ตอนนี้ที่อันเช่คุม มาดริดปีแรกเคยให้สัมภาษณ์ว่า 4-4-2 เป็นระบบที่ ทรงประสิทธิภาพที่สุดเวลาเล่นเกมรับ

คือปีนี้ ใน UCL คู่ที่ผมได้ดู สอง คู่ใหญ่ คือ นาโปลี-ลิเวอร์พูล, แอตมาดริด-ยูเวนตุส

ตอนเวลาเล่นเกม มีถึงสาม ทีมที่ยืนใน Formation 4-4-2

คือ นาโปลี แอตมาดริด และยูเวนตุส


นาโปลี กับ แอตมาริด เล่นแผนนี้เป็นประจำอยู่แล้ว แต่ยูเวนตุส ที่เปลี่ยนโค้ชใหม่ กลับเลือกที่จะใช้ระบบ Hybrid 4-4-2 + 4-3-3


จุดเด่นของแผนนี้ก็อย่างที่ทุกคนทราบ ว่าค่อนข้าง Imprement เพราะจัดระเบียบแนวรับได้ง่าย ยืนตำแหน่งได้ดี จะบีบก็ได้จะคุมพื้นที่ก็ได้ เหมาะทั้งเล่นแบบ High Press และเล่นรับลึก


ในส่วนของ ยูเว่ กับ แอดมาดริด ผมยังไม่ประทับใจเท่าไหร่นัก (เฉพาะในเกม CL)
เพราะหลังยืนกันหลวม แบ็คยืนแคบแปลกๆ ปล่อยให้อีกทีมครอสได้ง่ายๆ ตลอด แต่ทั้งสองทีมเพิ่งปรับทีมครั้งใหญ่ไป เดี๋ยวก็คงจะเข้าที่เข้าทางเอง


ส่วน นาโปลี เจอะลิเวอร์พูลบ่อย เล่นกันจนรู้ไส้รู้พุง ที่เห็นๆ คือ แก้เพรสลิเวอร์พูลดีมาก แถมยังกดไม่ให้ แบ็ค ลิเวอร์พูลเติมขึ้นมาครอสได้ง่ายๆ เฉพาะนัดแรกรอบแบ่งกลุ่ม ผมให้คะแนนการสู้ทางแท็กติก คู่นี้ 9.0/10.0 เลยทีเดียว


โดยส่วนตัวผมคิดว่า เทรนด์ การเล่น Hybrid แบบ 4-4-2 ในเกมรับ กับ Formation อื่นๆ ในเกมรุก กำลังเริ่มมา (หรือเริ่มกลับมา)


คนอื่นๆ เห็นว่ายังไงบ้างครับคิดว่า 4-4-2 เป็น Formation ที่ยืดหยุ่นที่สุดเวลาเล่นรับมั้ย ?

แล้วคิดว่ากำลังจะกลับมาเป็นเทรนนิยมอีกรึเปล่า ?

ตอนนี้ 4-4-2 เหมือนเป็นอัลติ คือจะงัดมาใช้ตอนเจอทีมที่ศักดิ์ศรีเสมอกันแล้วไม่ได้ตั้งใช้แต่แรกด้วย บางทีก็เปลี่ยนแผนตอนเอาระหว่างเล่น

ผมว่ามันเคาท์เตอร์ 4-2-3-1 ได้ตรงที่ว่าไดเรคบอลผ่านกองกลางไปได้เลย แล้วมีคู่หน้ายืนค้ำ ซึ่ง 4-2-3-1 มันใช้เล่นกับ 4-3-3 ตรงที่ว่ามีตัวรับคู่คอยซ้อนแบ๊ค

แต่ถ้า 4-4-2 แล้วเล่นโยนบอลจากปีกแบบไม่สุดเส้น กลางรับที่มัวพะวงแบ๊คหรือเล่น b2b อยู่ก็อาจจะโดนตัดจากเกมไปได้เยอะกว่า

แต่มันก็เหมือนเล่นเป่ายิ้งฉุบ คือพอฝั่งตรงข้ามสวิตช์มาเล่น 4-3-3 แผน 4-4-2 ก็จะโดนโจมตีที่แบ๊ค ปัจุบันเลยแก้ไปใช้แผนไดมอนด์ มีตัวซ้อนแบ๊คถ้าจำเป็น

ส่วน 3-5-2 หรือ 5-3-2 ไม่ขอพูดถึง ดูทีไรจะหลับขี้เกียจวิเคราะห์

รู้แค่นักเตะกับโค้ชน่าจะต้องเก่งพอสมควรถึงจะทำได้

เพราะอูไน พยายามทำแบบนี้มาหลายนัดแล้ว เละเทะทุกนัด

นัดแรกใช้ 4-4-2 เพื่อรับมือกับลิเวอร์พูลเหมือนนาโปลีเนี่ยแหละ แต่นักเตะไม่เข้าใจแท็คติคเลยทำให้ประสิทธิภาพลดลงทั้งรุกและรับ ทำอะไรลิเวอร์พูลไม่ได้เลย จนท้ายเกมส์ปรับมาเล่นแผนถนัด 4-2-3-1 บวกกับคู่แข่งผ่อนเกมส์ถึงเริ่มได้เล่นกับบอล

แล้วนัดล่าสุดที่เจอวัตฟอร์ตก็ใช้แบบ รุกแผน รับแผน ตอนรุกเลือกใช้ 4-3-3 แต่พอรับปรับมาใช้ 4-4-2 ดึงโอซิลลงมา สรุปคือเละเหมือนเคย โดนวัตฟอร์ตยิงไป 30 ครั้งเกือบพลิกกลับมาแพ้

Hybrid 4-4-2+4-3-3 เป็นระบบที่ผมว่า Ancelotti ใช้ได้โหดและสมดุลมากสมัยคุม R.Madrid

4-4-2 DEF
---------Ronaldo------Benzema ----------

Di Maria---Alonso-----Modric-------Bale

Marcelo----Ramos----Pepe----Carvajal

4-3-3 ATK
----Ronaldo----Benzema------Bale------

------Di Maria----Alonso----Modric------

Marcelo----Ramos----Pepe-----Carvajal

ปล.ปัจจุบันมีหลายทีมนำไปใช้ รวมถึงแชมป์โลก France ล่าสุดก็เหมือนจะใช้ด้วย

ถ้านับแค่เกมรับอย่างเดียว ชอบ 3-5-2 มากกว่า
บางจังหวะมันสลับเป็น 4-4-2 ได้ โดยเฉพาะในการป้องกันริมเส้น
แต่ที่ดีกว่า 4-4-2 คือ การป้องกันตรงกลาง เซนเตอร์มันขยับได้รอบทิศ ซ้อนได้ ขนได้ แถมทำให้กลาง 3 คนดันตัวเองเข้าไปในพื้นที่แปลกๆได้ โดยไม่ต้องกังวลข้างหลังมากนัก


4-4-2 แบบแอต ก็เป็นแผนที่พิเศษมากๆ เล่นยาก (จะมองว่าเป็น 4-2-2-2)

สมัยนี้ทีมเล็กฉลาด ซื้อปีกไวๆมาแล้วเซ็ตบอลที่มุมเขตโทษแต่ละฝั่ง สลับกับโยนลึกหรือคัตแบ๊คได้หมด ซึ่งตรงนี้เป็นจุดบอดของ 4-4-2 โบราณเลยเพราะมี DM ตัวเดียว

อีกอย่าง 4-4-2 โบราณมันเน้นดวล ตอนนี้เด็กยุโรปคงเรียน possession football หมดละ

4-2-2-2 ที่แพรวพราวที่สุดที่ผมเห็นมาคือ บราซิล Confederation cup ปี 2005

สอนบอลทั้ง เยอรมนีกับอาเจนติน่าเลย

มูรินโย่ไม่ถูกใจสิ่งนี้

สำหรับทีมที่เล่น back 4 และไม่เพรสซิ่งแดนบน หรือเพรสแดนบนแล้วไล่ไม่จน เชฟ 4-4-2 ในเกมรับมันคือพื้นฐานอยู่แล้ว เพราะต้องขึงไลน์ 2 ชั้น ยืนกันเปนรูปกะละมัง

ทุกFormationมันจะมีข้อดีข้อเสียในตัวมันเอง และจะคะคานกัน

ไม่ว่าจะเล่นแผนไหนสุดท้ายขึ้นอยู่กับวิธีการและแทคติกของโค้ช

4-4-2มันจะเป็นพื้นฐานที่เข้าใจง่ายหน้าที่ชัดเจน พวกเพลย์เมกเกอร์จึงจะเป็นปีกหรือหน้าต่ำ คู่กลางจะต้องเล่นได้ทั้งรุกและรับ

3-5-2และ5-3-2ก็จะคล้ายกัน ต่างกันตรงแบ็คกับวิงแบ็ค ถ้าแบ็คจะเน้นรับ ถ้าวิงแบ็คก็จะเป็นปีกด้วย 2ระบบนี้จะเน้นเจาะด้านข้างและจะปิดทั้งตรงกลางและด้านข้างเช่นกัน

4-3-3 ระบบนี้หลายๆทีมยังเล่นไม่เหมือนกัน บางทีมจะออกไปแนว4-2-3-1หรือ4-5-1ด้วยซ้ำ ผมเองชอบ4-3-3ที่จะให้3ตัวหน้ารุกอย่างเดียวไม่ต้องลงมารับในแดน แต่จะบีบให้กองหลังคู่แข่งเติมไม่ได้

3-4ปีก่อนมีคนบอกระบบหลัง3ล้าสมัย แต่หลายทีมได้แชมป์เพราะระบบหลัง3

อย่างที่ผมเขียนไว้ข้างต้นทุกระบบจะดีหรือไม่เพราะโค้ชล้วนๆ บางคนรับ4-3-3แต่เมื่อรุกก็จะปรับเป็น3-4-3 ดันแบ็คขึ้นเป็นปีก ถอยมิดฟิลด์ตัวรับลงมายืนเป็นสวีปเปอร์

ยูเว่ปรับตามแอต

3 5 2 ลิเบโร่ ทันดูเยอรมันยุคซามเมอร์ ไม่รู้มันเทพเพราะระบบรึเทพเพราะคนกันแน่ แต่ดูแล้วมันแน๊นแน่น

มันคือแผนยืดหยุ่นมากที่สุดครับ

อยากรับ ถอยหน้าลงกลางคนนึง ก็เป็น 4-5-1 แล้ว

หรือโยกมาเล่นไดม่อนก็ได้

มันปรับง่ายครับ นักเตะไม่ต้องคิดเยอะ

คหสต. ผมว่า ถ้านักเตะ แต่ละตำแหน่งทำหน้าที่ของตัวเองได้เพอเฟค แผน 4 2 3 1 จะสมดุลสุด

CM 2 ตัว เนนเกมส์รับสุดๆ 1ตัว โฮลบอล เชื่อมเกมส์ 1ตัว

LAM CAM RAM ทำงานได้อิสระ ยิงบอลสมัยใหม่ ปีกตัดเข้าในบ่อยๆ

การใช้แผน4 4 2 มันเหมือนดี แต่คู่ต่อสู้ เเก้เกมส์มาดี ตัดบอลไม่ถึง หน้า 2 ตัว กองหน้าก็แทบไม่ได้บอลอยู่ละ

ผมว่ามันก็แล้วแต่สถานการณ์ด้วยแหละ ตอนป๋าคุมแมนยู เน้นเกมริมเส้นแกก็เล่นแต่ 4-4-2

อาจเพราะกลาง 4 ตัวโหดด้วยตอนนั้น เลยเล่นแบบนั้นในลีคได้ตลอดรอดฝั่ง

แต่แกถึงกับยอมเปลี่ยนเป็นกลาง 5 เพราะแกบอกว่า พอไปยุโรป เกมตรงกลางสู้ยักษ์อื่นๆยาก

ลอยยอมไปสอยเวรอนมา แต่ก็อย่างที่เห็น มันฝืนธรรมชาติแมนยู จนต้องกลับไประบบเดิม

แล้วเปลี่ยนแปลงรูปแบบเป็นนัดๆไป