สัมภาษณ์พิเศษ SS !! อดุล หละโสะ ทัศนคตินำพาผมให้สู้ต่อ
สวัสดีพี่ๆน้องชาว Soccersuck นะครับคราวที่แล้วผมได้ตั้งกระทู้เบื้องต้นว่าวันนี้บังดุล “อดุล หละโสะ” กองกลางตัวรับจอมเก๋าจากสโมสร ชลบุรี เอฟซี จะมาให้สัมภาษณ์กับผม
Sojuju ใน
SS เท่านั้น……. เรามาเข้าเรื่องกันเลยนะครับ
( โดยบทสัมภาษณ์ของผมจะเป็น Q&A ให้เจ้าตัวเลือกตอบนะครับเรามาฟังทัศนกัน)
สวัสดีครับบังดุล
ครับสวัสดีครับ
วันนี้ผมตั้งใจจะมาสัมภาษณ์บังให้กับพี่น้องชาวเว็ปฟุตบอลนับว่าใหญ่ที่สุดในประเทศเลยนะครับ (หัวเราะ) Soccersuck
วันนี้ผมจะมาถามว่า
“รู้สึกอย่างไรบ้างครับกับการกลับมาร่วมทัพฉลามชล ชลบุรี เอฟซี อีกครั้ง”
อดุล : รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากครับผมตั้งใจจะกลับมาที่นี่อยู่แล้วด้วย ก่อนหน้านี้มีสองถึงสามสโมสรยื่นข้อเสนอเขามา แต่มีหลากหลายปัจจัยที่ทำให้ผมเลือกกลับมาที่นี่เพราะมีครอบครัวที่นี่และผู้ใหญ่ที่คุ้นเคย
ความพร้อมตอนนี้แค่ไหนครับสำหรับฤดูกาลที่เข้มข้นมากๆ ฤดูกาล2020
อดุล : ด้านส่วนตัวฟิต 100% แน่นอนครับด้านมวลน้ำหนักทุกอย่างลงตัวมาก ส่วนในทีมโค้ชเตี้ยกำลังสื่อสารกับนักเตะทุกคนว่าต้องการเป้าหมายอย่างไรและปรับกับแท็คติกของโค้ชเองได้รวดเร็วแค่ไหน
อะไรเป็นเหตุผลที่ตัดสินใจกลับชลบุรีอีกครั้ง และจากที่ได้พูดคุยกับผู้บริหาร การดันเด็กผสมกับดึงลูกหม้อจอมเก๋ากลับมาคือนโยบายที่ตั้งใจใช่หรือไม่
อดุล : ปัจจัยแรกที่ผมกลับมาชลบุรี เอฟซี คือผมหมดสัญญากับสุพรรณบุรี เอฟซี ครับ ปัจจัยที่สองก็คือ ผมได้พูดคุยกับผู้บริหาร ชลบุรี เอฟซี ทางผู้ใหญ่ก็ยินดีจะให้เรากลับมา ด้วยส่วนตัวช่วงเวลานั้นยังไม่ได้ตัดสินเซ็นสัญญาก่อน 100 % ผมต้องการเทสฝีเท้ากับสโมสรก่อนในช่วงปิดฤดูกาลเพื่อให้ทางสต๊าฟโค้ชทีมงานชลบุรี เอฟซี ประเมิณว่าเราสามารถเล่นเข้ากับแท็คติคของโค้ชสะสม ได้หรือไม่ เมื่อโค้ชโอเคทุกอย่างก็โอเคครับ (ส่วนการดันเยาวชนผสมกับลูกหม้อเก่า) ส่วนนี้ที่จริงชลบุรี เอฟซี ทำมานานแล้ว ละช่วงเวลาที่ผ่านมาเยาวชนเหล่านี้ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ซึ่งปีนี้แม้กระทั่งเจ้ายิมหรือเจ้าและห์ (กฤษดา กาแมน) นักเตะเยาวชนเหล่านี้จะเป็นตัวหลักในฤดูกาลนี้แน่นอน ส่วนตัวเก๋าๆอายุเยอะๆจะเข้ามากระตุ้นน้องๆค่อยเป็นตัวอย่างเสริมให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นแน่นอนครับ
การร่วมงานกับโค้ชเตี้ย สะสม พบประเสริฐ ครั้งแรกรู้สึกอย่างไร
อดุล: รู้สึกดีนะครับได้เห็นสไตล์โค้ชเตี้ยในการทำทีม เราเองได้เรียนรู้สิ่งใหม่ซึ่งพี่เตี้ยเองมาจิตวิทยาในการพูดการสอนค่อยข้างดี ส่วนชลบุรี เอฟซี ยังคงยึดเป้าหมายที่ชัดเจนมานานคือการฝึกซ้อมที่หนักและชัดเจนและปรัชญาที่ดีของโค้ชเตี้ยจะเข้ากันต่อไปครับ
นัดแรก ชลบุรี เอฟซี พบ ระยองในบ้าน 3 แต้มแรกกดดันไหมครับ
อดุล : นัดแรกเป็นที่คาดหวังของในทุกๆทีมอยู่แล้วนะครับซึ่งตัวผมเองและสโมสรก็คาดหวังจะเก็บสามแต้มแรกในบ้านของเราให้ได้เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจก่อนที่จะไปเยือนเกมหนักที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เกมที่สองของลีค
เราหวังว่า ชลบุรี เอฟซี ในฤดูกาลนี้ตั้งเป้าอย่างไรไปในทิศทางไหนอันดับที่เท่าไหร่ครับ
อดุล: ความหวังจริงๆตอนนี้ ชลบุรี เอฟซีเองก็หวังในทุกๆรายการที่ลงเล่นนะครับไม่ว่าจะเป็นถ้วยลีค ฟุตบอลถ้วย เอฟเอ ต่างๆ เขาเองก็มีความหวังอยู่ทุกๆถ้วยเช่นเดียวกันส่วนตัวผมคิดว่าด้วยศักยภาพของนักฟุตบอลชลบุรี เอฟซี สามารถไปถึงได้ขอให้ทุกคนมีความตั้งใจและสู้ทุกอย่างมีโอกาสไม่ใช่ว่าจะไม่มี
ขออนุญาตถามย้อนกลับไปถึงสุพรรณบุรีเราค้าแข้งกับสโมสร 3 ปีเต็มและฤดูกาลที่แล้ว..เราสู้จนถึงนัดสุดท้ายเลยรู้สึกอย่างไรบ้าง
อดุล : สุพรรณบุรี เอฟซีเป็นทีมที่ดีนะครับเป็นทีมอู่ข้าวอู่น้ำของนักฟุตบอลไทยเลย แต่ว่าแล้วด้วยผลงานที่มันดรอปลงในแต่ละปีๆนั้นเนื่องมาด้วยความเปลี่ยนแปลงที่ไม่ลงตัวเสียทีซึ่งในแต่ละปี ทำให้ไม่มีแกนหลัก 11 ตัวจริงที่แน่นอนเพราะว่าการเปลี่ยนแปลงหนึ่งครั้งมันก็คือการเปลี่ยนแปลงไปทั้งผู้เล่นและสไตล์ของทีมไปเลยนะ ผมคิดว่าสุพรรณบุรี เอฟซีหากยังมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยและไม่สามารถหาจุดที่ลงตัวได้ จะทำให้ทิศทางทีมเดี่ยวดีเดี่ยวร้ายซึ่งอาจจะเหนื่อยอยู่เสมอ ผมคิดว่าตรงนี้เป็นสาเหตุสำคัญครับผม
จุดใดครับที่ตัวบังดุลเองคิดว่านี่คือสิ่งที่ทำให้เรายังพัฒนาตนเองอยู่เสมอเลย
อดุล : มี 2 สิ่งสำหรับผมนะในและนอกสนามครับ ในสนามก็พยายามตั้งใจฝึกซ้อมตามโปรแกรมที่โค้ชได้กำหนดและก็สิ่งที่เราขาดในด้านที่โค้ชต้องการเราก็ต้องพยายามฝึกซ้อมพิเศษซ้อมแยกเพื่อได้มันมานี่คือจุดที่พัฒนาของผมในสนาม ส่วนนอกสนามด้วยอายุที่มากขึ้นสภาพร่างกายที่ช้าลงซึ่งมองถึงกล้ามเนื้อที่ฟื้นตัวช้าลงทำให้เราต้องปรับปรุงดูแลตัวเองในเรื่องการรับประทานอาหารที่ดีการพักผ่อนซึ่งต้องทำให้มากกว่าปกติ ผมคิดว่าตรงนี้จะรักษาอายุการใช้งานได้ครับผม
ย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่บาดเจ็บหนักที่สุดของอาชีพคือ “เอ็นไขว้หน้าหัวเข่าฉีกขาด” เรายังมีทัศนคติแบบไหนที่จะก้าวผ่านมันและกลับมาเล่นได้ปกติครับ
อดุล : ผมใช้ช่วงเวลาที่นอนติดเตียงอยู่ตอนนั้นนะศึกษาฟุตบอลและเข้าใจกับมันให้มาก ไม่ว่าผมจะศึกษาเรื่องโค้ชว่าโค้ชคนนี้วางแผนอย่างไรวางตัวผู้เล่นอย่างไร เราเองมองผ่านออกไปพักผ่อนให้เต็มที่และมองนอกกรอบศึกษาฟุตบอลให้ได้มากเพื่อพัฒนาให้ดีที่สุดผมได้อ่านหนังสือเยอะขึ้นหากเป็นโค้ชๆต้องการอะไรจากนักเตะเราได้มุมมองตรงนั้น เมื่อกลับไปเล่นได้ผมนำปรับใช้มัน
ตอนนี้อายุ 34 ปีแล้วยังพัฒนาตัวเองอยู่เสมอมีคิดเรื่องแขวนสตั๊ดไหมครับ
อดุล : แน่นอนครับหลังจากนี้เราต้องดูแลตนเองต้องดูปีต่อปีเลคต่อเลคเลยละซึ่งปัจจุบันกฏของลีคเองก็เอื้อให้กับโค้วต้าเอเซียนและเยาวชนที่มีมากมาย หรือหาดลดตัวลงไปเล่นลีครองก็ลงไปได้ครับไม่มีปัญหาใดๆหรือหากอยากจะเล่นก็คงต้องดูแลตนเองอย่างหนักเล่นไปก่อนเรื่อยๆจนกว่าจะอิ่มแหละครับ ด้วยระหว่างเล่นไปเราเองก็ได้ศึกษาแนวทางโค้ชไปด้วย หากวันหนึ่งที่เลิกเล่นแล้วเราเองอยากไปเป็นโค้ชไหมซึ่งหากเราไปเรียนและชอบเนี่ยอาจจะถึงจุดที่พอแล้วไปเป็นโค้ชก็ได้ครับผม
สุดท้ายนี้ขอให้บังดุล “อดุล หละโสะ” ฝากผลงานกับแฟนฟุตบอลไทยใน Soccersuck หน่อยครับ
อดุล : ครับตอนนี้ก็อยู่ในอาชีพฟุตบอลมาถึงจุดบั้นปลายแล้วแต่ก็คิดว่าฟุตบอลจริงๆ ไม่ได้บั้นปลายอะไรหรอกครับสำหรับผมมันต้องทันสมัยอยู่เสมอ นักฟุตบอลทุกคนถ้าจะล้าหลังก็คือช้าคือคิดช้า หากเราคิดไวทำไวมันก็อยู่ได้เพราะฉะนั้นฝากผลงานตัวผมด้วยนะครับผมจะพยายามกลับมาสู่ฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดปีหนึ่งให้ได้และสโมสร ชลบุรี เอฟซี ในฤดูกาลนี้ด้วยครับ ขอบคุณแฟนๆฟุตบอล Soccersuck นะครับที่เป็นกำลังใจให้ (บังแกรู้จักเว็ปเรานะครับ)
ขอบคุณนะครับสำหรับการให้เกียรติผมสัมภาษณ์ใน Soccersuck