หัวเข่าเท่านั้นที่หยุดผมได้.........
ไม่เถียงเลย ปัจจุบัน โรนัลโด้ CR7 กับ เมสซี่ สองคนผู้ครองความยิ่งใหญ่
แต่ถ้าถาม คนยุค 90 โด้อ้วนเท่านั้น ที่เก่งที่สุด
ถ้าถามหาโคตรกองหน้า ที่ยิงได้ระเบิดระเบ้อ ที่สุดของโลก ผมเชื่อเลยต้องมี Ronaldo ( R9 ) หลับตา นอน ฟังเพลง หรือกินข้าว ไอ้นี่มันยิงได้หมดทุกรูปแบบ แค่อายุ 17 ปี จากสโมสร ครูไซโร่ ก็ยิงได้ 12 ประตู จาก14 นัด แล้วก็ย้ายตูดกลมๆๆของพี่โด้ มาอยู่ที่พีเอสวี ก็กดเบาๆกดไป 47 ลูก จาก 49 นัด เท่านั้น เอ๊งงงงงงงงงงงงงง
ทั้งความเร็ว แข็งแกร่ง จะกอดจะรั้งจะจูบจะเสียบ ไม่เคยมีใครหยุดผู้ชายคนนี้ได้เลย ลองนึกดูเล่นๆๆ โรนัลโด้ นั้นสามารถวิ่งระยะ 100 เมตรได้ด้วยความเร็ว 10.3 วินาที และลองหลับตานึกอีกครั้ง ยูเซน โบลท์ นักวิ่งเหรียญทองโอลิมปิกชาว จาไมก้า ทำสถิติโลกการวิ่งระยะ 100 เมตรภายในเวลา 9.58 วินาที เห็นแล้วหรือยัง ทำไมยุควินนิ่งครองเมือง ต้องกดเลือก โรนัลโด้ก่อน เป็นคนแรก
และด้วยความที่ เป็นคนที่สปีดจั๊ดจ๊านนนระดับดาวตก และ การชากแบบกระทันหันบ่อยครั้ง นั่นเริ่มจะเป็นจุดจบของเขาเลยก็ว่าได้ หัวเข่าเขาเริ่มรับไม่ไหว กับพรสวรรค์ ฟ้าประทาน ทำให้เอ็นหัวเข่า ฉีกขาด
จากการบาดเจ็บครั้งนี้ทำให้หลายคนเชื่อว่า โด้ R9 คงจะกลับมาให้ระดับสุดยอดไม่ได้อีกแล้ว จนกระทั่งหายเจ็บกลับมาระเบิดฟอร์มทันทีให้เวิร์ด คัพ 2002 พาทีมได้แชมป์โลก ในบราซิลยุค 3R โรนัลโด้ ริวัลโด้ โรนัลดิญโญ
นิลตัน เปโตรเน่ นักกายภาพบำบัดที่เคยทำงานร่วมกับโรนัลโด้ "R9" กล่าวถึงอาการบาดเจ็บของอดีตดาวยิงทีมชาติบราซิล ที่ต้องเจอมาตลอดเส้นทางลูกหนัง โดยเฉพาะบริเวณหัวเข่า
เปโตรเน่ เล่าต่อว่า "เขามีพรสวรรค์ทางพันธุกรรม เขามีเส้นใยกล้ามเนื้อแบบพิเศษ ที่ช่วยเพิ่มพลังอย่างมหาศาล เราทดสอบความเร็วของเขาหลายครั้งที่อินเตอร์ มิลาน เขาวิ่ง 100 เมตร ด้วยเวลา 10.2 หรือ 10.3 วินาทีเท่านั้น ซึ่งมันเกือบเท่าสถิติของยอดลมกรดอย่างยูเซน โบลท์"
"อาการบาดเจ็บ เกิดจากความสามารถในการระเบิดความเร็วของเขาเอง เขาไม่เพียงแค่วิ่งเร็วเป็นเส้นตรง แต่เขายังเปลี่ยนทิศทางแบบเฉียบพลัน เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น มันทำให้เส้นเอ็นเสี่ยงต่อความเสียหาย"
"อย่างไรก็ตาม เขาได้ทำลายกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ลงอย่างราบคาบ ในแง่ของนักฟุตบอลที่ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก และสามารถกลับมาสู่ระดับสูงได้อีกครั้ง ความแข็งแกร่งด้านจิตใจ ทำให้เขาเอาชนะอุปสรรคทั้งหมด"
การบาดเจ็บที่หัวเข่า ยังไม่พอ เจ้าตัวเคยออกมาบอกว่าป่วย มีความผิดปกติเรื่องฮอร์โมน ที่มีผลให้การเผาผลาญพลังลดลง และยาที่ใช้รักษาอาการดังกล่าวเข้าข่าย มีสารกระตุ้น จึงทำให้ชีวิตค้าแข้งค่อยๆ ถดถอยลง จากมาดริด ไป AC Milan และจบการค้าแข้งที่ Corinthians ในลีกบ้านเกิด
ถ้าไม่นับว่าการบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่หัวเข่าถึงสองข้าง และ การป่วยของฮอร์โมน พี่โด้ก็ยังมีสถิติ ประวัติการลงเล่นทุกสโมสร ทั้งหมด 517 นัด ทำ 352 ประตู เฉลี่ย 0.683 ประตู/นัด และให้กับทีมชาติ 97 นัดทำ 62 ประตู เฉลี่ย 0.639 ประตู/นัด
*****เสริมอีกนิด
ในเกมโคปปา อิตาเลีย รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก กับ ลาซิโอ
กลับมาลงสนามครั้งแรกหลังจากผ่าเข้า แต่ใครจะคิดว่าเขาจะมีเวลาอยู่ในสนามแค่ 7 นาที ก่อนที่จะเจ็บซ้ำที่เดิม คราวนี้ ดูเหมือนจะหนักหนากว่าคราวก่อน และถึงขั้นที่หลายคนบอกว่า อาจจะทำให้เขาต้องเลิกเล่นฟุตบอลทุกคนสงสาร โรนัลโด จับจิต แต่ในใจลึก ๆ ไม่มีใครคิดว่าเขาจะกลับมาเหมือนเดิมได้อีกแล้ว เพราะช่วงเวลา 3 ปี ที่น่าจะเล่นฟุตบอลได้ดีที่สุดในชีวิตถูกพรากไปพร้อมการเจ็บหนัก
แต่ โรนัลโด ก็ทำให้ทุกคนประหลาดใจ
เพราะหลังจากผ่าตัดไป 2 ครั้ง, พักไป 20 เดือน และไม่ได้ลงเล่นเลยตลอดฤดูกาล 2000-2001 เขากลับมาได้อีกครั้ง แถมยังคงความเป็นนักฟุตบอลคนเดิมไว้ทุกประการ เขายิง 8 ประตู พา บราซิล คว้าแชมป์โลก สมัยที่ 5 เมื่อปี 2002 พร้อมกับที่ตนเองก็คว้าตำแหน่งนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลก ครั้งที่ 3
สภาพหัวเข่าของ R9
คลิปตอนที่เจ็บก่อนบอลโลก 2002
https://youtu.be/5TEB8zefQUk