บยอนฮีซู ทหารหญิงข้ามเพศคนแรกของกองทัพเกาหลีใต้ ถูกสั่งปลดประจำการ



อย่างที่รู้กันว่าเกาหลีใต้เป็นประเทศยังคงอยู่ในภาวะสงครามและเป็น 1 ในประเทศที่ยังคงมีการบังคับให้เกณฑ์ทหารรับใช้ชาติ

บยอนฮีซู เป็นหนึ่งในกลุ่มนายทหารที่เข้ารับการฝึกกับกองทัพเกาหลีใต้ด้วยความสมัครใจในปี 2017 แต่เธอตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2019 ที่ผ่านมา โดยเดินทางมาผ่าตัดที่ประเทศไทย และเมื่อกลับไปเกาหลีใต้กองทัพได้ตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณาคุณสมบัติการเป็นทหารของเธอและมีคำสั่งปลดประจำการออกมา

โดยโฆษกกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ระบุว่า คำสั่งจะมีผลอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค.เป็นต้นไป เนื่องจากผลตรวจร่างกายที่ออกโดยโรงพยาบาลทหารระบุว่า ทหารคนดังกล่าวได้รับเข้าการทดสอบที่โรงพยาบาลทหารซึ่งจำแนกผู้ที่สูญเสียอวัยวะเพศชายให้เป็นผู้พิการทางร่างกายหรือจิตใจ ทำให้มีการตั้งคณะกรรมการทบทวนการปฏิบัติหน้าที่ของเธอขึ้นโดยทางกองทัพไม่มีกฎเกณฑ์ควบคุมเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของทหารข้ามเพศแถลงการณ์ของกองทัพระบุเพิ่มเติมว่า กองทัพต้องการเลี่ยง "การเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม"

คำสั่งดังกล่าวสร้างความผิดหวังให้แก่บยอนฮีซู ซึ่งยืนยันว่าเธอเป็นทหารคนหนึ่งของสาธารณรัฐเกาหลีและการเป็นทหารคือหนึ่งในความฝันวัยเด็กของเธอ แต่เธอต้องทรมานจากอาการซึมเศร้าเพราะอัตลักษณ์ทางเพศของตัวเองขัดแย้งกับเพศสภาพจนนำไปสู่การผ่าตัดแปลงเพศในที่สุด
"มันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากอย่างยิ่งในการแจ้งทางหน่วยให้ทราบถึงอัตลักษณ์ของฉัน แต่เมื่อฉันเปิดเผย ฉันรู้สึกดีขึ้นมาก"
"ฉันคิดว่าฉันจะยุติการรับใช้กองทัพ แล้วก็ออกไปผ่าตัดแปลงเพศ จากนั้นค่อยกลับเข้ามาทำงานใหม่ในฐานะทหารหญิง แต่ฉันมีอาการซึมเศร้าอย่างรุนแรง"
บยอนไม่คาดคิดว่าจะถูกบังคับให้ออกจากกองทัพ ผู้บังคับบัญชาหลายคนได้มาเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลและหารือกันว่าจะส่งตัวเธอไปอยู่ที่ไหนหลังการรักษา พวกเขาแนะนำว่าเธออาจจะกลายเป็นบุคคลตัวอย่างของกลุ่มคนหลากหลายทางเพศในกองทัพได้
"นอกจากอัตลักษณ์ทางเพศของฉัน ฉันอยากจะแสดงให้ทุกคนเห็นว่าฉันก็เป็นหนึ่งในทหารที่เยี่ยมยอดซึ่งปกป้องประเทศนี้ได้เช่นกัน" เธอกล่าวเพิ่มเติม

อิม แท-ฮุน จากศูนย์สิทธิมนุษยชนทหาร กล่าวว่าการปลด บยอน เป็นเรื่องที่ผิดปกติ เพราะคำสั่งมีผลในวันหลังจากที่มีคำสั่งออกมา ตามปกติแล้วคำสั่งจะมีผลหลังจากผ่านไปช่วงเวลา 1-3 เดือน เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าทางกองทัพไม่ต้องการให้บยอน ติดต่อกับทางหน่วยของเธอ
เจ้าหน้าที่ทางการกองทัพ ซึ่งรู้เรื่องนี้กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ไม่ควรมีเหตุผลใดที่ทางกองทัพจะปฏิเสธบยอน ถ้าเธอสมัครกลับเข้ามารับใช้ชาติในฐานะทหารหญิงหลังจากกลายเป็นผู้หญิงอย่างถูกกฎหมาย

ในเกาหลีใต้ การเป็นคนหลากหลายทางเพศมักถูกมองว่าเป็นผู้พิการ หรือเป็นความเจ็บป่วยทางจิต โบสถ์อนุรักษ์นิยมที่ทรงอิทธิพลอาจมองว่าเป็นบาปและไม่มีกฎหมายที่ต่อต้านการเลือกปฏิบัติในเกาหลีใต้
ในกรณีของบยอน ผู้รณรงค์ต่อต้านกลุ่มคนหลากหลายทางเพศได้พยายามที่จะเปิดเผยตัวเธอทางออนไลน์ พวกเขายังได้จัดการชุมนุมเรียกร้องให้ทางกองทัพปลดเธอด้วยหลังจากที่มีข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาและเรียกร้องให้มีการชุมนุมต่อไป
กลุ่มสิทธิมนุษยชนที่เข้ามาช่วยเหลือเธอถูกกล่าวหาว่าสร้างความเสื่อมเสียให้แก่ภาพลักษณ์ของกองทัพ



https://www.telegraph.co.uk/news/2020/01/22/south-korean-military-discharge-first-transgender-soldier-landmark/
https://www.bbc.com/thai/international-51212383
http://www.voicetv.co.th/read/uh_eUELB8

แปลงเพศแล้วกลับมาในฐานะทหารหญิง...

อืม... วางแผนดี...

ผมไม่ด่าหน่วยงานต้นสังกัดนะ

ปัญหาคงไม่ใช่เรื่องเหยียดอะไร แบบที่เป็นกระแสตอนนี้

ผมว่าปัญหาน่าจะเป็นเรื่อง "ระเบียบที่จะมารองรับมากกว่า"

เพราะว่าตัวพลทหารเอง ตอนประจำการ ตอนเข้ากรมกอง มันเข้าไปแบบผู้ชาย

แต่พอออกไปเฉาะ แล้วกลับเข้ามาใหม่

มันจะติดขัดเรื่องระเบียบอีกเยอะเลย ที่พัก การเตรียมตัว กรมกองไหน มีระเบียบที่แยกเพศอย่างไร แล้ว ทหารหญิง(ที่มีอยู่แล้ว) ยอมรับได้มากน้อยอย่างไร

การลาป่วย ลาเจ็บ ลาคลอด (แม้จะคลอดไม่ได้ก็เถอะ) จะใช้ระเบียบไหน

ผมว่าเรื่องนี้เองก็อาจจะเป็นส่วนสำคัญเลย ที่มีเรื่องราวแบบนี้ออกมา

เกาหลีใต้เป็นประเทศที่ยังไม่เปิดรับเพศที่สามขนาดนั้น

ผมเข้าใจนะที่สั่งปลดเพราะถึงแม้จะกลับเข้ามาเป็นทหารหญิง แต่คิดว่าผู้หญิงแท้เขาจะโอเคกับคนเพศที่สามไหม? คำตอบมีแต่คนเกาหลีด้วยกันเองเท่านั้นที่ตอบได้

ส่วนกลุ่มสิทธิมนุษยชนผมมองว่าไปยุ่งกับเรื่องของเขามากกว่า

และผมก็ค่อนข้างเห็นใจ คนที่แปลงเพศนะ แต่ด้วยความสัตย์จริงคุณควรย้ายไปอยู่ในประเทศที่เสรีเรื่องเพศจะดีกว่า เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองเพราะจากเท่าที่มีเพื่อนเป็นคนเกาหลีวัยทำงานด้วยกัน ขนาดว่าเป็นคนรุ่นใหม่ก็ยังไม่โอเคกับเรื่องเพศที่สาม เท่ากับบ้านเรา

เรื่องกลุ่มสิทธิมนุษยชน ผมอยากให้เข้าใจในมุมมองเขานะ คือหลักการมันค้ำคออะ ถ้าจะยุ่งมันก็ต้องยุ่งทุกเรื่อง ถ้าไม่ยุ่งก็ไม่ต้องยุ่งเลย จะมาเลือกเรื่องนี้ฉันยุ่ง เรื่องนี้ฉันไม่ยุ่งไม่ได้

ส่วนเกาหลีใต้ก็เป็นสังคมปิตาธิปไตยจ๋าอยู่แล้ว กองทัพก็ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ กลุ่มรักษาสิทธิมนุษยชนก็ทำตามหลักการ แต่สังคมที่เหยียดเรื่องเพศหนักขนาดนั้น สุดท้ายจะจบลงด้วยการโดนกดดันจนทำร้ายตัวเองอะดิ

จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี มาเล พวกนี้ยังไม่นอมรับเพศที่3

รายการทีวีไม่ได้ออกเลย ไม่เหมือนบ้านเราเปิดทีวีก้เจอละ

บ้านเรา กลุ่มเพศทางเลือกคือกลุ่มที่มีอิทธิพลอย่างมากในวงการสื่อ หรือมองไปในกลุ่ม influence ใน social media เองก็จะพบว่ามีคนที่เป็นเพศทางเลือกจำนวนไม่น้อยเลย

ก็เป็นเรื่องดีๆ อีกเรื่องหนึ่งของประเทศไทยที่ค่อนข้างเปิดด้าน cultural มากๆ

แต่ประเทศเรา ยอมรับการถูกมองเป็น สิ่งตลก
และแน่นอนว่า ส่วนใหญ่ เพศที่ 3 ที่มีดอกาสแบบนั้น ก็ยินยอมด้วยซ้ำ

อีกนัยนึงคือ
ผมไม่รู้ว่ามันคือสิ่งแลกเปลี่ยนตามธรรมชาติหรือเปล่า

เพราะเพศที่ 3 ในบ้านเรา
สามารถไปละเมิดหรือทำกักขระกับเพศเป้าหมายได้

ตั้งใจสินะ

มาอยู่เมืองไทยมั๊ย

จูบกัน ดูดปากกันออกทีวี ลามไปถึงสภาเลย




อยากแสวงหาความพอดีจริงๆ

ไปเที่ยวผับซากุระที่วังเวียงลาว เห็นโอปป้าเกาหลีโดนสาวประเภทสองลาวหิ้วกลับเกือบทุกคืน