ผมถามตรงๆเลยนะ คือทั้งจีนหรือเมกามันมีคนที่อวยแต่ละข้างอยู่แล้วแหละ บางคนอวยจีน อาธิเช่นติ่งหัวเหว่ย บางคนไม่ชอบทรัมป์ (อย่างผมก็ไม่ชอบเพราะทรัมป์ได้สร้างปัญหาเรื่องความเปราะบางทางเศรฐกิจโลกแบบที่ไม่มี ปธน คนไหนทำได้ยุ่งเหยิงและฉิบหายขนาดนี้มาก่อน)

แต่ว่ากันด้วยเรื่องเทคโนโลยีเพียวๆ คนบ้านเราเอาแค่บ้านเรานะที่คิดว่าจีนเหนือกว่าอเมริกา ทั้งเทคโนโลยียานยนตร์ อุตสาหกรรม การสื่อสาร หรือ แม้แต่เทคโนโลยีในการทำสงคราม ผมว่าไม่มีอะไรที่จีนจะเหนือกว่าเมกาได้เลยแม้แต่เรื่องเดียว แม้แต่ญี่ปุ่นวัดกันระยะยาว 10-20 ปีข้างหน้า ผมว่าการพัฒนาก็จะยังดีกว่าจีน

สิ่งเดียวที่จีนมีคือเงินแต่ไม่มีแนวคิด แนวคิดเทคโนโลยีของโลกเราเริ่มมาจากตะวันตก เมกา เยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศษ สิ่งที่จีนทำแล้วโตพรวดๆแล้วทำให้ เยอรมัน ฝรั่งเศษ หรือ ประเทศที่เจริญแล้วอื่นๆอึดอัด แต่ทำอะไรไม่ได้ คือการที่จีนนั้นก๊อปปี้ทั้งเทคโนโลยี ก็อปแม้กระทั้ง แนวคิด หรือ ปติมากรรม และเอามาลดต้นทุนการผลิดเอง พัฒนาแล้วทำขายต่อในราคาที่ถุกลงตัดคู่แข่งทั้งหมดในโลกได้

ถ้าเมกาไม่ตัดกำลังตอนนี้ จีนก็จะโตไปเรื่อยๆ(แต่กลวงใน)แล้วระเบิดเองในซักวันอยู่ดี อย่างเทคโนโลยี ผมถามตรงๆ ถ้าคุณมีเงินระดับเศรษฐี คุรจะเลือกอะไร ระหว่าง หนึ่งใช้รถเยอรมัน/อิตาลี และ เทคโนโลยีประจำวันของเมกา/ญี่ปุ่น กับ สองคือใช้ทั้งรถและเทคโนโลยีประจำวันของจีนทั้งระบบ ผมไม่คิดว่าคนระดับบิลเลี่ยนแนร์คนไหนจะเลือกข้อสอง คนระดับทั่วไปอาจจะใช่เพราะมีเรื่องกำลังการซื้อมาเกี่ยวข้อง และจีนก็โตขึ้นมาจากคนกลุ่มนี้ซึ่งถือเป็นกลุ่มกำลังการซื้อที่ใหญ่ที่สุดในโลก

แต่ถ้าพูดถึงสุดยอดเทคโนโลยีล่ะ? เป็นไปได้เหรอครับที่จีนจะสร้างเทคโนโลยี่ที่เก่งกว่าคนอย่าง อีลอน มัสกท์ หรือ นักพัฒนาชาว อินเดีย รัสเซีย หรือยิว ที่ทำงานอยู่ในอเมริกา?

ผมว่า HarmonyOS เป็นเรื่องที่ฟังดูเพ้อมากๆเลยนะ โอกาศที่มันจะทำงานได้จริงอย่างที่เคลมไว้ในการพรีเซ้นท์ผมว่าน้อยมากๆ แล้วการจะทำสำเร็จให้ดีกว่า android โดยที่ไม่มีการช่วยเหลือจาก google โอกาสเป็นไปได้คือ 0 มันคือการโม้ให้รอดไปวันๆแต่ยังมีคนบ้านเราไปเชืออยู่ว่ามันสามารถทำได้?

ส่วนตัวคิดว่าเรื่องที่คิดว่าเทคโนโลยีจีนเหนือกว่าสหรัฐเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้นะ เพราะแนวคิดในการพัฒนาแรกเริ่มมันไม่ได้เกิดจากจีน คำว่าแนวคิดนี่แหละมันสร้างกันไม่ได้ จีนอาจจะเก่งที่สุดในการลดต้นทุนแล้วทำสินค้าขายในราคาที่ถุกที่สุดในโลก ส่วนนึ่งเพราะไปก๊อปปี้จากประเทศอื่นมา เป็นการผลิดสินค้าที่งบประมาณในการพัฒนาแทบจะไม่ได้ใช้

สมมุติเยอรมัสร้าง AUDI R8 ขึ้นมาคันนึง ครึ่งนึ่งของราคามันคือมูลค่าของการวิจัยหรือพัฒนา ทั้งเครื่องยนตร์ ระบบการขับคี่ หรือ แม้แต่การดีไซด์ภายนอก/ภายใน คูณด้วยระยะเวลา นั่นเพราะเค้าเป็นคนคิด ไมได้ก๊อปใครมาแล้วเอามาสร้างให้คล้ายๆและทำขายเหมือนที่จีนทำ

ส่วนตัวผม ผมว่าผมงง เวลาไปอ่านข่าว หรือ คอมเม้นท์ต่างๆ แล้วมีคนบอกว่าเทคโนโลยีจีนดีกว่าสหรัฐ มันเป็นไปไม่ได้เลยนะสำหรับผม สงครามการค้าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้คนที่จะไปก่อนคือจีน และถ้าวันไหนที่เยอรมัน ฝรั่งเศษ อังกฤษ อิตาลี่ ญี่ปุ่น หรือ พวกยิวเป็บบุคลากรระดับ1% มองเห็นเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นมาโดยที่ไม่ต้องไปกังวลกับรายรับมหาศาลที่จะสามารถโกยจากคนจีนพันล้านคนได้เมื่อไหร่ วันไหนที่พวกนี้รวมหัวแล้วบอกว่าจีนเลิกก๊อปปี้นะ ผมจะไม่ให้เทคโนโลยีอะไรกับประเทศคุณอีกแล้ว จีนก็จะตายแบบสมบูรณ์แบบเมื่อนั้น

ปล. ความเห็นส่วนตัวนะครับ คือผมแค่รำคาญเวลาไปอ่านคอมเม้นท์ในเน็ตของบ้านเรา ที่ยังมีพวกที่คิดว่าจีนนั้นเทคโนโลยีเหนือกว่าสหรัฐ ผมเคยคลุกคลีอยู่กับพวหที่ทำงานในเลเยอร์ที่พัฒนาระบบ โปรแกรม หรือ แนวคิดของ software architecture ผมบอกตรงนี้เลยนะ HarmonyOS หรือ หงเมิ่ง อะไรที่ฮิตกันตอนนี้เหมือนกับการโม้ขายฝันชั้ดๆ แล้วก็ยังมีคนเชื่อว่ามันจะดีกว่า IOS หรือ android มันคือ architecture ที่ไม่สามารถสร้างได้ในแง่ของการทำงานจริงๆ100&ด้วยซ้ำ

ตอบแบบนี้ก็ไม่ถูกนะครับ
จริงอยู่ที่เทคโนโลยีบางอย่างจีนสู้สหรัฐไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่าง

ยกตัวอย่างเช่นเทคโนโลยี 5G ตอนนี้สหรัฐตามหลังจีนอยู่อย่างน้อย 2 ปีนะครับ ตอนนี้ Huawei เดินสายขายเทคโนโลยี 5G พร้อมอุปกรณ์ทั้งในยุโรป และเอเชียตั้งแต่ปีที่แล้วแต่สหรัฐยังไม่สามารถเข็นเทคโนโลยี 5G ของตัวเองแบบสมบูรณ์มาขายได้เลย และเทคโนโลยีที่สหรัฐเข็นมาขายราคาก็แพงกว่า 5G ของจีนมาก และนี่เป็นสาเหตุหลัก สาเหตุหนึ่งที่ทำให้สหรัฐต้องแบนเทคโนโลยีจากจีน

เพราะเทคโนโลยี 5G น่าจะอยู่ไปอีกอย่างน้อย 10 - 20 ปี ใครที่สามารถขายเทคโนโลยีนี้ได้ก่อนและมากพอจะเป็นผู้กำหนดมาตฐาน และเทคโนโลยี 5G ต่างกับ 3G หรือ 4G อย่างมาก เพราะข้อมูลมหาศาลจะผ่านระบบ 5G ซึ่งสหรัฐยอมไม่ได้

และล่าสุดบริษัท Huawei ประกาศยอมขายสิทธิ์การใช้เทคโนโลยี 5G ของหัวเว่ย ให้กับบริษัทจากสหรัฐฯ
https://workpointnews.com/2019/09/15/huawei-to-sell-5g-technology-to-us-companies/

ผมมองตรงข้ามท่านเลย

จีนกินหมดแน่ต่อไป เทคโนโลยีตอนนี้จีนเลยช่วงก๊อปปี้แล้วครับ

เป็นช่วงวิจัยพัฒนามารัวๆ อะไรทำเองได้ก็พยายามทำเองหมดแล้ว

อาจจะมีบางอย่างที่จีนดีกว่าครับ แต่สำหรับผม อเมริกาก็ยังคงเจ๋งที่สุดอยู่ดี
อะไรที่จีนก็อปแล้วทำได้ดีผมว่าก็ไม่น่าไปอคติมันมาก

เหมือนดังเช่นเรามีข้อมูลจาก live แล้วเก็บข้อมูลมาเข้าสายข่าววงในนั่นแหละครับ เอามาเล่าให้เพื่อนๆฟัง ก็ไม่น่าจะผิด

ตอบแบบนี้ก็ไม่ถูกนะครับ
จริงอยู่ที่เทคโนโลยีบางอย่างจีนสู้สหรัฐไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่าง

ยกตัวอย่างเช่นเทคโนโลยี 5G ตอนนี้สหรัฐตามหลังจีนอยู่อย่างน้อย 2 ปีนะครับ ตอนนี้ Huawei เดินสายขายเทคโนโลยี 5G พร้อมอุปกรณ์ทั้งในยุโรป และเอเชียตั้งแต่ปีที่แล้วแต่สหรัฐยังไม่สามารถเข็นเทคโนโลยี 5G ของตัวเองแบบสมบูรณ์มาขายได้เลย และเทคโนโลยีที่สหรัฐเข็นมาขายราคาก็แพงกว่า 5G ของจีนมาก และนี่เป็นสาเหตุหลัก สาเหตุหนึ่งที่ทำให้สหรัฐต้องแบนเทคโนโลยีจากจีน

เพราะเทคโนโลยี 5G น่าจะอยู่ไปอีกอย่างน้อย 10 - 20 ปี ใครที่สามารถขายเทคโนโลยีนี้ได้ก่อนและมากพอจะเป็นผู้กำหนดมาตฐาน และเทคโนโลยี 5G ต่างกับ 3G หรือ 4G อย่างมาก เพราะข้อมูลมหาศาลจะผ่านระบบ 5G ซึ่งสหรัฐยอมไม่ได้

และล่าสุดบริษัท Huawei ประกาศยอมขายสิทธิ์การใช้เทคโนโลยี 5G ของหัวเว่ย ให้กับบริษัทจากสหรัฐฯ
https://workpointnews.com/2019/09/15/huawei-to-sell-5g-technology-to-us-companies/

เทคโนโลยี 5G จีนนำขาดกระจุย ครองแทบทั่วโลก ใช้อุปกรณ์หัวเหว่ยทั้งนั้น

ผมมองว่าตะวันตก อเมริกา ยังไงก็เก่งกว่าเอเชียวันยังค่ำ

แต่การที่พี่จีนก็อปได้ไปซะทุกอย่างก็ทำให้ฝั่งโน้นลำบากเยอะเลยทีเดียว เอาเฉพาะเทคโนโลยีที่เป็นอินโนเวชั่นนะครับ คิดขึ้นมาใหม่ ฝรั่งยังไงมันก็เก่งกว่า

ตราบเท่าที่มีชนชาติยิวอยู่ ก็ยากที่จะล้มเมกาได้

จีนไม่มีแนวคิดนี่ไม่น่าใช่ คนถ้าไม่มีแนวคิดเขาคงไม่มีเงินหรอกถ้าไม่ถูกหวย ส่วนเรื่องก้าวหน้ากว่าผมว่าจีนมันต้องมีเรื่องที่ก้าวหน้ากว่าแน่ เทคโนโลยีมีไม่รู้กี่รูปแบบสหรัฐจะชนะจีนทุกอย่างหรือจีนจะชนะทุกอย่างมันเป็นไปได้น้อยมากกับประเทศที่ระดับใกล้กัน ส่วนอนาคตมันก็ไม่แน่ ทุกอย่างมีขึ้นมีลงวันหนึ่งจีนเขาอาจจะมีสุดยอดนักคิดมาอยู่ในประเทศเขาก็ได้ กับประเทศที่มีทรัพยากรขนาดนี้มันเป็นไปได้ที่จะขึ้นมานำอยู่แล้ว ตอนนี้แน่นอนแหละจีนตามหลังสหรัฐเรื่องเทคโนโลยีพอสมควร แต่ถ้าจีนอ่อนอย่างที่ว่าสหรัฐคงไม่ไปตัดแข่งตัดขาแบบตอนนี้หรอก ถึงผมจะชอบสหรัฐมากกว่าแต่ผมไม่เคยมั่นใจว่าจะนำแบบนี้ไปตลอด

จีนพัมนาได้แค่เทคโนโลยี่ที่เป็น layer ระดับผิวครับ ระดับที่ใช้กับผู้ใช้งานทั่วไปส่วนใหญ่แต่สุดยอดเทคโนโลยียังอยู่กับ สหรัฐ เยอรมัน อังกฤษ หรือ ญี่ปุ่น อันนี้จีนก๊อปไม่ได้และเค้าคงไม่ให้ใครมาก๊อป เอาที่เราพอจะคิดกันออก คิดว่าอีกกี่ปีจีนจะสามารถสร้าง ซุปเปอร์คาร์ระดับที่ไปแตะ เฟอร์รารี่ ได้ มันไม่มีทางไงครับ จีนหาเงินได้จากการผลิดของเป็นเทคโนโลยีประจำวัน ได้เงินผู้ใช้ระดับทั่วไปถึงระดับล่างส่วนใหญ่ของโลก
แต่จีนไม่ไช่เป็นคนที่บอก หรือชี้นำให้เปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีของโลก เพราะโลกมันต้องเปลี่ยนผ่านระดับของเทคโลโลยีตลอดอยู่ในในทุกๆ 5 ปี 10 ปี มันคือเมกาที่เป็นคนเปลี่ยนระดับของเทคโนโลยี ยกตัวอย่าง สตีฟ จ๊อป เปิดตัวไปโฟนอันนี้ก็คือการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีของโลก

มันต้องมีคนจีนคนนึงที่สร้างสุดยอดเทคโลโลยีอะไรมาซักอันนึงแล้วคนทั้งโลกก้เริ่มเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีตัวนั้นภายใน10-20ปี คุณว่ามันจะมีรึเปล่าแบบนั้น? เอาแค่ราคาถูกมันเปลี่ยนพฤติกรรมคนค่อนโลกไม่ได้นะครับ เพราะอย่างแรกที่คนนึกถึงคือคุณภาพของสินค้าพอๆกับเทคโนโลยี หรือ การรัปประกัน เอาแค่ตรงนี้จีนก็ไม่เคยสร้างมันได้มาก่อนอยู่แล้ว


เชื่อผมเถอะ แนวคิดการพัฒนา ที่ได้จากประชากรมันสร้างกันไม่ได้ ค่าเฉลี่ยความสามารถในการพัมนาของนักวิจัยจีนก็ยังต่ำกว่าตะวันตกอยู่ อย่างสุดยอดเทคโลโลยีในอุตสาหกรรมอวกาศของเมกาที่กำลังพัฒนาว่ากันว่าตอนนี้ระดับน้องๆหนัง scifi อันนี้จีนก็ไม่มีทางทำได้ และไล่ไม่ทันด้วย

ผมว่าพูดยาก เทคโนโลยีมันกว้างเหลือเกิน ไม่รู้จะดูด้านไหนดี
เช่น แข่ง5G, แข่งสงครามcyber, space race ต่างๆนานา คงมีดีมีด้อยกันไป แต่มองมาไทยก้อจะช้ำใจหน่อยๆ

ในส่วนสงครามการค้า จริงๆผมว่า จขม อย่ามองแค่สินค้าที่เป็นในส่วนเทคโนโลยี การค้ามันไม่ใช่แค่มือถือ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

การค้าระหว่างประเทศมันรวมทุกอย่างในชีวิตครับ งานพลาสติกทั่วไป โดรน ขาตั้งกล้อง ถามว่าในโลกนี้ประเทศไหนสามารถทำต้นทุนได้ต่ำกว่าจีนบ้าง เคสมือถือ 30 บาทส่งถึงหน้าบ้านจะมีประเทศไหนทำได้บ้าง จำนวนและมูลค่าสินค้าจากจีนพวกนี้ยากที่ทางสหรัฐจะสู้ได้

อีกอย่างเมื่อก่อนจีนอาจจะใช้วิธีก็อปปี้และเอามาพัฒนา แต่ปัจจุบันมันเปลี่ยนไปแล้ว จีนเริ่มเข้าไปเทคโอเวอร์บริษัทใหญ่ๆในต่างประเทศ เพื่อเอาเทคโนโลยีมาพัฒนาต่อ ซึ่งถ้าเห็นบริษัทที่จีนเข้าไปควบรวมและซื้อกิจการ จขม จะตกใจมาก ปีที่แล้ว(2561)ประเทศจีนเข้าไปควบรวมและซื้อกิจการที่ต่างประเทศราวๆ 3 ล้านล้านบาท ลดจากปีก่อน (2560)23% 10 อันดับการควบรวมกิจการและซื้อกิจการของจีนในปีที่แล้ว 2561
10 อันดับ การควบรวมและซื้อกิจการในต่างประเทศของจีนปี 2561
อันดับ 1 บริษัท China Three Gorges Corporation เข้าถือหุ้น 100% ใน Energias de Portugal บริษัท พลังงานโปรตุเกส มูลค่า 1.8 แสนล้านหยวน

อันดับ 2 บริษัทผลิตรถยนต์ Geely Holding Group เข้าถือหุ้น 9.6% ใน Daimler AG มูลค่าเฉียด 6 แสนล้านหยวน

อันดับ 3 บริษัท Anta Sports ร่วมลงทุนในกิจการกีฬา Finnish Amer Sports ในฟินแลนด์ มูลค่า 4 หมื่นล้านหยวน

อันดับ 4 บริษัท Wingtech แพลตฟอร์มการวิจัยและพัฒนาอัจฉริยะ ได้เข้าถือหุ้น 80% ในผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ Nexperia BV มูลค่า 2.73 หมื่นล้านหยวน

อันดับ 5 บริษัทTianqi Lithium ใช้เงิน 2.72 หมื่นล้านหยวน เพื่อซื้อหุ้น 23.77% ใน Sociedad Quimica y Minera ของชิลี

อันดับ 6 บริษัท IDC รวมนักลงทุนจากจีนเข้าซื้อหุ้น 24.8% ใน Global Switch กิจการพัฒนาศูนย์ข้อมูล ในกรุงลอนดอนมูลค่า 1.85 หมื่นล้านหยวน

อันดับ 7 บริษัท Tsinghua Unigroup ผู้ผลิตชิปของจีน ร่วมลงทุนกับ Linxens ผู้ผลิตชิ้นส่วนฝรั่งเศส มูลค่า 1.8 หมื่นล้านหยวน

อันดับ 8 บริษัท Orient Hontai Captial ร่วมลงทุนใน บริษัท Imagina Media Audiovisual SL ของสเปน ซื้อหุ้น 53.5% มูลค่า 10,000 ล้านหยวน

อันดับ 9 บริษัท Taikang Insurance Group ลงทุน 9.6 พันล้านหยวน เพื่อซื้อโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Hinkley Point C ในสหราชอาณาจักร แต่ไม่มีการเปิดเผยอัตราส่วนการถือหุ้น

อันดับ 10 บริษัท CDH ลงทุนร่วมกับ บริษัท แกรนด์ฟาร์มาซูติคอล (จีน) จำกัด ในบริษัท Sirtex Medical ของออสเตรเลียในมูลค่า 9 พันล้านหยวน
https://mgronline.com/china/detail/9620000044369

เอาอย่าง HarmonyOS ที่ยกตัวอย่างมาเลยนะ อันนี้พูดเกินไป มันไม่เพ้อฝันหรอก แต่มันคือแนวคิด มันอาจจะยังไม่สมบูรณ์ตอนนี้ แต่มันไม่ใช่อะไรที่เฟ้อฝันเกินไปอย่างที่คุณอ้างเลย ขนาด Microsoft ที่เป็นยักษ์ใหญ่ในวงการ software ก็มีแนวคิดแบบนี้กับ Windows core OS ของตัวเอง แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้มันเสร็จสมบูรณ์ได้ในตอนนี้ เพราะฉะนั้นถ้า Huawei จะเริ่มแนวคิดนี้แต่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างก็ไม่ถือว่าเค้าขี้โม้หรอก

แล้วปัจจุบัน android ในจีนก็ใช้ service จาก google น้อยจนถึงไม่ได้ใช้เลยนะ แต่มือถือ android ในจีนก็ยังพัฒนา ecosystem ของตัวเองมาได้ในหลายๆอย่าง จนแทบไม่ต้องพึ่งบริการ google เลยด้วยซ้ำ ถ้าเค้าจะพัฒนามาตีตลาดบ้านเค้าก่อน ผมว่าเค้าทำได้ไม่เหนื่อยมากนะ เพราะจีนไม่พึ่งอะไร google มากอยู่แล้ว Fire OS ของ Amazon ก็ไม่เห้นต้องพึ่งบริการจาก google เลย ยังสามารถมีตลาดของตัวเองได้ Huawei แค่สร้างอะไรดีๆใช้ในบ้านตัวเองก็น่าจะเป็นไปได้ ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอะไร แต่ตลาดนอกบ้านก็ต้องยอมรับว่าอาจจะลำบากหน่อยถ้าไม่มีบริการจาก Google ก็เท่านั้นแหละ

คุณมองแต่ว่าจีนก๊อป จะตามโลกไม่ทันเอานะครับ

แต่ปัจจุบันก็ยังเหลื่อมกันอยู่แหละ แต่ไล่กันมาขนาดนี้แล้วอีกไม่นานคงเป็นคู่แข่งได้ ซึ่งถ้าจีนมาแข่งมันจะสมน้ำสมเนื้อกว่าญี่ปุ่นด้วยซ้ำ เลยไม่ยอมกันอยู่ไง

ขอเหตุผลหน่อยครับท่าน

ก็นั่นละครับ มันคือการเข้าไปดูดเทคโลโลยีของเค้าไง ประมาณผมมีเงินนะ คุณมีเทคโนโลยี เพราะงั้นช่วยกัน ผมออกทุนให้คุณก็วิจัยไป สุดท้ายก็ค่อยควบรวมทีเดียว แนวคิดแบบนี้แหละที่อันตรายสำหรับโลก เมื่อไม่มีใครให้แข่งคุณก็คือคนกุมชะตากรรมของโลกไงครับ ถ้าเมกาไม่ทำวันนี้ ก็จะไม่มีทางล้มได้ จีนเหมือนbossด่านนึงในเกมส์ที่พลังเยอะสุดๆ แต่ยืนระยะได้ไม่นาน ตัวใหญ่พลังเยอะแต่ข้างในกลวง เงินเยอะแต่ฐานไม่แข็งแรง ถ้าดึงเช็งกันไปมา จีนจะล้มแน่นอน ตอนนี้จากที่จะเข้าไปควบบริษัมยักษ์ใหญ่ของโลก ตอนนี้ทำได้แค่ถือหุ่นบริษัทที่ขาดดุลการเงิน ในสเปน หรือ อิตาลี่

สังเกตุว่่าหลังๆมานี้ไม่ใช่ เมกา แต่ เยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศษ หรือ แม้แต่ ออสเตรเลีย ก็เริ่มไม่ยอมเริ่มมีการคุ้มครองเทคโนโลยีหรือบริษัทตังเองมากขึ้นไม่ใช่แค่ สหรัฐ

เชื่อผม หลังจากนี้จีนจะลำบากไปเรื่อยๆ หนีเสียธนาคารจีนตอนนี้มากสุดในรอบ 10 ปี ถ้าเป็นประเทสอื่นล้มทั้งยืนไปแล้ว แต่นี่คือจีน ไหนจะปัญหาอสังหาริมทรัพย์ที่มหาศาลแต่เปราะบาง อาการจะออกเรื่อยๆแหละ ผมอาจผิดก็ได้ แตาผมเชื่อว่าถ้าไปสกัดจีนตอนนี้ วันหน้าจะสู้ไม่ได้ แล้วถ้าสมมุติเมกาไม่ทำ แล้วจีนได้ครองเศรฐกิจโลกเมื่อไหร่ แนวคิดควบรวมหนึ่งเดียวของจีนแบบจิ๋นซีฮ่องเต้จะกลับมา แล้วพวกคุณจะเชียร์จีนกันไม่ออก เชื่อผม