ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 46
ที่อยู่: Utahtd
โพสเมื่อ: Sun Oct 13, 2019 12:48
ถูกแบนแล้ว
ความสำเร็จของหงส์แดงกับเรือใบสีฟ้า
ขออนุญาติแสดงความคิดเห็นและแนวคิดนิดหน่อยนะครับ เพราะพอทราบแนวคิดการบริหารใหม่ที่เกิดขึ้นกับทั้ง หงส์แดง-ลิเวอร์พูล และ เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เรามาดูปัจจัยอื่น ๆ กันบ้างครับหลายคนอาจมองไปที่เรื่องเงิน มองข้ามแนวคิดวิธีการบริหารงานกันไปบ้าง ถ้าเรามองไปที่การบริหารงานมีการปรับเปลี่ยนอย่างมาก ภายใน ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ซิตี้ ซึ่งมุมนี้น่าสนใจ

ลิเวอร์พูล ที่มี 97 คะแนน จาก 38 นัด จบซีซั่น ด้วยตำแหน่งอันดับ 2 ของตาราง โดยทีมที่เป็นแชมป์อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีคะแนนเหนือพวกเขาแค่ 1 แต้มเท่านั้นหลายๆคน ยกให้ ฤดูกาลนี้ เป็นการขับเคี่ยวแย่งชิง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สนุกสุด เท่าที่ลีกยอดนิยมอันดับ 1 ของโลกก่อตั้งมา


แม้แต่สุดยอดเฮดโค้ชผู้ประสบความสำเร็จมากสุด ในฟุตบอลยุคใหม่ อย่าง เป๊ป กวาดิโอลา ยังยอมรับว่า “นี่เป็นแชมป์ที่ยากสุดในชีวิตของเขา”
อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่ส่งให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล กลายมาเป็นสองคู่แข่งยักษ์ใหญ่ใน พรีเมียร์ลีกยุคใหม่ ที่น่าจะกินระยะความยิ่งใหญ่ไปอีกหลายๆปี นอกจากเรื่องเงินทุน ก็ควรคิดถึงแนวคิดการบริหารแบบใหม่ของทั้งสองทีมด้วย

1 ทศวรรษต่อมา เรือใบสีฟ้า ครองถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกถึง 4 สมัย เปลี่ยนแปลงเมืองแมนเชสเตอร์ จา่กสีแดง ให้กลายมาเป็น สีฟ้าสนิท ทั้งหมดเกิดขึ้นภายใต้ร่มเงาของ ชีค มานชูร์ ซาเยด อัล นาร์ยาน ที่ได้ตั้ง ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป หรือ CFG ทำหน้าที่ดูแลสโมสรในเครือข่ายทั่วโลก


ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ภาพจำของแฟนบอลที่มีต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในอุ้งมือเจ้าของกิจการสัญชาติยูเออี ย่อมหนีไม่พ้นการเป็นทีมที่ “ใช้เงินซื้อความสำเร็จ” แบบทุนนิยมสุดตัว “เรือใบสีฟ้า” เดินหน้าซื้อนักเตะเข้ามาร่วมทีมอย่างบ้าคลั่งตลอดช่วง 5 ปีแรก ขขาดทุนย่อยยับกว่า 491 ล้านปอนด์

ตุลาคม 2010 “เฟนเวย์ สปอร์ตกรุ๊ป” หรือ FSG โดย จอร์จ ดับเบิลยู เฮนรี นักธุรกิจ เจ้าของทีมเบสบอลชื่อดัง บอสตัน เรดซอกส์ เข้ามาเทคโอเวอร์กิจการสโมสร ลิเวอร์พูล ทีมยักษ์หลับ ที่ทำท่าจะชวดโควต้าไปเล่นถ้วยยุโรป ในปีนั้น
ลิเวอร์พูล ในยุคบริหารของ เฟนเวย์ พบกับความยากลำบากตั้งแต่เริ่มต้น ทั้ง หนี้สินจากเจ้าของคนเก่า, คุณภาพของผู้เล่นในทีม แถมกลุ่มทุนหน้าใหม่จากสหรัฐฯ ยังแสดงจุดยืนชัดเจนตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาว่า ไม่ต้องการลงทุนซื้อนักเตะแพงๆ เหมือนอย่างแมนซิตี้ฯ เพราะต้องการทำให้สโมสรแห่งนี้ ลงทุนอย่างสมเหตุสมผล และเติบโตอย่างยั่งยืน

เฟนเวย์ สร้างความแปลกใหม่ในวงการฟุตบอลอังกฤษ ด้วยนำระบบการซื้อขายแบบอเมริกามาใช้ อย่างการตั้ง “คณะกรรมการซื้อขายนักฟุตบอล” (Transfer Committees) ที่มี ทีมงานสตาฟฟ์โค้ช, แมวมอง, ผู้บริหารสโมสร นั่งบนโต๊ะถกกันเพื่อตัดสินใจว่า จะซื้อหรือไม่ซื้อนักฟุตบอลคนใด?

Video Clip จากภาพยนตร์เรื่อง Money Ball นำแสดงโดยแบรด พิตต์ แสดงแนวคิด คณะกรรมการซื้อขายนักฟุตบอล ที่นำมาจาก การบริหารทีม เบสบอล อเมริกา
ข้อดีของระบบดังกล่าว คือ ช่วยลดความเสี่ยงที่สโมสรต้องพบเจอ ในการลงทุนซื้อนักฟุตบอล แต่ข้อเสียก็อยู่ตรงที่ ขั้นตอนการดำเนินการบนโต๊ะประชุมนั้น ใช้เวลานาน จนมีโอกาสพลาดถูกสโมสรอื่นตัดหน้าคว้านักเตะเป้าหมายที่สโมสรต้องการ

กระนั้น สิ่งที่เหมือนกันของทั้ง FSG และ CFG นั่นคือ พวกเขาให้ความสำคัญอย่างมากต่อการลงทุนกับโครงสร้างสโมสร อันได้แก่ สาธารณูปโภคต่างๆ, การต่อเติมปรับปรุง สนามแข่งขัน, สนามฝึกซ้อม รวมถึงยกระดับ ศูนย์ฝึกเยาวชน ฯลฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่ FSG และ CFG ลงมือทำเป็นอันดับแรกๆ ด้วยซ้ำ การลงทุน ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายผู้เล่น จัดเป็นการลงทุนที่ไม่สามารถ หวังผลได้ในอนาคตอันใกล้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เม็ดเงินมหาศาลที่หมดไปกับเรื่องนอกสนาม จะสร้างผลประโยชน์ที่ต่อยอดมาได้ถึงผลงานในสนามได้ คิดภาพง่ายๆ ฟุตบอลในแบบของ แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล นักฟุตบอลต้องใช้พละกำลัง การเคลื่อนที่ตลอดเวลา หากปราศจากระบบฟิตเนสที่ดี ย่อมไม่มีทางรักษาสภาพนักเตะมาได้ถึงขนาดนี้


137 ล้านปอนด์ คือตัวเลขที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำกำไรได้จากการขายผู้เล่นเยาวชน
เช่นเดียวกับ ลิเวอร์พูล ที่ทำรายได้จากการขายผู้เล่นเยาวชนมาไม่น้อย

เอาแค่เฉพาะ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ที่เติบโตขึ้นมาเป็นกำลังหลักในทีมชุดใหญ่ ตอนนี้ ก็คุ้มมากแล้ว ถ้าหากอยากรู้ว่า ระบบพัฒนาเยาวชนของ เรือใบสีฟ้า และ หงส์แดง แข็งแกร่งมากเพียงใด ? ก็ลองเช็คดูว่าใครคือทีมที่ผ่านเข้าเล่นรอบชิงชนะเลิศ เอเอฟ ยูธ คัพ อังกฤษ 2018-2019 คู่ชิง
2018–19 Liverpool 1–1[a] Manchester City After extra time; 5–3 on penalty shoot-out
https://en.wikipedia.org/wiki/FA_Youth_Cup
แต่โครงสร้างที่ดี ย่อมต้องมาพร้อมกับ ซีอีโอที่มีประสบความการณ์ ความรู้ความสามารถ และตอบโจทย์กับแผนการสร้างทีมระยะยาว ด้วยเหตุนี้ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในยุคเจ้าของใหม่ จึงเซ็ททีมงานบริหาร อย่างถูกฝาถูกคน

ฝั่ง ลิเวอร์พูล ใช้รูปแบบการบริหารแบบ อเมริกัน อย่างที่พิมพ์ไปข้างต้น โดยมี ปีเตอร์ มัวร์ รับตำแหน่งซีอีโอ ผู้ผ่านชั่วโมงบินในบริหาร แบรนด์กีฬา Reebox , ค่ายธุรกิจเกี่ยวกับเกม SEGA, Xbox, EA ทำงานร่วมกับ ไมเคิล เอ็ดวูดส์ ผู้อำนวยการกีฬา และ ทอม เวอร์เนอร์ ประธานสโมสรที่ควบตำแหน่ง บอสใหญ่ทีมเบสบอล บอสตัน เรด ซอกซ์

ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคอนโทรลของ CFG ใช้รูปแบบ “บรรษัทข้ามชาติ” (Multinational Corporation) มาบริหารสโมสรในพรีเมียร์ลีก พร้อมๆกับลงทุนซื้อสโมสรขนาดกลาง จากทั่วทุกมุมโลก 6 ทีมจาก 5 ทวีป เพื่อง่ายต่อการโอนย้ายถ่ายนักเตะและข้อมูล รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพของทีมฟุตบอล และโอกาสในการทำกำไรทางธุรกิจไปด้วย
เมื่อทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สามารถเปลี่ยนตัวเลขจาก ติดลบ มาเป็นกำไรได้สำเร็จ โดยนับตั้งแต่ฤดูกาล 2014-2015 ซิตี้ มีผลประกอบกำไรทุกปี โดยในปีที่ผ่านมา สโมสรมีรายรับเข้ามามากกว่า 500 ล้านปอนด์


ถึงขั้นที่มีผลการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล (University of Liverpool’s Centre for Sports Business Group) ระบุว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แซงหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นมาเป็นทีมที่มีมูลค่าสูงสุดในพรีเมียร์ลีก อยู่ที่ 2,364 ล้านปอนด์

ส่วน ลิเวอร์พูล แม้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาจะต้องสูญเสียแข้งกำลังหลักออกไป อาทิ หลุยส์ ซัวเรส, ฟิลิปเป คูตินโญ (สองผู้เล่นที่ถูกซื้อและขายในยุค FSG บริหารทีม) แต่นั่นก็ไม่ได้ทำศักยภาพของ หงส์แดง ลดลง จนเสียโมเมนตั้มทีมไป เพราะผู้เล่นดึงมาใหม่ก็สามารถทดแทนได้ แถมยังซื้อมาถูกกว่าขายเสียอีก


นั่นทำให้ในฤดูกาล 2017-2018 ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีมฟุตบอล ที่มีผลประกอบการทำกำไรมากสุดเป็นสถิติโลก ด้วยตัวเลขกำไร 125 ล้านปอนด์




จงลงทุนกับคนที่ใช่
8 ปี ของ FSG กับลิเวอร์พูล และ 10 ปี ของ CFG กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทั้งสองสโมสรล้วนต้องผ่านช่วงเวลา ลองผิดลองถูก และไม่ใช่ว่าทุกๆการตัดสินใจของพวกเขาจะไม่มีความผิดพลาดเลย ?
การบริหารทีมฟุตบอล ไม่ใช่สูตรคณิตศาสตร์ ที่สามารถจบทุกอย่าง ได้บนเครื่องเลข ดังนั้น ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จึงต้องผ่านช่วงเวลาในการตามหา เฮดโค้ช และนักฟุตบอลที่ใช่ สำหรับลีกที่โหดหินมากสุดแห่งหนึ่งในโลกอย่าง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ


ตุลาคม 2015 ลิเวอร์พูล ประกาศปลด เบรนดอน รอดเจอร์ส เทรนเนอรผู้พาเข้าใกล้แชมป์พรีเมียร์ลีก มากสุด เมื่อฤดูกาล 2013-14 โดยในแถลงการณ์สโมสรระบุว่า ลิเวอร์พูล ต้องการผู้นำที่มีความทะเยอทะยาน และคว้าชัยชนะ เพื่อนำทีมไปประสบความสำเร็จ

“เจอร์เกน คล็อปป์” คือ โค้ชคนใหม่ที่ฝ่ายบริหาร สามารถโน้มน้าวใจเขามาร่วมงานได้ กุนซือชาวเยอรมันคนนี้ มีคุณสมบัติทุกอย่างตรงตามที่ ลิเวอร์พูล ต้องการ ทั้ง สไตล์การทำทีมเน้นเกมรุกดุดัน, คาแรกเตอร์ส่วนตัวที่มีความทะเยอทะยานสูง ดังเห็นได้จากการพา โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง


ในปี 2016 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ผู้นำคนใหม่อย่าง“เป๊ป กวาดิโอลาร์” เข้ามาทำหน้าที่เป็น เฮดโค้ช ต่อจาก มานูเอล เปเยกรินี



คล็อปป์ ต้องการนักเตะที่ความสามารถในการเกมรุก และวิ่งเพรสซิ่งกดดันคู่แข่ง ได้ตั้งแต่หน้าปากประตูคู่แข่ง เล่นเกมรับ-รุก ด้วยกันได้ทั้งหมด


เป๊ป พกพาปรัชญาฟุตบอลที่สุดแสนจะสวยงาม และเฟอร์เฟค ที่เน้นการส่งบอลแม่นยำ รวดเร็ว และการเคลื่อนที่ตลอดเวลา


เจอร์เกน คล็อปป์ ที่ใช้เงินซื้อนักฟุตบอลน้อยกว่า เป๊ป เกือบเท่าตัว ย่อมเจองานที่ยากกว่า ในช่วง 1-2 ฤดูกาลแรก มีหลายๆเกมที่ ลิเวอร์พูล เริ่มต้นได้ดีกว่า แต่สุดท้ายก็แผ่วปลาย ด้วยพละกำลัง และศักยภาพผู้เล่นที่มีอยู่ไม่เพียงพอ ดังนั้นไม่แปลกเลยหาก คล็อปป์ จะยังไม่มีความสำเร็จถ้วยแชมป์ติดมือ
แม้ผลงานของ เป๊ป (ในปีแรก) และ เจอร์เกน คล็อปป์ จะไม่ได้ถ้วยรางวัลการันตีอะไร แต่ความเชื่อมั่นที่สโมสรมีให้ต่อ 2 นายใหญ่ ส่งผลให้ เป๊ป กับ คล็อปป์ สามารถเดินหน้าสร้างทีมอย่างที่ตัวเอง วาดภาพไว้ได้ในระยะยาว

ผลที่ออกมา เป๊ป พา ซิตี้ เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เร็วที่สุด และเก็บแต้มไปได้ 100 คะแนน เป็นสถิติใหม่ของลีก ขณะที่ เจอร์เกน คลอปป์ หลังจากที่ได้ เฟอร์มิโน และ ซาดิโอ มาเน มาก่อนหน้านี้ พวกเขาก็ยื่นซื้อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่เคยล้มเหลวกับ เชลซี มายืนเป็น สามประสา่นกองหน้า ตามระบบที่เขาไว้

แล้วคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีกอย่างยิ่งใหญ่เป็นตำนาน


ความเป็นหนึ่งเดียว
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ไม่ได้พิเศษกว่าทีมอื่นร่วมลีก ตรงที่พวกเขามีนักเตะอย่าง เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, แบร์นาโด ซิลวา, เซร์จิโอ อเกวโร แต่สิงที่ทำให้พวกเขาแตกต่าง คือการที่ทั้งคู่ เป็นสโมสรเข้าใจกลไกของโลกฟุตบอลยุคใหม่ และปรับตัวได้ก่อน เพราะไม่ช้าก็เร็ว ทุกๆสโมสรบนโลก ล้วนต้องเผชิญ กับช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน


ลิเวอร์พูล ไม่มีใครสงสัยในความเป็นผู้นำของ เจอร์เกน คล็อปป์ จิตวิทยา ความมุ่งมั่นที่ต้องการเป็นผู้ชนะ การกระตุ้นนักฟุตบอลไม่มีใครเกินเขา เมื่อทีมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ต่อให้อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องชนะ บาร์เซโลนา 4-0 เพื่อเข้ารอบ พวกเขาก็ทำได้


แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทุกส่วนในสโมสร เชื่อมั่นในความเป็่น มนุษย์อัจฉริยะ และคนที่ทำงานหนัก เพื่อให้นักฟุตบอลลงไปเล่นในสนามอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งการที่ทั้งสองทีมสามารถทำงาน หน้าบ้าน ได้อย่างราบรื่น ปัจจัยสำคัญมาจากการสนับสนุนที่ดีจาก หลังบ้านที่แข็งแกร่ง อันได้แก่ฝ่ายบริหาร ฝ่ายเทคนิค ที่รวมกันเป็นหนึ่งเดียวกันกับทุกส่วนในสโมสร


“ลิเวอร์พูล มีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม และมีโอกาสที่ได้ชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกเช่นกัน พวกเขาดีเกินกว่าจะเป็นอันดับ 2 แต่มันก็เป็นการต่อสู้ที่ดีของเรา เมื่อสถานการณ์ของเราหลังพิงฝา เราจะหาทางไปต่อให้ได้”
แวงค์ซอง กอมปานี กัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กล่าว
แหล่งอ้างอิง

https://www.liverpoolecho.co.uk/sport/football/football-news/fsg-liverpool-evolution-transfer-committees-15283384
https://www.the101.world/manchester-city-multinational-corporation/
https://www.mancity.com/news/club%20news/club%20news/2018/september/manchester%20city%20annual%20report%201718
https://www.bbc.com/sport/football/48145285
https://www.liverpoolfc.com/news

แก้ไขล่าสุดโดย 4dInteriorDesign เมื่อ Sun Oct 13, 2019 12:55, ทั้งหมด 2 ครั้ง
109
0
หากโดน 186 เรื้อน จะถูกแบน
ggmm , white valentine , เงาของเธอ , Taker , SPECIALONEZ , eatsleep , Indyvirus , sasuke2u , SeoYoonYul , Archawin5 , zerpenteer , AGGLE , โนแลนจอมโกหก , ผมเป็นคนชอบJET , แสงแห่งความหวัง , kirkland , KIATTISAK , Antivist , TripleLife , guyamutter , zzilch , The_CiTiZens , nwd- , BaLL แจ้ , iceicezz , 1000zeed , northstar , kitpokkrong , sasuke , Boulevard , Mr.Man1992 , ★จอห์นミเล่นหนอน★ , markwindy , Prince of Wind , ONCE , sixhearts , Lowlite , wAnTedz , satada , บุญส่ง , Nobodyknowz , kjsbn1234 , AAA2535 , Brunos , da4udazii , Felicio , eggteen , SoCk_MaN , RodGersLFC , Seaball , ๐eScOzor๐ , boomkung22 , SuDdTeEn , tutaman , tonowen , koratdevil , LV , Mikryroft Thekop , Nb5 , Canizarros , EssentiaL , number1_mourinho , Barcelonistu , metzelders , ผู้ป่วยความจำเสื่อม , sudrakkeng , ton_lfc , -Owefil- , คุโรชิโร่คุง , LittleFinger , MinimOou , henbe007 , สมัครมาหวีด , Michael Connelly , tottee , Ember , pong700 , จึ๊กกะดึ๋ย , GuBa_ , jekkeejung , เด็กเทพ , tanvanho , RingoStarr , Mr.Fantastic , คนแบกซุง , Sicario_artist , เรียกกูว่าสิงห์ใหญ่ , feira , ติ่มซำ , ScOusErzii , `Dou|3|e~Up` , judass_stanley , oopokepaioo , differboyXI , B_and_J , Off side , 87HerO , slothboy , LoversMoon , BUGHUM , NeEM , liverboy , LionelzinedineziCan , Kick_Of , masterkabo , kowjongz , LoCkDown , TheRedz , American-dream
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: I'm Gunner
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Oct 2013
ตอบ: 29917
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 13, 2019 13:01
[RE: ความสำเร็จของหงส์แดงกับเรือใบสีฟ้า]
รอน่อลหน่อยน่ะ
5
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
*0**0*
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 16775
ที่อยู่: ท้ายครัว จอห์น เฮนรี่
โพสเมื่อ: Sun Oct 13, 2019 13:01
[RE: ความสำเร็จของหงส์แดงกับเรือใบสีฟ้า]
เจ้าของทีมนี่มีผลจริงๆ การบริหารต่างจากสมัยก่อนอย่างชัดเจน

นี่เพิ่งรู้แมนซิมีสโมสรในทวีปต่างๆอีก โครตมองการไกลได้ทั้งตลาดได้ทั้งนักเตะ
4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 8533
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 13, 2019 13:19
[RE: ความสำเร็จของหงส์แดงกับเรือใบสีฟ้า]
ตอนนี้ก็เหมือนกลายเป็นศึกระหว่างการบริหารทีมแบบ 2 รูปแบบไปด้วยแล้ว ลิเวอร์พูลคือการบริหารแบบก้าวขึ้นทีละสเตปแบบมั่นคง ส่วนซิตี้คือการบริหารแบบการลงทุนมูลค่าสูงไปกับบุคลากรคุณภาพสูง

ซึ่งซิตี้ก็ทำให้เห็นแล้วว่ามีผลสำเร็จจริง แต่ก็ต้องอัดฉีดเม็ดเงินจำนวนมหาศาล

และลิเวอร์พูลที่ค่อยๆก้าวขึ้นมาท้าชิง กว่าจะถึงจุดนี้ได้ก็เกือบ 10 ปี แถมต้องมีระบบโครงสร้างองค์กรที่สนับสนุนกันทุกฝ่ายอย่างเต็มที่
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 46
ที่อยู่: Utahtd
โพสเมื่อ: Sun Oct 13, 2019 13:21
ถูกแบนแล้ว
[RE: ความสำเร็จของหงส์แดงกับเรือใบสีฟ้า]
gyarados พิมพ์ว่า:
รอน่อลหน่อยน่ะ  
ขอบคุณครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 46
ที่อยู่: Utahtd
โพสเมื่อ: Sun Oct 13, 2019 13:21
ถูกแบนแล้ว
[RE: ความสำเร็จของหงส์แดงกับเรือใบสีฟ้า]
ggmm พิมพ์ว่า:
เจ้าของทีมนี่มีผลจริงๆ การบริหารต่างจากสมัยก่อนอย่างชัดเจน

นี่เพิ่งรู้แมนซิมีสโมสรในทวีปต่างๆอีก โครตมองการไกลได้ทั้งตลาดได้ทั้งนักเตะ  

ขอบคุณครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 46
ที่อยู่: Utahtd
โพสเมื่อ: Sun Oct 13, 2019 13:21
ถูกแบนแล้ว
[RE: ความสำเร็จของหงส์แดงกับเรือใบสีฟ้า]
Indyvirus พิมพ์ว่า:
ตอนนี้ก็เหมือนกลายเป็นศึกระหว่างการบริหารทีมแบบ 2 รูปแบบไปด้วยแล้ว ลิเวอร์พูลคือการบริหารแบบก้าวขึ้นทีละสเตปแบบมั่นคง ส่วนซิตี้คือการบริหารแบบการลงทุนมูลค่าสูงไปกับบุคลากรคุณภาพสูง

ซึ่งซิตี้ก็ทำให้เห็นแล้วว่ามีผลสำเร็จจริง แต่ก็ต้องอัดฉีดเม็ดเงินจำนวนมหาศาล

และลิเวอร์พูลที่ค่อยๆก้าวขึ้นมาท้าชิง กว่าจะถึงจุดนี้ได้ก็เกือบ 10 ปี แถมต้องมีระบบโครงสร้างองค์กรที่สนับสนุนกันทุกฝ่ายอย่างเต็มที่  

ขอบคุณครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 6445
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 13, 2019 13:23
ความสำเร็จของหงส์แดงกับเรือใบสีฟ้า
รอเสี่ยเข้าประเทศได้ก่อนเถอะ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 46
ที่อยู่: Utahtd
โพสเมื่อ: Sun Oct 13, 2019 13:27
ถูกแบนแล้ว
[RE: ความสำเร็จของหงส์แดงกับเรือใบสีฟ้า]
Sleipnir พิมพ์ว่า:
รอเสี่ยเข้าประเทศได้ก่อนเถอะ  
ขอบคุณครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
อวาตาร์&ลายเซ็นต์ผิดกฏ
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Feb 2011
ตอบ: 992
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 13, 2019 13:49
ความสำเร็จของหงส์แดงกับเรือใบสีฟ้า
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
โค้ช C-License
Status: Middle fingers up if you don't give a f**k
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Apr 2010
ตอบ: 39613
ที่อยู่: ข้าวเหนียวมะม่วงรสช็อคโกแลต
โพสเมื่อ: Sun Oct 13, 2019 13:51
[RE: ความสำเร็จของหงส์แดงกับเรือใบสีฟ้า]
สองทีมนี้พอได้โค้ชที่เคมีตรงกับทีมแล้วบินสูงยาวๆเลยยย

ลองคิดเล่นๆดูถ้าเสี่ยหมีเข้าอังกฤษกลับมาทุ่ม ส่วนน่อลเปลี่ยนมือจากโครเอนเก้เป็นอุสมานอฟ

ตลาดมันจะปั่นป่วนขนาดไหนนน แหล่งรวมยอดโค้ชจริงๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

SAVE OF THE CENTURY !!

ออนไลน์
ดาวซัลโวโอลิมปิก
Status: Heal the world ..Make it a better place
: 1 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 12244
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 13, 2019 14:32
[RE: ความสำเร็จของหงส์แดงกับเรือใบสีฟ้า]
ggmm พิมพ์ว่า:
เจ้าของทีมนี่มีผลจริงๆ การบริหารต่างจากสมัยก่อนอย่างชัดเจน

นี่เพิ่งรู้แมนซิมีสโมสรในทวีปต่างๆอีก โครตมองการไกลได้ทั้งตลาดได้ทั้งนักเตะ  


คิโรน่า เมลเบิร์น โยโกฮาม่าเอฟมารินอส(ทีมอุ้ม) นิวยอร์ค(มั้งที่บีญ่าไปอยู่แปปนึง)

อีกทีมจำไม่ได้
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งลีกเอิง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jan 2014
ตอบ: 8924
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 13, 2019 14:35
ความสำเร็จของหงส์แดงกับเรือใบสีฟ้า
ปักไว้ก่อน เดี๋ยวมาอ่านต่อ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: You'll Never Walk Alone
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 17 Nov 2013
ตอบ: 1123
ที่อยู่: Anfield-Lampang-Bangkok
โพสเมื่อ: Sun Oct 13, 2019 15:05
[RE: ความสำเร็จของหงส์แดงกับเรือใบสีฟ้า]
อยากรู้ว่า ภายหลังจากที่เป็ป และ คลอป ออกจากสโมสร คนมาสานต่อจะทำได้ดีแค่ไหน
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Sep 2009
ตอบ: 20488
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 13, 2019 15:08
[RE: ความสำเร็จของหงส์แดงกับเรือใบสีฟ้า]
ไม่ต้องยิ่งใหญ่ไปเทียบเคียงกับใคร

ทำตามเป้าหมายของทีมก็พอ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel