คล็อปป์ - ขงเบ้ง สัจจะแห่งผู้นำ
อ่านข่าวเมื่อเช้า แว้บเข้ามาในหัวเลย ผมว่ากรณีเดียวกัน
กับการที่คล็อปป์ เลือกที่จะดรอปนักเตะตัวจริงในช่วงเบรก
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1847733
ซึ่งผมไม่รู้เจตนาจริงๆหรอก อาจจะมองว่า FA ไม่สำคัญ (เท่าโอกาสในการคว้าแชมป์ลีค) หรืออาจจะเป็นการกวนตีนไปก็ได้
คล็อปป์บอกว่า
"ผมบอกกับเด็กๆไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วว่าพวกเขาจะได้พักหนีหนาว เพราะฉะนั้นเราจะต้องเล่นกับนักเตะที่ยังอยู่ที่นี่ พวกนักเตะดาวรุ่งนั่นแหละ"
"ไม่ว่าจะพรีเมียร์ ลีก หรือใครก็ตาม เพราะเขาจะมาจัดระเบียบรอบตัวเราไม่ได้"
"วันนี้มันเป็นความผิดของเรา 100% เลยที่ทำให้มันต้องมีรีเพลย์ แต่เมื่อคุณสัญญากับทุกคนไว้แล้วว่าจะให้เวลาพัก คุณก็จะมากลับคำไม่ได้"
ซึ่งเป็นคำพูดที่ทำให้ผมคิดถึงเหตุการณ์คล้ายๆกันเมื่อเกือบๆ 2000 ปีมาแล้ว ในยุค 3 ก๊ก
(ถึงแม้ว่าจะมีแต่งเติมบ้าง แต่อ่านเพื่ออรรถรสแล้วกันนะครับ)
สัจจะแห่งผู้นำ
ในการยกทัพบุกวุยก๊กครั้งที่ห้า เป็นช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยจากการที่ขงเบ้งต้องถอยทัพกลับมาแก้ปัญหาจากการถูกกิอั๋นใส่ร้าย ทำให้ทหารยังเหนื่อยล้าจากการเดินทัพอยู่
ขงเบ้งจึงเห็นว่า การบุกวุยก๊กเป็นงานที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
ในเมื่อทหารยังเหนื่อยล้าอยู่ ก็ให้แบ่งกองทัพยี่สิบหมื่นออกเป็นสองกอง กองละสิบหมื่น
แล้วให้กองแรกไปรบก่อน พอครบกำหนดร้อยวันก็ให้ทหารสิบหมื่นอีกกองออกไปสับเปลี่ยนให้ทหารกองแรกกลับมาพัก แล้วหมุนเวียนแบบนี้ไปเรื่อยๆ
ขงเบ้งยกทัพไปถึงเมืองโลเสียเห็นข้าวสาลีกำลังสุก จึงคิดจะให้ทหารออกไปเกี่ยวข้าวมาใช้เป็นเสบียงในกองทัพ
ฝ่ายสุมาอี้ก็คาดเดาความคิดขงเบ้งออกจึงยกทัพมาขัดขวาง แต่ก็ไม่สำเร็จ พอยกทหารเข้าตีเมืองโลเสีย ก็โดนขงเบ้งตีแตกกลับมาอีก
สุมาอี้จึงขอกำลังหนุนจากเมืองเลียงจิ๋วและเลงจิ๋วมาเสริม
แต่...
ทหารกองแรกออกมาครบกำหนดร้อยวันแล้ว ส่วนทหารอีกกองก็กำลังเดินทางมาผลัดเปลี่ยน
สุมาอี้กลับได้กำลังเสริมมาในช่วงเวลานี้พอดี เหล่าทหารก็ใจคอไม่ดีกลัวไม่ได้กลับบ้าน
เอียวหงีก็เสนอว่า "ตอนนี้สถานการณ์ไม่ค่อยดี ควรให้ทหารที่เตรียมตัวยกทัพกลับอยู่ต้านทานข้าศึกก่อน พอทหารอีกกองมาถึงแล้วค่อยปล่อยกลับไป"
ขงเบ้งจึงว่า
"ทำอย่างนั้นไม่ได้!!! เราต้องถือสัจจะ ในเมื่อมีคำสั่งไปแล้วก็จะกลับคำไม่ได้
ตอนนี้ทหารทุกคนต่างคิดถึงครอบครัวเตรียมตัวเตรียมใจจะกลับบ้าน ต่อให้สถานการณ์เลวร้ายสักแค่ไหน ก็ต้องปล่อยให้พวกเขากลับไป"
ว่าแล้วก็สั่งให้ทหารที่ต้องกลับไปผลัดเปลี่ยนออกเดินทางได้ทันที
งั้นตอนนี้ขงเบ้งก็ไม่เหลือทหารเลยน่ะสิ!!!
ไม่ครับ เพราะผลที่ได้กลับตรงกันข้าม
ด้วยสัจจะวาจาที่ขงเบ้งให้กับเหล่าทหาร ทำให้ทหารซาบซึ้งใจ ต่างตะโกนออกมาว่า
"ท่านขงเบ้งมีความเมตตากรุณาต่อพวกเราขนาดนี้ พวกเราจะยังไม่กลับ
เราจะขออยู่สู้กับทัพวุยก่อน!!!"
แม้ขงเบ้งจะยืนกรานให้ทหารยกทัพกลับ เหล่าทหารก็ไม่กลับและจะขอออกรบ
ทหารจ๊กจึงออกรบด้วยความฮึกเหิม เต็มไปด้วยขวัญและกำลังใจที่กล้าหาญ
กองทัพของสุมาอี้ไม่สามารถต้านทานได้ จึงต้องแตกพ่ายหนีไป...
ลักษณะของผู้นำที่ดีอย่างหนึ่งก็คือ
ผู้นำต้องมีสัจจะวาจา สัญญาต้องเป็นสัญญา รักษาคำพูดของตนเอง คำไหนคำนั้น
เพื่อให้เกิดเป็นความน่าเชื่อถือ (Credibility) และความไว้วางใจ (Reliability)
เพราะถ้าหากผิดคำพูดเมื่อไร ผู้ใต้บังคับบัญชาก็จะหมดความเคารพศรัทธา
แล้วผลที่ตามมาก็จะมีแต่ “ความผิดหวัง” ครับ
* * * * * * * * * * * * * * * *
ผมคัดลอกบทความต้นฉบับมาจากเพจ :
สามก๊ก ฉบับกุนซือจอมทัพ
Spoil
https://www.facebook.com/1664262443788540/photos/%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%87-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%AB%E0%B9%8C-%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B8%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%B2-/1751586861722764/
ให้เครดิตไว้เลยครับ ตอนแรกจะพิมพ์เอง แต่ในเพจเขียนได้ดีแล้วเลยยกมาเลย
คือจากการที่คล็อปป์แกชัดเจนเลยในเรื่องของความเข้มงวดในการปกครอง
และทัศนคติที่ดีในการรักษาคำพูดแบบนี้
มันเห็นได้ชัดเลยว่าอะไรที่แกพูดแล้ว แกต้องรับปากด้วยจริงๆเพื่อซื้อใจลูกน้อง
ไม่มีการบังคับขู่เข็น เพื่อให้ชุดใหญ่ลงไปเอาผลการแข่งขัน เพื่อรักษาเก้าอี้กุนซือของตัวเอง ไม่มีการอ้างสัญญาจ้าง หรือคอนแทรคใดๆ
ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมลิเวอร์พูลในยุคของคล็อปป์ ถึงได้มีทัศนคติและแนวความคิดที่สุดยอดกันทั้งทีม