นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 26 Apr 2007
ตอบ: 715
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Nov 11, 2019 22:04
บทเรียน สายบู้ U19 ทีมชาติไทย
การพ่ายแพ้ ทีมชาติกัมพูชาและมาเลเซีย คือความผิดพลาดไม่กี่จุด แต่กลายเป็นหายนะ
นัดที่พบกับกัมพูชา หลังจากที่ทีมชาติไทยชุด U19 บู้แหลกยิงเป็นกอบเป็นกำ ก็เดินเกมส์รุกเหมือนเดิม ทิ้งกองหลังไว้สองคน และตำแหน่งกลางตัวรุกดันขึ้นสูง ไปรวมอยู่กับตำแหน่งด้านหน้า(ยืนหน้า 4 คน) ทำให้เพื่อนร่วมทีมต้องเรียกให้ลงมาหลายครั้ง กลางโล่ง กัมพูชาใช้จังหวะสวนกลับเราในครึ่งแรก ก็เป็นประตูอย่างง่ายดาย ครึ่งหลังกัมพูชาแรงหมด(หมดจริงๆไม่ได้ตั้งใจถ่วง) จึงไม่ขอพูดถึงนะครับ ถ้าวันนั้นเราเคาะบอลเล่นบอลกันเป็นกลุ่มไปเรื่อยๆ รอโอให้กัมพูชาแรงหมดค่อยเจาะแบบสบายๆ โอกาสแพ้กัมพูชาแทบไม่มีเลย แต่โค้ชเลือกที่จะเล่นแนวเดียวคือบู้แหลก ไม่มีบุ๋น
นัดสุดท้ายพบกับมาเลเซีย เล่นกันเป็นกลุ่มได้ดีขึ้น ตำแหน่งกลางช่วยกันมากขึ้น ตำแหน่งหลังยืนตำแหน่งได้ดีขึ้น เล่นเกมส์เพลสแล้วทำให้มาเลเซียพลาดหลายครั้ง ไทยครองเกมส์เป็นส่วนใหญ่ แต่ปัญหาคือบู้แหลก เมื่อได้บอลรีบพาบอลขึ้นไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว จึงทำให้หลายครั้งส่งบอลขาดๆเกินๆ ใช้โอกาสเปลือง เพราะทุกคนหวังให้ได้ประตูเร็วที่สุด ยิงแบบก้มหน้าตา เต็มแรง ไม่มีทิศทาง ก่อนที่จะมาเสียประตูเพราะหมดแรง (หมายเลข 3 วิ่งไม่ออก)
การที่เราจะชนะไม่จำเป็นต้องเร่งตะบี้ตะบันขนาดนั้น พยายามเล่นกันเป็นกลุ่มพาบอลไปแล้วจบสกอร์โดยการกำหนดทิศทางด้วยสติแล้วยิง ไม่จำเป็นต้องแรงเข้าไว้ (ลูกจ่อๆหน้าเขตโทษหลายครั้ง แตะเปลี่ยนทิศก็เข้าแล้ว)
ผมมองว่าโค้ชหระมีการพัฒนาขึ้นเหมือนกัน เช่น มีการออกมายืนสั่งการหลังจากทัวร์นาเม้นก่อนหน้านี้ไม่มี มีการเล่นบอลเป็นกลุ่มดีขึ้นแต่ยังไม่ดีเท่าชุดใหญ่ มีการเพลสแบบเป็นทีมดีขึ้นแต่ยังไม่ดีเท่าชุดใหญ่ แต่คงเป็นเพราะโค้ชอิสระ เป็นโค้ชหนุ่มไฟแรง ที่หากสะสมประสบการณ์อีกนิดอาจเป็นโค้ชที่มีฝีมืออีกคนในวงการฟุตบอลไทยในอนาคตก็ได้ครับ(อาจจะนะครับ) เพราะว่า ทราบมาว่าโค้ชหระเป็นคนทีี่มีวินัยสูงและนี่ก็ไม่แปลกใจถ้านิชิโนะจะยังให้โค้ชหระเป็นผู้ช่วยต่อ (ผู้ช่วยแต่คงยังไม่ใช่โค้ชครับ)
แก้ไขล่าสุดโดย ManHuton7 เมื่อ Mon Nov 11, 2019 22:22, ทั้งหมด 4 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ