Top Comment [RE: ถ้าเรื่องแบบ Itaewon class เกิดขึ้นในชีวิตจริง(spoil)]
20th August พิมพ์ว่า:
ไม่มีอะไร พอดีเพิ่งดูเรื่องนี้จบ เลนคิดเล่นๆขึ้นมา
คนมือเปล่าๆ จบม.ต้น เคยติดคุก ทำงานเก็บเงินจนเปิดร้านอาหารเล็กๆได้ จนถึงเปิดเป็นแบรนด์แฟรนไซน์ขึ้นมา ประสบความสำเร็จ
มีเงินมีทองเป็นเศรษฐีคนนึง ถึงตรงนี้ผมว่ามีโอกาสเป็นไปได้ในขีวิตจริง
แต่ถึงขนาดว่า สร้างกิจการภายใน 4-5 ปี จนสามารถล้มบริษัทอันดับ1 ด้านอาหารของประเทศได้
สมมุติเกิดในประเทศไทย ชางกาก็คือCPนี่เอง ลองเปลี่ยนจากตัวท่านประธาน มาเป็นเจ้าสัวธานินท์ ต้องสู้แล้วแพ้ให้กับไอ้หนุ่มคนหนึ่ง
คิดว่าเป็นไปได้ขนาดนั้นเลยมั้ย
ปล.เรื่องนี้พาร์ทแรกสนุกมาก ลุ้นให้พวกพระเอกสร้างร้านให้สำเร็จ พอ time skip ไป4ปี ก็ดรอปเลย ความไม่สมเหตุสมผล luckของพระเอก ความป่วยของฉากไคล์แม็กซ์
รถชนโคม่าขนาดนั้น กลับมาวิ่งปร๋อเลย ไหนๆดูมาแล้วก็ต้องดูให้มันจบๆไป
ถ้ามองว่าเป็น CP มันไม่มีทางล้มได้หรอก
แต่ความจริง มันไม่ได้ขนาด CP ยังห่างชั้นกับ CP เยอะมาก
ตอนผมดูผมก็นึกว่าชางกานี่ทำธุรกิจหลายอาหารหลายเชน
อารมณ์คงเปรียบเทียบแล้วคล้ายไมเนอร์ฟู้ดในไทยนี่แหละ
แต่พอดูสเกลของชางกาจริงๆ เทียบกับไมเนอร์ฟู้ดไม่ติดเลยครับ ไม่ต้องไปถึงซีพีเลย
ผมคุ้นๆ ว่าจำได้ว่าตอนพระเอกซื้อหุ้นเพิ่ม แล้วไปดีลกับผอ.ผู้หญิงนั่นว่าจะสนับสนุนให้ชิงตำแหน่งประธานบริษัท
นางบอกพระเอกว่าหุ้นพระเอกมียังไม่ถึง 1 เปอร์เซนต์ดี ส่วนหุ้นของบริษัททั้งหมด น่าจะสองแสนล้านวอน
200,000 ล้านวอน = 5,300 ล้านบาท
ชางกามีมูลค่าแค่ 5,300 ล้านบาทเอง
อาฟเตอร์ยู เปิดสาขาแรก เปิดเมื่อปี 2548
และอาฟเตอร์ยูขยายสาขาจนเข้าตลาดหลักทรัพย์ จนเคยมีมูลค่าบริษัทถึงหมื่นล้านบาท
ต๊อบเถ้าแก่น้อยยังสร้างธุรกิจมามีมูลค่ามากกว่าชางกาเลยครับ
มันสะท้อนให้เห็นว่า การที่พระเอกทำธุรกิจสิบปี และมีนักลงทุนยักษ์ใหญ่มาร่วมลงทุนด้วย
ไม่แปลกที่จะทำธุรกิจชนะชางกาได้ ในเมื่อชางกามีปัญหาภายในหลายอย่าง
จะบอกว่าถ้าเป็นประเทศไทยโดนเตะตัดขาไม่ได้เกิดหรอก
เอาจริงๆ ในตลาดของกิน อาหารในไทย ช่วงสิบปีที่ผ่านมา มีหลายธุรกิจที่ก็สร้างแบรนด์ขึ้นมาระดับพันล้านได้
โลกธุรกิจมันโหดร้ายก็จริง แต่มันไม่ได้ถึงขนาดว่าไม่มีวันที่จะมีเจ้าใหม่ๆ เกิดขึ้นมาได้หรอกครับ
เอาจริงๆ ในเรื่องพระเอกไม่ได้ประสบความสำเร็จด้วยตัวคนเดียวลำพัง
พูดง่ายๆ คือเขามีพันธมิตรที่ดี ถึงได้สำเร็จได้
อย่างมีเพื่อนที่เก่งเรื่องการเงินการลงทุนช่วยดูแลการลงทุนให้
มีผอ.ผู้หญิงที่เป็นลูกสาวของอดีตผู้ร่วมก่อตั้งชางกามาร่วมมือ เพราะเป้าหมายเดียวกัน
แล้วยังมีย่าที่นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ร่วมลงทุนด้วย
ส่วนชางกาที่พลาด ก็เพราะตัวเองหลายอย่าง หลักๆ เลยก็มาจากนิสัยของกึนวอนมันนี่แหละที่ทำให้ภาพลักษณ์บริษัทติดลบ
จริงๆ ถ้าไม่นับสองตอนสุดท้าย ผมชอบมากนะ มาเสียสองตอนสุดท้ายนี่แหละ ที่มันผสมไม่กลมกล่อม
แล้วก็บทแบบละครไทย ประเภทวิ่งหนี แล้วหยุดบอกรักกัน นักเลงสามคนไม่มีอาวุธสู้ลูกน้องพระเอกคนเดียวไม่ได้
บทมันมาเสียสองตอนหลังนี่แหละ