นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 13
ที่อยู่: redarmy since 2000-present
โพสเมื่อ: Wed Oct 23, 2019 09:58
แชร์ประสบการณ์ดีดีครั้งหนึ่งในชีวิต ไม่รุ้จะเล่าที่ไหน เล่าในนี้ละกันครับ
เรื่องเกิดตั้งแต่เมื่อวาน(วันอังคารที่ผ่านมา) จนถึงป่านนี้ ผมยังรู้สึกปลาบปลื้มเบิกบานไม่หายเลยครับ 5555 ปกติผมไม่ค่อยจะเล่น FB , twiiter ก็ไม่มี นอกจากเล่าให้คุณพ่อคุณแม่กะเพื่อนๆฟัง ก็ไม่รุ้จะเล่าให้ใครฟัง ถือว่ามาเล่ามาแชร์ใน soccersuck ละกันครับ (ไอดีสมัครทิ้งไว้นาน จำรหัสแทบไม่ได้ละ ถถถถ) ยาวหน่อยนะครับ
ผมเองก็เคยได้เห็นกะตาคนรอบข้าง , ได้อ่านสเตตัสหรือบทความที่แพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ ได้เจอโมเม้นต์ดีดี ซักครั้งหนึ่งในชีวิต ก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะได้เจอกับตัวเองซักเท่าไหร่ครับ , คิดแค่ว่า ทุกวันนี้ ไม่เจอคนไข้บ่น งอแง ง้องแง้ง พูดไม่รู้เรื่อง ก็ถือว่าโชคดีมากๆแล้ว ถถถถ
ตัวผมเอง เป็นแพทย์ Fix ward ปีที่ 3 อยู่แผนกๆหนึ่ง(อารมณ์เหมือนแพทย์เพิ่มพูนทักษะแพทย์ใช้ทุนที่จบมาใหม่ๆแหละครับ แต่ปีที่1 จะประจำอยูรพ.จังหวัด แล้วปีต่อๆไป ก็ไปประจำ รพ.อำเภอ , แต่ของผม คือเลือกวนอยู่แผนกๆหนึ่งในรพ.จังหวัดไปเลย เพื่อจะได้มีความรู้ความคุ้นชินเฉพาะทางด้านนั้นๆ เพื่อเตรียมตัวไปเรียนแพทย์เฉพาะทางต่อไป) , ในเวลาราชการปกติ นอกจากราวคนไข้เช้าเย็น ก็มักจะโหม่งอยู่ห้องผ่าตัดกับอาจารย์หมอ เจอแต่คนไข้สายงานของตัวเองแท้ๆ กระดูกหัก แผลเปิด บลาๆๆ , อย่างมากก็อยู่เวร ห้องฉุกเฉิน ถึงจะได้เจอคนไข้หลากหลายหน่อย T T
เมื่อวานนี้ เป็นวันที่ผมออกตรวจผู้ป่วยนอก , ตอนใกล้ๆ 4 โมงเย็น (ใกล้ปิด OPD ละ) มีคนไข้จากแผนกอายุรกรรม ส่งมาคนนึง บอกว่าคนไข้ ปวดหลังเยอะ เป็นมานานหลายปี คนนี้บ้านอยู่ไกลมากกกกก (อำเภออยู่ห่างจากรพ.จังหวัด เกือบชั่วโมงครึ่ง นั่งสองแถวมา) เลยให้แวะตรวจกับ OPD กระดูกแปปนึงก่อนกลับจะได้ไม่เสียเที่ยว
เป็นคุณลุงอายุ 60 กว่าๆ ทำไร่ทำสวน ก้มๆเงยๆยกของหนักมานาน แน่นอน กระดูกหลังมันเสื่อมสภาพอยุ่แล้ว , วันนี้มาตรวจตามนัดกับหมออายุรกรรมเรื่องหัวใจเต้นผิดจังหวะ ต้องทานยาละลายลิ่มเลือด ป้องกันการเกิดลิ่มเลือด จากหัวใจที่มันบีบตัวเพี้ยนๆ ไม่พร้อมเพรียงกัน , ผมเองก็ตรวจรักษาคุณลุงไปตามปกติ แก้ปวด เน้นท่าทางให้มันถูกต้อง
ผมกับคุณลุง เดินออกมาจากห้องตรวจพร้อมกัน (แหงล่ะ ก็ OPD มันปิดแล้วนี่ 555) ขณะที่คุณลุงเตรียมจะไปรับยา , ลูกสาวของลุง ก็เพิ่งตามมาหาลุงพอดี พอลูกแกเห็นผม แกก็มองดูนึกๆหน้า แล้วสักพัก แกก็ปรี่เข้ามาหาผม “หมอๆ หมอคนนี้ไงพ่อ ที่ช่วยให้พ่อรอดตาย คนนี้แหละๆๆๆ” หน้าตาลูกของคุณลุงตอนนั้น ดูแกดีใจมาก น้ำตาซึมๆ ผมนี่ช๊อคไปเลยแว๊ปนึง =__=“ ก่อนที่จะนึกถึงคุณลุงคนนี้
ใช่แล้วครับ ผมกับทีมพี่พยาบาลแต่ก่อน เคยช่วยลุงไว้จริงๆ
ย้อนไปประมาณ 2 ปีก่อน สมัยผมยังเป็นแพทย์ใช้ทุนปีแรก ใหม่ถอดด้าม , เดือนนั้น ผมต้องไปวนงาน ประจำอยู่ที่รพ.อำเภอ อำเภอเดียวกับที่คุณลุงคนนั้นอยุ่นั่นแหละครับ ซึ่ง เรียนตามตรงว่า ค่อนข้างห่างไกลตัวจังหวัดมาก และค่อนข้างทุรกันดารใช้ได้เลย T T , วันนั้น เป็นวันที่ผมอยุ่เวร เฝ้าโรงพยาบาล กับห้องฉุกเฉิน , น่าจะประมาณท้ายๆเวรบ่ายมั้งครับ(เกือบๆเที่ยงคืน) มีรถกระบะคันนึง พร้อมบรรดาญาติๆ คนข้างบ้านของคนไข้ แบกคนไข้ขึ้นท้ายกระบะมาส่งโรงพยาบาล เป็นคุณลุงคนนี้แหละครับ , ตอนนั้น แกบ่นๆให้ลูกฟัง ว่าแกรู้สึกหัวใจเต้นหวิวๆ เต้นเร็วมาก ก่อนจะหมดสติ แล้วไม่หายใจ ต่อหน้าลูกๆหลานๆของแก , ถือว่า เป็นความโชคดีลึกๆในความโชคร้ายนะครับ ที่ตอนที่แกหมดสติไม่หายใจ คือต่อหน้าต่อตาญาติๆพอดี จึงรีบพาแกมาโรงพยาบาลไวมาก , ตอนนั้น ตรวจ screen แบบความเร็วสูง คิดว่า cardiac arrest แน่นอน ก็ขึ้น CPR กับพี่พี่พยาบาล พี่ผู้ช่วย เวรเปลนั่นแหละครับ , อาจจะด้วยความที่แกหมดสติไปได้ไม่นาน ปั้มแปปๆประมาณ 3 cycle ก็กลับมา , แต่ยังดูลูกผีลูกคน หัวใจเต้นเร็วผิดจังหวะมาก จึงรีบปฐมพยาบาลฉุกเฉินเบื้องต้น ก่อนจะประสาน refer คุณลุงไปที่โรงพยาบาลจังหวัดด่วน
ผมจำได้ตอนนั้นว่าลูกสาวของแก เหมือนอยู่ในสภาวะสตั้น ร้องไห้ ทำอะไรไม่ถูก , ในตอนนั้น จะพูดปลอบใจแบบว่าไม่เป็นไรหรอก คุณลุงรอดแน่ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกนัก , ด้วยความที่ผมยังอ่อนประสบการณ์การพูดชี้แจงกับญาติคนไข้ยังเหมาะเจาะเหมาะสม ณ เวลานั้น T T , ก็ค่อยๆอธิบายสถานการณ์ของคุณลุง ณ ตอนนั้นไปตามตรง ประมาณว่า “ตอนนี้ ทางเราช่วยเหลือคุณลุงเท่าที่เราทำได้แล้ว จะทรุดไปอีกทีได้ทุกเมื่อ แต่ยังมีหวังอยู่นะ ญาติต้องเข้มแข็งไว้” ก่อนจะอวยพรให้ญาติกับคุณลุงโชคดี แล้วก็ส่งขึ้นรถรีบไปรพ.จังหวัดต่อไป.... ตอนนั้นผมเองก็หวั่นใจลึกๆเหมือนกัน ว่าคุณลุงจะไปร่วงระหว่างทางอีกรึเปล่า , แต่ยังเป็นโชคดีของคุณลุง ที่สุดท้าย หลังจากตามเคสกับรพ.จังหวัด คุณลุงก็ไปถึงรพ.จังหวัดรับการดูแลใน ICU ต่อ จนอาการเบื้องต้นโอเคดี เฮ้อออออ รอดไปคุณลุง , หลังจากนั้น ไม่กี่วันต่อมา ผมก็ลากิจ(ไปรับปริญญา) กลับมาอีกทีที่รพ.จังหวัด แกก็รอดสมบูรณ์กลับออกจากรพ.ไปแล้ว เท่าที่ผมจำได้ประมาณนี้
ด้วยความที่ตลอดช่วงเวลาที่ผมปฏิบัติงานมา มันก็มีคนไข้หนัก คนไข้เบา สลับกันพรั่งพรูเข้ามาในชีวิตการทำงานของผมเรื่อยๆเยอะแยะเต็มไปหมด ก็ไม่ได้แบบว่า จำคนไข้ได้ทุกคนขนาดนั้นอะเนอะ T T จำได้แค่ภาพลางๆ , ของคุณลุงคนนี้ ผมพอจะจำได้มากหน่อย เพราะ เหตุมันเกิดตอนผมไปวนรพ.อำเภอพอดี >>> ตัดภาพกลับมาเมื่อวานนี้ คุณลุง หลังจากที่ลูกสาวแกบอกว่า ตัวผมนี่แหละ ที่เป็นคนปฐมพยาบาลฉุกเฉินคุณลุงตอนนั้น แกดูดีใจมาก , แกบอกผมว่า “หมอ ขอบคุณหมอมากนะ ลุงเอง ยังมีอะไรที่ต้องทำก่อนตายอีกเยอะ ได้เจอคนที่เคยช่วยลุงไว้ แค่นี้ก็เป็นบุญกุศลของลุงละล่ะ ลุงสัญญา ว่าจะดูแลสุขภาพให้ดี รักตัวเองให้มากๆ ให้คุ้มกับที่หมอเคยช่วยลุงไว้นะ”
บอกตามตรง , ตอนนั้น ผมนี่หายเหนื่อยเลย ในใจผมนี่ โคตรรรรรรรรรรรรรรรเบ่งบาน บานยิ่งกว่า 300% , ให้มีคนไข้รอตรวจอีกร้อยคน ผมก็อยู่ตรวจต่อได้ มาเลยสัส ! 555555 โคตรเวอร์ แต่มันอารมณ์นั้นจริงๆครับ เหมือนโลกที่บ้าๆบอๆอยุ่ตอนนี้ อย่างน้อยๆ ก็ยังมีโมเม้นต์ดีดี ซักโมเม้นต์นึง เป็นแรงผลักดัน ให้เราสู้ต่อ สู้ตามอุดมการณ์ที่ตัวเองตั้งไว้ ถึงแม้จะงานเหนื่อยงานถึกควายอดหลับอดนอนแค่ไหนก็ตาม
อยากฝากทิ้งท้ายไว้เล็กน้อย , คนเรา เกิดมา ชีวิตมันไม่เที่ยงซักเท่าไหร่ จะดีจะดับวันไหน ไม่มีใครรู้ ไร้ซึ่งความแน่นอนมากๆ , ถ้าสิ่งไหน ที่มันทำแล้ว เป็นสิ่งที่ดี ไม่เบียดเบียนผู้อื่น , ทำไปเถอะครับ เต็มที่กับมัน ดีกว่ามานั่งนึกเสียใจ ตอนที่สุดท้าย หมดโอกาสจะได้ทำแล้ว ทั้งสังขารไม่ได้ หรือแม้แต่โอกาสไม่ได้ก็ตาม
ดูแลสุขภาพดีดี ขับรถ ขี่มอไซด์กันระมัดระวังด้วยนะครับ ขอบคุณที่อ่านครับ 555555
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ