สังคมโทษเกมส์ ผมว่าไม่ผิดนะ ผิดที่สังคมนั่นแหละ
มันผิดตรงที่ถ้าโทษแต่เกมคุณจะมองไม่เห็นอะไรเลย
ยกตัวอย่าง สมัยผมคนที่เล่นเกมจะถูกมองเป็นเด็กเนริดครับ คือกำเงินไปเข้าร้านเกมครึ่งชั่วโมง 15 บาท ในขณะที่ข้าวจานละ 20 มันสิ้นเปลืองผู้ใหญ่มองแค่นั้น ผมเก็บเงินสามวันเพื่อจะไปเล่นแค่ครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้นก็นั่งจินตนาการไป อ่านหนังสือเกมที่เพื่อนถือมาโรงเรียน นั่งวาดรูปนั่งออกแบบตัวละครที่ตัวเองอยากให้มีในเกม
พอสมัยต่อมาผมเริ่มเห็นละ เด็กไม่ตื่นมาดูการ์ตูนช่อง 9 เพราะไปร้านเกม ไปเล่นเกมยิงๆกัน ต่อมาอีกพ่อแม่เริ่มฉลาดคือเอาลูกมาไว้ร้านเกมเลย ตัวเองทำงาน ลูกมันไม่ไปไหนดีกินอยู่ร้าน นั่งอยู่ร้าน ตกดึกมารับ
ยุคต่อมาเกมมือถือเริ่มครองเมือง ก็เปลี่ยนผ่านจากร้านมามือถือ แต่ก่อนหน้านั้นคือร้านก็เริ่มจะปิดลงเยอะเพราะเน็ตความเร็วสูงเริ่มเข้าถึงทุกบ้าน
ยุคนี้ผมมองว่า ทุกคนอยู่ในบ้าน ไม่มีการเจอหน้ากันแบบตัวต่อตัว เกมเปลี่ยนเป็นแบบคลิ๊กออโต้ ค่ายต่างๆมีการหลอกล่อให้เติมมากขึ้น ตัวละครสวยเพอเฟคต์จนไม่รู้จะจินตนาการต่อยังไง อันนี้คือความเห็นส่วนตัวนะ แล้วก็เปลี่ยนเกมกันเร็วมาก แปปเลิกแปปเล่นเกมใหม่ คือตัวเลือกมันเยอะสุดๆ แต่เกมยอดนิยมก็ยังเป็นแนวเดินยิงอยู่ แต่มีการวางแผนมากขึ้น
เพราะฉะนั้นผมมองว่าเด็กสมัยใหม่จะมีจินตนาการลดลง แต่เรียนรู้จับประเด็นอะไรได้เร็วขึ้น เทคนิคต่างๆเรียนได้เร็วขึ้น แต่ความสนใจจดจ่ออาจจะสู้คนเล่นเกมสมัยก่อนไม่ได้ ยกเว้นพวกอีสปอร์ต
ทีนี้ลองมองว่าสังคมมันมีปัญหาเกี่ยวกับความเป็นเกมเพราะอะไร ทำไมผู้ใหญ่บางคนพูดเรืองเกมแล้วเหมือนพูดเรื่องขี้ ส่วนตัวผมมองแบบนี้
- จำนวนคนที่เล่นเกมมากขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ คนดีคนเลวมันก็ปะปนกัน แต่สื่อเล่นข่าวเฉพาะที่มันดราม่า เช่น นัดมาเจอกันนอกเกมแล้วก็แทงเพื่อแก้แค้นที่โกงไอเทม คนทั่วไปคลิกอ่านเป็นล้าน แต่ข่าวว่าเราได้แชมป์โลกเกมนู่นนี่ ได้เงินรางวัล คนทั่วไปไม่อ่าน
คือเกมมันเป็นสังคมที่เริ่มใหญ่ที่เริ่มก่อตั้งใหม่แถมยังมีการเปลี่ยนผ่านยุคด้วยเทคโนโลยีไม่รู้กี่ครั้ง คุณจะหวังหาความสงบสุขในสังคมลักษณะนี้คงต้องไปหาที่ญี่ปุ่นซึ่งมีการ strict บุคลิกภาพของคนในสังคมค่อนข้างสูง ดูอย่างตอนยุคเปลี่ยนผ่านของไทยจากเกษตรกรรมมาเป็นอุตสาหกรรมมันวุ่นวายแค่ไหน ในแง่เดียวกันผมก็มองว่าถ้าคนทั่วไปจะมองว่าสังคมเกมเป็นสังคมที่วุ่นวายก็ถูก แต่ก็ไม่แฟร์นักถ้าจะเหมารวมว่าคนเล่นเกมเป็นคนจดจ่อ ไม่มีอนาคต หรือเป็นสังคมของคนไม่ดีไปทุกคน เพราะอย่างที่บอกว่ามันกำลังขยายและเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็ว
- การเลี้ยงดูของคนยุคที่ปล่อยลูกไว้ในร้านเกม จริงๆเป็นแค่ตัวอย่าง เพราะสมัยทีวีเข้ามาใหม่ๆพ่อแม่บางคนก็ปล่อยลูกไว้กับทีวี ตอนนั้นมีการแอนตี้ทีวีด้วยซ้ำ
เพราะฉะนั้นถ้าพ่อแม่ปล่อยลูกไว้กับแมชชีน ไม่ว่าจะเป็นอะไรมันมีสิทธิ์ที่ลูกจะเติบโตมาเป็นคนที่มีบุคลิกแบบที่สังคมอาจจะไม่เข้าใจมากขึ้นอยู่แล้ว เพียงแต่ยุคที่ผ่านมาเกมเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ถ้ายุคต่อไปพ่อแม่เอาเด็กไปปล่อยไว้กับร้านคาเฟ่แมวหุ่นยนต์ สมมุตินะ ผมว่าแมวหุ่นยนต์ก็คงตกเป็นประเด็นอีกเหมือนกัน สรุปคือมันอยู่ที่ความใกล้ชิดในการเลี้ยงดูและสภาพแวดล้อมในครอบครัวดูจะมีอิทธิพลมากกว่าและดีกว่าที่จะปล่อยไว้กับแมชชีน แต่ก็แล้วแต่ตัวเด็กอีกเหมือนกัน
ส่วนที่มีการปรับแก้ปัญหานี้อย่างจริงจังผมมองว่าคงเป็นยูทูป ที่มีการติดเหลือง ติดนู่นนี่ทำให้สื่อที่ออกมามีคุณภาพมากขึ้น แต่ในสังคมเกมผมก็ยังเดาไม่ออกว่าจะควบคุมได้ดีอย่างนี้ได้ยังไง
- การเปลี่ยนผ่านยุคทำให้คนตื่นตระหนก จริงๆมันมีทุกสมัยแหละกับคำที่ว่า เด็กสมัยนี้มันแย่ลงนะ... แต่ในยุคที่มีการเปลี่ยนผ่านหนักๆ สื่อเกือบทุกอย่างยัดลงมือถือได้หมดและทุกคนไม่มีใครแกมาเจอหน้ากันแบบเห็นตัวเหมือนอย่างที่ผมพูดไปตอนแรก ผมว่าต่อให้ไม่มีเกมมาเกี่ยวยังไงบุคลิกภาพของเด็กรุ่นใหม่ก็มีการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นอนาลอคมากแน่นอนไม่ว่าจะดีขึ้นหรือไม่ดี
สรุปง่ายๆสำหรับคนไม่อยากอ่านยาว
ผมว่าสังคมเกมมีความวุ่นวายมากขึ้นครับ ด้วยจำนวนคนที่เยอะขึ้นและหลากหลายตลาด บนก็มีล่างก็มี แต่ที่เกมตกเป็นจำเลยสังคมอยู่บ่อยผมว่าเป็นเพราะสังคมทั่วไปยังเข้ามาวิเคราะห์และแยกแยะคนเล่นเกมไม่เป็นเท่านั้นเอง