แยกออกไหม คนไหนคือซาร์นิโคลัสที่สองของรัสเซีย?
แยกกันออกมั้ย? คนขวาคือซาร์นิโคลัสที่เราคุ้นหน้า ส่วนคนซ้ายก็ไม่ใช่ใครที่ไหน กษัตริย์จอร์ชที่ 5 แห่งสหราชอาณาจักร ถึงจะคล้ายกันจนดูแปลกตา แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเพราะที่จริงแล้วแม่ของทั้งสองพระองค์เป็นพี่น้องกัน (เจ้าหญิงอเล็กซานดร้าแห่งเดนมาร์กสมรสกับกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งอังกฤษในขณะที่จ้าหญิงดักมาร์กผู้เป็นน้องสาวสมรสกับซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 3 แห่งรัสเซีย)
ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าซาร์นิโคลัสเป็นลูกครึ่งรัสเซีย-เดนมาร์หรือเปล่า? คำตอบคือไม่ใช่ เชื่อมั้ยว่าซาร์ของรัสเซียพอถึงยุคนิโคลัสที่สองมีเลือดรัสเซียไหลอยู่ในตัวไม่ถึง 1%
เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปไกลที่นโยบายการเปิดประเทศของซาร์ปีเตอร์มหาราช (1672-1725) ก่อนหน้านั้นราชวงศ์โรมานอฟมีนโยบายเลือกเจ้าสาวจากครอบครัวรัสเซียชั้นสูง (เช่น Streshnevy, Miloslavskye, และ Naryshkiny) แต่ซาร์ปีเตอร์ต้องการทำให้ประเทศปลอดภัยและสร้างพันธมิตรให้รัสเซียเข้มแข็งด้วยการให้ลูกชายคนโต ซาเรวิชอเล็กซิส สมรสกับชาร์ล็อต คริสติน แห่งนิวบรันสวิกและวอลเฟ่นบุทเทิล หญิงสาวชั้นสูงจากตระกูล Welf ตระกูลขุนนางเชื้อสายเยอรมันและอังกฤษ
ลูกสะใภ้ของปีเตอร์มหาราช ถือเป็นการแหวกม่านประเพณีครั้งใหญ่ เพราะนั่นเท่ากับว่ารัสเซียกำลังยอมให้ทายาทของทั้งคู่ ซึ่งมีสายเลือกรัสเซียเพียงครึ่งเดียว เป็นผู้ปกครองอาณาจักร ปีเตอร์ไม่ติดใจเรื่องนี้ การแต่งงานกับชาร์ล็อต ให้ผลสำคัญเชิงอำนาจเพราะพี่สาวของเธอ เอลิซาเบธ คริสติน แห่งนิวบรันสวิกและวอลเฟ่นบุทเทิล เป็นถึงราชินีของพระเจ้าชาร์ลที่ 6 จักรพรรดิแห่งอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
น่าเสียดายว่า ปีเตอร์ที่สอง ทายาทของทั้งคู่ มีอายุได้แค่ 14 ปีก็เสียชีวิต เมื่อไม่มีทายาท ราชบัลลังก์รัสเซียจึงตกเป็นของแอนนา อีวานอฟน่า ลูกสาวของซาร์อีวานที่ 5 ผู้มีศักดิ์เป็นพี่ชายคนละแม่ของซาร์ปีเตอร์มหาราช แอนนาเกิดจากพ่อและแม่ที่เป็นชาวรัสเซียแท้ แม่ของเธอเป็นสตรีสูงศักดิ์จากตระกูล Streshnevy ทำให้แอนนาเป็นผู้ปกครองรัสเซียคนสุดท้ายที่มีเลือดรัสเซียไหลเต็มตัว
เมื่อแอนนาเสียชีวิตโดยไร้ทายาท รัสเซียเคยมีแนวคิดที่จะให้เชื้อพระวงศ์จากสายซาร์อีวานขึ้นครองบัลลังก์ต่อ โดยการยกเอาเจ้าชายอีวาน เด็กน้อยวัยสองเดือนผู้มีศักดิ์เป็นหลานชายของซาร์อีวานที่ 5 ขึ้นนั่งบัลลังก์ เรื่องนี้จบไม่สวย เพราะหนูน้อยครองบังลังก์ได้เพียงหนึ่งปี ก็ถูกเอลิซาเบธ ลูกสาวของซาร์ปีเตอร์มหาราชทำรัฐประหาร อีวานผู้โชคร้ายถูกจำคุกและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนเอลิซาเบธ ก็เป็นผู้ปกครองที่มีเลือดรัสเซียเพียงครั้งเดียวเพราะมีแม่เป็นชาวโปลิช (ที่อาจมีสายเลือดผสมจากทางเยอรมัน)
เอลิซาเบธไม่มีทายาท ยกบัลลังก์ให้กับลูกชายของน้องสาว - ปีเตอร์ที่ 3 ซึ่งตอนนี้มีเลือดรัสเซียเพียง 25% เพราะมีพ่อเป็นดยุกที่ปกครองพื้นที่แถบเดนมาร์ก-ทางเหนือของเยอรมัน ซาร์ปีเตอร์ที่ 3 สมรสกับเจ้าหญิงจากต่างชาติอีกเช่นกัน คราวนี้เป็นเจ้าหญิงจากเยอรมันนามว่าเจ้าหญิงโซเฟีย เอากุสเทอ ฟรีเดอรีเคอ แห่งอัลฮัลท์-แซบสท์ ต่อมาได้รับการถวายพระราชสมัญญาว่า "แคทเธอรีนมหาราชินี" (Catherine the Great)
ทายาทของปีเตอร์และแคทเธอรีน - พอลที่ 1 มีสายเลือดรัสเซียเหลือเพียง 12.5% การสมรสของพอลกับเจ้าหญิงจากเยอรมัน ทำให้ทายาทรุ่นหลังมีเลือดรัสเซียเหลือแค่ 6.25% และกว่าจะมาถึงยุคของนิโคลัสที่สอง-ซาร์คนสุดท้าย เลือดรัสเซียในกายของพระองค์ก็เหลือแค่ 0.7%
ตั้งแต่ยุคของปีเตอร์มหาราชเป็นต้นมา จะเห็นได้ว่าราชวงศ์โรมานอฟในยุคหลังเปิดทางให้การสมรสกับสตรีต่างชาติมากกว่าเชื้อสายรัสเซียเดิม เจ้าหญิงส่วนใหญ่มักเป็นเชื้อสายเยอรมันหรือเดนมาร์ก จะด้วยเหตุผลทางความมั่นคงหรือการค้าก็แล้วแต่ และก็เป็นไปตามกฎทางพันธุกรรม ลักษณะความเป็นรัสเซียก็จะถูกแบ่งครึ่งไปเรื่อยๆ จนยุคหลังเจ้าชายรัสเซียดูไปไม่ต่างจากเจ้าชายยุโปรทั่วไปเท่าไหร่แล้ว
อ่านมาถึงตรงนี้อาจจะตกใจ ไม่เป็นไร ราชวงศ์ยุโรปส่วนใหญ่ ก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้น ราชวงศ์วินเซอร์ของอังกฤษแทบจะเป็นเยอรมันพอๆ กับไกเซอร์ ส่วนราชวงศ์สวีเดนก็ใกล้กับเบลเยี่ยมมากเหมือนกัน ยังไงก็ญาติกันในสักทาง
Reference
https://www.rbth.com/history/326376-russian-blood-romanov-dynasty?fbclid=IwAR2IUW5rnvrDR0B6JwkgKuo0NRll2twRF4Klv-Gu1NxgRbO1Fybpct-eQgQ
cr.
https://www.facebook.com/ouropenspace/photos/a.1568344656508955/3502787453064656/