ก็อปมาจากเฟซ เฟซต้นทางเป็นตัวบุคคล ผมขอไม่ลงเครดิตละกันครับ





แต่เอาเข้าจริง ผมว่า รสนิยมสังคมเรามันแบบนี้ บุคลากรในวงการเค้าทำแบบอื่นก็ได้ แต่เกิดมันไม่ติดตลาด มันก็ไม่คุ้ม ก็คงต้องทำแต่แนวอย่างว่ามานั่นแหละ ในเมื่อรสนิยมบ้านเรามันเป็นแบบนี้

เอาจริงๆตบตีแย่งผัว ส่วนใหญ่ผมเห็นมีแค่ในรั้วโรงเรียน

พอหลังจากระดับมหาลัย แทบจะไม่เห็นใครตบกันเลย

ดังนั้น จะสะท้อนสังคมเยาวชนว่า ชอบตบตีกันงั้นหรอ

ละครไทย ผมเดาฉากต่อไปได้ตลอด รู้สึกตกใจตัวเองเหมือนกัน

โถ่ ตั้งกระทู้มาแบบร้างๆ นึกว่าจะไม่มีใครคุยด้วยซะแล้ว

ผมบ่นเรื่อง"สะท้อนสังคม"มาตั้งแต่ม.ต้น ตอนนี้จบแล้วมันก็ยังเหมือนเดิม


บอกตรงๆว่าทำเอาใจกลุ่มลูกค้าก็จบ ไม่ต้องมาใช้คำพูดสวยหรูว่าสะทอนสังคมนั่นนี่

เคยเห็นข้อความนี้มานานมากแล้วค่อนข้างเห็นด้วยอาจเพราะว่าเคยได้ยินมาว่าผู้ชายเกาหลีแท้จริงแล้วนิสัยและการกระทำต่อผู้หญิงไม่ค่อยดีเท่าไร เลยใช้สื่อนี้เป็นการชักนำ

พวกญี่ปุ่นนี้ก็แฝงมากับสื่อการ์ตูนนะ อย่างโดราเอม่อนนี้พวกผมตอนเด็กๆไม่มีใครอยากเป็น "โนบิตะ" เลยเพราะมีแสดงถึงความดูงี่เง่า อ่อนแอ

กลับมาละครบ้านเราผมไม่เคยดูเลยนะ เคยเห็นแต่ผ่านๆ ไม่รู้ว่าอคติหรือยังไงอาจเพราะผมดูพวก เกาหลี ญี่ปุ่นมาเยอะกว่าเลยรู้สึกว่ามันไม่น่าสนใจตั้งแต่บทของเรื่องแล้วอะ ยังไม่นับรวมการแสดง หรือมุมกล้องอะไรพวกนั้นอีกนะ


แต่อย่างว่าตลาดบ้านเรามันต่างกันครับ เค้าอาจจะทำให้ดีก็คงทำได้แหละ ผมคิดว่าฝีมือคนบ้านเรามันมี แต่ "คุณภาพ" คนที่ดูในประเทศมันต่างกันครับ ทำให้ดีแต่ขายไม่ออก คงไม่มีใครอยากทำ

"สะท้อนสังคม" เป็นแค่ข้ออ้างสวยหรูครับ

จริงๆ แค่ทำมาแรงๆร้ายๆตอบสนองกลุ่มเป้าหมาย ได้เรตติ้งแค่นั้นแหล่ะ

เรื่องตบตีเฉยๆ ตั้งแต่ผมเด็กๆละ มีฉากพระเอกข่มขืนนางเอก เกือบทุกเรื่อง

ตอนแรกไม่นะอย่านะ ไม่ๆๆๆๆ พระเอกจับกดปุ๊ป นอนในผ้าห่ม คอยลูบหัวกัน

พระเอก : ไม่เป็นอะไรนะ ผมรักคุณนะ ...นางเอก : ค่ะ (สะอื้น) TH series logic

คือแบบ ผกก. มันต้องเป็นคนแบบไหน ถึงใส่ฉากข่มขืนลงไปจนเป็นเรื่องปรกติ

ไม่แปลกที่ ตปท. จะมองบ้านเราว่า เรื่องการข่มขืน เป็นเรื่องปกรติในประเทศไทย

ใรชีวิตจริงปากบอก ข่มขืน = ประหาร ไอเลว ไอชั่ว แต่พอเป็นละครแล้วก็ ก็แค่ละคร

คือในละคร มันยังมีฉากพระเอกข่มขืนนางเอก เป็นว่าเล่น แถมคนดู ยังรู้สึกชอบกันอีก

พระเอกข่มขืนนางเอก = ฟิน ตัวร้ายจะข่มขืนนางเอก = เลว สุดยอดไปเลยใช่มั้ยล่ะ

#มุมมองต่างชาติมองบ้านเราแบบนี้ก็เพราะละครน้ำเน่า ตบตี ข่มขืน ในผ้าห่มนี้แหละ

เห็นด้วยกับอาจารย์ท่านครับ จริงๆความคิดได้ยินมานานแล้วนะเป็นสิบปี น่าจะคิดแบบนี้เยอะ แต่ทำอะไรไม่ได้ ผู้จัดอ้างว่าแบบนี้ขายได้เลยทำ โดยที่หวังเอาเรตติ้งอย่างเดียว ไม่สนว่าสังคมจะดีขึ้นหรือเปล่าถ้าดูละครของเรา

แต่จริงๆเค้ายกตัวอย่างมาไม่ครบ คือเหมือนจะเน้นที่เกาหลีแต่ต้องเอาของชาตอื่นมาด้วยเพื่อให้มันดูน่าเชื่อถือขึ้น

ถ้าผมมองว่าละครไทยมันเหมือนซีรีส์ญี่ปุ่นหรือมังงะญี่ปุ่นแนวโจเซล่ะ ที่ทำมาขายผู้หญิงเพ้อฝันถึงผู้ชายในอุดมคติที่ไม่มีทางเจอในชีวิตจริง


จริงๆมันก็แค่ ละครไทยทำมาขายกลุ่มเป้าหมาย ช่อง3ขายคนในเมือง ช่อง7ขายคนต่างจังหวัด แต่กลุ่มลูกค้าเดียวกันคือส่วนมากเป็นเพศหญิงอายุกลางคนขึ้นไป มีเยาวชนบ้าง

ที่เราๆว่ากันเพราะเราไม่ดูเพราะเราไม่ใใช่กลุ่มเป้าหมายของเค้า เราไม่ถูกจริตเค้าก็ไม่แคร์

ปัญหาคือตรงนี้แหละ ทำละครทุกเรื่องแมร่งทำสนองกลุ่มเป้าหมายเดิมตลอด ไม่มีความหลากหลายเลย ทำให้ละครไทยเป็นแบบเดิมๆมาตลอด เรื่องไหนที่พยายามเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายหรือต้องการขยายกลุ่มลูกค้าของละคร ละครก็จะฉีกแนวออกไปแต่เรตติ้งก็อาจจะไม่ดี ซึ่งมันก็มีละครแบบนี้แต่น้อย

ละครน้ำดีเรตติ้งน้อย มือไม่ถึงด้วยมีส่วน

จริงส่วนหนึ่งครับ แต่จริงๆก็ยังมีผู้จัดดีๆที่แคร์งานคุณภาพและแคร์สาระอยู่แต่ก็นับว่าน้อยมากและงานก็ไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่ สภาวะที่คุณว่ามานั้นมันเปนวงจรครับ ตัดเรื่องเหตุผลเพื่อสังคมหรือนำสังคมออกก่อนได้เลย หลังจากนั้นมาดูครับว่าใครมีส่วนรับผิดชอบบ้าง

ผู้จัดและช่อง ผู้จัดหลายๆเจ้าก็อยากทำแหละครับประเด็นใหม่ๆ อะไรที่ดูมีลีลาชั้นเชิง อะไรที่ดูมีค่าดูมีประโยชน์กว่าที่เคยทำ แต่ต้องไม่ลืมว่าเขาตัดสินใจเองไม่ได้ อำนาจทั้งหมดรวมถึงเงินทุนอยู่ที่ ช่อง ซึ่งโชคร้ายที่การตรวจพิจารณาหลายๆอย่างของหลายๆช่องนั้นไม่เอื้อต่ออะไรใหม่ๆ อย่างบางช่องพยายามปฏิเสธเพศที่สามโดยสิ้นเชิง การเลือกดันดาราในสังกัดก่อนทั้งที่ไม่มีฝีมือพอ การมองประเด็นสังคมบางอย่างแบบstereotype หรือ การที่พล็อตที่มีสาระเข้มๆหรือหนักเกินไปก็ถูกปัดตกเพราะกลัวขายไม่ได้ คนไม่ดู ผู้จัดก็รับบรีฟตรงนั้นมาโดยดุษฎีถ้าอยากได้งาน จะเอาอะไรไปเถียงได้ ใช่ไหมครับ? คนเขียนบท นักแสดง ก็เปนไปตามทิศทางนี้กันแทบทั้งหมด อินดี้ไม่ได้ ไม่งั้นตกงาน ;)

ที่สำคัญที่เราบอกกันว่าละครมันน้ำเน่า มันทายออกว่าฉากต่อไปเปนยังไง อันนี้ไม่แปลกเลยครับ เพราะ มันมีสิ่งที่เรียกว่า เรตติ้ง อยู่ ละครมันทำออกมาแบบนั้นแล้วมันดันมีตัวเลขยืนยันฐานคนดูที่ต้องการเสพอย่างเหนียวแน่นเสียด้วย เอเจนซี่โฆษณาเขาก็ดูตรงนี้ล่ะครับ การทำอะไรใหม่ๆมันเปนความเสี่ยงมากในแง่ธุรกิจสำหรับทั้งช่องและผู้จัด จะทำทำไมเล่าครับ ในเมื่อแบบเดิมๆมันยังขายได้อยู่แบบนี้ สุดท้ายก็เอวังครับ แต่ถ้าจะมีอะไรพอให้หวังได้ คือฐานคนดูกำลังเข้าสู่ยุคการเปลี่ยนแปลงครับ เอเจนซี่สนใจยอดวิววออนไลน์มากขึ้น รสนิยมที่เปลี่ยนไปของกลุ่มคนที่กำลังโตเปนผู้ใหญ่ที่มีกำลังซื้อ แล้วก็แพลตฟอร์มการเผยแพร่ที่มีมากขึ้นเนี่ยแหละครับ ;)

ทำมาขายตลาดอย่างเดียว ตลาดก็ชอบเสพย์ดราม่า

แต่นานๆก็มีละครน้ำดีเหมือนกันนะ แต่กระแสเงียบกริ๊บ ขายไม่ได้

แต่มันก็แค่ส่วนนึง ถึงอย่างนั้น ในปัจจุบัน อย่างในญี่ปุ่นก็ยังมีข่าวการกลั่นแกล้งกันรุนแรงบ่อยๆอยู่เลย

ผมขอไม่พูดเรื่องเเนวสะท้อนสังคมนะ เพราะเเก้ยากจริง คนเเก่บ้านเราซึ่งเป็นกลุ่มคนดูหลักก็ชอบดูเเบบนี้

เเต่อยากให้ละครบ้านเราทำฉีกเเนวไปเลยเเบบเเนวเลือดข้นคนจาง ฮอร์โมน คือเเบบก็สะท้อนเเหละ เเต่เส้นเรื่องมันไม่เดินทื่อเป็นเส้นตรง

ละครบ้านเราดูตอนต้นก็รู้ตอนจบเเล้ว ไม่ต้องเดา ไม่ต้องคิดตาม ไม่ต้องอะไรทั้งนั้น เน้นขายฟินอย่างเดียว น่าเบื่อสุดๆ

เเม่ผมบอกละครไทยดูตอนเเรกกับตอนสุดท้ายพอเพราะที่เหลือน้ำทั้งเรื่อง เออ ผมก็ว่าจริงเเฮะ

ผมก็ชอบดูแนวนี้