รุด กุลลิท ตำนานลูกหนังดัตช์ ออกโรงแนะนำรุ่นน้องอย่าง เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค จำเป็นต้องโชว์ผลงานในระดับทีมชาติให้ดีกว่านี้ ถ้าหากหวังอยากจะประสบความสำเร็จคว้าบัลลงดอร์มาครอบครองในอนาคต


ฟาน ไดจ์ค ฝีเท้าพัฒนาขึ้นแบบก้าวกระโดดนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นให้ลิเวอร์พูล โดยซีซั่นล่าสุดเขาถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก จนถึงขั้นได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในปราการหลังดีที่สุดของโลกไปแล้ว จากผลงานมีส่วนสำคัญในการพาทีมหงส์แดงคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างคู่คี่สูสีกับทีมแกร่งอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้

นอกจากนี้เขายังเป็นกัปตันทีมชาติฮอลแลนด์ ได้เข้าชิงชนะเลิศยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ก่อนแพ้ให้กับโปรตุเกสไป 1-0 เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

ตอนนี้หลายฝ่ายเริ่มมองกันว่าฟาน ไดจ์ค มีคุณสมบัติดีพอจะก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะยอดเยี่ยมโลกได้ ซึ่งกุลลิทได้ออกมาแนะนำรุ่นน้องถึงสิ่งที่ต้องปรับปรุงถ้าจะไปให้ถึงเกียรติยศดังกล่าว

"ผมคิดว่าเขาทำได้ดีมากจริงๆ โดยเฉพาะกับลิเวอร์พูล ผมคิดว่าเขาสิ่งที่เขายังขาดอยู่คือจุดเชื่อมโยงผลงานระหว่างสโมสรกับทีมชาติ ผมยังคิดว่าเขาต้องทำมันให้ดีกว่านี้" กุลลิท กล่าวผ่าน อาส

"ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น ยังรวมไปถึง เดอ ลิกท์ เนื่องจาก 14 เกมที่ผ่านมา มีถึง 10 นัดที่เราตกเป็นรองก่อน 1-0 ถ้าคุณจะเป็นกองหลังที่ดี คุณต้องไม่เสียประตูลักษณะแบบนี้บ่อยๆ"

ทั้งนี้ ถ้าหาก ฟาน ไดจ์ค คว้าบัลลงดอร์มาครองได้สำเร็จ เขาจะกลายเป็นกองหลังคนแรกนับตั้งแต่ ฟาบิโอ คันนาวาโร่ ทำได้ในปี 2006 หลังนำทีมชาติอิตาลีคว้าแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 4

โปรดมองไปที่กองหน้า

แนะเกมรุกให้ปังดีกว่าเกมรุกชุดนี้พังมาก

ก็จริง กองหลังทึ่ได้บังลงดอร์ ได้จากผลงานทีมชาติทั้งนั้น ทั้งคันนาวาโร่ ทั้งซามเมอร์ ถ้า VVD ได้จากผลงานสโมสร ก็จะเป็นกองหลังคนแรกที่ได้

ก่อนหน้านี้บอก ต้องได้UCL หลังจากได้UCL ก็บอกอีกว่า ต้องได้ทีมชาติ สรุปมีวันสิ้นสุดไหม กว่าจะได้บัลลองดอร์ เงื่อนไขแม่งทำไมมันไปเรื่อยๆฟะ งงใจ

เอาจริงผมไม่ทันคันนาวาโร่หรอก ปีนั้นทำไมแกได้ดีกว่า ผมก็อยากรู้เหมือนกัน ก็ลองมาเทียบกับVVDดู

อิตาลี ได้แชมป์โลกจากแผงหลัง แล้ว เนสต้า เจ็บพอดีคับ (ยุคนั้นผมว่า เนสต้า เก่งสุดในโลก) คันนา เลยแบกชักเจน ที่สำคัญยุคนั้นตัวรุกระดับโลกฟอร์มและฝีเท้าไม่ได้ขาดจากคนอื่นมากแบบ เมส โด้

ผมไม่ได้ดูเล่นทีมชาติ ทีมชาติแกเล่นไม่ดีหรอ.......

อิตาลี่เป็นแชมป์โลกโดย เสียเพียงแค่สองประตูครับ

โดย 1 ลูกคือ สกัดเข้าประตูตัวเอง (จำไม่ได้แล้วว่าใคร) กับอีกลูกคือจุดโทษของซีดาน

ส่วนเหตุผลที่ คันนาวาโล่ได้บัลลงดอร์ก็มีอยู่สองข้อหลักๆ


1. ฟอร์มทีมชาติดีจริง แต่จริงๆ นักเตะคนอื่นๆ ในอิตาลี่ชุดนั้นก็ฟอร์มเยี่ยม เช่น ปิร์โล่ และ บุฟฟ่อน, แต่เนื่องจาก คันนาเป็น กัปตันในตอนนั้น สปอร์ทไลท์ ย่อมส่องไปที่คันนามากกว่าสองคนนั้น, แถมบุฟฟ่อนยังต้องลงไปเล่นในเซเรีย บีหลังจากจบบอลโลกอีก นักข่าวที่โหวตเลยไม่ได้สนใจกันใหญ่ (ในขณะ ที่คันนาย้ายหนีไปเรอัล) ส่วนปิร์โล่ความเป็นสตาร์เพิ่งเริ่มออกมาก็ตอนอยู่ยูเว่แล้วครับ ทั้งที่จริงๆ เล่นดีและเป็นหัวใจหลักให้กับ มิลานและอิตาลี่มาโดยตลอด

2. สตาร์แนวรุกปีนั้น ทั้งโลกไม่มีใครเด่นสุด, จริงๆ ถ้านับเฉพาะแนวรุกปีนั้นคือ ปีที่ โรนัลดิญโญ่,กาก้า และอองรีพีคสุดๆ ในระดับสโมสร แต่เสียดาย กาก้ากับอองรีขาดแชมป์ทั้งคู่ ส่วนปัญหาสำหรับเหยินคือ ถึง บาร์ซ่าได้ UCL ปีนั้น แต่ฟอร์มนัดชิง (ย้ำเฉพาะนัดชิง) เล่นได้ไม่ค่อยโดดเด่นนัก และบอลโลกเล่นได้เข้าขั้นกาก

จะว่าไปน้าบุฟแกก็เด่นมากนะปีนั้น เกือบได้บัลลงดอร์ด้วยถ้าผมจำไม่ผิด

เมื่อมองไปที่ผลงานทีมชาติของเมสซี่แล้วนั้น
คำกล่าวของกุลลิทดูด้อยไปเลย

ต้องไม่มีเมสซี่ครับ