ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 2051
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Nov 15, 2019 22:36
ถูกแบนแล้ว
//

แก้ไขล่าสุดโดย NOONN เมื่อ Sun Dec 06, 2020 04:39, ทั้งหมด 1 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Feb 2015
ตอบ: 1484
ที่อยู่: thai
โพสเมื่อ: Fri Nov 15, 2019 22:41
ถูกแบนแล้ว
Top Comment [RE: พออายุเริ่มมาก มีใครเริ่มคิดถึงความตายบ้างฮะ]
ในอดีตกาล ณ กรุงสาวัตถี มีหญิงสาวที่ยากจนคนหนึ่งชื่อ กิสาโคตมี เมื่อนางได้สามี บิดามารดาและญาติสามีดูหมิ่นว่าเป็นลูกสาวของสกุลเข็ญใจ ต่อมานางคลอดบุตรชาย
คนหนึ่ง จึงได้รับการยกย่องจากบิดามารดาและญาติสามี แต่ลูกชายนางก็ตายเสียขณะที่วิ่งเล่นได้ นางจึงเป็นบ้าเพราะความเศร้าโศก อุ้มร่างลูกชายที่ตายแล้ว ตระเวนไปทั่ว
พระนคร ร้องขอยาสำหรับบุตรของตน ชายคนหนึ่งได้แนะนำให้นางไปขอยาจากพระศาสดา นางก็ไปขอพระศาสดาตรัสว่า จงนำเมล็ดผักกาดหยิบมือหนึ่งมาจากเรือนที่ไม่เคยมี
คนตาย นางดีใจมาก เข้าพระนครไปที่เรือนหลังแรก ถามว่า ถ้าในเรือนนี้ไม่เคย มีใครตาย โปรดให้เมล็ดผักกาดแก่ข้าด้วยเถิด ได้รับคำตอบว่า ใครเล่าจะสามารถนับคนที่ตาย
ไปแล้วในเรือนหลังนี้ได้ นางไปเรือนหลังอื่นๆ จนถึงเย็นก็ไม่ได้เมล็ดผักกาด นางจึงได้สติคิดว่า เราสำคัญว่าลูกชายของเราเท่านั้นตาย ก็ในบ้านทุกหลัง คนที่ตายมากกว่าคนเป็น
คิดแล้วก็สลดใจคลายความโศกลง
จากนั้นก็ออกไปนอกเมือง ทิ้งศพลูกชายไว้ที่ป่าช้าผีดิบ แล้วกล่าวว่า ความไม่เที่ยงมิได้เกิดกับชาวชนบท ชาวพระนคร หรือสกุลใดสกุลหนึ่งเท่านั้น หากเกิดกับชาวโลก
ทั้งหมดรวมทั้งเทวโลกด้วย แล้วนางก็กลับไปเฝ้าพระศาสดา
พระองค์ตรัสถามว่า เธอได้เมล็ดผักกาดหยิบมือหนึ่งแล้วหรือ นางตอบปฏิเสธ พระศาสดาจึงตรัสว่า เธอเข้าใจว่าบุตรของเราเท่านั้นตาย ความตายเป็นธรรมยั่งยืนสำหรับ
สัตว์ทั้งหลาย แล้วตรัสว่า มฤตยูย่อมพาชนผู้มัวเมา ในบุตรและสัตว์เลี้ยงผู้มีใจฟุ้งซ่านไปในอารมณ์ต่างๆ ไป ดุจห้วงน้ำใหญ่พัดพา ชาวบ้านผู้มัวหลับไหลไปฉะนั้น เมื่อจบพระดำรัส
นางได้เป็นพระโสดาบัน ต่อมาก็บวชเป็นภิกษุณี
นางกิสาโคตมีถูกความโศกครอบงำอย่างหนัก หากพระพุทธเจ้าตรัสบอกนางว่าไม่มียารักษาบุตรของนางที่ตายแล้ว นางก็คงไม่เชื่อพระองค์จึงตรัสให้นางไปหาเมล็ด
ผักกาดจากบ้านที่ไม่เคยมีคนตาย เมื่อมีความหวังว่าจะได้ยามารักษาบุตร นางก็ดีใจ แต่เมื่อตระเวนไปตามบ้านต่างๆ จนได้รับทราบความเป็นจริงของชีวิต ก็สลดใจและฉุกคิด
ได้ว่า ทุกคนมีความตายเป็นธรรมดา ไม่ใช่บุตรของตนเท่านั้นที่ตาย เมื่อคิดได้อย่างนี้ย่อมคลายความโศกได้โลกนี้เป็นโลกของความทุกข์ เมื่อมีการเกิดก็ต้องมีการแก่ การเจ็บ และการตาย สิ่งเหล่านี้คนโดยมากพอใจกันนักหรือ เปล่าเลย แต่แม้จะไม่พอใจ ก็จำต้องเป็นไปอยู่นั่น
เอง เพราะเมื่อมีเกิด สิ่งเหล่านี้ก็ติดตามมา แล้วก็เป็นทุกข์ เพราะพยายามจะฝืน ธรรมดาของโลกเป็นเช่นนี้เอง
สรรพสิ่งเปลี่ยนแปรอยู่ทุกขณะ ไม่มีอะไรคงอยู่ในสถานะเดิม สภาพเก่าสิ้นไป สภาพใหม่มาแทน หากเมื่อวานยังคงอยู่ วันนี้จะมีได้หรือ ถ้าคน สัตว์เกิดมาแล้วไม่ตาย โลก
วันนี้ก็จะคับแคบแน่นขนัด และคงไม่เป็นสภาพที่น่าอยู่ คนที่อยู่ค้ำฟ้าคงจะแก่คร่ำคร่าน่าชัง วิถีทางธรรมชาติเป็นเช่นนี้ การเกิดแก่เจ็บตายเป็นสิ่งถูกต้องแล้ว
ความสุขในโลกเปรียบเหมือนความฝันและของขอยืมเขามาทรัพย์สมบัติ ข้าวของเงินทองหมดทั้งสิ้นไม่ใช่ของเรา เป็นของกลางสำหรับแผ่นดิน ตายแล้ว ทิ้งหมด เอาไป
ไม่ได้ อย่าหลงมัวเมาไปเลย แต่ความแก่ ความเจ็บ ความตายนี้ เป็นของเราแท้ๆ หนีไม่พ้น
โลกธรรม คือ ธรรมดาของโลกนี้ มีอยู่ ๘ ประการคือ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข และ เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ สี่ข้อแรกน่าชื่นชมยินดี ทุกคนอยากมี อยากได้ สี่ข้อหลัง
ไม่น่ายินดีไม่มีใครปรารถนาแต่ก็หลีกเลี่ยงไม่พ้น กล่าวคือเมื่อมีลาภ พอถึงคราวลาภก็เสื่อม มียศแล้วก็มีเสื่อมยศ ดังนั้น ท่านจึงสอน มิให้มัวเมากับโลกธรรมฝ่ายที่น่ายินดี และ
ไม่ให้ทุกข์โศกเกินไปเมื่อถึงคราว
คนเราเมื่อเกิดมาก็แต่ตัวเปล่า มิได้มีผู้ใดนำเอาทรัพย์สินหรือเครื่องประดับ สักชิ้นติดตัวมาเลย เมื่อยามจะตาย ทุกคนก็ต้องทิ้งสมบัติที่หามาด้วยความเหนื่อยยากไว้
เบื้องหลัง จะมีผู้ใดนำสมบัติแม้แต่ชิ้นเดียวติดตัวไปก็ไม่มี เมื่อทรัพย์สมบัติทั้งหลายมีภาวะความจริงเป็นอย่างนี้ บุคคลก็ไม่ควรยึดมั่นว่าเป็นของตนแต่ผู้เดียว เขาควรคิดอยู่เสมอ
ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของโลก ส่วนที่อยู่ในความครอบครองของเขา เป็นเพียงการยืมมาใช้ชั่วคราวเท่านั้น

เรื่องราวที่นำมาเสนอนี้ เป็นพุทธวิธีซึ่งมีประสิทธิภาพในการระงับหรือคลายความโศก จัดเป็นธรรมโอสถขนานเอกสำหรับถอนพิษของความโศก แม้พุทธวิธีคลายโศกเหล่า
นี้ทำให้คลายความโศก คือมุ่งเตือนสติให้ยอมรับความจริง ความจริงที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนให้ทุกคนพิจารณาเนืองๆ มี ๕ ประการ คือ
๑. เราจะต้องแก่เป็นธรรมดา จะไม่แก่ไม่ได้
๒. เราจะต้องเจ็บไข้เป็นธรรมดา จะไม่เจ็บไข้ไม่ได้
๓. เราจะต้องตายเป็นธรรมดา จะไม่ตายไม่ได้
๔. เราจะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น
๕. เรามีกรรมเป็นของเฉพาะตน เมื่อทำกรรมใดไว้ ดีหรือชั่วก็ตาม เราจะต้องได้รับผลแห่งกรรมนั้น
ความจริงเหล่านี้เกิดขึ้นกับทุกคน ไม่ใช่เกิดขึ้นกับเราเพียงคนเดียว ทุกคนต้องแก่เจ็บตาย ทุกคนต้องพลัดพรากจากคนรักและของรัก ทุกคนต่างมีกรรมเป็นของเฉพาะตน
ทั้งนั้น สิ่งเหล่านี้ย่อมจริงแท้ แน่นอน ไม่มีวันกลับกลายเป็นอื่นไป ไม่ว่าเราจะยอมรับหรือไม่ยอมรับ คนเราจะไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย ไม่พลัดพราก เพราะไม่ยอมรับรู้ ไม่ยอมพูดถึง
หรือเพราะกลัวความแก่ ความเจ็บ ความตาย ความพลัดพราก ก็หาไม่ เทพเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัตถุมงคล เวทมนตร์ คาถาอาคม พิธีต่ออายุ การสะเดาะเคราะห์ ทรัพย์ ยศ อำนาจ
อาหาร เสื้อผ้าอาภรณ์ เครื่องสำอาง ยารักษาโรค ไสยศาสตร์ โหราศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ... ฯลฯ จะช่วยเหลือหรือป้องกันคนเราให้พ้นไปจาก ความแก่ ความเจ็บ ความตาย ความ
พลัดพราก ก็หาไม่ ดังนั้น จึงไม่ควรกลบเกลื่อน หรือหลีกหนีความจริงเหล่านี้ เพราะมีแต่ทำให้ทุกข์โศกมากยิ่งขึ้น ควรหันมาเผชิญหน้ากับความจริง เหล่านี้ และทำใจให้ยอมรับ
ว่า สิ่งที่จะต้องเป็นไป ย่อมเป็นไป ใครเล่าจะห้ามได้
เรื่องราวที่นำมาเสนอนี้จะช่วยให้ยอมรับความจริงเหล่านี้ ได้ดีขึ้น ความโศกจะลดลงมากน้อยเพียงใด ขึ้นกับว่าเรายอมรับความจริงเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน ยิ่งพิจารณา
ความจริงเหล่านี้บ่อยเพียงไร จิตก็จะมีภูมิคุ้มกันต่อความโศกมากขึ้นเพียงนั้น ดังนั้น พระพุทธเจ้าจึงตรัสสอนให้ทุกคน ไม่ว่า บุรุษ สตรี ชาวบ้านหรือนักบวช ให้พิจารณาบ่อยๆ
ผู้ที่ยอมรับความจริง เหล่านี้ จึงจะทุกข์โศกน้อยลงหรือไม่ทุกข์โศกเลย เมื่อเผชิญกับเรื่องที่น่าทุกข์โศก

ป.ล ยาวหน่อยแต่ทำให้สงบได้
ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 9465
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Nov 15, 2019 22:40
Top Comment [RE: พออายุเริ่มมาก มีใครเริ่มคิดถึงความตายบ้างฮะ]
ไม่มีลูก ไม่มีเมีย ไม่มีหนี้ ไม่มีทรัพย์สินให้หวง นั่นแหละ ตายได้อย่างสงบแน่นอน ผมคิดแบบนี้จริง ๆ
ออนไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status: ninksaranya
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Oct 2019
ตอบ: 9123
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Nov 15, 2019 22:38
[RE: พออายุเริ่มมาก มีใครเริ่มคิดถึงความตายบ้างฮะ]
ยังรอดหรอเนี่ย
0
1
หากโดน 39 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 9465
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Nov 15, 2019 22:40
[RE: พออายุเริ่มมาก มีใครเริ่มคิดถึงความตายบ้างฮะ]
ไม่มีลูก ไม่มีเมีย ไม่มีหนี้ ไม่มีทรัพย์สินให้หวง นั่นแหละ ตายได้อย่างสงบแน่นอน ผมคิดแบบนี้จริง ๆ
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Apr 2017
ตอบ: 3492
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Nov 15, 2019 22:41
[RE: พออายุเริ่มมาก มีใครเริ่มคิดถึงความตายบ้างฮะ]
ลองตายแล้วช่วยบอกเราทีว่าหนูนรู้สึกยังไง
0
1
หากโดน 39 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Feb 2015
ตอบ: 1484
ที่อยู่: thai
โพสเมื่อ: Fri Nov 15, 2019 22:41
ถูกแบนแล้ว
[RE: พออายุเริ่มมาก มีใครเริ่มคิดถึงความตายบ้างฮะ]
ในอดีตกาล ณ กรุงสาวัตถี มีหญิงสาวที่ยากจนคนหนึ่งชื่อ กิสาโคตมี เมื่อนางได้สามี บิดามารดาและญาติสามีดูหมิ่นว่าเป็นลูกสาวของสกุลเข็ญใจ ต่อมานางคลอดบุตรชาย
คนหนึ่ง จึงได้รับการยกย่องจากบิดามารดาและญาติสามี แต่ลูกชายนางก็ตายเสียขณะที่วิ่งเล่นได้ นางจึงเป็นบ้าเพราะความเศร้าโศก อุ้มร่างลูกชายที่ตายแล้ว ตระเวนไปทั่ว
พระนคร ร้องขอยาสำหรับบุตรของตน ชายคนหนึ่งได้แนะนำให้นางไปขอยาจากพระศาสดา นางก็ไปขอพระศาสดาตรัสว่า จงนำเมล็ดผักกาดหยิบมือหนึ่งมาจากเรือนที่ไม่เคยมี
คนตาย นางดีใจมาก เข้าพระนครไปที่เรือนหลังแรก ถามว่า ถ้าในเรือนนี้ไม่เคย มีใครตาย โปรดให้เมล็ดผักกาดแก่ข้าด้วยเถิด ได้รับคำตอบว่า ใครเล่าจะสามารถนับคนที่ตาย
ไปแล้วในเรือนหลังนี้ได้ นางไปเรือนหลังอื่นๆ จนถึงเย็นก็ไม่ได้เมล็ดผักกาด นางจึงได้สติคิดว่า เราสำคัญว่าลูกชายของเราเท่านั้นตาย ก็ในบ้านทุกหลัง คนที่ตายมากกว่าคนเป็น
คิดแล้วก็สลดใจคลายความโศกลง
จากนั้นก็ออกไปนอกเมือง ทิ้งศพลูกชายไว้ที่ป่าช้าผีดิบ แล้วกล่าวว่า ความไม่เที่ยงมิได้เกิดกับชาวชนบท ชาวพระนคร หรือสกุลใดสกุลหนึ่งเท่านั้น หากเกิดกับชาวโลก
ทั้งหมดรวมทั้งเทวโลกด้วย แล้วนางก็กลับไปเฝ้าพระศาสดา
พระองค์ตรัสถามว่า เธอได้เมล็ดผักกาดหยิบมือหนึ่งแล้วหรือ นางตอบปฏิเสธ พระศาสดาจึงตรัสว่า เธอเข้าใจว่าบุตรของเราเท่านั้นตาย ความตายเป็นธรรมยั่งยืนสำหรับ
สัตว์ทั้งหลาย แล้วตรัสว่า มฤตยูย่อมพาชนผู้มัวเมา ในบุตรและสัตว์เลี้ยงผู้มีใจฟุ้งซ่านไปในอารมณ์ต่างๆ ไป ดุจห้วงน้ำใหญ่พัดพา ชาวบ้านผู้มัวหลับไหลไปฉะนั้น เมื่อจบพระดำรัส
นางได้เป็นพระโสดาบัน ต่อมาก็บวชเป็นภิกษุณี
นางกิสาโคตมีถูกความโศกครอบงำอย่างหนัก หากพระพุทธเจ้าตรัสบอกนางว่าไม่มียารักษาบุตรของนางที่ตายแล้ว นางก็คงไม่เชื่อพระองค์จึงตรัสให้นางไปหาเมล็ด
ผักกาดจากบ้านที่ไม่เคยมีคนตาย เมื่อมีความหวังว่าจะได้ยามารักษาบุตร นางก็ดีใจ แต่เมื่อตระเวนไปตามบ้านต่างๆ จนได้รับทราบความเป็นจริงของชีวิต ก็สลดใจและฉุกคิด
ได้ว่า ทุกคนมีความตายเป็นธรรมดา ไม่ใช่บุตรของตนเท่านั้นที่ตาย เมื่อคิดได้อย่างนี้ย่อมคลายความโศกได้โลกนี้เป็นโลกของความทุกข์ เมื่อมีการเกิดก็ต้องมีการแก่ การเจ็บ และการตาย สิ่งเหล่านี้คนโดยมากพอใจกันนักหรือ เปล่าเลย แต่แม้จะไม่พอใจ ก็จำต้องเป็นไปอยู่นั่น
เอง เพราะเมื่อมีเกิด สิ่งเหล่านี้ก็ติดตามมา แล้วก็เป็นทุกข์ เพราะพยายามจะฝืน ธรรมดาของโลกเป็นเช่นนี้เอง
สรรพสิ่งเปลี่ยนแปรอยู่ทุกขณะ ไม่มีอะไรคงอยู่ในสถานะเดิม สภาพเก่าสิ้นไป สภาพใหม่มาแทน หากเมื่อวานยังคงอยู่ วันนี้จะมีได้หรือ ถ้าคน สัตว์เกิดมาแล้วไม่ตาย โลก
วันนี้ก็จะคับแคบแน่นขนัด และคงไม่เป็นสภาพที่น่าอยู่ คนที่อยู่ค้ำฟ้าคงจะแก่คร่ำคร่าน่าชัง วิถีทางธรรมชาติเป็นเช่นนี้ การเกิดแก่เจ็บตายเป็นสิ่งถูกต้องแล้ว
ความสุขในโลกเปรียบเหมือนความฝันและของขอยืมเขามาทรัพย์สมบัติ ข้าวของเงินทองหมดทั้งสิ้นไม่ใช่ของเรา เป็นของกลางสำหรับแผ่นดิน ตายแล้ว ทิ้งหมด เอาไป
ไม่ได้ อย่าหลงมัวเมาไปเลย แต่ความแก่ ความเจ็บ ความตายนี้ เป็นของเราแท้ๆ หนีไม่พ้น
โลกธรรม คือ ธรรมดาของโลกนี้ มีอยู่ ๘ ประการคือ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข และ เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ สี่ข้อแรกน่าชื่นชมยินดี ทุกคนอยากมี อยากได้ สี่ข้อหลัง
ไม่น่ายินดีไม่มีใครปรารถนาแต่ก็หลีกเลี่ยงไม่พ้น กล่าวคือเมื่อมีลาภ พอถึงคราวลาภก็เสื่อม มียศแล้วก็มีเสื่อมยศ ดังนั้น ท่านจึงสอน มิให้มัวเมากับโลกธรรมฝ่ายที่น่ายินดี และ
ไม่ให้ทุกข์โศกเกินไปเมื่อถึงคราว
คนเราเมื่อเกิดมาก็แต่ตัวเปล่า มิได้มีผู้ใดนำเอาทรัพย์สินหรือเครื่องประดับ สักชิ้นติดตัวมาเลย เมื่อยามจะตาย ทุกคนก็ต้องทิ้งสมบัติที่หามาด้วยความเหนื่อยยากไว้
เบื้องหลัง จะมีผู้ใดนำสมบัติแม้แต่ชิ้นเดียวติดตัวไปก็ไม่มี เมื่อทรัพย์สมบัติทั้งหลายมีภาวะความจริงเป็นอย่างนี้ บุคคลก็ไม่ควรยึดมั่นว่าเป็นของตนแต่ผู้เดียว เขาควรคิดอยู่เสมอ
ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของโลก ส่วนที่อยู่ในความครอบครองของเขา เป็นเพียงการยืมมาใช้ชั่วคราวเท่านั้น

เรื่องราวที่นำมาเสนอนี้ เป็นพุทธวิธีซึ่งมีประสิทธิภาพในการระงับหรือคลายความโศก จัดเป็นธรรมโอสถขนานเอกสำหรับถอนพิษของความโศก แม้พุทธวิธีคลายโศกเหล่า
นี้ทำให้คลายความโศก คือมุ่งเตือนสติให้ยอมรับความจริง ความจริงที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนให้ทุกคนพิจารณาเนืองๆ มี ๕ ประการ คือ
๑. เราจะต้องแก่เป็นธรรมดา จะไม่แก่ไม่ได้
๒. เราจะต้องเจ็บไข้เป็นธรรมดา จะไม่เจ็บไข้ไม่ได้
๓. เราจะต้องตายเป็นธรรมดา จะไม่ตายไม่ได้
๔. เราจะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น
๕. เรามีกรรมเป็นของเฉพาะตน เมื่อทำกรรมใดไว้ ดีหรือชั่วก็ตาม เราจะต้องได้รับผลแห่งกรรมนั้น
ความจริงเหล่านี้เกิดขึ้นกับทุกคน ไม่ใช่เกิดขึ้นกับเราเพียงคนเดียว ทุกคนต้องแก่เจ็บตาย ทุกคนต้องพลัดพรากจากคนรักและของรัก ทุกคนต่างมีกรรมเป็นของเฉพาะตน
ทั้งนั้น สิ่งเหล่านี้ย่อมจริงแท้ แน่นอน ไม่มีวันกลับกลายเป็นอื่นไป ไม่ว่าเราจะยอมรับหรือไม่ยอมรับ คนเราจะไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย ไม่พลัดพราก เพราะไม่ยอมรับรู้ ไม่ยอมพูดถึง
หรือเพราะกลัวความแก่ ความเจ็บ ความตาย ความพลัดพราก ก็หาไม่ เทพเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัตถุมงคล เวทมนตร์ คาถาอาคม พิธีต่ออายุ การสะเดาะเคราะห์ ทรัพย์ ยศ อำนาจ
อาหาร เสื้อผ้าอาภรณ์ เครื่องสำอาง ยารักษาโรค ไสยศาสตร์ โหราศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ... ฯลฯ จะช่วยเหลือหรือป้องกันคนเราให้พ้นไปจาก ความแก่ ความเจ็บ ความตาย ความ
พลัดพราก ก็หาไม่ ดังนั้น จึงไม่ควรกลบเกลื่อน หรือหลีกหนีความจริงเหล่านี้ เพราะมีแต่ทำให้ทุกข์โศกมากยิ่งขึ้น ควรหันมาเผชิญหน้ากับความจริง เหล่านี้ และทำใจให้ยอมรับ
ว่า สิ่งที่จะต้องเป็นไป ย่อมเป็นไป ใครเล่าจะห้ามได้
เรื่องราวที่นำมาเสนอนี้จะช่วยให้ยอมรับความจริงเหล่านี้ ได้ดีขึ้น ความโศกจะลดลงมากน้อยเพียงใด ขึ้นกับว่าเรายอมรับความจริงเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน ยิ่งพิจารณา
ความจริงเหล่านี้บ่อยเพียงไร จิตก็จะมีภูมิคุ้มกันต่อความโศกมากขึ้นเพียงนั้น ดังนั้น พระพุทธเจ้าจึงตรัสสอนให้ทุกคน ไม่ว่า บุรุษ สตรี ชาวบ้านหรือนักบวช ให้พิจารณาบ่อยๆ
ผู้ที่ยอมรับความจริง เหล่านี้ จึงจะทุกข์โศกน้อยลงหรือไม่ทุกข์โศกเลย เมื่อเผชิญกับเรื่องที่น่าทุกข์โศก

ป.ล ยาวหน่อยแต่ทำให้สงบได้
ออฟไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 24769
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Nov 15, 2019 22:42
[RE: พออายุเริ่มมาก มีใครเริ่มคิดถึงความตายบ้างฮะ]
สั่งญาติไว้ ให้เปิดธรรมะให้ฟังก่อนตายครับ
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status: We're All Made Here
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 41324
ที่อยู่: อย่ารู้เลย..
โพสเมื่อ: Fri Nov 15, 2019 22:43
[RE: พออายุเริ่มมาก มีใครเริ่มคิดถึงความตายบ้างฮะ]
ในชีวิตนี้ส่งคนตายมาเยอะแล้ว เลยชินอยู่นะสำหรับตัวเองก็พยายามบอกตัวเองว่าเมื่อไรก็เมื่อนั้น ทำให้เต็มที่ทุกวันให้เหมือนเป็นวันสุดท้าย ทำได้มั่งไม่ได้มั่งยิ่งช่วงนี้มีห่วงเยอะเลยก็เอาแค่พยายามเต็มที่ในแต่ละวันก็พอ
พยายามดีกับทุกคนที่รัก...ผมถือคติ อยู่ให้เขาไว้ใจจากไปให้เขานึกถึงบ้าง
6
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Oct 2019
ตอบ: 433
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Nov 15, 2019 22:43
ถูกแบนแล้ว
[RE: พออายุเริ่มมาก มีใครเริ่มคิดถึงความตายบ้างฮะ]
รีบตายก่อนจะตายจริงๆ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
(ทัณฑ์บนครั้งที่ 1)

นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 6117
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Nov 15, 2019 22:44
ถูกแบนแล้ว
[RE: พออายุเริ่มมาก มีใครเริ่มคิดถึงความตายบ้างฮะ]
สตีฟ จ๊อบ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้ช่วยผู้จัดการทีมสำรอง
Status: !@#$%^&
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 07 Sep 2013
ตอบ: 13046
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Nov 15, 2019 22:44
[RE: พออายุเริ่มมาก มีใครเริ่มคิดถึงความตายบ้างฮะ]
มีประเด็นไรกันมาก่อนไหมนิตามไม่ทัน
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Feb 2015
ตอบ: 6717
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Nov 15, 2019 22:45
[RE: พออายุเริ่มมาก มีใครเริ่มคิดถึงความตายบ้างฮะ]
คิดๆเรื่องบริจาคร่างกายไว้อยู่ครับ ตายไปแล้วร่างเรายังสร้างหมอได้อีกหลายคน
4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 07 Jun 2010
ตอบ: 5461
ที่อยู่: Emirates Stadium
โพสเมื่อ: Fri Nov 15, 2019 22:47
พออายุเริ่มมาก มีใครเริ่มคิดถึงความตายบ้างฮะ
ถ้าผมตายผมไม่ทุกข์นะ คิดว่าหมดเวรหมดกรรมไปสบาย

ผมคิดถึงคนที่ผมรักตายก่อนผมมากกว่า เราคงทนทุกข์ไปตลอด
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: เด็กหงส์
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Oct 2013
ตอบ: 20652
ที่อยู่: ทุ่งนาแห่งเมืองหญิงกล้า ผมคือหลานย่าโม
โพสเมื่อ: Fri Nov 15, 2019 22:48
[RE: พออายุเริ่มมาก มีใครเริ่มคิดถึงความตายบ้างฮะ]
ที่อยากตายล่าสุดคือ แฟนทิ้ง และป่วย อันป่วยนี้กนักเลยท้อมาก อยากตาย แต่ด้วยหัวใจสู้ เลยผ่านมาได้ ไม่ต้องอ้างโรคซึมเศร้าเรา คนดีๆก็อยากตาย
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 10 Nov 2018
ตอบ: 198
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Nov 15, 2019 22:49
[RE: พออายุเริ่มมาก มีใครเริ่มคิดถึงความตายบ้างฮะ]
ยิ่งโตยิ่งกลัวตายครับ ห่วงพ่อแม่มาก ไม่มีเรา ใครจะดูแลท่าน

แต่ถ้าพ่อแม่ผมตาย ผมก็ไม่รู้ผมจะอยู่ไปทำไมเหมือนกัน
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 2565
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Nov 15, 2019 22:49
ถูกแบนแล้ว
[RE: พออายุเริ่มมาก มีใครเริ่มคิดถึงความตายบ้างฮะ]
นั่งสมาธิฝึกสติอยู่เรื่อยๆจะทำให้จิตใจไม่หลงไปกับทุกขเวทนาก่อนตายมีสุคติเป็นที่ไปแต่ในอนาคตจะเป็นยังไงแล้วแต่เวรแต่กรรมตามความเชื่อศาสนาพุทธ

หากจิตใจจมไปกับทุกขเวทนาก่อนตายตามความเชื่อศาสนาพุทธมีอบายเป็นจุดหมายค่อนข้างจะแน่นอน
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel