แผนใหญ่ในการผลักดันเศรษฐกิจครั้งใหม่ของจีน คือการผลักดันสิ่งที่มีชื่อว่า “Greater Bay Area”
Photo: Greater Bay Area
Greater Bay Area คืออะไร ยิ่งใหญ่แค่ไหน
Greater Bay Area คือเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไข่มุกที่ประกอบไปด้วยฮ่องกง มาเก๊า และ 9 เมืองในมณฑลกวางตุ้ง ได้แก่ กวางโจว, เซินเจิ้น, จูไห่, ฝอซาน, ฮุ่ยโจว, ตงกวน, จงซาน, เจียงเหมิน และเจ้าชิ่ง
Greater Bay Area มีขนาดพื้นที่ประมาณ 5.5 หมื่นตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 69.5 ล้านคน (จำนวนประชากรพอๆ กับประเทศไทย!) และมีตัวเลขรวม GDP สูงถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์
ถ้าเทียบ Greater Bay Area กับเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลกที่ถือเป็นคู่แข่ง จะยิ่งเห็นความได้เปรียบที่ชัดเจนมาก
เขต New York City ที่เป็นศูนย์กลางทางเงินโลก มีขนาดพื้นที่ประมาณ 2.1 หมื่นตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 20 ล้านคน
San Francisco Bay Area ที่เป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีโลกอย่าง Silicon Valley มีขนาดพื้นที่ประมาณ 1.8 หมื่นตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 7.8 ล้านคน
Tokyo Bay Area ที่เป็นพื้นที่ที่แข็งแกร่งด้านอุตสาหกรรมการผลิตแห่งหนึ่งของโลก มีขนาดพื้นที่ประมาณ 1.36 หมื่นตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 44 ล้านคน
Greater Bay Area ชนะเรียบ!
แต่ Greater Bay Area ก็ไม่ได้มี “ดี” แค่จำนวนประชากรและขนาดพื้นที่เท่านั้น หากเปรียบเทียบความแข็งแกร่งในแง่เศรษฐกิจ การเงิน นวัตกรรม เทคโนโลยี ก็อยู่ในระดับที่สู้กับพื้นที่อื่นๆ ได้เหมือนกัน
รู้หรือไม่ว่า Greater Bay Area มีบริษัทที่ติดอันดับ 500 แรกของโลกกว่า 20 บริษัท นอกจากนั้นใน Greater Bay Area ยังมีหลากหลายภาคส่วนทางเศรษฐกิจที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าคู่แข่ง ยกตัวอย่างเช่น
ในกวางโจวมีอุตสาหกรรมรถยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากมาย รวมถึงในจูไห่และฝอซานที่แทบจะเทียบชั้นกับโตเกียวได้แล้ว นอกจากนั้นยังมีการท่องเที่ยวอันแข็งแกร่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างมาเก๊าอยู่ด้วย Greater Bay Area มีครบจริงๆ
ก่อนหน้านี้ นักเศรษฐศาสตร์ท่านหนึ่งเคยวิเคราะห์ไว้ว่า Greater Bay Area มีความได้เปรียบอย่างมากในเชิงภูมิศาสตร์ พร้อมทั้งเชื่อว่าหากจีนผลักดันให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ จะเกิดการผนึกกำลังในหลายอุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมที่จะถูกท้าทายมากที่สุดคือภาคการเงินในสิงคโปร์ แต่ก็มีนักวิเคราะห์บางคนที่ไม่เห็นด้วย โดยมองว่าสิงคโปร์จะไม่ได้รับผลกระทบหรือความท้าทายจาก Greater Bay Area มากนัก เพราะสิงคโปร์เป็นประเทศที่ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน
แต่อย่างไรก็ดี ในภาพใหญ่แล้ว Greater Bay Area มีความได้เปรียบสำหรับการต่อสู้ในโลกอนาคตทางเศรษฐกิจอย่างมาก โดยเฉพาะการแข่งกันด้วยความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม ไม่ว่าจะเป็นปัญญาประดิษฐ์ การผลิตอัจฉริยะ(ลดการใช้แรงงานมนุษย์) หรือเรื่อง Internet of Things (IoT) ซึ่ง Greater Bay Area มีหมด แต่ก็มีจุดด้อยใหญ่ที่ต้องรีบแก้ คือต้องลดการพึ่งพาเทคโนโลยีสำคัญๆ จากต่างชาติ แล้วหันมาพึ่งตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
นี่คือภาพทั้งหมดในฉบับคร่าวๆ ของ Greater Bay Area ที่เราควรรู้
ก่อนหน้านี้ ถ้าพูดถึง Greater Bay Area จะมีความคิดอย่างน้อย 2 ด้านสำหรับนักวิเคราะห์ คือมีทั้งที่เห็นด้วย และอีกฝั่งคือไม่ใช่ไม่เห็นด้วย แต่ยังมองภาพของ Greater Bay Area ได้ไม่ชัดเจนนัก คำวิจารณ์ที่มีน้ำหนักคือ ไม่รู้ว่าจีนต้องการทำอะไรกันแน่
แต่แผนใหม่ของจีนผ่าน Greater Bay Area ก็เริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ ว่านี่คือแผนของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจครั้งใหม่ พร้อมทั้งเชื่อมเศรษฐกิจและการเมืองของจีนแผ่นดินใหญ่ตามแผน “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ซึ่งแน่นอนเวลาพูดแบบนี้ หลายคนจะมองว่าพระเอกของ Greater Bay Area น่าจะเป็น “ฮ่องกง” เพราะที่ผ่านมา ความได้เปรียบที่สุดของฮ่องกงคือ Rule of Law หรือระบบระเบียบการเมือง-กฎหมายที่ต่างชาติให้ความเชื่อถือ/เชื่อมั่นมาโดยตลอด จะเห็นได้ว่าเงินที่ไหลเข้าจีนเพื่อไปลงทุนก็ผ่านทางฮ่องกงอย่างมหาศาล
Zhang Yansheng หัวหน้าใหญ่ฝ่ายวิจัยจาก China Centre for International Economic Exchanges ระบุว่า รัฐบาลจีนต้องการให้เซินเจิ้นเป็นพื้นที่ทดลองในการสร้างเศรษฐกิจนวัตกรรมครั้งใหญ่และล้อไปกับแนวคิดแบบสังคมนิยม (socialism)