ฤดูกาล 2016-17 คือขวบปีแรกที่ คล็อปป์ ได้คุมทีมเต็มตัว ปีนั้นแกซื้อ มาติป, คาริอุส, มาเน่, ไวนัลจ์ดุม แล้วเลือกปล่อย
ตูเร่, สเคอร์เทล, ไอบ์, อัลเลน, เบนเทเก้, บาโลเตลลี่ (ไม่ครบทุกคนนะครับ เอาคร่าว ๆ)
ซึ่งปีนั้นแกพาทีมจบอันดับ 4 มี 76 คะแนน ได้ไป แชมเปียนส์ ลีก ตามเป้า

ฤดูกาล 2017-18 ปีต่อมาแกก็ดึงแกนหลักในตอนนี้เข้ามาอย่าง ซาลาห์, โรเบิร์ตสัน, แชมเบอร์เลน, ฟาน ไดค์ (มกรา)
พร้อมปล่อย ลูคัส, ซาโก้, คูตินโญ่ (มกรา) - จบฤดูกาลอันดับ 4 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน พร้อมเข้าชิงฯ ชปล.

ฤดูกาล 2018-19 ปีนี้ดึง เกอิต้า, ฟาบินโญ่, ชากิรี่, อลีสซง มาทำให้แกนของทีมแน่นขึ้น พร้อมปล่อย ชาน, คาริอุส (ยืม)
ทีนี้พอทีมลงตัวผลงานติดปีกเลย จบรองแชมป์ในลีก 97 คะแนน แพ้ แมนฯ ซิตี้ แต้มเดียว แต่ได้แชมป์ ชปล.

ฤดูกาล 2019-20 ทีมแน่นแล้วเลยเลือกเสริมแค่ อาเดรียน, มินามิโนะ ไว้โรเตชั่น ปล่อย อิงส์, มินโญเล่ต์, ไคลน์
ก็อย่างที่บอกพอทีมลงตัวแล้ว ปรับแก้จุดอ่อนจากฤดูกาลก่อน คราวนี้แชมป์ลีกตั้งแต่ไก่โห่เลย สบายตัว

*ถ้าดูตามไทม์ไลน์ที่แกเข้ามาคุม ลิเวอร์พูล เหมือนก้าวไปข้างหน้าทีละสเต็ปเลยนะ เริ่มจากคว้าโควตาไป แชมเปียนส๋ ลีก ให้ได้ก่อน
แล้วค่อย ๆ ซื้อ-ขาย ตัวผู้เล่นที่แกต้องการ บวกกับใส่สไตล์การเล่นเข้าไป พอถึงจุดที่ทีมมันพัฒนาไปในทางที่ถูกต้อง
ทีนี้ก็โกยความสำเร็จยาว ๆ เลย แล้วน่าจะลุ้นบี้แชมป์กับ แมนฯ ซิตี้ อีกหลายปีอ่ะผมว่า

สลับมาดูฝั่ง แมนยู บ้าง ฤดูกาล 2019-20 คือขวบปีที่ โซลชา ได้คุมทีมแบบเต็มตัว เรื่องซื้อตัวถือว่าโอเคมาก ๆ เลย
ได้ เจมส์, วาน-บิสซาก้า, แม็คไกวร์, บรูโน่ กับ อีกาโล่ (ต้นปี) แล้วปล่อย เอร์เรร่า, วาเลนเซีย, ลูกากู, ดาร์เมี่ยน, ยัง (ต้นปี) /
เฮนเดอร์สัน, อเล็กซิส, สมอลลิ่ง (ยืม) ที่เห็นได้ชัดเลยคือเลือกซื้อพวกที่ใช้งานได้ยาว ๆ เป็นหลัก แล้วระบายแก่ ๆ ออก

** ทีนี้ถ้าจะเดินตามแผนที่ควรจะเป็น ยังไงฤดูกาลนี้ต้องไป แชมเปียนส์ ลีก ให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยการจบอันดับ 4
หรือได้แชมป์ ยูโรปา ลีก เพราะการไป ชปล. นี่มีผลต่อดีล ซานโช่ หรือรั้ง ป๊อกบา ให้อยู่ต่อแน่นอน
ส่วนตัวถ้าจบด้วยการไป แชมเปียนส์ ลีก นี่เอาไปต่อยอดได้อีกเยอะ เอาจริง ๆ ผมว่า แมนยู มันต้องสลัดภาพเดิม ๆ ออกให้ได้อ่ะ
ภาพที่ป้วนเปี้ยนอยู่กับที่ 5-6 แล้วได้ไปเล่นแค่ ยูโรปา ผมว่าแม่มต้องหยุดเอาไว้ที่ฤดูกาลนี้เลย

ถ้าทำตามได้แล้วเป็นแชมป์ยังไงมันก็เวิร์คครับ

ถ้าทำตามได้แล้วเป็นแชมป์ยังไงมันก็เวิร์คครับ

การได้โควต้าไป UCL ได้ มันคือการต่อยอด หรือ พัฒนานั่นแหละครับ

ผมว่าน้าแกเริ่มเจอแนวทางแล้ว ถ้าปีนี้ได้โควต้า UCL นะ รับรองมันส์

โลกเตรียมไม่สงบสุขของจริงได้เลย

มุมมองผมนะ ตอนเนี่ยแมนยูตามรอยลิเวอร์แล้วแต่ไม่ใช่ยุคคล้อปมันคือยุคก่อนหน้านี้อย่างราฟาและร้อดเจอ คือมันดูโหดได้ลุ้นแชมป์บ้าง ได้ถ้วยนู้นนี้นั้นบ้าง แต่มันยังมีข้อบกพร่องอยู่เยอะ พูดกันแบบตรงๆไม่ได้ดิสเครดิตคือมันต้องใช้เวลามากกว่านี้ถึงจะมีออร่าแชมป์

สเต็ปแรกต้องไป​ Ucl​ ให้ได้ไม่ว่าจะทางไหน

ส่วนตัว​ผมยอมแลกโควต้ากับแชมป์​ fa​ cup เลย

แชมป์บอลถ้วย​นอกจากเรื่องสถิติเพิ่มมา1ถ้วยแล้ว

มันเอาไปต่อยอดอะไรไม่ได้เลย

แนวทางที่ลิเวอร์พูลทำ มันไม่ใช่แนวทางใหม่ การเดินทางของแมนยูไม่คล้ายกับลิเวอร์พูลเลย

แต่จุดหนึ่งที่ถูกพูดถึงเสมอกับแนวทางของลิเวอร์พูลคือ ความเชื่อมั่นของบอร์ดต่อผู้จัดการทีม นั้นคือ ควรให้เวลาผู้จัดการทีม หากผู้จัดการทีมแสดงแนวทางที่มีแนวโน้มที่ดี ย่อมควรได้ไปต่อ

นี่หากไม่มีแนวทางนี้ ผมว่า โซลชา อาจต้องกระเด็นเร็วกว่าที่เราคิดก็ได้

แมนยูได้เปรียบลิเวอร์คือทุนในการเสริมนี่แหละ ที่มีมากกว่า อาจจะทำให้กลับมาได้เร็วกว่า

ทุนระดับแมนยู สามารถวิ่งไปหาความสำเร็จได้เร็วกว่าหงส์นะ


หงส์มีข้อจำกัดเยอะกว่าพอสมควร


แต่เห็นด้วยว่า UCL คือทางลัดสุดในการยกระดับทีม โดยเฉพาะการเสริมทัพ

ขออนุญาติ wow 5555

ปล. หยอกๆนะ

ไม่เห็นต้องเดินตามเลย

ตอนป๋ามาก็สร้างจาก CLASS OF 92

โซลซาคงยึดตามป๋าแร๊ อีกอย่างตอนนี้เท่าที่เห็นมันก็ดี

เมื่อคืนถ้ามองดีๆๆเราก็พลาดเองด้วย ทุกอย่างเป็นไปในทางที่ดี

อะไรนะท่าน ว่าวๆๆๆหรอ

ว้าว สิพี่ อย่ามาหางานให้โผมม 5555

หยอกๆๆฮะ

wow เลยครับ ผมก็ wow บ่อย

UCL ได้ต่อยอดทั้งผู้เล่นนำเข้าใหม่ เช่น ซานโช่
ได้ต่อสตาร์ของทีมแบบป๊อกบาร์อีก

แต่ผมก็เชียร์ให้น้า ได้ถ้วยติดมือมากกว่าได้แค่อันดับ 4

เพราะได้แชมป์ UEL ก็ได้ไป UCL เหมือนเดิม เส้นทางไม่ได้หนักมากเท่าไหร่ด้วย

ในช่วงที่ทีมเต็งในเส้นทางแชมป์ ทีมอื่นๆพร้อมใจกันฟอร์มตก ยกเว้นวูฟจากลีกเดียวกัน

เอาใจช่วยน้าครับ