ยังมีโรงเรียนไหนที่ยังห้ามอยู่ไหมครับ

สมัยผมเรียนนี่ใครพกไปถ้าโดนจับได้ก็โดนยึดเทอมนึงเลย โหดจัดกับเรื่องมือถือ

Edit "มือถือ" ครับ

ถ้าไม่เอามือไป กลัวจะเขียนหนังสือไม่ได้ครับ

เอาไปได้ตั้งนานแล้วครับ หรือมีใครถอดมือไว้บ้านได้

ปี 2544 ก็พกกันเต็มห้องแล้วครับ เบื่อๆก็เกมส์งูของโนเกียช่วยได้เยอะ

ผมว่ามันเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างหนึ่งนะครับสำหรับสังคมเมือง ที่พ่อ-แม่ต้องใช้ติดต่อกับลูก(โดยเฉพาะลูกที่ยังเด็กอยู่อย่างพวกชั้นประถม) เพื่อมารับที่โรงเรียนตอนเย็น เพราะการทำงาน การจราจร เอาแน่เอานอนไม่ได้สำหรับในกรุงเทพ

ทางโรงเรียนก็เข้าใจในบริบทนี้นะครับก็อนุญาติให้นำมาได้ แต่ห้ามเอาออกมาใช้ในระหว่างวัน ให้ใช้ได้เฉพาะตอนที่เลิกเรียนแล้วแค่นั้น (พูดเฉพาะโรงเรียนที่ลูกผมอยู่นะครับ โรงเรียนอื่นผมไม่ทราบครับ)

ก่อนที่จะให้มือถือกับเด็ก ก็ต้องคุยตกลงกันให้ดีเรื่องการใช้งาน และไม่ต้องซื้ออะไรให้มันเกินจำเป็น (ลูกผมใช้ ซัมซุงฮีโร่ ครับ) โตก่อน รู้เรื่องก่อน ค่อยว่ากันใหม่ถึงความจำเป็นที่แปรเปลี่ยนไปตามวัยครับ

สมัยก่อนผมไม่ได้เอาไป ผมอาศัยตู้โทรศัพท์หยอดเรียนโทรหาพ่อแม่เอา ปัจจุบัน ถ้าไม่มีคำถามว่า เด็กๆจะไปเอาตู้โทรศัพท์ที่ไหนติดต่อพ่อแม่?

สมัยผมก็โดนตรวจเจอโดนยึด คืนสิ้นเทอมเหมือกัน

รุ่นผม ยุคโนเกียเฟื่องฟู เอาไปโรงเรียนกันแทบทุกคนละนะครับ ส่งsmsหาสาวกันเป็นว่าเล่น คิดละก็ขำดี

ต้องถอดมือไว้บ้านเหรอครับ ผมเพิ่งรู้

ตอนเรียนม.ปลาย เป็นช่วงที่เอาไปได้แล้วครับ

ย้อนไปปี 2550

มีโรงเรียนไหนยึดด้วยเหรอครับ ถ้าไม่เอาขึ้นมาเล่นในเวลาเรียนหรือมันดังในเวลาเรียนก็ไม่น่าโดนยึดนะ หรือช่วงก่อนปี40มียึดหว่าตอนนั้นยังโตไม่ทัน

เอาไปเถอะครับ สังคมสมัยนี้อันตรายรอบตัว พ่อแม่จะได้รู้ว่าลูกอยู่ไหน ปลอดภัยหรือเปล่า แต่ขอแค่เด็กมันคิดได้ไม่เอาขึ้นมาเล่นตอนเรียนละกัน ครูจะได้ไม่ปวดหัว แถมนักเรียนจะได้เรียนรู้เรื่องด้วย

สมัยก่อนมือถือเล่นได้แค่เกมส์งูยังยึดเลยครับ

แต่talking dict มีเกมส์เยอะเลยไม่เป็นไร ใช้งานได้ไม่ยึด

เพื่อนๆผมส่ง sms คำตอบกันตั้งแต่ปี 2543 ละครับ

โรงเรียนประถมของลูกผมให้เอาไปได้ แต่ไม่เกิน 1,000 บาท และต้องฝากไว้ที่ห้องธุรการ เลิกเรียนแล้วถึงมาเอาคืนได้ โทรหาพ่อแม่ผู้ปกครองได้
ผมชอบนโยบายแบบนี้ ไม่ต้องห่วงเด็กเล่นมือถือ ไม่ตั้งใจเรียน