ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: ง่วงนอนทั้งวัน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Jul 2008
ตอบ: 10277
ที่อยู่: Highbury / Emirates
โพสเมื่อ: Tue Oct 22, 2019 17:43
Reload Symdrome - พาชีวิต ไปติด “R”


สำหรับเกมแนวยิงหรือแนว Shooting ไม่ว่าจะเป็นมุมมองบุคคลที่หนึ่งหรือมุมมองบุคคลที่สามก็ตามแต่ นับว่าเป็นอีกหนึ่งแนวเกมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก อย่างเกมที่มีรายการ eSport ใหญ่ๆ ที่มีการแข่งขันทุกปีอย่าง CS:GO หรือเกมแนวยิงที่กำลังมาแรงและลุ้นระทึกตลอดเวลาอย่าง Rainbow six: Siege หรือเกมแนวยิงมุมมองบุคคลที่สามที่มีเนื้อหาเข้มข้นในขณะนี้อย่าง the Division 2 ไม่ว่าจะเป็นเกมแนวยิงแบบไหน หัวใจหลักของเกมนี้เลยคือจังหวะและความแม่นยำ อาจจะไม่จำเป็นต้องมีทักษะเรื่องประสาทสัมผัสที่ต้องไวก็ได้ ขอเพียงรู้จังหวะของเกมดีๆ ก็สามารถเล่นได้อย่างสนุกสนานเช่นกัน เพียงแต่อาจจะเรียนรู้กับเกมนั้นๆ ว่า เกมนี้เป็นเกมเร็วหรือเป็นเกมช้า



แต่ทว่าก็มีสิ่งหนึ่งที่ผู้เล่นเกมแนวนี้หลายคนหัวร้อนเพราะความตั้งใจก็ดีหรือไม่ได้ตั้งใจก็ดีนั้นก็คือการกดเติมกระสุนที่ปุ่ม R หรือรีโหลดแม็กกาซีนโดยไม่จำเป็นอย่างเช่น แค่ยิงใส่ศัตรูไปนัดสองนัดเพียงแค่ยิงขู่หรือยิงหลอกๆ แล้วกดเปลี่ยนกระสุนทันที แต่ระหว่างเปลีย่นกระสุนนั้นศัตรูก็อ้อมมายิงเราตายเสียแบบนั้น



แน่นอนว่าต่างประเทศนิยามอาการเหล่านี้ว่า Compulsive Reloading Syndrome หรือเรียกสั้นๆว่า Reload Syndrome ซึ่งเป็นอาการของผู้เล่นติดกดรีโหลดเปลี่ยนกระสุนแบบไม่รู้ตัวเพื่อให้ซองกระสุนปืนมีกระสุนให้เต็มอยู่ตลอดเวลานั้นเอง เพราะเมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าซองกระสุนของเรามีกระสุนอยู่ไม่เต็ม แม้จะยิงไปนัดเดียว แต่มันก็รู้สึกหงุดหงิด ตะขิดตะขวงใจ อยากยัดให้มันเต็มเสียเหลือเกิน



แต่ไม่ต้องกังวลหรือกลัวว่ามันจะเป็นโรคร้ายแรงอะไรแบบนั้น มันเป็นอาการขำๆ ที่ชาวเกมตั้งกันขึ้นมาต่างหาก โดยจุดเริ่มต้นแท้จริงที่มาของ Reload Syndrome นั้นมีมาตั้งแต่เกมแนว Shooting ที่เน้นความเป็น Tactical ยุค 90s’ สมัยพวกเรายังวัยละอ่อนอย่าง Counter-Strike เลยนู้น ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีคือผู้เล่นจะถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งคือผู้ก่อการร้ายและทีมต่อต้านการก่อการร้าย ( โจรกับตำรวจที่เราเรียกติดปากนั้นแหละ ) ต้องอาศัยจังหวะ เทคนิคต่างๆ และความเป็นทีมอย่างมากในการชนะ ซึ่งการ Reload หรือการเปลี่ยนกระสุนนั้นเป็นอะไรที่อันตรายมาก เพราะมันมีอนิเมชั่นการเติมกระสุนเข้าไป นั้นหมายความว่าหากไม่ได้อยู่ที่กำบัง เราจะเหมือนเป็นเป้าซ้อมยิงในขณะนั้นเพราะไม่สามารถตอบโต้ได้นั้นเอง ทว่ามันก็ยังไม่ถูกนิยามเป็นจริงเป็นจัง เพราะไม่ได้ส่งผลต่อเกมมากนักเนื่องจากตัวเกมนั้นค่อนข้างช้าทำให้มีเวลามากพอที่จะเปลี่ยนกระสุนให้พร้อมยิงได้ ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นจุดแรกเริ่มของ Reload Syndrome



ส่วนคำว่า Reload Syndrome ถูกนิยามจริงๆ หรือมีการพูดถึงครั้งแรกในเกม Call of Duty 4: Modern Warfare ซึ่งเกมนี้เป็นเกมแนว FPS ที่รวดเร็วและว่องไวมากในโหมด Multiplayer การยิงแต่ละทีแป๊บเดียวกระสุนก็หมดแล้ว แถมโดนยิงสัก 3-4 นัดก็ตายเอาง่ายๆ ที่สำคัญมี Perk ที่ช่วยให้เราเติมกระสุนได้ไวขึ้นและพร้อมยิงได้เกือบจะทันที ทำให้คนที่เล่นเกม Call of Duty ภาคนี้เริ่มติดการกดปุ่ม R เพื่อเติมกระสุนให้พร้อมอยู่เสมอเพราะ Reload ไวนั้นเอง



แต่การ Reload ไวในเกมนั้นเป็นประโยชน์ก็จริง แต่มันก็สร้างทักษะและนิสัยเสียให้กับใครหลายๆ คนด้วย เพราะ Reload หรือเติมกระสุนแค่เสี้ยววิ ก็ถูกยิงสวนตายด้วยเช่นกัน…ก็อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เกม Call of Duty มันเกมไว ยิงกระสุนออกไป 2-3 นัด ฆ่าศัตรูได้หนึ่งตัว กด Reload เสียแล้ว หากอยู่ในที่กำบังหรืออยู่หลังเพื่อนก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่หากเราอยู่ที่โล่งแล้วจู่ๆ ก็กดเติมกระสุนทั้งที่จำนวนกระสุนนั้นเหลือเพื่อให้ต่อสู้ได้ เราอาจจะถูกยิงตายไม่รู้ตัวหรือป้องกันตัวไม่ได้ ต่อให้รู้ตัวมันก็สายไปเสียแล้ว ทำให้ผู้เล่นหลายคนก็หัวร้อนตามๆ กันและมีการนิยามคำนี้เกิดขึ้น ซึ่งเป็นการนิยามเล่นๆ แต่มันก็เป็นปัญหาเล็กๆ ที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน

และปัจจุบันมันก็ส่งผลต่อพฤติกรรมการเล่นกับเกมแนว FPS ยุคใหม่ที่ต้องชิงจังหวะและพึ่งพาสิ่งรอบตัวสูงมากอย่าง Rainbow Six: Siege โดยจะขอยกตัวอย่างจากการเล่นเกมเพื่อนให้ฟัง



ในด่าน Tower นั้นเราเล่นเป็นฝ่ายตั้งรับโหมด Secue Area ทีมของเราตายหมดแล้วเหลือเพื่อนคนสุดท้ายที่เล่น Mozzie พร้อมกับปืน RO635 บนมือของเขา กำลังดวลปืนกับศัตรูที่เล่น Ash แบบ 1 ต่อ 1 ซึ่งเวลาในเกมกำลังจะหมดลงภายในอีก 10 วินาทีสุดท้าย แน่นอนว่ามันต้องบีบบังคับให้ศัตรูเข้ามาหาอยู่แล้ว เพื่อนก็พยายามถูกเวลาให้มากที่สุดด้วยการยิงขู่ไป 4 นัด แต่ดันพลาดที่เขาไปกดเติมกระสุน ซึ่งจังหวะเดียวกับ Ash ที่วิ่งเข้ามาเพราะได้ยิงเสียงปืนและเสียงรีโหลด พร้อมกับยิงสวนใส่เพื่อนเราตายทันที ทำให้เกมนั้นเราแพ้ไปและเขาก็แอบหัวร้อนเสียด้วย…จริงอยู่ ปืน RO635 ของ Mozzie นั้นมีกระสุนแค่ 25 นัด ลั่นขู่ไป 4 นัดเหลือ 21 นัด แต่ 21 นัดมันก็เพียงพอที่จะต่อสู้กับ Ash แบบ 1 ต่อ 1 ได้อยู่แล้ว แต่ดันติดนิสัยกดเติมกระสุนทำให้แพ้ไปอย่างน่าเสียดาย



หรืออย่างกรณีหนึ่งที่เล่น the Division 2 มาแล้วลง Raid Boss ซึ่งปืนปกติการเติมกระสุนไม่ค่อยมีปัญหานักเพราะมันเป็นเกมที่เน้น Cover to Cover แต่มันไม่ใช่กับปืนกลเบาที่ใช้เวลาในการเติมกระสุนนานมากแม้กระสุนจะเยอะก็ตาม ด้วยความยากของ Raid Boss นั้นการเติมกระสุนแต่ละที ศัตรูจะเริ่มแห่ประชิดตัวเรามากขึ้นหรือหนักหน่อยก็ระดมยิงใส่เราหลายทิศทางจนเราโดนยิงล้มลงไป สุดท้ายก็เริ่มเกมใหม่หัวร้อนกันไปอีก



ทุกวันนี้ก็ยังนั่งเล่นกับเพื่อน พยายามฝึกและตั้งสติทุกครั้งเวลาเล่นด้วยกันเพราะจังหวะมันสำคัญมาก หากตกอยู่ในสถานะการณ์ที่อันตราย และกระสุนยังเหลือมากพอที่จะยิงต่อสู้หรือสังหารศัตรูได้ ก็อย่าเพิ่งเติมกระสุนทันที ให้หาที่กำบังหรือหามุมที่คิดว่าปลอดภัยค่อยเติมจะดีกว่ามาก และจงเชื่อใจว่า ต่อให้มีกระสุนนัดเดียวในปืน แต่มันก็ช่วยชีวิตเราได้และอาจจะทำให้เราชนะเกม เกมนั้นด้วยนั้นเอง

การแพ้หรือชนะมันไมไ่ด้ขึ้นอยู่กับการเติมกระสุนอย่างเดียว จังหวะและการสื่อสารของเพื่อนหรือคนในทีมก็เป็นกุญแจหลัก ทว่าการเติมกระสุนผิดจังหวะมันก็ตัดสินชี้ชะตาหรือพลิกเกมได้เช่นกัน อาการ Reload Syndrome ไม่ใช่โรคหรือสิ่งร้ายแรง เราแก้ไขได้ด้วยการฝึกฝนอย่านิ้วลั่นไปโดนปุ่ม R โดยไม่จำเป็นและคิดอยู่เสมอว่า “การเติมกระสุนทุกครั้งคือการเปิดช่องว่างให้ศัตรูโจมตี” จำไว้ให้ขึ้นใจล่ะ :3

https://www.facebook.com/GameFeverTH/

ช่วงนี้ผมเล่น R6 บ่อย แทบทุกวัน เลยค่อนข้างอินกับบทความนี้หน่อยๆ ยิงไปซัก 5 นัด 10 นัดก็รีโหลดแล้ว คือเป็นคนยิงไม่แม่นแบบโดนหัวทุกนัดไรงี้ เลยต้องเน้นจำนวน ปืนมันไม่ค่อยดีดด้วย เลยกดยิงค้างบ่อย ไม่ได้แบบยิงเป็นชุด ไม่ทันกิน

แก้ไขล่าสุดโดย Backspace เมื่อ Tue Oct 22, 2019 17:50, ทั้งหมด 3 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ดิสคอร์ด เกมท้าย ที่สิงของชาวเกมเมอร์ https://discord.gg/na4eSHMd5n

ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 2765
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 22, 2019 18:05
[RE: Reload Symdrome - พาชีวิต ไปติด “R”]
เออ ผมเป็นเหมือนกันแฮะ อ่านๆดู
มีความกังวลเวลากระสุนไม่เต็ม เหมือนของไม่เต็ม
เวลา max กระสุนเต็มละรู้สึกอุ่นใจขึ้น
จะยิงสองสามเม็ด ก้อกดเอาเข้าละ
ก็จะมาเจอจังหวะแบบว่าไม่ควรจะยัดกระสุนเข้าจังหวะนั้นบ่อยมาก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Dec 2017
ตอบ: 15195
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 22, 2019 18:33
[RE: Reload Symdrome - พาชีวิต ไปติด “R”]
โคตรจริง 555555
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 May 2006
ตอบ: 3029
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 22, 2019 19:58
[RE: Reload Symdrome - พาชีวิต ไปติด “R”]
แล้วแต่เกมนะครับ ส่วนใหญ่พวก csgo call of duty bf RB6 เนี่ยไม่ต้องโหลดหรอก ttk น้อย กระสุนไม่กี่นัดก็ตายนะ

แต่apex legend มีโอกาสต้องรีโหลดรอไว้เลย ttkมันต่ำ ถ้าชินจากเกมบนๆมาต้องปรับตัวพอควร
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งเจลีก
Status: อยากน้วยแมว
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 8187
ที่อยู่: Mother Drum
โพสเมื่อ: Tue Oct 22, 2019 20:14
[RE: Reload Symdrome - พาชีวิต ไปติด “R”]
สมัยเล่น MW2 MW3 นี่กดเปลี่ยนกระสุนเล่นประจำ คิลตัวนึงเปลี่ยนทีนึง ยิงสิบนัดเปลี่ยนที

แล้วก็ต้องโดนยิงตายจังๆตอนเปลี่ยนกระสุนทุกทีด้วยนะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status: ปล่อยไปตามหัวใจ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Apr 2017
ตอบ: 4845
ที่อยู่: บ้านน๊อกบ้านนอก
โพสเมื่อ: Wed Oct 23, 2019 08:52
[RE: Reload Symdrome - พาชีวิต ไปติด “R”]
ผมตรงกันข้ามเลยครับ

อาการของผมคือ "xิบหายละ ลืมรีโหลด"
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2790
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Oct 23, 2019 11:19
[RE: Reload Symdrome - พาชีวิต ไปติด “R”]
บทความดีจัง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel