นาทีที่ 1.23

ดูวิ่งเข้ามาเนิบๆ แต่ทำไมลูกยิงพุ่งแรงจัง

มันคือการยิงแรงโดยใช้พลังขา หรือ มันเป็นเทคนิคการยิงครับ

ใครทราบบ้าง

14 ชั่วโมงนั่งดูวิดีโอของนักเตะที่อันเดอร์เรทคนนึงบนโลก

“ผมเคยเจอลูกยิงแบบนี้ของเขามาเป็นพันครั้ง เขายิงไป 30-40 ครั้งในการซ้อมเซสชั่นหนึ่ง และตรงกรอบถึง 90 เปอร์เซ็นต์ และเกือบทั้งหมดที่ตรงกรอบ มันเป็นประตู”

คนที่ยิงไม่ใช่ปิร์โล่แต่เป็นอาจารย์ปิร์โล่อีกที


“ผมเรียนรู้จากเขาอย่างตั้งใจ เก็บดีวีดีทุกแผ่น แม้กระทั่งรูปถ่ายเก่าๆ จากการแข่งขันที่เขาเคยเล่น” ปิร์โลเผยในหนังสืออัตชีวประวัติส่วนตัว I Think Therefore I play

“สุดท้ายผมก็เข้าใจสูตรมหัศจรรย์ มันเกิดขึ้นจากวิธีเตะบอล ไม่ใช่เตะตรงส่วนไหน สามนิ้วของจูนินโญเท่านั้นที่สัมผัสกับลูกบอล”

“สิ่งสำคัญคือ บอลจำเป็นต้องถูกเตะจากด้านล่างโดยใช้ สามนิ้วแรกของคุณ คุณต้องทำเท้าของคุณให้เป็นเส้นตรงให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แล้วค่อยผ่อนคลายมันอย่างรวดเร็ว”

“วิธีนี้จะทำให้บอลไม่หมุนในอากาศ แต่จะตกลงอย่างรวดเร็วไปสู่ประตู และตอนนั้นมันจะเริ่มหมุน นั่นคือข้อสรุปโดยสังเขป นั่นคือ Maledetta (คำสาป) ของผม”


คำถามที่ต้องถามคืออาจารย์ปิร์โล่ฝึกมาจากไหน ฝึกมายังไงมากกว่า


“ผมเริ่มต้นด้วยการก็อปปี้ การยิงฟรีคิกของ มาร์เซลินโญ ที่เคยเล่นให้ โครินเธียนส์ เขาคือหนึ่งในแรงบันดาลใจของผม และเป็นคนแรกที่ผมได้เห็นเขาเตะบอลไปแล้วทำให้มันเต้นระบำในอากาศ” จูนินโญกล่าวกับ FourFourTwo

“เทคนิคนี้จึงไม่ใช่ของผม ดิดี้ ที่คว้าแชมป์โลกกับบราซิล เมื่อปี 1958 และ 1962 เคยทำมาก่อนหน้านั้นเช่นกัน ทุกคนต่างเอาสูตรมาปรับใช้”

ทว่า เหนือสิ่งอื่นใด เทคนิคที่ลอกเลียนมาแบบนี้คงจะไม่บรรลุผล หากไม่ได้เกิดจากการซ้อมอย่างหนัก จูนินโญ มักจะเป็นคนสุดท้ายในสนามเสมอ เขาซุ่มซ้อมลูกฟรีคิกของเขาไม่ขาดทุกวัน จนเกิดเป็นความชำนาญอย่างที่เห็น

“คาแร็คเตอร์ที่ดีที่สุดที่คุณมีได้เกิดขึ้นในการฝึกซ้อม ฝึกซ้อมวันแล้ววันเล่า จนมันสมบูรณ์แบบ” เวนเดลกล่าวกับ Reuters

“คนยิงฟรีคิกเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ก็จริง และในการฝึกซ้อมเขาก็ทำให้มันสมบูรณ์แบบ มันเป็นพรสวรรค์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน”


ส่วนต้นฉบับหายากมากครับ (รุ่นแรก)
Didi ผมดูแล้วเล่นเหมือนปิร์โล่ + จูนินโย่เลยครับ อวยสุดๆ
ถ้า pirlo เป็น master of art / didi เรียกว่า god of art ได้เลยครับ
ปีที่เปเล่ฉายเป็นเบอร์ 1 ของโลก ก็รับบอลจากคนนี้เนี่ยแหล่ะ มีคนนี้ยืนอยู่ด้านหลังตลอดเวลา จะไปกังวลทำไม ถ้าเปเล่เป็นแม่พิมพ์กองหน้าของโลก คนนี้ก็คงเป็นมิดฟิลด์คลาสสิกตลอดกาลอะครับ ดูคลิปนี้จบผมบอกได้เลยว่า ซีดานเตรียมโดนตัดออกจากเกรด S ได้เลย แต่มันนานแล้วอะเนาะมาเทียบคงยาก



อันนี้ฟรีคิกปี 54 ส่วนของปี 58 กับ 62 นั้นหายากจริงๆต้องดูตามคลิปรวม




รุ่นสอง

มาเซลินโย่อยู่ช่วงปี 80-90 แล้วคลิปวิดีโอเลยมีเยอะ แกกดไป 81 ลูกนะจ้า



รุ่นสามก็เป็นจูนินโย่ กับ ปิร์โล่

รุ่นสี่น่าจะเป็นบรูโน่เท่าที่เห็นตอนนี้ ใจจริงผมอยากเทให้ป็อกเป็นรุ่นสี่นะเพราะเล่นกับปิร์โล่มาโดยตรง บอลออกจากเท้าวิถีคล้ายกัน แต่มันดันเล่นการเมืองมากกว่าเล่นบอล

14 ชั่วโมงนั่งดูวิดีโอของนักเตะที่อันเดอร์เรทคนนึงบนโลก

“ผมเคยเจอลูกยิงแบบนี้ของเขามาเป็นพันครั้ง เขายิงไป 30-40 ครั้งในการซ้อมเซสชั่นหนึ่ง และตรงกรอบถึง 90 เปอร์เซ็นต์ และเกือบทั้งหมดที่ตรงกรอบ มันเป็นประตู”

คนที่ยิงไม่ใช่ปิร์โล่แต่เป็นอาจารย์ปิร์โล่อีกที


“ผมเรียนรู้จากเขาอย่างตั้งใจ เก็บดีวีดีทุกแผ่น แม้กระทั่งรูปถ่ายเก่าๆ จากการแข่งขันที่เขาเคยเล่น” ปิร์โลเผยในหนังสืออัตชีวประวัติส่วนตัว I Think Therefore I play

“สุดท้ายผมก็เข้าใจสูตรมหัศจรรย์ มันเกิดขึ้นจากวิธีเตะบอล ไม่ใช่เตะตรงส่วนไหน สามนิ้วของจูนินโญเท่านั้นที่สัมผัสกับลูกบอล”

“สิ่งสำคัญคือ บอลจำเป็นต้องถูกเตะจากด้านล่างโดยใช้ สามนิ้วแรกของคุณ คุณต้องทำเท้าของคุณให้เป็นเส้นตรงให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แล้วค่อยผ่อนคลายมันอย่างรวดเร็ว”

“วิธีนี้จะทำให้บอลไม่หมุนในอากาศ แต่จะตกลงอย่างรวดเร็วไปสู่ประตู และตอนนั้นมันจะเริ่มหมุน นั่นคือข้อสรุปโดยสังเขป นั่นคือ Maledetta (คำสาป) ของผม”


คำถามที่ต้องถามคืออาจารย์ปิร์โล่ฝึกมาจากไหน ฝึกมายังไงมากกว่า


“ผมเริ่มต้นด้วยการก็อปปี้ การยิงฟรีคิกของ มาร์เซลินโญ ที่เคยเล่นให้ โครินเธียนส์ เขาคือหนึ่งในแรงบันดาลใจของผม และเป็นคนแรกที่ผมได้เห็นเขาเตะบอลไปแล้วทำให้มันเต้นระบำในอากาศ” จูนินโญกล่าวกับ FourFourTwo

“เทคนิคนี้จึงไม่ใช่ของผม ดิดี้ ที่คว้าแชมป์โลกกับบราซิล เมื่อปี 1958 และ 1962 เคยทำมาก่อนหน้านั้นเช่นกัน ทุกคนต่างเอาสูตรมาปรับใช้”

ทว่า เหนือสิ่งอื่นใด เทคนิคที่ลอกเลียนมาแบบนี้คงจะไม่บรรลุผล หากไม่ได้เกิดจากการซ้อมอย่างหนัก จูนินโญ มักจะเป็นคนสุดท้ายในสนามเสมอ เขาซุ่มซ้อมลูกฟรีคิกของเขาไม่ขาดทุกวัน จนเกิดเป็นความชำนาญอย่างที่เห็น

“คาแร็คเตอร์ที่ดีที่สุดที่คุณมีได้เกิดขึ้นในการฝึกซ้อม ฝึกซ้อมวันแล้ววันเล่า จนมันสมบูรณ์แบบ” เวนเดลกล่าวกับ Reuters

“คนยิงฟรีคิกเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ก็จริง และในการฝึกซ้อมเขาก็ทำให้มันสมบูรณ์แบบ มันเป็นพรสวรรค์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน”


ส่วนต้นฉบับหายากมากครับ (รุ่นแรก)
Didi ผมดูแล้วเล่นเหมือนปิร์โล่ + จูนินโย่เลยครับ อวยสุดๆ
ถ้า pirlo เป็น master of art / didi เรียกว่า god of art ได้เลยครับ
ปีที่เปเล่ฉายเป็นเบอร์ 1 ของโลก ก็รับบอลจากคนนี้เนี่ยแหล่ะ มีคนนี้ยืนอยู่ด้านหลังตลอดเวลา จะไปกังวลทำไม ถ้าเปเล่เป็นแม่พิมพ์กองหน้าของโลก คนนี้ก็คงเป็นมิดฟิลด์คลาสสิกตลอดกาลอะครับ ดูคลิปนี้จบผมบอกได้เลยว่า ซีดานเตรียมโดนตัดออกจากเกรด S ได้เลย แต่มันนานแล้วอะเนาะมาเทียบคงยาก



อันนี้ฟรีคิกปี 54 ส่วนของปี 58 กับ 62 นั้นหายากจริงๆต้องดูตามคลิปรวม




รุ่นสอง

มาเซลินโย่อยู่ช่วงปี 80-90 แล้วคลิปวิดีโอเลยมีเยอะ แกกดไป 81 ลูกนะจ้า



รุ่นสามก็เป็นจูนินโย่ กับ ปิร์โล่

รุ่นสี่น่าจะเป็นบรูโน่เท่าที่เห็นตอนนี้ ใจจริงผมอยากเทให้ป็อกเป็นรุ่นสี่นะเพราะเล่นกับปิร์โล่มาโดยตรง บอลออกจากเท้าวิถีคล้ายกัน แต่มันดันเล่นการเมืองมากกว่าเล่นบอล

ทำไมผมมองว่าปิโล่ร์แกทะมัดทะแมงดีออก

ทรงบอลแกเป็นสายเทคนิค ใช้ไหวพริบและทักษะสูง

คือต่อให้วิชั่นดี จินตนาการเด่นแต่ถ้ากล้ามเนื้อขาอ่อนปวกเปียก

ก็ไม่น่าจะเล่นได้ขนาดนี้นะ ผมคิดว่ากล้ามเนื้อแกแข็งแรงมากเลยแหละ

การเคลื่อนไหวไม่ใช่แบบมิดฟิลด์สายไดนาโม แต่มันมีประสิทธิภาพมากเลยนะ

ลูกยิง ลูกเปิดแต่ละลูก ผ่านการซ้อมมาไม่รู้เท่าไหร่ น่าทะลุทฤษฎี 2 หมื่นชม.ด้วยซ้ำ

ผมคิดว่าแกยิงแรง เปิดแรง(และแม่นและ curveด้วย)เกิดจากกล้ามเนื้อที่แข็งแรง+เทคนิคที่ดีเยี่ยมครับ

ขออวยหน่อยคนนี้ฟุตบอลไอดอลอันดับ 2 ของผมเลย ฟุตบอลไอดอลคนแรกในชีวิตคือพี่เบ๊ค

เพื่อนผมตัวเล็กๆยิงยอลอย่างแรงชนฝาดังปั้งๆ มันอยู่ที่เทคนิคจริงๆนะ ถ้าใครบอกทุกนักเตะยิงแรงได้หมด ผมเถียงเลย

บางนักเตะเน้นปั่นๆบอลไม่ค่อยเต็มหลังเท้าถ้าบอลไม่กระดอน อันนี้ผมว่าเป็นความสามารถของแกนะยิงได้ขนาดนี้

น่าจะใช้หลักแบบแบตมั้ย คือถ้าตีถูกเหมือนสะบัดนิดเดียว
อันนี้เค้าก็มาให้ความสำคัญกับระเยียบร่างกาย การสร้างแรงถ่ายแรง
ทำให้เห็นเรืาองการต่อยอดจากอดีตด้วย เห็นชอบเทียบข้ามยุคกัน

ท่าเตะบอลของแกเหมือนไม่ได้เกร็งกล้ามเนื้อมากๆเหมือนนักเตะคนอื่นที่ยิงแรงๆ ยิงเหมือนไม่ได้ลงแรงมาก แต่บอลพุ่งแรงมากๆอะ ในยูทูปฝรั่งก็คอมเมนท์ประมาณนี้กันเยอะ

ไม่ว่าจะยิงไกลหรือฟรีคิก บอลพุ่งแรงไม่เหมาะกับท่าเตะ 555

มายไอดอลเลยครับ แต่เป็นไอดอลในความคิดนะ ทำตามไม่ได้

ปล.มีช่วงนึงเอารูป pirlo เป็นโปรไฟล์ dota 2

ทรงบอลแบบคุณชายอ่ะ คือไม่ได้ปวกเปียกแต่ดูสุภาพ และมีประสิทธิภาพ เรื่องยิงแรงคือจังหวะวางเท้าซ้ายสำคัญ ดูปิร์โล่นี่วางเท้าซ้ายดีมาก ยิงข้างเท้าด้านในแต่ก็เหมือนใช้หน้าเท้าด้วยลูกเลยแรง

นอกเรื่องนิดครับ ทำไมผมเห็นแต่ปาร์ค วิ่งคู่ ปิโล่

คลิปนี้ จริงๆเขาให้ดูการดวลกันระหว่างปิรโล่กับปาร์คครับ

ผมแค่หยิบพาร์ทฟรีคิกมาถามเฉยๆ

ถามสโคลดูครับ

ประเด็นคือสโคล มันไม่ได้ดูนิ่มๆ เหมือนปีโล่ไง
สโคลเห็นชัดเจนว่าท่าทาง ทรงบอล มาแบบดุดันเห็นได้ชัด
ยิงก็เต็มตีน พลังขาพลังเท้าเห็นๆ

ปีโล่ เหมือนไปขอให้จูนินโญสอนเลยครับ

เตะอะไรดูไม่แรง แต่ลูกไปแบบแรงมาก

หลายลูกแกใช้ปลายสตั๊ดด้านบนเตะ พื้นที่ผิวสัมผัสน้อย ปั่นลูกฮุค

อีกอย่างจะเตะแรงไม่แรงมันอยู่ที่แขนของแรงคือตัวขากับ quadriceps กับตัวงัดคือ patellar แล้วก็ความเร็วคูณกับมวล ถ้าความเร่งสูงก็ยิงแรงได้ไม่ต้องขาใหญ่

แต่ถ้าจะดู คนที่ยิงได้ดีให้ดูคาร์ลอส

อีกอย่างคือ core ต้องดีด้วย limb ถึงจะเคลื่อนไหวได้ดี คือมีการควบคุมตามที่ตั้งใจไว้ได้

ผมเรียกว่า บอลพุ่ง มากกว่า ถ้าแรงต้องอิบรา อาเดรียโน่ บาติ๊ส คาร์ล๊อส