หลังจากได้เห็นความโหดสเปอร์แล้วมีหลายคนชมมูรินโญ่กันเยอะ ว่ามาทำให้โหดขึ้น

แต่ผมว่าจริงๆ สเปอร์ปีก่อนๆมันก็โหดแบบนี้แหละ ตอนนี้มูมาเรียกความมั่นใจให้มันกลับไปที่จุดเดิมได้
(ไม่ได้ตั้งใจจะเนิฟมูนะครับ แต่ก่อนหน้านี้มันก็เคยโหดแบบนี้จริงๆ ไม่ใช่เพิ่งเคยโหด)

เอาล่ะ จากใจเด็กผี ที่อยากให้พอชมาคุมในวันข้างหน้า

เลยอยากจะถามว่าพอชไปธาติไฟแตกจากอะไร ทำไมอยู่ๆดรอปไปดื้อๆ

มีข่าวอะไรมั้ย สาเหตุที่ความมั่นใจของทีมมันลดลงไปจนต้องเปลี่ยนผู้จัดการ

ผมว่าพอชคงทำแบบเดิมแหละ แต่นักเตะเหมือนอิ่มตัว

สเปอเล่นฟอร์มดีมานานแล้ว 4-5 ปี แต่ก็ไม่ได้แชมป์ซักที มันทำให้หมดความมั่นใจแหละครับ ยิ่งมาพลาดชืง ucl ล่าสุด นักเตะเหมือนหมดความมั่นใจเลย เหมือนตันๆ พยายามไปมหากแค่ไหนเดี๋ยวก็พลาดอีก พอน้ามูมันเหมือนจุดประกายความหวังอีกครั้ง ฟอร์มเลยเริ่มกลับมา

พอชไม่ได้ธาตุไฟแตก
ประเด็น 3 ตัวเก่า Ajax ทีกำลังหมดสัญญา งบประมาณในการเสริมทัพ
มันทำให้สเปอร์ดูไม่มีความทะเยอทะยานตั้งแต่ต้นฤดูกาบแล้วฟ
ผมว่าเป็นเพราะเลวี่ เลยส่งผลให้พอช manage ทีมไม่ได้มากกว่า

ช่วงก่อนแกให้สัมภาษณ์บั่นทอนกำลังใจทีมอยู่ตลอด พลางตัดเพ้อว่าจะไม่อยู่แล้ว หรือมองอนาคตตนเองไม่แน่นอนกับทีมสเปอร์ส

แล้วไม่รู้ว่าภายในทีมเกิดอะไรขึ้น เพราะปลายฤดูกาลก่อน สเปอร์สเล่นกันหนักมาก เหมือนหัวร้อนตลอดเวลา ใบแดงว่อนเลย

นักเตะอิ่มตัวกับพอช ไม่เชื่อมั่นในตัวพอช ในแท็กติกพอช ฟอร์มการเล่นมันก็ออกอาการทุเรียนแบบนั้นแหละ

มันเป็นผลมาจากการแชมป์ว่าวปีที่แล้ว ถอยหลังไปอีกก็แชมป์ว่าวพรีเมียร์ลีก ชอบตกม้าตายท้ายฤดูกาล แม้กระทั่งฤดูกาลที่ทีมใหญ่ฟอร์มกากๆ ทั้งหมด พอชก็ยังทำไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าผู้จัดการทีมมีผลจริงๆ เทียบกับเยอร์เก้นเห็นได้ชัดเลย จากการที่เยอร์เก้นเข้ามา แชมป์ว่าวยูโรป้าลีก แชมป์ว่าวลีกคัพ คูตินโญ่ชิ่งก่อนเพื่อน ก่อนจะมาแชมป์ว่าวยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกอีก ไม่พอยังมาแชมป์ว่าวพรีเมียร์ลีก97คะแนน ก่อนจะมาได้แชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก แชมป์ยูฟ่าซุปเปอร์คัพ

เยอร์เก้นกับโอเล่มีสิ่งที่เหมือนกันคือ นักเตะเชื่อในตัวโค้ช ด้วยบารมีตำนานนักเตะเก่าของโอเล่ ด้วยบารมีแพชชั่นในเกมทะลุ 200% ของเยอร์เก้น ต่างกันอย่างเดียวคือ โอเล่ต้องพัฒนาเรื่องแท็กติกเกมรุก ถ้าทำได้ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็จะกลับมาเหมือนเดิม

ประเด็นอิ่มตัวนี่เห็นด้วยกะข้างบนๆนะครับ แต่ประเด็นเลวี่นี่ก็น่าสนใจ

เพราะมีอย่างที่ไหน ปลดเช้า แต่งตั้งคนใหม่ตอนเย็น
แถมคนใหม่คือมูรินโญ่ด้วยนะ แปลว่าเลวี่แอบเจรจาสัญญากะมูรินโญ่มานานแล้ว

ซึ่งถ้าเรื่องนี้ถึงหูพอช ก็อาจจะเป็นสาเหตุนึงที่ทำให้พอชไม่มีสมาธิการทำงานก็ได้

นักเตะหมดไฟ ใจไม่สู้ จากเอฟเฟกต์นัดชิงลากยาวมาแหละ

ยูไนเต๊ดคุณภาพนักเตะยังไม่ถึงครับ ต้องเสริมอีก4ตัว จึงจะไปเทียบเคียง หงส์และซิตี้ได้ครับ

ไม่ให้เลวี่คุยได้ไง​ ก่อนนัดชิง​ สัมภาษณ์จะลาออก​ถ้าได้แชมป์​ คุณเป็นเลวี่คุณอยากจะเก็บไว้ไหมล่ะ​ สัมภาษณ์ฆ่าตัวตายเองทั้งนั้นอ่ะ​พอช

เรื่องอิ่มตัว นักเตะไม่เชื่อมั่น บลา ๆ ข้างบนพูดไปหมดแล้ว

ผมขอเสริมนิดตรงที่ว่า ช่วงหลัง ๆ พอชพยายามจะติดตั้งรูปแบบการเล่นที่เน้นผล
รัดกุมแน่นอนเข้าไปสู่ทีมชุดนี้ เนื่องด้วยเพราะหลายปีที่ผ่านมาถึงสเปอร์สจะเล่นเกมรุกได้ดุดันขนาดไหน แต่ก็ไปไม่ถึงฝั่งฝันเพราะเครื่องร้อนจนโอเวอร์โหลดท้ายฤดูกาลตลอด
ทีนี้พอต้องจูนระบบกันใหม่ ซึ่งมันสวนทางกับวิถีเดิมเยอะ ถึงแม้ว่าสเปอร์สชุดนี้จะถูกฝึกให้เล่นได้ในแทคติคที่หลากหลาย แต่การเรียนรู้วิธีเล่นที่ต่างไปจากเดิมมากเลยออกมาเกร็ง ๆ บวกกับสภาพจิตใจที่แย่ลงเรื่อย ๆ ผลงานเลยดิ่งเหวแบบที่เห็นมั้งครับ

ที่พอซสัมแปลกๆช่วงหลังๆ ผมว่าเป็นเพราะเลวี่ด้วยจริงๆ เผลอๆอาจจะรู้อยู่แล้วว่า เลวีกำลังคุยกับโค้ชใหม่
ผมว่าลึกๆเขางัดข้อกันมาสักพักแล้วด้วยแหละ

โดยเฉพาะประเด็นงบประมาณและการเสริมตัว
ปีที่ได้ที่ 2 ยูฟ่า ทำไมพอชถึงอกมาพูดแนวๆจะไม่อยู่ต่อ

ผมว่าเหมือนพอชเองก็กดดันเลวี่ไปด้วย คิดว่า เพราะปีนั้นไม่มีงบเสริมตัวใหม่ อยากได้ใครก็ไม่ได้ แล้วพอชดันยังสามารถพาทีมไปยูฟ่าได้ และยังเข้าชิงได้อีก เหมือนเริ่มมีอำนาจมากขึ้น

พอมาปีนี้ผลงานดรอป นักเตะอิ่มตัว ไม่สามารถปลุกฟอร์มที่ดีมาได้อีกแล้ว ก็สบโอกาสเลวี่ ติดต่อมูมาเลย

มันหลายสาเหตุครับ
พอมาประเดประดังรุมเร้ากันเข้ามาพร้อมกัน
พอชก็เลยเหมือน เมาหมัด หาทางออกไม่เจอ

ไก่ฟอร์มเริ่มแกว่งตั้งแต่เริ่มครึ่งฤดูกาลหลังปีที่แล้วครับ
ไม่ใช่เพิ่งหลังจากนัดชิง UCL เพียงแต่มันเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆหลังจากนัดนั้นเป็นต้นมา

สาเหตุน่ามาจาก

1. การสร้างสนามใหม่ เกิดความล่าช้า ทำให้งบประมาณบานปลายสาหัสนัก
จึงไม่มีเงินให้ พอช ได้จับจ่ายใช้สอยนักเตะใหม่ๆเข้ามาเติมทีม ถึง 2 ตลาด
การที่พอชบอกว่า นักเตะเดิมดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องซื้อใครเพิ่ม เป็นเพียงข้อแก้ตัวให้กับบอร์ดเท่านั้น

2. ผลพ่วงมาจากข้อแรก เมื่อไม่มีนักเตะใหม่เข้าทีม ต้องอาศัยผู้เล่นเดิมๆ
ทำให้นักเตะไม่มีการแข่งขัน ทีมขาดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แผนการเล่นเดิมๆ นักเตะเดิมๆทีมอื่นเริ่มจับทางได้ เมื่อตัวจริงเจ็บยาว ตัวสำรองทดแทนได้ไม่ดีพอ


3. ถึงแม้ปีนี้จะมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามา แต่ก็ต้องพบปัญหาเดิมๆ คือ เลวี่ไทม์
กว่าจะได้ตัวนักเตะ ก็ล่อจนเปิดฤดูกาลไปหลายนัด ทำให้ขาดความพร้อม การเตรียมทีมที่ไม่ดีพอ
ส่งผลให้การออกสตาร์ทย่ำแย่ กว่าจะเข้ารูปเข้ารอย ก็สูญเสียแต้มไปแบบไม่น่าเสียไปหลายนัด

4. นักเตะตัวหลักๆอย่างฟานทองเก้น อัลเดอร์ไวรัล เริ่มโรยราไปตามวัย เด็มเบเล่ และทริปเปียร์ย้ายออก เกิดเป็นช่องโหว่ บางคนเริ่มอิ่มตัว หลายๆคนขาดแรงจูงใจเพราะทีมแม้จะเล่นดีแค่ไหน แต่ก็พลาดการเป็นแชมป์อยู่ร่ำไป จนทำให้หลายคนเริ่มถอดใจ ส่งผลให้ ฟอร์มการเล่นทดถอยไม่รู้ตัว

5. ก่อนนัดชิง พอชดันประกาศจะลาออก ถ้าทีมได้แชมป์ UCL
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงออกมาพูดเช่นนั้น เพราะมีแต่จะเสียกับเสีย
มีความเป็นไปได้อยู่สองทาง คือ พอชตั้งใจจะไปคุมแมนยู แทนมูรินโญ่
เพราะมีข่าวลือว่า พอชได้รับการทาบทามมาอย่างลับๆ
หรือ เป็นเพราะ มูรินโญ่ออกจากแมนยู ทำให้เลวี่คิดจะให้มูสานงานต่อพอช
ทำให้เกิดปัญหาระหองระแหงกันเงียบๆในระยะหลังๆ
สังเกตุได้จากที่พอช เริ่มบ่นถึง บอร์ดไม่ซัพพอร์ตตนเท่าที่ควร
รวมๆแล้ว ทำให้บรรยากาศภายในทีมไม่เหมือนเดิม

6. แท็คติกพอช พึ่งพาอีริคเซ่นเป็นหลัก เมื่อนักเตะคนสำคัญหมดใจ ทำให้ทีมขาดประสิทธิภาพ
พอเกมรุกตื๋อตัน เกมรับก็ดันหลวมโพรก พอชแก้เกมผิดๆถูกๆ ทำให้นักเตะเริ่มขาดความเชื่อมั่นในทีม
ผลงานก็เริ่มดิ่งเหว ดีแย่สลับกันไป จนสุดท้าย ก็ไปกันไม่รอด

เรืองของใจล้วนๆ
โดยเฉพาะหลังนัดชิง ucl แกพูดออกมาได้ว่า สเปอร จะกับไปนัดชิงอีกไม่ได้แล้ว ถ้าเทียบกับคล็อปหลังจากอู๊ด แจกโชคไป แกให้กำลังใจเด็กๆ แล้วบอกว่าจะกลับมาใหม่