โควิด วันที่ 29 มี.ค. นพ.สฤษดิ์เดช เจริญไชย รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี ได้โพสต์ในกลุ่ม line prd สื่อมวลชนนนทบุรี ชี้แจง กรณีมีหญิงโพสต์ในโซเชียลว่าโรงพยาบาลบางบัวทอง 2 จ.นนทบุรี ปล่อยให้กลับบ้านทั้งๆ ที่ยังมีเชื้อโควิด-19 อยู่ ว่า ทาง สสจ.นนทบุรี ขอชี้แจงข้อมูล ดังนี้
ผู้ป่วยหญิง อายุ 46 ปี ภูมิลำเนาอยู่ จ.บึงกาฬ (ที่พักจริงอยู่บางนา กทม.) มานอน ร.พ.บางบัวทอง 2 ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. ให้กลับบ้าน วันที่ 27 มี.ค. (รวม 6 วัน) ก่อนกลับบ้าน ทางโรงพยาบาลได้อธิบายการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องให้ผู้ป่วยทราบ ซึ่งจะต้องอยู่ในบ้านอีกจนครบ 14 วัน และหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้อื่นจนครบ 1 เดือน ซึ่งเป็นแนวทางการดูแลตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับวันที่ 21 มี.ค.63) ซึ่งผู้ป่วยรับทราบและเข้าใจดี
โทรคุยแล้วผู้ป่วยไม่ขอกลับมา
หลังจากมีเหตุการณ์ถ่ายคลิปลงโซเชียล ผอ.โรงพยาบาลบางบัวทอง 2 ได้โทรศัพท์พูดคุยทำความเข้าใจกับผู้ป่วย ว่าหากกังวลเรื่องการรักษาหรืออาการสามารถกลับมานอนที่โรงพยาบาลอีกครั้งได้ หลังจากได้รับข้อมูลผู้ป่วยได้ตัดสินใจขออยู่บ้าน ไม่กลับมาที่โรงพยาบาลอีกและสามารถแยกตัวอยู่ที่บ้านได้ โดยขณะพูดคุยไม่ได้มีอาการเหมือนในคลิปที่เป็นข่าว

แจ้งว่าไม่มีความต้องการเพิ่ม เพียงแต่เปรียบเทียบกับเพื่อนที่รักษาที่อื่นต้องหมดเชื้อถึงได้ออกไม่ต้องกักตัวต่อ (แนวทางกระทรวงสาธารณสุข ฉบับวันที่ 21 มีนาคม 2563 ให้นอน รพ. 5-7 วัน หากอาการดีขึ้น ให้ผู้ป่วยสามารถกลับบ้าน และให้กักตัวอยู่บ้านจนครบ 14 วัน และให้ใส่หน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงสัมผัสใกล้ชิดกับผู้อื่นจนครบ 1 เดือน) ทั้งนี้สามีของผู้ป่วยไม่ได้เป็นผู้ติดเชื้อ ทำหน้าที่ดูแลภรรยาที่ต้องอยู่บ้าน ส่วนบุตรผู้ป่วยมีอาการติดเชื้อนอนรักษาอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร



ที่มา ข่าวสด
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_3847234

ก็ปกตินิ แต่คนมาด่าเต็มเฟสไปหมดงงจัง

กลัวกันจนแบบ ไม่รู้อะไรเป็นอะไรละ

ตามข่าวเลยครับ เพราะมี "หญิงโพสต์ในโซเชียล" ต้องตามหาผู้หญิงคนปล่อยข่าว

สามีจากไม่ติดก็จะกลายเป็นติดรึป่าว

แล้วสามี จะกักตัวมั้ยหรือว่าเดินออกมานอกบ้านได้ตามปกติ?
ดูแลภรรยา มีการป้องกันยังไงบ้างให้ข้อมูลและอุปกรณ์เพียงพอรึยัง?

อ่านจากข่าวก็ปัญหาที่ตัวคนป่วยนั้นล่ะ ได้กลับบ้านก่อนที่จะหายขาด แล้วก็โพสให้คนแตกตื่นแนว รพ.ไม่รักษาให้หายแต่ปล่อยกลับแบบไม่รู้ข้อมูลอะไร ซึ่งดูเจ้าตัวก็ไม่ได้อยากกลับไปอยู่ รพ. ก็ไม่รู้จะโพสเพื่อ

ผมเคยคิดไว้แล้วว่าวันนึงจะต้องมีดราม่าแนวนี้เกิดขึ้นแน่ๆ
ทั้งๆ ที่ตปท.อย่างเกาหลีที่เราชื่นชมกันว่ารับมือได้ดี
จริงๆ เขาก็ให้ผู้ป่วยที่อาการเบาอยู่บ้าน มีแค่ 10% ที่แอดมิทโรงพยาบาล
แต่ถ้าประเทศไทยทำแบบนี้ ต้องมีดราม่าและคนด่าแน่ๆ

คุณไม่สังเกตุรึครับว่า คนที่ติดเชื้อแล้วรักษาหาย ผลnegative มีน้อยมากๆ ยังสะสมใน รพ หลายร้อยคน

จุดผิดพลาดสำหรับผมถ้าจะให้ตำหนิคือให้กลับบ้านแต่ไม่มีเจ้าหน้าที่อนามัยหรืออสม.ลงมาดูแลต่อนี่แหละ ปล่อยให้คนที่รู้ว่ามีเชื้อแล้วอยู่บ้านกักตัวเองเฉยๆผมว่าไม่ค่อยจะดีอะ

มองอีกแง่ ถ้าไ่ม่กักตัวต่อที่บ้าน คนไข้ล้น รพ. แน่

ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าจะกักตัวอยู่บ้านได้เป๊ะ
แล้วการปฎิบัติตัวของคนไข้และผู้ใกล้ชิดจะเป๊ะๆ
อย่างน้อยมันต้องมีคนของ สธ ไปเฝ้านะ ถ้าจะไม่ใช้ facility ของโรงบาล

ถ้าไม่คุมอะไรเลยนี่ถือว่าเลื่อนลอยมาก ใครจะมั่นใจได้ แต่ละคนไม่ได้มีหัวคิดเท่ากัน มีก็ดี ไม่มีนี่ซวย เดี๋ยวก็มีคนมาชุมนุมไล่เหมือนที่ฝั่งธน

สสจ ไม่น่าจะโกหก ปัญหาอยู่ที่การสื่อสารไม่ก็ความเข้าใจเรื่องโรคของผู้ป่วยไม่เพียงพอที่จะปล่อยให้กลับไปกักตัวต่อที่บ้าน

ต่างประเทศก็น่าจะใช้แนวทางนี้กันหมด ไม่งั้น รพ ไม่พอแน่ ดูอย่างโอดอยของเชลซีป่วยช่วงใกล้หายก็ยังปั่นจักรยานไฟฟ้าอยู่เลย

ชุดดูแลผู้ป่วยที่รพ. จนท.ใส่ชุดกันแบบไหน ถ้าผู้ป่วยที่ยังรักษาไม่หายออกมาอยู่บ้าน คนที่บ้านจะดูแลผู้ป่วยได้ดีแค่ไหน มีการป้องกันอย่างไร ความเสี่ยงที่เชื่อจะกระจายสูงมาก ถามสั้นๆเลย หมอปล่อยออกมาได้ยังไง