วิเคราะห์ปัญหาสังคมไทย ชี้มีความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยคนจนสูงมากสุดในโลกประเทศหนึ่ง แม้แต่ถนน ยังแบ่งแยกกันชัด จนคนขี่จยย.ประสบอุบัติเหตุตายมากสุดในโลก

เมื่อ 21 ส.ค.62 เว็บไซต์ นิวยอร์ก ไทม์ สื่อดังในสหรัฐฯ ตีข่าวทั่วโลก ‘ถนนในเมืองไทยเป็นถนนที่อันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณยากจน’ สะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำทางสังคม ระหว่างคนรวยกับคนจนในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นประเทศหนึ่งที่มีความเหลื่อมล้ำทางสังคมมากที่สุดในโลก เพราะแม้แต่บนถนน ก็ยังมีการแบ่งแยกกันอย่างชัดเจน และคนจนต้องประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนจนเสียชีวิตมากกว่าคนที่มีฐานะดีและมี ‘คอนเน็กชั่น’ ที่ดี

นิวยอร์กไทม์ ชี้ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลกเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรในประเทศ เป็นรองเพียงแต่ประเทศที่เกิดสงครามกลางเมือง การสู้รบ และไร้กฎหมายอย่างลิเบียเท่านั้น นอกจากนั้น ตามรายงานขององค์การอนามัยโลก เมื่อปี 2558 ยังระบุว่า ไทยเป็นประเทศที่มีผู้ขี่รถจักรยานยนต์ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก

นิวยอร์กไทม์ ยังได้ยกตัวอย่างของ อรทัย จันทร์หอม หญิงไทย ซึ่งประสบอุบัติเหตุ ขณะเธอกำลังขี่รถจักรยานยนต์ไปทำงาน และถูกรถปิกอัพของนายตำรวจนอกเวลาที่มีอาการมึนเมาพุ่งชนจนอรทัยเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ขณะที่ตำรวจนายนี้ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตำรวจได้ต่อไป ไม่มีการยึดใบขับขี่ และไม่ได้ถูกตัดสินจำคุก


สื่อดังสหรัฐฯ ชี้ว่า รัฐบาลไทยได้ให้คำปฏิญาณต่อที่ประชุมสหประชาชาติในปี 2558 ที่จะลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนถนนลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2563 แต่ขณะนี้เหลือเวลาไม่ถึงปี ก่อนถึงกำหนดเส้นตายที่ประกาศไว้ แต่รัฐบาลไทยยังห่างไกลที่จะทำให้ได้ตามคำมั่นสัญญา เพราะการขับขี่บนท้องถนนในประเทศไทยยังคงติดอันดับอยู่ใน 10 ประเทศที่ถนนอันตรายมากสุดในโลก ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่สามารถป้องกันได้มากกว่า 20,000 รายต่อปี

ประเทศไทยมีจำนวนผู้เสียชีวิตบนท้องถนนลดลงเล็กน้อยนับตั้งแต่ปี 2558 และไทยก็มีกฎหมายที่จำเป็นหลายเรื่องที่ทำให้ถนนปลอดภัยมากขึ้น ทว่ารัฐบาลไทยไม่ได้พยายามทำให้ช่องว่างของความร่ำรวยในประเทศให้ลดน้อยลง ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ไม่เพียงแต่ทำให้เป็นถนนที่อันตรายแล้ว แต่ยังแบ่งแยกคนในประเทศออกเป็นสองฝ่ายสองขั้ว ทั้งเรื่องการเมือง และคนมั่งมีกับคนยากจน

นิวยอร์กไทม์ ยังชี้ว่า ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ไม่มีความเท่าเทียมทางสังคมในประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ 40 ประเทศ จากผลการสำรวจโดยเครดิต สวิส เมื่อปี 2561 ซึ่งอาจเป็นปัจจัยผสมผสานที่อันตรายต่อความปลอดภัยด้านการจราจรสูงที่สุดของโลก เพราะประเทศไทยไม่เหมือนประเทศยากจนประเทศอื่น เนื่องจากถนนในประเทศไทยเป็นถนนลาดยางมะตอยอย่างดีที่ทำให้คนขับรถยนต์สามารถใช้ความเร็วได้ ในขณะที่คนขับรถยนต์มักเป็นคนรวย และคนชั้นกลางที่มักใช้รถยนต์รุ่นใหม่ซึ่งมีสมรรถนะสูง ทว่าครอบครัวคนไทยจำนวนมากสามารถซื้อหาได้เพียงรถจักรยานยนต์คันเดียวในครอบครัว อีกทั้งยังไม่ได้ซื้อหมวกนิรภัยที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย

ตามรายงานของ W.H.O. Global Status Report on Road Safty ในปี 2561 ระบุว่า อุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไทย คนขับรถยนต์หรือรถกระบะที่เสียชีวิต มีเพียง 12% เท่านั้น เพราะส่วนมากผู้เสียชีวิตจะเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์และคนเดินเท้า

ข้อมูล : New York Times

ที่มา https://www.thairath.co.th/news/foreign/1642556

ที่ตายเยอะเพราะวินัยการขับรถล้วนๆเลยครับ

ไปสำรวจที่ไหนมาว่า คนไทยจน เลยไม่มีเงินซื้อหมวกกันน็อกใส่

คนขี่ จยย เพราะสะดวก หรือพวกชอบซิ่ง ไม่ได้จน ก็เยอะนะ

ที่ตายเยอะเพราะวินัยการขับรถล้วนๆเลยครับ

ไปสำรวจที่ไหนมาว่า คนไทยจน เลยไม่มีเงินซื้อหมวกกันน็อกใส่

ประเทศไทยไม่เหมือนประเทศยากจนประเทศอื่น เนื่องจากถนนในประเทศไทยเป็นถนนลาดยางมะตอยอย่างดีที่ทำให้คนขับรถยนต์สามารถใช้ความเร็วได้ ในขณะที่คนขับรถยนต์มักเป็นคนรวย และคนชั้นกลางที่มักใช้รถยนต์รุ่นใหม่ซึ่งมีสมรรถนะสูง ทว่าครอบครัวคนไทยจำนวนมากสามารถซื้อหาได้เพียงรถจักรยานยนต์คันเดียวในครอบครัว อีกทั้งยังไม่ได้ซื้อหมวกนิรภัยที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย

พออ่านถึงตรงนี้ก็

สื่อต่างประเทศก็ไม่ได้ฉลาดอย่างที่คิดนะครับ บิดเบือนข้อมูลสุดๆเหมือนกัน แต่เคสยกตัวอย่างก็น่าด่ากฏหมายไทยจริงๆ บุคคลอย่างตำรวจทำผิดกฏหมายที่ตัวเองต้องเอามาบังคับใช้ซะเองแบบนี้ จริงๆต้องโดนโทษหนัก 2-3 เท่าไปเลยนะครับ

แต่การตายบนท้องถนนประเทศเราจริงๆคือ เมาแล้วขับ ประมาทและไม่มีมารยาทและการใช้กฏจราจรที่ถูกต้อง

อย่างมอไซด์ฝ่าไฟแดงทุกครั้งเมื่อมีโอกาส ตีได้เลย 90% มันต้องฝ่ากัน แบบนี้จะไม่เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้ยังไง !!

เลี้ยวออกจากซอยทันทีไม่ดูทางก่อน
ถ้าบีบแตรให้ แล้วไงครับ มันก็หันมาด่าเรา
จอดเถียงไปก็เท่านั้น ไม่เข้าหัวหรอก
เหลื่อมล้ำทางวินัย นะสิ

ขี่โง่ๆ แทรกไปมา เบียดไปมา บีบแตรเตือนก็ดันมามองหน้า เอากระจกข้างออก เปลี่ยนเลนไม่มอง ฝ่าไฟแดง ไม่ใส่หมวกกันนอค ขี่แทรกรถใหญ่ ขี่ขึ้นสะพานสูงในสะพานที่เค้าห้ามขึ้น ขี่ลงอุโมงค์ที่เค้าห้ามลง เล่นมือถือตอนขับ เมาแล้วขับ

ทุกสิ่งที่ทำคือหาเรื่องเสี่ยงตายเองชัดๆ เลือกจะทำก็ยอมรับความเสี่ยงที่เกิดเอาเองละกัน

จริงๆไทยมันไม่เกี่ยวกับช่องว่างคนรวยคนจนอะไรหรอก ปัญหาคือเอามอไซมารวมกับรถยนต์ ด้วยปริมาณที่เท่ากัน มันก็เกิดอุบัติเหตุอยู่แล้ว ผมยังรู้สึกว่าคนไทยขับรถโคตรเก่งอยู่เลยนะ ยังคิดอยู่เลยว่าไอ้ที่ขับมาเป็น 10 ปีไม่ชนนี่มันทำได้ยังไง บางทีรู้สึกหลายรอบแล้วนะ แบบจังหวะนี้มันไม่ชนได้ไงวะ แล้วคิดดูว่าต้องมาขับกับรถขับกับมอไซ ต้องมานั่งเดาใจคันอื่น เกิดเดาผิดไปนิดเดียว พลาดจังหวะไปวิเดียว เรียบร้อย

จริงๆเมืองไทยถนนน่าจะอันตรายที่สุดแล้ว ถ้าลองดูประเทศอื่น อย่างจีนเค้าก็แยกออกไปเลย ถนนรถยนต์กับถนนมอไซ หรือเวียดนามก็มีแต่มอไซ ใช้ความเร็วมากไม่ได้ ญี่ปุ่นก็จำกัดการขับขี่มอไซ ใช้ได้แต่ในซอกซอย หรืออย่างออสที่ผมเคยไปมา มอไซเค้าขับเป็นรถคันนึงเลย ไม่มีแทรก ไม่มีมุด ติดไฟแดงก็จอดต่อรถคันอื่นแบบตัวเองเป็นรถคันนึงไปเลย

ส่วนเมืองไทย จริงๆถ้าสังเกตุกฏหมายน่ะ มอไซคือเค้าจะให้เป็นพาหนะแบบใช้ไปเฉพาะที่ใกล้ๆ ใช้เฉพาะพื้นที่เล็กๆ ลองสังเกตุดู ว่าให้ขับซ้าย ห้ามขึ้นสะพาน ห้ามลงอุโมงค์ ห้ามขึ้นสะพานแขวน ห้ามขับช่องทางด่วน ห้ามสารพัด คือเค้าไม่ได้มีแนวคิดจะให้มีมอไซเป็นพาหนะหลักตั้งแต่แรก เพียงแต่เราก็ใช้กันมาเคยชิน ใช้กันมาเรื่อยๆ จะด้วยเหตุผลว่าขนส่งสาธารณะมันห่วยแตกอะไรก็แล้วแต่ แต่ว่าของแบบนี้คือมันเป็นสังคมบ้านเราไปแล้ว จะไปโบ้ยรัฐบาลอย่างเดียวมันก็ไม่ได้หรอก รัฐบาลทำได้อย่างเดียวก็เพิ่มขนส่งสาธารณะ หวังว่าคนจะใช้มอไซน้อยลง แต่เอาจริงๆมันก็แก้ยากนั่นแหละ อย่างกฏหมายที่มอไซห้ามขึ้นสะพานภูมิพล โดนด่ากันกระจาย ทั้งๆที่มันควรห้ามแต่แรกอยู่แล้ว เพราะงั้นจะไปบังคับมอไซมากกว่านี้ ผมว่ายาก ในเมื่อมันเป็นสภาพสังคมไปแล้ว

เคสที่ยกตัวอย่างมา. จะมีการรื้อคดีไหม

โอเคว่าส่วนใหญ่เป็นเพราะคนไทยนี่แหละที่ขับรถไร้วินัย. ขับตามใจฉัน. เอาแค่เปิดไฟเลี้ยวยังไม่ทำกันเลย

มอไซค์ก็ขยันแซงทางที่เราเปิดไฟเลี้ยวนั้นแหละ. เช่นผมอยู่เลยกลาง. เปิดไฟเลี้ยวซ้ายจะชิดเพื่อเข้าออฟฟิศ. มอไซค์ 99 เปอร์เซนต์ที่เจอมา. ต้องแซง.ซ้ายทั้งๆที่ขวาโล่ง. แซงเสร็จก็ขับตรงต่อไป

วินัยและจิตสำนึกต่อส่วนรวมเป็นหลักเลย

Q:ทำไมไม่ใส่หมวกครับ


A:(ตอบไรดีวะ จะตอบว่าไม่อยากใส่ก็ไม่ได้ งั้น)เพราะไม่มีเงินซื้อหมวกครับ


จัดให้เลย จน จนไม่มีเงินซื้อหมวก

สื่อต่างประเทศก็เป็นงี้ละครับ บางทีก็นำเสนออะไรที่ไม่ได้ตรงกับความเป็นจริงเลย อ่านได้สักพักนึงก็ พอละบาย จะคิดยังไงกับบ้านเมืองตูก็เอาเหอะ

หมวกใบ4-500 ไม่ซื้อแต่เวลาจ่ายค่าปรับมีตังจ่าย

มอไซหลายๆคันมันก็ขับรถน่าตายจริงๆนะ ไม่ห่วงตัวเองสักนิด นึกจะออกก็ออก จะมุดก็มุด ปาดหน้าปาดหลัง ที่ห้ามขับมันก็ไป ไม่แปลกหรอก

ลดเรื่องแว๊นกับเมาแล้วขับ ก็ลดอุบัติเหตุไปเยอะและ
ส่วนโยงไปเรื่องความเหลื่อมล้ำนี่เอาฮามากกว่า