คู่รักม. 1 ถูกกีดกัน จูงมือกันไปโดดน้ำฆ่าตัวตาย
คู่รักม. 1 ถูกกีดกัน จูงมือกันหวังโดดน้ำฆ่าตัวตาย โชคดีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์วิ่งลงไปช่วยกัน แต่เด็กหญิงว่ายน้ำไม่เป็น อาการยังโคม่า
เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2562 ร.ต.อ.ชัยณเรศ สุพร รอง สว.สอบสวน สภ.เมือง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเด็กพลัดตกน้ำในคลองระบายน้ำชลประทาน การเคหะสมุทรปราการ จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการและเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลสมุทรปราการ เดินทางเข้าตรวจสอบ
ทั้งนี้ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้ลงไปช่วยเหลือนำร่างของเด็กหญิงเปิ้ล (นามสมมติ) วัย 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 ซึ่งอยู่ในสภาพหมดสติ ขึ้นมาบนฝั่งก่อนหน้าแล้ว หลังจากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพมาถึงได้ประเมินอาการในเบื้องต้น ก่อนที่จะเร่งปั๊มหัวใจเพื่อยื้อชีวิตของเด็กหญิงคนดังกล่าวอย่างเร่งด่วน และนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ
ล่าสุดยังต้องใช้เครื่องหายใจ และอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ที่เกิดเหตุยังพบเด็กชายเอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ซึ่งอยู่โรงเรียนเดียวกันกับเด็กหญิงคนดังกล่าว โดยชาวบ้านได้ช่วยเหลือขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัยก่อนที่จะนำตัวเด็กชายคนดังกล่าวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่สภ.เมืองสมุทรปราการ
ด.ช.เอ ให้การกับตำรวจว่า ตนเองรู้จักกับเด็กหญิงเปิ้ล มาตั้งแต่เรียนชั้น ป.6 ต่อมาจึงได้คบหากันในลักษณะแฟน ซึ่งระหว่างคบหากันผู้ปกครองของเปิ้ลกีดกันมาตลอด เพราะเห็นว่าเราทั้งสองอายุยังน้อย และยังเรียนหนังสือกันอยู่
ทั้งนี้ ตนและเปิ้ลจึงเกิดความเครียด และพูดคุยกันว่าจะทำอย่างไรถึงจะได้สมหวังอยู่ด้วยกัน ตนและเปิ้ลคิดว่ามีทางเดียวคือการตายไปด้วยกัน กระทั่งวันนี้เราทั้งคู่ไปเรียนธรรมะ และพากันนั่งรถไฟฟ้ามาลงใกล้กับที่เกิดเหตุ
จากนั้นก็ไปนั่งคุยกันบริเวณริมคลองเพื่อปรึกษาหาทางออก ก่อนจะจูงมือกันตัดสินใจกระโดดน้ำเพื่อฆ่าตัวตาย
แต่ระหว่างที่กระโดดลงไปในน้ำ ได้มีตัวเงินตัวทองว่ายน้ำมาพอดี ด้วยความตกใจเปิ้ลจึงพยายามหนีตะเกียกตะกายหนี แต่ด้วยความที่ว่ายน้ำไม่เป็นจึงทำให้เปิ้ลจมลงไปในน้ำ กระทั่งมีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ลงไปช่วยเหลือ
ขณะที่แม่ของเด็กชายเอ กล่าวว่า ตนทราบว่าลูกชายได้คบหากับเด็กหญิงคนดังกล่าวได้ 7-8 เดือนแล้ว ซึ่งตนเองก็เคยบอกลูกชายว่า ถ้าคบกันก็ให้อยู่ในขอบเขต เนื่องจากทั้งสองยังเป็นเด็กจึงอยากให้เรียนจบก่อน แต่ตนก็ไม่คิดว่าลูกชายจะมาทำเช่นนี้ ตนรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก และอยากขอโทษกับผู้ปกครองของฝ่ายหญิงแทนลูกชายตนด้วย
ทั้งนี้ หลังสอบปากคำเจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้ปกครองนำเด็กชายเอกลับบ้านไป พร้อมกับให้ดูแลด้านจิตใจอย่างใกล้ชิด ก่อนที่จะนัดมาให้ปากคำเพิ่มอีกครั้ง
นายสุนทร สิทธิบุรี อายุ 67 ปี วินเบอร์ 45 การเคหะ ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนเองกลับมาจากส่งผู้โดยสาร เห็นผู้ชายลอยอยู่ในน้ำ ส่วนผู้หญิงได้จมไปแล้ว จากนั้นจึงได้รีบตะโกนบอกให้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณริมคลองซึ่งมีเรือรีบพายมาช่วยเหลือนำทั้งสองขึ้นมา พร้อมกับรีบปั๊มหัวใจ
WTF เด็กสมัยนี้