วิงหน้าใหม่ ล้อ 18'' แต่เครื่องยังเป็น V6 hybrid(Vettelไม่ถูกใจสิ่งนี้)

รถของเล่น

คร่าวๆแปลจากกลุ่ม F1 Thailand Fanclub

เปิดตัว ข้อมูลอย่างเป็นทางการการเปลี่ยนกติกาทางเทคนิคครั้งใหญ่สำหรับ FORMULA 1 ในปี 2021 นำโดย Model รถแข่งแบบใหม่หมดจด และล้อ 18 นิ้ว
เริ่มจากปี 2021 การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายในการ
รถแต่ละคันสามารถสู้กันบน Track ได้ดีขึ้น
มีความสมดุลในการแข่งขัน
กีฬาที่ความสำเร็จชี้วัดจักความสามารถในการใช้เงิน ไม่ใช่จำนวนที่ทุ่มลงไป
กีฬาที่เป็นธุรกิจที่ดีสำหรับผู้ที่แข่งขันอยู่ และช่วยดึงดูดทีมแข่งใหม่ๆ
กีฬาที่จะเป็นการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตอันดับ 1 ของโลกและสถานที่ไว้โชว์เทคโนโลยีระดับโลก

รถแข่ง
ปรับลุคดีไซน์ใหม่ทั้งหมด ตัวโมเดลทันสมัยขึ้นกว่าเดิม
ล้อ 18 นิ้ว
ถูกออกแบบเพื่อให้ไล่ตามซึ่งกันและกันได้ง่ายขึ้น
รถปัจจุบันจะเสีย Downforce 40-50% ใน Dirty Air หรืออากาศที่ไหลผ่านเมื่อตามหลัง แต่ด้วยกฎ 2021 จะทำให้เสียเพียงแค่ 10% และอากาศที่ไหลผ่านออกมาจะเป็น Clean Air หรืออากาศที่สะอาดกว่าเดิม ไม่ใช่ Dirty Air เหมือนแต่เดิม
ปีกหน้าและระบบ suspension ถูกปรับให้เรียบง่าย (simplified)
ด้านท้าย พื้นท้องรถ ถูกปรับใหม่หมด
เพิ่มอุปกรณ์ Wheel Wake Control เพื่อช่วยสำหรับยางที่เล็กกว่าปกติ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขัน

อัพเกรด
Part ถูกแยกเป็ฯสามประเภทได้แก่ พาร์ทที่ทีมแข่งต้องผลิตเอง พาร์ทแบบ standardised และ พาร์ทที่ซื้อขายระหว่างทีมกันได้
การอัพเกรดพาร์ทอะไหล่ในแต่ละสัปดาห์ของการแข่งขันจะถูกจำกัดลง
พาร์ทแบบ Standardised หรืออะไหล่ที่เป็นสากลเท่ากันหมดทุกทีม
จำกัดจำนวนครั้งที่สามารถเปลี่ยนพาร์ทในสว่นที่เปลี่ยนได้ (เช่น แผ่นเบรค)

เครื่องยนต์
V6 Turbo Hybrid 1.6 ลิตร เหมือนเดิม

การเงิน
ครั้งแรกของ F1 จะมีการบังคบใช้ COST CAP หรือลีมิตจำนวนเงินที่แต่ละทีมใช้จ่ายได้ เพื่อความแฟร์
Budget Cap 175 ล้านเหรียญสหรัฐ ต่อทีม ต่อปี
Customer Engine Cap จำัด 15 ล้านยูโณ ต่อฤดูกาล สำหรับ ทีมลูกค้าที่จะซื้อเครื่องยนต์
โดยเงิน 175 ล้านนี้จะจำกัดในทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับสมรรถนะและการแข่งขันใน Track เท่านั้น
Budget Cap นี้จะไม่มีการบังคับในส่วนของ การตลาด โปรโมทสินค้า หรือเงินเดือนพนักงาน/นักขับ และบุคคลในทีมที่มีรายรับสูงสุด 3 คนแรก
จำนวนเงินได้ตั้งไว้สำหรับปีที่มีการแข่ง 21 สนาม หากในปีไหนมีการแข่งมากกว่า 21 สนามก็จะเพิ่มให้สนามละ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ถ้าน้อยกว่า 21 ก็จะลดสนามละ 1 ล้านเช่นเดียวกัน
มีการลงโทษทีมหากใช้จ่ายเกินกำหนด

สัปดาห์แข่งแบบใหม่ เพื่อประสบการณ์ของแฟนๆที่ไปชมการแข่งขันง่ายขึ้น สัปดาห์แข่งจะกระชับกว่าเดิม
งานแถลงข่าว Press Conference ก่อนแข่ง จะย้ายมาจัดวันศุกร์ ก่อน FP1 และ FP2
ทุกทีมจะต้องวิ่งอย่างน้อย 2 Session ในปีนั้นๆ โดยใช้นักขับที่ขับแข่ง F1 ต่ำกว่า 2 เรซลงไป เพื่อเปิดโอกาสให้นักขับจูเนียร์ได้มีพื้นที่แสดงฝีมือและพัฒนาฝีมือในอนาคต

IN SEASON TESTING
การทดสอบกลางฤดูกาลหรือ In-Season จะลดเหลือแค่ 1 ครั้งต่อปี แบบ 3 วัน

PARC FERME หรือกฎที่ทีมแข่งห้ามยุ่งกับตัวรถใดๆ
บังคับใช้ตั้งแต่หลังจบ Free Practice 3 เป็นต้นไป จากเดิมที่บังคับใช้หลังจาก Qualify

โคตรเท่ห์เลย

ถึงตอนนั้น Max จะยังอยู่เร้ดบูลไหมหว่า เป็นปีที่มี COST CAP พอดี

ไม่

อัลบอนมือ1

ตามนี้

คิดว่าน่าจะไปเมอ ไปสู้แฮมิลตันโรยราง่ายกว่าที่จะไปเฟอรารี่ เพื่อสู้เลอแคลวัยเดียวกันที่ทีมจะดันเป็นมือ 1 ปีหน้า

ประมาณสิบปีก่อน เจอแกเปิดร้านพิซซ่าอยู่แถววังหิน

อ้าว ตอบผิดมู้ โทษฮะ

เมอร์จะปั้นคนนี้แทนแฮม

ดูเอฟ1ประมาณสิบปีก่อน เจอแกเปิดร้านพิซซ่าอยู่แถววังหิน

ง่ะ

รถช้าลงแน่ๆ 2 วิแต่หน้าจะเร็วขึ้นบนทางตรง ให้พูดก็รถปี 2019 นี่แอโร่ไดนามิคค่อนข้างโหดที่สุดเลยมั้งเดี๋ยวนี้ควอลิฟายเข้าเกิดลิมิตแทรคกันแทบทุกคัน

สวยมากๆ แต่เอาเข้าจริงๆจะเป็นไงไว้รอดู


ปล.คิดถึง V10 เสมอ

สิ่งที่อยากเห็นจริงๆคือ

1. เครื่อง V10 (ผมมันพวกบ้าเครื่องยนต์ ไม่รักโลก)

2. เติมน้ำมันระหว่างแข่ง (ช่วงแข่ง จะได้วิ่งกันเต็มที่ ไม่ต้องมากั๊กน้ำมัน +ไม่ต้องออกสตาร์ทพร้อมน้ำมันอีกเป็นร้อยกิโล)

3. เปิดให้ใช้ยางเสรี (ปล่อยแต่ละทีมดีลกับผู้ผลิตยางเอง การแข่งขันจะสูงขึ้น(งบก็เยอะขึ้น แต่อย่างที่บอก นี้มันกีฬาคนรวย) ไม่ต้องมานั่งเซฟยางห่วยๆจากค่ายเดียว


แค่นี้ก็สำหรับผมก็พอแล้ว