( Since I have been watching Football ) Mine BestXI TEAM : 4-4-1-1
GK:E.Van Der Sar ,RB:P.Lahm ,CB:R.Ferdinand ,CB:A.Nesta ,LB:P.Maldini ,CM:A.Pirlo ,CM:P.Scholes ,RW:L.Messi ,ST:R.Van Nistelrooy ,CF:A.Del Piero ,LW:R.Kaká
Manager:Sir Alex Ferguson ,Offensive:Fastbuildup Defensive:Pressing
Top Comment [RE: ตรรกกะ ข้อมูลความผิดแมนซิมาจากการแฮ็ก = ไม่ผิด]
ก็ไม่เสมอไปนะครับ
หลักความได้สัดส่วนเป็นหลักที่ค่อนข้างเปิดกว้างให้ศาลใช้ดุลยพินิจในการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐาน ดังจะเห็นได้จาก คดี The Diary Case ข้อเท็จจริงภริยาของชู้รักจำเลยได้ขโมยสมุด บันทึกส่วนตัวของจำเลยสำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานในความผิดฐานเบิกความเท็จ ปรากฏว่า คดีนี้ศาลนำ หลักความได้สัดส่วน (Verhaltnjsmassigkeit) ตามที่บัญญัติรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ แห่งสหพันธรัฐมาปรับใช้กับคดีที่ เอกชนเป็นผู้แสวงหาพยานหลักฐานด้วย ศาลไม่ยอมรับฟังบันทึกส่วนตัวของจำเลย โดยให้เหตุผลว่าความร้ายแรงของการรุกล้ำสิทธิความเป็นส่วนตัว (Gravity of the intrusion) มีน้ำหนักมากกว่าสภาพแห่งข้อหาที่เป็นความผิด อย่างไรก็ตาม หากข้อเท็จจริงในคดีเปลี่ยนไปโดยความผิดที่จำเลยกระทำมีความร้ายแรง พยานหลักฐานที่ได้มา จะไม่ได้รับการปกป้อง เนื่องมาจากผลประโยชน์ของรัฐในการดำเนินคดีมี น้ำหนักมากกว่า ผลประโยชน์ในสิทธิความเป็นส่วนตัวของจำเลย ฉะนั้น ไม่ว่าตามหลักการรับฟังพยานหลักฐาน ที่ได้มาจากการดำเนินการของเอกชนตามกฎหมายเยอรมันจะเห็นด้วยกับแนวทางใดต่างมุ่งยึดถือหลักการตามรัฐธรรมนูญและแต่ละแนวคิดก็มุ่งคุ้มครองสิทธิของบุคคลตามรัฐธรรมนูญ เฉกเช่นเดียวกัน
** วารสารบัณฑิตศึกษานิติศาสตร์ 37 หลักการรับฟังพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นหรือได้มาโดยมิชอบ : ศึกษาเปรียบเทียบสถานะของพยานหลักฐานที่ได้มาโดยเอกชนกับ กรณีได้มาโดยเจ้าหน้าที่รัฐ PRINCIPLES OF HEARING OF EVIDENCE OCCURRED OR ACQUIRED WRONGFULLY ; A COMPARATIVE STUDY OF EVIDENCE ACQUIRED BY PRIVATE ENTITIES AND THAT ACQUIRED BY GOVERNMENT OFFICIALS หยาดฝน ชูแสง
หลักความได้สัดส่วนเป็นหลักที่ค่อนข้างเปิดกว้างให้ศาลใช้ดุลยพินิจในการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐาน ดังจะเห็นได้จาก คดี The Diary Case ข้อเท็จจริงภริยาของชู้รักจำเลยได้ขโมยสมุด บันทึกส่วนตัวของจำเลยสำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานในความผิดฐานเบิกความเท็จ ปรากฏว่า คดีนี้ศาลนำ หลักความได้สัดส่วน (Verhaltnjsmassigkeit) ตามที่บัญญัติรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ แห่งสหพันธรัฐมาปรับใช้กับคดีที่ เอกชนเป็นผู้แสวงหาพยานหลักฐานด้วย ศาลไม่ยอมรับฟังบันทึกส่วนตัวของจำเลย โดยให้เหตุผลว่าความร้ายแรงของการรุกล้ำสิทธิความเป็นส่วนตัว (Gravity of the intrusion) มีน้ำหนักมากกว่าสภาพแห่งข้อหาที่เป็นความผิด อย่างไรก็ตาม หากข้อเท็จจริงในคดีเปลี่ยนไปโดยความผิดที่จำเลยกระทำมีความร้ายแรง พยานหลักฐานที่ได้มา จะไม่ได้รับการปกป้อง เนื่องมาจากผลประโยชน์ของรัฐในการดำเนินคดีมี น้ำหนักมากกว่า ผลประโยชน์ในสิทธิความเป็นส่วนตัวของจำเลย ฉะนั้น ไม่ว่าตามหลักการรับฟังพยานหลักฐาน ที่ได้มาจากการดำเนินการของเอกชนตามกฎหมายเยอรมันจะเห็นด้วยกับแนวทางใดต่างมุ่งยึดถือหลักการตามรัฐธรรมนูญและแต่ละแนวคิดก็มุ่งคุ้มครองสิทธิของบุคคลตามรัฐธรรมนูญ เฉกเช่นเดียวกัน
** วารสารบัณฑิตศึกษานิติศาสตร์ 37 หลักการรับฟังพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นหรือได้มาโดยมิชอบ : ศึกษาเปรียบเทียบสถานะของพยานหลักฐานที่ได้มาโดยเอกชนกับ กรณีได้มาโดยเจ้าหน้าที่รัฐ PRINCIPLES OF HEARING OF EVIDENCE OCCURRED OR ACQUIRED WRONGFULLY ; A COMPARATIVE STUDY OF EVIDENCE ACQUIRED BY PRIVATE ENTITIES AND THAT ACQUIRED BY GOVERNMENT OFFICIALS หยาดฝน ชูแสง
หลักความได้สัดส่วนเป็นหลักที่ค่อนข้างเปิดกว้างให้ศาลใช้ดุลยพินิจในการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐาน ดังจะเห็นได้จาก คดี The Diary Case ข้อเท็จจริงภริยาของชู้รักจำเลยได้ขโมยสมุด บันทึกส่วนตัวของจำเลยสำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานในความผิดฐานเบิกความเท็จ ปรากฏว่า คดีนี้ศาลนำ หลักความได้สัดส่วน (Verhaltnjsmassigkeit) ตามที่บัญญัติรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ แห่งสหพันธรัฐมาปรับใช้กับคดีที่ เอกชนเป็นผู้แสวงหาพยานหลักฐานด้วย ศาลไม่ยอมรับฟังบันทึกส่วนตัวของจำเลย โดยให้เหตุผลว่าความร้ายแรงของการรุกล้ำสิทธิความเป็นส่วนตัว (Gravity of the intrusion) มีน้ำหนักมากกว่าสภาพแห่งข้อหาที่เป็นความผิด อย่างไรก็ตาม หากข้อเท็จจริงในคดีเปลี่ยนไปโดยความผิดที่จำเลยกระทำมีความร้ายแรง พยานหลักฐานที่ได้มา จะไม่ได้รับการปกป้อง เนื่องมาจากผลประโยชน์ของรัฐในการดำเนินคดีมี น้ำหนักมากกว่า ผลประโยชน์ในสิทธิความเป็นส่วนตัวของจำเลย ฉะนั้น ไม่ว่าตามหลักการรับฟังพยานหลักฐาน ที่ได้มาจากการดำเนินการของเอกชนตามกฎหมายเยอรมันจะเห็นด้วยกับแนวทางใดต่างมุ่งยึดถือหลักการตามรัฐธรรมนูญและแต่ละแนวคิดก็มุ่งคุ้มครองสิทธิของบุคคลตามรัฐธรรมนูญ เฉกเช่นเดียวกัน
** วารสารบัณฑิตศึกษานิติศาสตร์ 37 หลักการรับฟังพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นหรือได้มาโดยมิชอบ : ศึกษาเปรียบเทียบสถานะของพยานหลักฐานที่ได้มาโดยเอกชนกับ กรณีได้มาโดยเจ้าหน้าที่รัฐ PRINCIPLES OF HEARING OF EVIDENCE OCCURRED OR ACQUIRED WRONGFULLY ; A COMPARATIVE STUDY OF EVIDENCE ACQUIRED BY PRIVATE ENTITIES AND THAT ACQUIRED BY GOVERNMENT OFFICIALS หยาดฝน ชูแสง
หลักความได้สัดส่วนเป็นหลักที่ค่อนข้างเปิดกว้างให้ศาลใช้ดุลยพินิจในการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐาน ดังจะเห็นได้จาก คดี The Diary Case ข้อเท็จจริงภริยาของชู้รักจำเลยได้ขโมยสมุด บันทึกส่วนตัวของจำเลยสำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานในความผิดฐานเบิกความเท็จ ปรากฏว่า คดีนี้ศาลนำ หลักความได้สัดส่วน (Verhaltnjsmassigkeit) ตามที่บัญญัติรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ แห่งสหพันธรัฐมาปรับใช้กับคดีที่ เอกชนเป็นผู้แสวงหาพยานหลักฐานด้วย ศาลไม่ยอมรับฟังบันทึกส่วนตัวของจำเลย โดยให้เหตุผลว่าความร้ายแรงของการรุกล้ำสิทธิความเป็นส่วนตัว (Gravity of the intrusion) มีน้ำหนักมากกว่าสภาพแห่งข้อหาที่เป็นความผิด อย่างไรก็ตาม หากข้อเท็จจริงในคดีเปลี่ยนไปโดยความผิดที่จำเลยกระทำมีความร้ายแรง พยานหลักฐานที่ได้มา จะไม่ได้รับการปกป้อง เนื่องมาจากผลประโยชน์ของรัฐในการดำเนินคดีมี น้ำหนักมากกว่า ผลประโยชน์ในสิทธิความเป็นส่วนตัวของจำเลย ฉะนั้น ไม่ว่าตามหลักการรับฟังพยานหลักฐาน ที่ได้มาจากการดำเนินการของเอกชนตามกฎหมายเยอรมันจะเห็นด้วยกับแนวทางใดต่างมุ่งยึดถือหลักการตามรัฐธรรมนูญและแต่ละแนวคิดก็มุ่งคุ้มครองสิทธิของบุคคลตามรัฐธรรมนูญ เฉกเช่นเดียวกัน
** วารสารบัณฑิตศึกษานิติศาสตร์ 37 หลักการรับฟังพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นหรือได้มาโดยมิชอบ : ศึกษาเปรียบเทียบสถานะของพยานหลักฐานที่ได้มาโดยเอกชนกับ กรณีได้มาโดยเจ้าหน้าที่รัฐ PRINCIPLES OF HEARING OF EVIDENCE OCCURRED OR ACQUIRED WRONGFULLY ; A COMPARATIVE STUDY OF EVIDENCE ACQUIRED BY PRIVATE ENTITIES AND THAT ACQUIRED BY GOVERNMENT OFFICIALS หยาดฝน ชูแสง