด่า)


อันนี้ยังไม่รวมตอนทีมบีบเพรสหนักๆ จนเปิดช่องให้คู่แข่งสวนกลับด้วย

จังหวะพลาดหลายๆครั้ง

เมื่อคืนเมสซี่มาเล่นกลางยังโดนไล่แย่งไปจากเท้าเลย
เเต่เซเมโด้นี่มันกากจริง ไม่ไช่แพะเลย

อันนี้พลาดไปประมาณ 10ครั้ง
มันไม่มีใครรอดโดนด่าหรอกมั้งครับ ทั้งทีมอะแหละ

เห็นด้วยครับ ดูหลายทีมมานานละ ยิ่งผมเชียร์แมนยู ทำให้รู้ว่า แมนยูจิตใจไม่แข็งพอที่จะเสี่ยงแกะเพรสให้ได้ โดนบีบแป๊ปๆ ก้โยนทิ้งละ

ถ้าเปรียบเป็นเกจพลังเต็ม 10 ถ้าพลังเต็ม 10 คือจะเสียบอล แมนยูโดนบีบประมาณ 6 ก้โยนละ

แมนซิไปได้ถึง 9 หรือฝืนจนเต็ม 10 เสียบอลไปเลย เลยแพ้ทางหงส์บ่อยๆ เพราะเพรสโหดเหมือนโกรธเมีย

น่อล เชลซีก้ใจแข็งพอๆ กับแมนซิ แต่เสียบอลง่ายกว่า

หงส์ไม่ค่อยโดนเพรสอยู่ละ ทำเกมโยนยาวมากกว่าทีมหัวตารางทีมอื่นๆ แต่เพราะว่าแม่นและลูกได้เปรียบมาก เลยไม่ค่อยโดนเพรสลึกเท่าไหร่

สเปอร์พอยุคมู ก้เล่นเหมือนแมนยูแหละ เหมือนจะต่อบอลสั้น แต่โดนบีบแป๊ปๆ ก้โยน

การฝืนเล่นสั้นๆ ทุกสถานการณ์ มันห้ามมีคนล่กๆ อ่ะ ต้องนิ่ง จับบอลเป๊ะ สายตาเร็วทุกคน นึกภาพ สมอลลิ่งงี้ วิลเลียมงี้ โจนส์งี้ รูดิเกอร์งี้ คริสเตนเซ่นงี้ มุสตาฟี่งี้ ไนล์งี้ โคล่างี้ พวกนี้โดนบีบเร็วๆ ก้ลั่น ส่งบอลติดดาบ ไม่ได้เปรียบ ก้โดนฉกกันง่ายๆ

อย่างบาซ่าเมื่อคืน ชัดเลยว่าแกะไม่ได้ หลายๆ คนทักษะไม่พร้อมเลย แต่โค้ชสั่งให้ทำ ก้ต้องทำ ทำตลอด 90+ นาที พังทั้งเกม โค้ชก้ไม่ยอมเปลี่ยนแผน ประมาณว่า ต้องทำให้ได้ ทำไม่ได้ก้โดนยิงไปละกัน กูไม่ช่วยนะ 555

ที่ดูมาลิเวอร์พูลนี่โดนน้อยสุดละเพราะกองหลัง2คนออกบอลยาวดีทำให้อีกทีมไม่กล้าเพลสใส่สุด ละปีก2ข้างคือประเภทที่รอวิ่งสอดแนวกองหลังด้วยทำให้ทีมที่เจอส่วนมากเน้นอุดมากกว่า

หงส ช่วงหนึ่งก็ประมาทเจอทีมลีกเล็กมั้ง

เคาะโชว์

ตรรกะผิดไปหน่อยนะ แกะเพรสได้ 95 จาก 100 ครั้ง ไม่ได้แปลว่าโอกาสชนะ 95% นะ การแกะเพลสขึ้นบอลจากแดนตัวเองได้นี่ โอกาสทำประตูได้จริงๆ ไม่น่าเกิน 10-20% ตรงกันข้าม ถ้าเสียบอลหน้ากรอบประตูตัวเอง โอกาสเสียประตุนี่น่าจะเกือบ 50% เลยก็ว่าได้ ดังนั้นในพื้นที่หรือจังหวะที่อันตราย ไม่ควรเสี่ยงแกะเพลสก็ต้องสาดบอลทิ้งครับ ไม่มีโค๊ชคนไหนบอกให้แกะเพลส 100% หรอก


อย่างลูกที่วารานพลาดลูกแรกจริงๆ มันอยู่ในพื้นที่อันตรายจริง แต่สถานะการณไม่ได้อันตราย มีตัวไล่เพรสตัวเดียว โกลก็ยืนว่างรอรับบอลอยู่ แบบนี้ไม่จำเป็นต้องรีบสาดบอลไปข้างหน้าหน่ะเข้าใจได้ แต่เป็นความผิดพลาดส่วนบุคคลที่จับบอลไม่ดี จนโดนฉกไปยิงประตู แบบนี้ยังไงก็ต้องตำหนิกองหลังครับ

จริงๆมาดริดนี่แกะเพลสกันเก่งมากเลยนะ

กลางสามตัว โดยเฉพาะโมดริช ช่วงเทพๆ

ทุก 5 ครั้งที่เตะทิ้ง นอกจากเสียโอกาสสวนกลับ ก็เสียบอลให้คู่แข่งด้วย หมายความว่าเป็น5ครั้ง ที่ต้องไปบีบเพรซแย่งบอลคืนด้วย นั่นทำให้มาดริดไม่อยากเสียบอล เพราะการแย่งบอลคืนจากซิตี้มันเหนื่อย

ที่วาราน พลาด ส่วนหลักๆก็มาจากอยากรักษาการครองบอล จังหวะเกมเร็วๆแบบนั้น รู้สึกตัวอีกที ไอ้ซุสก็เบียดเอาบอลไปได้แล้ว

แล้วนักเตะที่เป๊ปจัดไปเจอมาดริด มีแต่ตัววิ่งเพรซดีและแย่งบอลเก่งทั้งนั้น มาดริดเลยขึ้นเกมลำบาก

สำหรับผม ยุคนี้ทีมที่แกะเพรซดีด้วยบอลเท้าต่อเท้าแบบบาซ่ามันไม่พอแล้วครับ
ทีมที่แกะเพรสดียุคนี้คือต้องแกะเพรซด้วยบอลยาวได้ดีด้วย
เมื่อคืนบางจังหวะบาเยิร์นก็โดนบีบ(ต้นๆเกมตอนสกอร์1-1) แต่แกะด้วยบอลยาว ขวางสนามบ้าง ออกปีกบ้าง
บางจังหวะส่งไม่ไกลนะ แต่ใช้บอลโด่งเพื่อหลบระยะขาของตัวที่เข้ามาบีบ

จะทำแบบนี้ได้ นักเตะทุกคนในทีมต้องออกบอลแม่น และคนรับต้องเอาบอลลงได้เนียน
ที่เห็นทำได้ดีคือหงส์ โกลล์และกองหลังออกบอลแม่นทั้งแผง แดนหน้าและกลางเอาบอลลงแล้วเล่นต่อได้เลยในจังหวะเดียว

บางที่ไอ้ที่ดูเหมือนเตะทิ้ง ก็ไม่ได้เตะทิ้งซะหมดนะ

ถ้าดูแล้วตัวที่มีเล่นบอลสั้นไม่เก่ง แกะเพรสไม่เก่ง ก็ต้องอาศัยจังหวะสาดไปที่ว่าง

เพราะทีมเพรสมันมีจะช่องว่างเยอะอยู่แล้ว

อย่างแมนยูยุคมู ลูกากูมันได้บอลแต่จับห่วยโดดเป็นแซลมอนงี้

พอมาเสียเวลากับการแต่งบอลแปปเดียวก็โดนเพรสเหมือนเดิม เลยไม่ได้ผล

high risk, high return