ชนะทีมท็อป 6 มา ขออวยหน่อยนะ

เกมนี้ต่างจากจาก 3 เกมส์ก่อนอย่างเห็นได้ชัดเลย จำกันได้ใช่ไหม 3 เกมก่อนที่พวกเราบางคน (โดยเฉพาะผมเอง) บ่นกันระงมเลยว่า หงส์เล่นผิดฟอร์มอ้ะป่าว ทำไมเล่นเฉื่อย ๆ แทงหลุด ๆ แบบนี้ แถมเกมบุกก็เหมือนทีมกลางตาราง โยนสาด ไม่ก็ออกปีกกะแบ็คอย่างเดียว กลางกะหน้าเล่นแบบง่อย & ไร้ไอเดียมาก โดยเฉพาะครึ่งแรก แต่จะดีขึ้นผิดตาในครึ่งหลัง และก็พอถูไถ 3 แต้มมาได้

นัดนี้ผมเลยลองเดาแนวทางเล่น ๆ หลังจากได้ดูตารางแข่งล่วงหน้าแล้วพบว่า เราไม่มีเกมกลางสัปดาห์มาคั่นเลย และจะเป็นแบบนี้ไป 3 อาทิตย์ หมายความว่า 21 วันนี้ เรามีเตะแค่ 2 นัดเท่านั้น

อันที่จริงถ้าเราลองดูล่วงหน้าไป 6 นัด เราจะมีเตะแค่ 6 นัด ใน 63 วันเท่านั้นเอง แสดงว่าเรามีเวลาพักเหลือเฟือละช่วงนี้ แถมนัดนี้เล่นในบ้านด้วย ผมก็เลยเดาว่าเกมนี้ บอสน่าจะจัดคอนเสิร์ตเฮฟวี่เมทัลแน่ ๆ

แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ นัดนี้ดูแล้วรู้สึกต่างจาก 3 เกมแรกที่เรามีโปรแกรมชุกอย่างชัดเจนเลย

เกมนี้ทำให้เรารู้เลยว่า บอสสามารถทำให้ลิเวอร์โหดได้ขนาดไหนถ้าเล่นแบบไม่ต้องออมแรง คือ โคตรมันส์อ่ะ

นัดนี้ เกมรุกของเราเล่นได้หลากหลายมาก ๆ ไม่รู้ว่านี่คือที่เรียกว่าโททัลฟุตบอลไหม แต่ดูหลากหลายดี มีลูกแทง ลูกครอส โดยเฉพาะลูกชิ่งแกะเพรส โอ้ววว ผมเคยคิดสงสัยมาตลอดว่าลิเวอร์แก้เพรสไม่เป็นหรอวะ 5555 (หรืออาเซไม่ค่อยเพรสด้วยมั้ง)

ยิ่งตอนต้นครึ่งหลังนี้ ตามสไตล์เลย พอเสียงนกหวีดครึ่ง 2 ดังปุ๊บ คล็อปเอนจิ้นก็ทำงานทันที สังเกตุว่าบอสจะชอบสั่งเร่งเกมเป็นพิเศษช่วงนาทีหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของเกม เช่น ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก และตอนเริ่มเกมต้นครึ่งหลัง ถ้าขึ้นนำช่วงเวลานี้ได้ เกมนั้นก็จะเล่นง่ายขึ้นเยอะ เข้าทางเลย

ถ้าแมนยูมี “เฟอกี้ไทม์” ลิเวอร์พูลก็มี “เจอเก้นไทม์” ล่ะวะ อิอิ

แล้วที่สำคัญที่สุด ในยุคเพรสซิ่งครองโลกแบบทุกวันนี้ ผมดีใจนะที่จะว่าไปแล้ว คล็อปถือเป็นต้นตำรับเลยก็ว่าได้ อย่าหาว่าอวยเวอร์นะ แต่การเพรสซิ่งของลิเวอร์แตกต่างจากทีมอื่นจริง ๆ ว่ะ คือเวลาทีมเราเพรสแบบไม่ต้องถนอมแรงนี่ โคตรโหด รู้เลยว่าคล็อปเอนจิ้นแตกต่างจากการเพรสซิ่งทั่วไปมาก

เหมือนที่เป๊บเคยบอกตอนปี 2011 หรือ 2012 นี่แหละ (มั้ง) ว่า ฟุตบอลของคล็อปไม่ใช่การเพรสซิ่งกดดันธรรมดา แต่เป็นรถบดถนนเลย คือแบบ เออว่ะ โหดจริง ทั้งบด ทั้งบุก (แต่เพรสซิ่งแบบเป๊บก็สุดยอดนะ คิดว่าคงจะระดับเดียวกับคล็อปแหละ แต่แค่คนละสไตล์)

ไม่ได้เห็นบอสสั่งบุกแหลกแบบนี้มาหลายนัดแล้ว ตอนนัดชนะต่างดาว 4-0 แค่คิดว่าลูกฮึด+ฟลุ๊ค. พอมาเห็นนัดนี้ (+เทียบกับ 3 นัดก่อนที่เล่นแบบถนอมแรง) เลยยิ่งรู้สึกดีใจที่ทีมเรารู้จักเล่นแบบถนอมแรง หรือจะให้เปิดคล็อปเอนจิ้นติด ๆ กันแบบนัดนี้ก็ได้ตามแต่บอสจะสั่งเลย

ยิ่งพอมาดูตอนท้ายเกมนัดนี้แบบเข้าใจสัจธรรม พอผมเห็นทีมกลับมาผ่อนเกม กลับมาเล่นแบบออมแรง (หรือหมดแรงก็ไม่รู้) ก็ยิ่งรู้สึกดียิ่งขึ้นไปอีก เพราะรู้สึกทีมมีพัฒนาการมาก ๆ ไม่ใช่สักแต่ตะบี้ตะบัน แต่ตอนนี้ทีมเรารู้จักเล่นแบบปิดเกมและออมแรงเป็นแล้ว

ไม่มีอะไรมาก แค่ดีใจ ไม่ใช่แค่ดีใจเพราะชนะทีมใหญ่แบบอาเซนอลเท่านั้นนะ แต่ดีใจเพราะได้เห็นว่า เวลาถนอมแรง เราก็ประคองตัวรอดไปได้ และพอเล่นแบบเอาจริง คล็อปเอนจิ้นก็สามารถบุกแหลกสู้ได้ทุกทีม

ต่อไปนี้เวลาทีมเล่นเฉื่อย ๆ ผมคงต้องหันไปดูตารางเตะล่วงหน้าก่อนละ แต่รู้แค่ว่า ช่วง 5-6 นัดที่จะถึงนี้เราคงได้ดูเฮฟวี่เมทัลบ่อย ๆ แหละ เพราะโปรแกรมยังไม่ชุกเท่าไหร่

คล็อปอยากทำอะไรก็ทำเลย คล็อปแ_่งเจ๋งจริงว่ะ

ปล. คหสต นะครับ ถ้าหากไม่ตรงใจใคร หรือรู้สึกผมอวยเวอร์ไป ต้องขอภัยด้วย

อารมณ์ที่ทีมเสียประตูให้ปืน 1-3 ทั้งทีมผิดหวังมากและเกรี้ยวกราด นี่คือสิ่งที่คล้อปป์ทำให้ทีมแกร่งขึ้นเรื่อยๆ มาโดยไม่รู้ตัว ทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน

ทีมตอนนี้ กับทีมปี 2017 ต่างกันมาก

ตอนนั้นต้องเพรส ต้องยิ่งอย่างบ้าคลั่ง
เพื่อให้ยิงมากกว่าเสีย นักเตะเปราะ เจ็บระนาว

ตอนนี้เสถียรภาพเกมรับมี เสียยาก
ก็ไม่ต้องโหมบุก เพื่อยิงประตู
เร่งเมื่อไรก็ได้เมื่อนั้น มีไพ่หลายใบ โจมตีหลายแบบ

หากไม่นับแมนซิ ที่เทมโปโหดทั้งเกม
แถมยังเปิดอัลติเมื่อไรก็ได้ (แต่โดน var ประจำ)
หงส์ก็อยู่ในระดับที่ปรับเทมโปได้โหดพอควรเลย

การที่ปีที่แล้วตัวหลักไม่เจ็บและสดจนถึงนัดชิง ก็เพราะรักษาระดับการเล่นได้แบบนี้

จากทีมที่ต้องเพรสแบบไม่มีอะไรจะเสีย ไต่ระดับมาชนกับทีมระดับ top แบบสูสีไม่เป็นรองใคร เล่นแบบรักษาจังหวะเกมตัวเองได้ เร่งเกมเพื่อเอาประตูหวังผลได้ นิ่งและปิดเกมได้ พัฒนานักเตะไปอยู่ในระดับ top 100 ได้ทั้งตัวหลักในทีม

3 ปีนี้หงส์พัฒนาอย่างก้าวกระโดด จากทีมระดับ B มาเป็น A+ ได้อย่างน่าชื่นชมจริง ๆ

ดูหงส์เล่นเกมส์มันเหมือนกับเครื่องยนต์ที่จูนน์มาอน่างดี มีความเร็ว การประสานงานอย่างดี แย่งบอลเยี่ยมมันดูไหลลื่นจริงๆ

ที่เห็นอย่างนี้เพราะก่อนดูหงส์ ดูคู่อื่นรอมันเห็นความแตกต่าง

ละตอนไหนเอาเล่นบ้างครับ

ตอนแบบ 3 นัดแรกที่ต้องเล่นออมแรงอ่ะครับ เล่นแบบโหลยโท่ยมาก โดนเขากดทั้งเกมก็ยังปล่อยไปแบบนั้น ไม่เพรส ไม่บดเลย

ตอนนั้นยังไม่มีเพื่อนในบอร์ดเตือนสติ ผมดูไปบ่นไปทุกเกม

หลายทีมความฟิตก็เพิ่งจะมาเข้าที่ประมาณสามสี่นัดนี่แหละผมว่านะ
แต่ลิเวอร์พูล ความรู้สึกผมคือยิ่งเจอทีมใหญ่จะมีพลังตับวกเพิ่มเข้าไปอีก คล็อปก็จะบิวท์ลูกทีมหนักกว่าเจอทีมกลางๆหรือทีมเล็ก ผลงานกับทีมใหญ่ดีจิง ยอมรับ

ยังไม่มีเกมกลางสัปดาห์ ก็เพรสซิ่งหนักๆแบบนี้ได้แหล่ะ แต่เดี๋ยว UCL มาค่อยว่ากันครับ

การเล่นเป็นแบบทีมยักษ์ใหญ่เต็มตัวละครับ

คหสตนะครับ ส่วนหนึ่งผมว่ามาจากอีก 6 นัดที่เหลือ เราเตะน้อยด้วยมั้งครับ คือ 63 วันมีเตะแค่ 5-6 นัดเอง ไม่มีโปรแกรมกลางสัปดาห์เลย ได้พักเต็มที่

บอสเลยสั่งลุยแหลกตั้งแต่แรกได้เลย ถ้าหมดแรงหรือนำห่างแล้วค่อยผ่อนเกมเอา

ยิ่งเกมนี้เจอทีมใหญ่แบบที่ท่านว่าด้วย เป็นทั้งการตัดแต้มคู่แข่งและสร้างโมเมนตั้มให้ทีมเราด้วย

เดี๋ยวนี้ปกติคล็อปจะเพรสจัดช่วง5นาทีแรก กับท้ายครึ่งแรก ของครึ่งแรก ต้นครึ่งหลัง

ดังนั้น การได้ประตูจึงมักอยู่ช่วงนี้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

เดี๋ยวนี้ถ้านำเร็ว คือแพคเกมส์เลย ออกแนวรับรอสวนด้วยซ้ำ

นี่คือที่เราบ่นๆกัน ครองบอลเราจะอยู่42% ประจำ

แท็คติกการเพรสครึ่งสนามแบบนี้ เห็นใช่เจอบาซ่า กับเรือ นะ เหมือน ใช้เฉพาะกับทีมที่มีแนวรุกที่โหด ที่พิเศษ คือไม่ต้องการให้ขึ้นเกมส์ทำเกมส์ถึงแนวรุกได้เลย

ไม่ได้พูดให้เด็กปืนดีใจนะ เพรสแบบนี้ คล็อปเองหวั่นโอบากับเปเป้พอสมควร

ผมว่า ส่วนหนึ่งที่ยังทำให้ฟอร์มต่อเนื่องคือ ทีมซ้อมด้วยกันมานาน ปรับจูนกันจนแทบจะรู้ใจกันหมดแล้ว

เพรสโหดมากมะคืน แต่ น. 70 ก็หมดกันหลายคน

ใช่เลย ผมมองแบบท่านเด๊ะ ๆ เลย เวลาเจอทีมเกมรุกโหด ๆ ถ้าปัจจัยทุกอย่างเอื้อ (ความฟิต คู่แข่ง สกอร์) บอสจะสั่งบดเป็นพิเศษ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ท่านว่านั่นแหละ เห็นมาหลายนัดละ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน

ตั้งศัพท์ใหม่กันได้เลย แมนยูมีเฟอกี้ไทม์ ตอนนี้เรามี เจอเก้นไทม์ละ ไม่ได้มีแค่เกเก้นเพรสซิ่งอย่างเดียวแล้ว

ใช่เลย เข้าใจละว่าทำไมเดี๋ยวนี้บอสไม่ให้กดอัลติบ่อย