ตอนเห็นข่าว Klopp เกี่ยวกับที่แฟนๆจะร้องเพลง we're gonna win the league ผมก็คิดในใจ จะรีบร้องกันไปเพื่อ ไม่กลัวผิดหวังแล้วโดนย้อนเข้าตัวกันมั้งเหรอ และโดยส่วนตัวยังจะเชียร์ไปทีละนัดไปเหมือนเดิม

แต่พอดีผมชอบหาคลิปบรรยากาศหลังเกมส์ พวกรีแอคต่างๆ แล้วได้ไปดูคลิปนึงฟัง the kop ร้อง we're gonna win the league แล้วรู้สึกว่าน้ำตาจะไหลออกมาเฉย

ไม่ใช่เพราะว่ามั่นใจว่าทีมจะได้แชมป์ แต่เพราะช่วงชีวิตที่เชียร์ลิเวอร์พูลมา พึ่งเคยได้ยินเพลงนี้เต็มๆสองหูครั้งแรกต่างหาก (ลองไปหาข้อมูลเพิ่ม เหมือนปี 2013/2014 แฟนก็ร้องเพลงนี้เหมือนกันในนัดที่ชนะซิตี้ 3-2 และในคอมเมนต์ล้อเรื่อง slipped and lost กันเพียบ)

เหตุที่ไม่ค่อยได้ยินเพลงนี้บ่อย นั่นก็เพราะฤดูกาลที่ ลิเวอร์พูล มีโอกาสลุ้นแชมป์ หาได้น้อยเหลือเกิน และยังไม่เคยยกระดับการลุ้นแชมป์ลีกอย่างต่อเนื่องได้เลย ในรอบเกือบ 30 ปีที่ผ่านมา

ฉะนั้น พอได้ฟังแล้วก็รู้สึกตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก ที่ทีมมาไกลได้ขนาดนี้ ได้ลุ้นแชมป์ลีกเป็นฤดูกาลที่ 2 ติดต่อกัน เป็นครั้งแรกตั้งแต่เปลี่ยนเป็นพรีเมียร์ลีก


ปีที่ใกล้เคียงกับการลุ้นแชมป์ลีก (จบอันดับ 2)
ปี 2001/02 ปีที่โอเว่นได้ บัลลงดอร์
ปี 2008/09 ตอเรสเจ็บบ่อย ช่วงคิดไม่ออกบอกเจิด และฟอร์มดีเฉพาะช่วงหลัง
ปี 2013/14 ปรากฏการณ์ยิงมากลับไม่โกง และคู่หู SAS
ปี 2018/19 เก่งแต่ยังไม่นิ่ง บี้กับซิตี้ ทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ EPL
ปี 2019/20 แม้จะยังหาบทสรุปไม่ได้ แต่...

Now you're gonna believe us, We're gonna win the league (เนื้อเพลงแบบเต็มๆ)
แค่ขอฟังเพลงนี้ ให้บ่อยขึ้นกว่าเดิมละกัน


เกร็ดเพิ่มเติม*
ลิเวอร์พูลต้องการอีก 30 แต้ม จาก 16 นัดที่เหลือ ก็จะทำคะแนนทิ้งขาดซิตี้ (ในกรณีที่ซิตี้ชนะ 15 นัดรวด) "ครั้งล่าสุดของทีม Klopp เก็บได้ไม่ถึง 30 แต้มจาก 16 นัด มี 2 ช่วงคือ ต้นปี 2017 (ช่วงมาเน่ไปเตะ AFCON) กับช่วงต้นฤดูกาล 2017/18 (มาเน่โดนใบแดง ที่ไปเข้าหนักใส่เอแดร์ซอน) " *ข้อมูลจากเพจ scouse bastard

ผมก็ว่าได้ยินเพลงนี้ตอนซาล่ายิงเสร็จ ตอนแรกนึกว่าร้องเพลงwe champion of the world แต่ฟังดีๆเป็นwe gonna win the league คือน้ำตาจะไหล ได้ยินล่าสุดคือตอน2013-2014

ตอน 13/14 ก็ได้ยินรอบนึง คิดว่ามาแน่ๆแล้วนะแต่อุบัติเหตุลูกหนังตอนนั้นมันโคตรเจ็บ และก่อนหน้านั้นก็ไม่เคยได้ยินเลยเพราะแทบไม่เคยทิ้งห่างจริงๆจังๆเลยทั้งทรงบอลและต่างๆนาๆ

ปีนี้ มันใกล้ยิ่งกว่าใกล้ซะอีก 16 แต้มนำ ที่ 2 เกมส์ในมือเหลืออีก 1

ถ้าปีนี้สมหวังจริงๆ

ขบวนแห่แชมป์รอบเมืองน่าจะยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าแชมป์ UCL ปีที่แล้วอีก

ให้ความรู้สึกเหมือนเหมือนรอคนที่รักกันมาทั้งชีวิต

ได้แชมป์แน่นอนแล้ว

ผมสมมุติให้แข่งเท่ากัน +3 คะแนนให้ลิเวอร์พูลไปเลย เหลืออีก 15 นัด แพ้ 6 นัดยังไม่โดนแซงเลยอะ

ปีนี้ที่น่าตื้นตันกว่าทุกปีเพราะโอกาสหงส์พลาดแชมป์น่าจะมีแค่1% แฟนๆเลยมั่นใจกันได้จริงๆ​ แต่ถ้าถามความรู้สึก​ ถ้าได้ปีที่แล้วคงมันส์กว่านี้​ เป็นแชมป์แบบขับเคี่ยวกันถึงนัดสุดท้ายแล้วระเบบิดความดีใจที่อัดอั้นมาในทีเดียว

ไม่ต้องเหนียมหรอกครับ สถานการณ์แบบนี้ใครไม่คิดว่าจะแชมป์ก็บ้าแล้ว 16 คะแนน มีเกมส์ในมืออีก 1 เกมส์ ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่สมควรได้แชมป์อะ เอาเข้าจริง

ปี 2018/19 เก่งแต่ยังไม่นิ่ง บี้กับซิตี้ ทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ EPL

ขอท้วงคำว่า "เก่งแต่ยังไม่นิ่ง" ครับ

เวลาผมได้ยินคนพูดว่า
ฤดูกาลที่แล้วลิเวอร์พูลทำพลาด
ไม่นิ่ง
ไม่แกร่งพอ
ผมเห็นแล้วมันรู้สึกขัดแย้งมากๆ

ฤดูกาลที่แล้ว ผมไม่คิดว่าหงส์มีอะไรให้ติสักเท่าไหร่
คำว่ายังไม่นิ่ง ผมว่าไม่น่าเอามาใช้กับทีมที่เก็บคะแนนได้ 97 แต้ม และแพ้แค่นัดเดียวจาก 38 นัด และเสียประตูแค่ 22 ประตูทั้งฤดูกาล น้อยที่สุดในลีคแล้วนะครับ

แค่แมนซิตี้ทำได้ดีกว่าเท่านั้นเอง
ลิเวอร์พูลฤดูกาลก่อนทำดีที่สุดแล้ว แล้วก็นิ่งมากๆ แล้วด้วยครับ

เอาจริง ๆ นะ ผมว่าไม่ต้องเหนียมอายกันหรอก มีสิทธิ์เป็น 19 แต้ม ถ้านำ 19 แล้วยังพลาดแชมป์นี่ผมว่าไล่ออกหมดทีม ละยุบทีมทิ้งเถอะจริง ๆ ช่องว่างมันห่างเกินไปแล้ว

ผมอาจจะสื่อสารได้ไม่ดี เติมให้แบบนี้ละกัน
"นิ่งแต่ไม่เท่าซิตี้"

เข้าใจที่ท่านสื่อ ถามว่าพลาดไหม ก็เข้าใจแหละฮะ ว่ามันพลาดน้อยมากๆ
ขนาดไม่อยากติของฤดูกาลก่อน แต่ฤดูกาลนี้ยังยกระดับการเล่นได้ขึ้นไปอีกเยอะเลย

โอเคครับ เข้าใจครับ

จริงๆ แล้วถ้าจะว่าถึงฤดูกาลที่แล้ว ผมเคยคุยกับเพื่อนว่า นัดที่น่าเสียดายจริงๆ คือนัดเจอแมนยู ที่เล่นแบบเพลย์เซฟ แล้วเสมอกลับมา
นี่ถ้านัดเจอแมนยูเรามาเจอตอนนัดสุดท้ายฤดูกาล อาจจะได้แชมป์ก็ได้ เพราะคล็อปป์คงสั่งให้ใส่เต็ม ไม่แพ้ก็ชนะเท่านั้น
แต่พอมันมาเจอกันตอนนั้น ผลเสมอก็ไม่ได้แย่อะไร คือ ต้องยอมรับว่าการไปเจอแมนยูที่บ้านเขา ไม่ใช่ของง่าย แมนยูมีลูกฮึดเวลาเจอลิเวอร์พูลเยอะ เสมอกลับมาก็ไม่ได้ และก็ยังนำแมนซิอยู่
แต่สุดท้ายก็มาเสมอเอฟที่บ้านเขาอีก ซึ่งความจริงก็ไม่คิดว่าแย่นะ แต่กลายเป็นแมนซิต่างหากที่กดอัลติ ชนะรวดเลย ไม่พลาดเลย
คือถ้าเอานัดแมนยูมาไว้หลังๆ แล้วเป็นนัดที่ต้องชนะให้ได้ ผมว่าลิเวอร์พูลอาจจะเล่นเสี่ยงแล้วมีโอกาสชนะได้อยู่เหมือนกัน

แต่ก็พอใจกับปีนี้มากๆ เพราะเคยแอบคิดว่าถ้าไม่ได้ปีก่อน ปีนี้คงไม่น่าทำได้ดีขนาดปีก่อนแล้วแหละ คือปีก่อนก็นับว่าเป็นปรากฎการณ์แล้ว 97 แต้ม แพ้นัดเดียวเนี่ย 20-30 ปีมานี่ไม่เคยทำได้มาก่อน ไม่ได้ปีที่แล้ว คงไม่มีโอกาสอีกแล้ว กลายเป็นปีนี้กำลังลุ้นว่าจะทำได้ดีกว่าปีที่แล้วอีกด้วยซ้ำ สุดยอดมากๆ

ผมก็รู้สึกนะว่า นัดที่เราพลาดเสมอไปฤดูกาลก่อน ก็คิดว่า 1 แต้มก็ดีแล้วเหมือนกัน เริ่มจากเจอเลสเตอร์ ที่จากจะห่างเป็น 7 แต้ม กลายเป็น 5 เอาวะ ยังห่างอยู่ แล้วมานัดเวสแฮมกลายเป็นห่าง 3 และนัดแมนยู กลายเป็นห่าง 1 ยังคิดเข้าข้างตัวเองว่ายังนำ

สุดท้ายต้องไปวัดดวงให้เก็บชัยชนะในเกมส์เมอซี่ไซด์ดาร์บี้ ซึ่งโดยปกติเป็นเกมส์ที่ยากอยู่แล้ว และหลังจากนั้นเกมส์นั้น ก็ไม่คิดว่าทีมจะชนะรวดจนจบฤดูกาลได้เหมือนกัน

ปีนี้คลอปเลยกดอันติต่อเนื่อง และใช้ winning mentality ทุกเกมส์จริงๆ

ปีที่พลาดนี้คะแนนไม่ถึง ขาดมาเน่ล้วนๆเลยนิ

ปล.ปีก่อนช่วงนำ 7 แต้มแต่เรือแข่งน้อยกว่า 1 ทีมกดดันอย่างเห็นได้ชัด

เล่นไม่ออกในหลายๆเกมจนมีแต้มเสมอบ้าง

ปีนี้ก็เริ่มมีกดดันนะ ช่วงเจอสเปอร์ กับผีนี่แหละ ท้ายเกมออกอาการกดดันตัวเอง

หลังจากยิงลูก2 ไม่ได้

แต่ที่ต่างในปีนี้คือ ชนะได้เนี่ยแหละครับ ปกติถ้าไม่ได้ลูกที่สอง โอกาสโดนตีเสมอเยอะมาก ปีนี้ก็โดนนะ เอาจริง อย่างเช่นนัดพาเลซ แต่ก็กลับมายิงแซงได้

และอกหักมาแล้วหลายๆรอบ มากครับ