ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status: พุงพลุ้ยคุยบอล กลับมาแล้ว
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Oct 2010
ตอบ: 4343
ที่อยู่: บนโลกนี้แหละ...
โพสเมื่อ: Wed Jun 19, 2019 00:35
(Day 66)สรุปข่าวประจำวันแค่ 7 นาทียกระดับความรู้รอบตัวของพวกท่าน
{ (Day 66) มาร่วมสละเวลาเล็กน้อยเพิ่มความรู้รอบตัวกันครับ }

---จุดประสงค์เพื่อ---

⦿ ผลักดันตนเองให้อ่านหนังสือ
⦿ เป็นแนวทางให้เพื่อนสมาชิกเห็นว่า อย่างน้อยที่สุด อ่านวันละ 7 นาทีก็เพิ่มพูนความรู้ให้แก่ตนเองได้
⦿ ตราบใดมีลมหายใจ การศึกษาคือการเรียนรู้ตลอดชีวิต





ยูเอ็นรับล้มเหลวอย่างเป็นระบบ กรณีทหารเมียนมากวาดล้างโรฮีนจา






รายงานภายในของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ยอมรับว่ามีความล้มเหลวอย่างเป็นระบบของยูเอ็นในการรับมือกับสถานการณ์ในเมียนมา ก่อนหน้าการปราบปรามชาวโรฮีนจาของทหารเมียนมาในปี 2560 เนื่องจากไม่มีการรวมรวบยุทธศาสตร์ในการรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงขาดการสนับสนุนจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ


เหตุปราบปรามดังกล่าวทำให้มีชาวโรฮีนจามากกว่า 730,000 คน เดินทางออกจากรัฐยะไข่หลบหนีความรุนแรงเข้าไปยังบังกลาเทศ โดยผลสอบสวนของยูเอ็นระบุว่าปฏิบัติการดังกล่าวมีความตั้งใจที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ โดยมีการใช้ทั้งการสังหารหมู่ การข่มขืนหมู่ และการใช้ความรุนแรงอย่างแพร่หลาย

ขณะที่เมียนมาปฏิเสธตลอดมาว่าไม่ได้ทำสิ่งใดผิด ทั้งยังระบุว่าปฏิบัติการของกองทัพเป็นการตอบโต้การโจมตีของกลุ่มติดอาวุธชาวโรฮีนจาเท่านั้น









รายงาน UN ชี้ “อินเดีย” จ่อแซง “จีน” ขึ้นแท่นชาติที่มีประชากรมากสุดของโลก






อินเดีย ทูเดย์ รายงานในวันนี้ (18 มิ.ย.) ระบุโดยอ้างข้อมูลของ The World Population Prospects 2019 โดยฝ่ายทรัพยากรของสำนักงานกิจการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ (UN) ที่ประเมินว่า จำนวนประชากรของอินเดียจะแซงหน้าประชากรชาวจีน ในอีก 8 ปีข้างหน้า


ทั้งระบุว่า ประชากรอินเดียจะเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 273 ล้านคน ในระหว่างปี 2019-2050 จากระดับปัจจุบันที่มีจำนวนประชากรราว 1.33 พันล้านคน หมายความว่า สิ้นสุดศตวรรษนี้ “อินเดีย” จะกลายเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก




ขณะเดียวกัน ในรายงานได้กล่าวถึง “ไนจีเรีย” ว่าจะเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ประชากรจะขยายตัวมากขึ้นชัดเจน โดยคาดว่าในปี 2050 จำนวนประชากรจะเพิ่มขึ้นอีก 200 ล้านคน จากปัจจุบันมีประมาณ 190 ล้านคน ทั้งนี้ หากนับจำนวนประชากรของไนจีเรียและอินเดียรวมกัน จะคิดเป็น 23% ของจำนวนประชากรโลกที่จะเพิ่มขึ้นในปี 2050

ทั้งนี้ ในปี 2019 คาดว่าประชากร “จีน” ยังมีจำนวนมากที่สุดในโลก อยู่ที่ 1.43 พันล้านคน ขณะที่ “อินเดีย” ตามมาเป็นอันดับ 2 คาดว่าจำนวนประชากรจะอยู่ที่ 1.37 พันล้านคน คิดเป็นสัดส่วนอยู่ที่ 19% และ 18% ตามลำดับ ส่วน “สหรัฐอเมริกา” ยังคงตามมาเป็นอันดับ 3 ของประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก





รายงานของ UN ฉบับล่าสุด ได้ระบุว่า ในภาพรวมคาดว่าจำนวนประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นจาก 7.7 พันล้านคนในปัจจุบัน ขยายตัวเพิ่มเป็น 9.7 พันล้านคน ในปี 2050 โดยมีทั้งหมด 9 ประเทศทั่วโลก ที่มองว่า จำนวนประชากรจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ในอีก 31 ปีข้างหน้า ได้แก่ อินเดีย ไนจีเรีย ปากีสถาน คองโก เอธิโอเปีย แทนซาเนีย อินโดนีเซีย อียิปต์ และสหรัฐ

ที่น่าสนใจก็คือ ในรายงานระบุว่า ประชากรผู้สูงอายุในโลกจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าช่วงอายุของมนุษย์จะเพิ่มขึ้นตาม ซึ่งจะหมายถึง ความสมบูรณ์ของประชากรโลกนั้นลดลง เนื่องจากประเทศที่จะประสบกับปัญหาประชากรลดลงจะเพิ่มมากขึ้น โดยภายในปี 2050 อายุของมนุษย์เฉลี่ยจะอยู่ที่ 65 ปี หรือมากกว่านั้น และประชากร 1 ใน 6 ของโลกจะมีอายุ 65 ปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 1 ใน 11 ในปี 2019




ส่วนจำนวนประชากรโลกที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไป คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า จากจำนวน 143 ล้านคนในปี 2019 เพิ่มขึ้นเป็น 426 ล้านคนในปี 2050

ทั้งนี้ Liu Zhenmin เลขาธิการสหประชาชาติด้านเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า สิ่งที่น่ากังวลในอนาคตคือ ประชากรที่เติบโตเร็วที่สุดกลับพบว่าอยู่ในประเทศที่ยากจนที่สุดของโลก ซึ่งอาจทำให้เกิดช่องว่างของความไม่เท่าเทียมให้กว้างขึ้น รวมไปถึง สภาวะการต่อสู้กับความยากจน ความหิวโหย ขณะที่เป้าหมายการขจัดความยากจนในหลายประเทศทั่วโลกจะมีอุปสรรคและความท้าทายที่มากขึ้น ครอบคลุมไปถึงคุณภาพของระบบสาธารณสุข โภชนาการต่างๆ และระบบการศึกษา ซึ่งเราต้องมั่นใจว่า จะไม่มีใครถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลัง










รัฐพิหารวิกฤติ โรคสมองคร่าเด็ดร่วมร้อย สังเวยร้อนจัดอีก 78 ศพ








รัฐพิหารของอินเดียเผชิญกับวิกฤติทางสาธารณสุขพร้อมกัน 2 สถานการณ์ โรคไวรัสสมองที่อาจเกี่ยวโยงกับฤดูลิ้นจี่ของรัฐนี้ ทำให้เด็กเสียชีวิตแล้ว 97 คน ส่วนอากาศร้อนจัดคร่าเพิ่มเป็น 78 ชีวิต




เอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ว่าคลื่นความร้อน ที่มีสถิติกินเวลายาวนานที่สุดเป็นอันดับ 2 ของอินเดีย ทำให้รัฐบาลท้องถิ่นหลายพื้้นที่ของรัฐทางภาคเหนือแห่งนี้ต้องประกาศใช้มาตรการควบคุมคล้ายกับการประกาศเคอร์ฟิว

อุณหภูมิช่วงกลางวันทั่วพื้นที่ส่วนใหญ่ของอินเดียสูงเกิน 40 องศาเซลเซียสมา 32 วันแล้ว ขาดอีก 1 วันก็จะเท่ากับสถิติ 33 วันเมื่อปี 2531 ส่วนที่เมืองชูรูในพื้นที่ทะเลทรายของรัฐราชสถานทางภาคเหนือของอินเดีย เมื่อไม่กี่วันก่อนเพิ่งมีอุณหภูมิสูงถึง 50.3 องศาเซลเซียส อีกนิดเดียวก็จะเท่ากับสถิติ 51 องศาเซลเซียส

รัฐพิหารมีอุณหภูมิประมาณ 45 องศาเซลเซียสนานติดต่อกันหลายวัน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเผยกับเอเอฟพีว่า อากาศร้อนจัดใน 3 อำเภอ ทำให้มีคนเสียชีวิตแล้ว 78 คนนับตั้งแต่วันเสาร์ ผู้ตายส่วนใหญ่อายุเกิน 50 ปี นอกจากนี้ยังมีอีกมากกว่า 130 คนต้องรับการรักษาฉุกเฉินในโรงพยาบาลหลายแห่งเพราะโรคลมแดด

รัฐบาลท้องถิ่นของอำเภอคยาต้องออกกฎห้ามประชาชนออกไปทำกิจกรรมที่ไม่จำเป็นกลางแจ้ง ระหว่างเวลา 11.00-16.00 น.





นอกจากปัญหาอากาศร้อนจัดแล้ว รัฐที่เป็นแหล่งปลูกลิ้นจี่ของอินเดียแห่งนี้ยังเผชิญกับการระบาดของโรคไวรัสไข้สมองอักเสบเฉียบพลันมาตั้งแต่ต้นเดือน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวว่า มีเด็กเสียชีวิตเพราะโรคนี้ที่โรงพยาบาลและวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีกฤษณะ 80 คน และที่โรงพยาบาลเอกชนอีกแห่ง 17 คน เด็กส่วนใหญ่เสียชีวิตเพราะขาดน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือดอย่างเฉียบพลัน

โรคไข้สมองอักเสบเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในอำเภอเดิมๆ ของรัฐนี้ช่วงฤดูร้อนนับแต่ปี 2538 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับหน้าลิ้นจี่ หลายปีก่อนนักวิจัยสหรัฐกล่าวกันว่า โรคไข้สมองอาจเกี่ยวโยงกับสารพิษที่พบในลิ้นจี่ แต่นักวิจัยย้ำว่าจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อค้นหาสาเหตุของโรคนี้

ที่ผ่านมา ในภูมิภาคที่ปลูกลิ้นจี่ของบังกลาเทศและเวียดนามก็เคยมีการระบาดของโรคทางระบบประสาทเช่นกัน.









“โบอิ้ง” ไร้แผนเปลี่ยนชื่อ “737 แม็กซ์” หลัง “ปธน. ทรัมป์” แนะควรเปลี่ยน









สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า “โบอิ้ง” ยังไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนชื่อเครื่องบินรุ่น “737 แม็กซ์” ตามคำแนะนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอเมริกา ภายหลังจากที่เครื่องบินรุ่นดังกล่าวขัดข้องและเกิดอุบัติเหตุ สร้างความเสียหายร้ายแรงจากเครื่องบินตกถึง 2 ครั้ง จนต้องระงับการนำเครื่องรุ่นดังกล่าวขึ้นบิน

เกรก สมิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินของโบอิ้ง ให้สัมภาษณ์ว่า โบอิ้งพร้อมที่จะเปลี่ยนชื่อโดยตัดคำว่า “แม็กซ์” หากผู้บริโภคและสายการบินต้องการ เพื่อปรับปรุงแผนการตลาด


“สมิธ” ระบุว่า “เป้าหมายของเราตอนนี้คือการส่งคืนเครื่องแม็กซ์เพื่อการบริการอย่างปลอดภัย และได้รับความไว้วางใจจากสายการบินและนักเดินทางอีกครั้ง เรายังคงเปิดกว้างต่อการรับข้อมูลจากลูกค้าและผู้เกี่ยวข้อง แต่ขณะนี้ยังไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนชื่อเครื่อง 737 แม็กซ์”

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “ถ้าผมเป็นโบอิ้ง ผมจะปรับปรุงโบอิ้ง 737 แม็กซ์ ด้วยการเพิ่มคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมและเปลี่ยนชื่อเครื่องรุ่นนี้ใหม่”










นักวิเคราะห์จับตา “ปธน. จีน” เยือนเกาหลีเหนือ ก่อนพบ “ทรัมป์” ใน G20








สำนักข่าวเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า ทางการจีนเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนเตรียมเดินทางเยือน “เกาหลีเหนือ” อย่างเป็นทางการในวันที่ 20-21 มิ.ย. นี้

ประธานาธิบดีสีจะเข้าพบกับ “คิม จอง อึน” ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ณ กรุงเปียงยาง เมืองหลวงของเกาหลีเหนือ โดยครั้งนี้เป็นการเดินทางเยือนในวาระครบรอบ 70 ปีการสถาปนาสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศอย่างเป็นทางการ และนับเป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปีที่ผู้นำสูงสุดของจีนเดินทางเยือนเกาหลีเหนือ


“พีเพิลส์เดลี่” สื่อของทางการจีน รายงานว่า ในการเยือนครั้งนี้จะมีการประชุมหารือทวิภาคีในประเด็นด้านเศรษฐกิจการค้าระหว่างสองชาติ รวมถึงประเด็นความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี




เจิ้ง จียง (Zheng Jiyong) ผู้อำนวยการศูนย์เกาหลีศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยฟูตันในเซี่ยงไฮ้ ชี้ว่า การหารือด้านเศรษฐกิจครั้งนี้น่าจะเน้นย้ำถึง “วิธีการเฉพาะสำหรับการปรับตัวให้กับเวลาและสถานการณ์แบบใหม่” ท่ามกลางภาวะที่จีนเผชิญหน้ากับสหรัฐอเมริกาในสงครามการค้า

ทั้งนี้เกาหลีเหนือได้ดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการผลิตสินค้าเชิงอุตสาหกรรมตามแนวทางของจีนมาโดยตลอด ซึ่งคาดว่าจะมีการแลกเปลี่ยนแนวทางพัฒนาทางเศรษฐกิจกันมากขึ้น




นายเจิ้งกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้อาจจะมีการแลกเปลี่ยนในประเด็นความร่วมมือด้านการศึกษาและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

อย่างไรก็ตาม การเดินทางเยือนเกาหลีเหนือครั้งนี้ของประธานาธิบดีจีนเป็นที่จับตามองอย่างยิ่ง เนื่องจากจะเกิดขึ้นก่อนกำหนดการพบกันระหว่างสี จิ้นผิง พบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกาในการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศ “จี20” ที่โอซากา ประเทศญี่ปุ่นเพียงไม่กี่วัน











แผ่นดินไหวมณฑลเสฉวน ดับแล้ว 12 เจ็บ นับร้อย








สำนักข่าวเอเอพีรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.0 ตามมาตราริกเตอร์ ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงดึกของวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็น 12 รายแล้ว ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บมีจำนวนมากถึง 134 คน

หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นเมืองเสฉวน ระบุว่ามีผู้ที่ต้องอพยพจากบ้านเรือนที่พักถล่มจำนวนมากถึง 4,000 คน หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่เมืองอี๋ปิน ในมณฑลเสฉวน ด้านสำนักข่าวซีซีทีวี ของจีนเผยแพร่ภาพเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังให้ความช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากซากอาคาร ขณะที่มีรายงานด้วยว่าเกิดรอยร้าวขึ้นที่โครงสร้างของทางยกระดับเชื่อมเมืองจนต้องปิดการสัญจรลงบางส่วน



ด้านสำนักข่าวซินหัวรายงานด้วยว่าเกิดเหตุโรงแรมที่ตั้งอยู่ใกล้กับจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวถล่ม แต่ยังไม่มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนเท่าใด นอกจากนี้ทางการได้ส่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจำนวน 500 นาย ลงพื้นที่ พร้อมด้วยอุปกรณ์เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ไร้ที่อยู่อาศัยด้วย

พื้นที่ดังกล่าวเกิดเหตุอาฟเตอร์ช็อกแล้วอย่างน้อย 4 ครั้ง แต่ละครั้งความรุนแรงราว 5.1 ตามมาตราริกเตอร์

ทั้งนี้ในมณฑลเสฉวน เกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้นบ่อยครั้ง โดยครั้งรุนแรงขนาด 7.9 ตามมาตราริกเตอร์ เกิดขึ้นเมื่อปี 2008 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากถึง 87,000 คน ขณะที่เหตุแผ่นดินไหวต่อเนื่องกัน 3 ครั้ง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 12 ราย








ศาลกีวีสั่งจำคุก 21 เดือน คนแชร์วิดีโอฆ่าหมู่มัสยิดไครสต์เชิร์ช







ศาลนิวซีแลนด์ตัดสินจำคุกชายชาวนิวซีแลนด์วัย 44 ปีเป็นเวลา 21 เดือน ในความผิดเผยแพร่วิดีโอไลฟ์สตรีมของมือปืนที่ก่อเหตุกราดยิงมัสยิด 2 แห่งในเมืองไครสต์เชิร์ช



ฟิลิป อาร์ปส์ ชาวนิวซีแลนด์ อายุ 44 ปี โดนตำรวจจับกุมที่เมืองไครสต์เชิร์ช 4 วันหลังเกิดเหตุเบรนตัน ทาร์แรนต์ ชาวออสเตรเลีย อายุ 28 ปี กราดยิงมัสยิด 2 แห่งในเมืองไครสต์เชิร์ช ทำให้มีผู้เสียชีวิต 51 ราย เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา

สื่อนิวซีแลนด์รายงานเมื่อวันอังคารที่ 18 มิถุนายนว่า ศาลเขตไครสต์เชิร์ชตัดสินจำคุกอาร์ปส์ 21 เดือนใน 2 ข้อกล่าวหาที่ถูกส่งฟ้อง จากความผิดเผยแพร่วัสดุที่น่ารังเกียจด้วยการแชร์วิดีโอของทาร์แรนต์ที่ไลฟ์สตรีมทางโซเชียลมีเดียระหว่างก่อเหตุกราดยิงมัสยิดทั้งสองแห่ง

หนังสือพิมพ์นิวซีแลนด์เฮรัลด์รายงานว่า การไต่สวนคดีนี้ของศาลพบว่า อาร์ปส์ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่มือปืนไลฟ์สตรีมไปให้บุคคลอื่นราว 30 คน นอกจากนี้ เขายังมีคลิปวิดีโอที่ทำเพิ่มขึ้น โดยเพิ่มภาพเส้นกากบาทในกล้องปืนเล็งเป้าและนับจำนวนศพที่ถูกมือปืนรายนี้ยิงเสียชีวิต



ผู้พิพากษาสตีเฟน โอดริสโคลล์ ระบุว่าการแชร์วิดีโอดังกล่าวของอาร์ปส์เป็นอาชญากรรมด้วยความเกลียดชังต่อชุมชนมุสลิม เป็นความโหดร้ายอย่างยิ่งที่เขาแชร์วิดีโอนี้เพียงไม่กี่วันหลังเกิดเหตุกราดยิง ที่บรรดาญาติพี่น้องของเหยื่อกำลังรอฟังข่าวของผู้ที่เขารัก ศาลพบด้วยว่า อาร์ปส์สรรเสริญการเสียชีวิตของมุสลิมและต้องการให้ลงโทษมุสลิมที่กระทำความผิดด้วยวิธีการอื่นแทนการจำคุก

สำนักข่าวนิวส์ฮับรายงานว่า อาร์ปส์ประกาศตัวเป็นคนเชื่อลัทธิคนขาวเป็นใหญ่ ในปี 2559 เขาถูกตัดสินว่ากระทำความผิดที่นำหัวหมูไปวางไว้หน้ามัสยิดอัลนูร์ หนึ่งในมัสยิดที่โดนกราดยิงเมื่อเดือนมีนาคม.









6 ก.ค.นี้ เปิดใช้สะพานยกระดับข้ามมอเตอร์เวย์เชื่อมศรีนครินทร์-ร่มเกล้า






นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่เชื่อมโยงโครงข่ายถนนสายหลักตามแนวตะวันตก-ตะวันออกของกรุงเทพมหานคร และเป็นถนนในแผนแม่บทผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2518 สาย ช.3

มีจุดเริ่มต้นโครงการบริเวณทางแยกต่างระดับถนนศรีนครินทร์-ถนนรามคำแหง 24 ไปตามแนวถนนกรุงเทพกรีฑา โดยมีทางลอดรถยนต์บริเวณแยกถนนกรุงเทพกรีฑา 7 เพื่อเบี่ยงแนวถนนตามแนวเวนคืนที่ดินใหม่ จากนั้นเป็นแนวถนนตรงไปข้ามทางหลวงหมายเลข 9 (วงแหวนรอบนอกตะวันตก) สิ้นสุดโครงการบริเวณทางแยกต่างระดับถนนร่มเกล้า-ถนนเจ้าคุณทหาร ระยะทาง 12 กม. มีช่องจราจร 6-10 ช่องจราจร 2 ทิศทาง





ทั้งนี้โครงการก่อสร้างถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ช่วงที่ 1, 3, 4, 6, และ 7 ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ โดยเปิดการจราจรเมื่อวันที่ 28 ก.พ.61 ส่วนช่วงที่ 2 ตั้งแต่คลองหัวหมาก-คลองลำสาลี ประกอบด้วย การก่อสร้างอุโมงค์ทางลอด ความยาว 560 ม. ผิวจราจรทางราบ ความยาว 420 ม. ถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก (ค.ส.ล.) ขนาด 6 ช่องจราจร ความยาว 400 ม. และปรับปรุงถนนกรุงเทพกรีฑาซอย 9 ถึงซอย 28 โดยปูพื้นแอสฟัลต์ ขนาด 2 ช่องจราจร ไป-กลับ ความยาว 3,600 ม. ซึ่งการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดในช่วงที่ 2 บริเวณถนนกรุงเทพกรีฑา ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ และเปิดการจราจรเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.61 ที่ผ่านมา




สำหรับช่วงที่ 5 เป็นการก่อสร้างทางยกระดับข้ามทางหลวงหมายเลข 9 ขนาด 6 ช่องจราจร 2 ทิศทาง ความยาว 940 ม. ผลงานที่ทำได้ 82.78% ทั้งนี้ได้มอบหมายให้สำนักการโยธาติดตามการก่อสร้างในช่วงที่ 5 อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้คำแนะนำแก่ผู้รับจ้างในการปรับแผนการทำงานบริเวณสะพานยกระดับข้ามทางหลวงหมายเลข 9 ตลอดจนกำชับเรื่องความปลอดภัย ในระหว่างการก่อสร้าง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายหรืออุปสรรคแก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนในบริเวณดังกล่าว






ซึ่งการก่อสร้างในช่วงที่ 5 เป็นการติดตั้งโครงสร้างสะพาน โดยประกอบสำเร็จรูปจากโรงงาน และนำมาติดตั้งบริเวณสะพานยกระดับข้ามทางหลวงหมายเลข 9 จากนั้นจะดำเนินการเชื่อมต่อสะพานทั้ง 2 ฝั่งเข้าด้วยกัน คาดว่าสะพานในฝั่งขาเข้าจะแล้วเสร็จ สามารถเปิดการจราจรแบบวิ่งสวนกันฝั่งละ 1 ช่องจราจร ในวันที่ 6 ก.ค.62 ส่วนสะพานในฝั่งขาออกคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย.62

เมื่อโครงการก่อสร้างถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้าแล้วเสร็จ จะเป็นการเชื่อมโยงโครงข่ายถนนเพิ่มประสิทธิภาพการจราจรในแนวตะวันออก-ตะวันตก ตลอดจนช่วยบรรเทาและแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่เขตบางกะปิ เขตสะพานสูง เขตลาดกระบัง และบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง เพิ่มขีดความสามารถรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มมากขึ้น









แฮปปี้เอ็นดิ้ง ! “ธรรมนัส” เป่ากระหม่อม “ส.ส.ใต้-อีสาน” แบ่งเค้ก “ผู้ช่วย”








แฮปปี้เอ็นดิ้ง ! “ธรรมนัส” เป่ากระหม่อม “ส.ส.ใต้-อีสาน” แบ่งเค้ก “ผู้ช่วย” ยัน “ที่ปรึกษา” รมต. ขับเคลื่อนนโยบาย “ลุงตู่2

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยภายหลังหารือเพื่อยุติกาต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีภายในพรรคของ พร้อมด้วยกลุ่มภาคอีสานตอนบน ที่มีนาย เอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. เป็นแกนนำและพ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล แกนนำกลุ่มภาคใต้ว่า ได้รับมอบหมายจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้มาพูดคุยกับแกนนำทั้ง 2 ภาค โดยมีข้อสรุปที่ชัดเจนว่า ทางภาคใต้ และอีสานตอนบน จะร่วมขับเคลื่อนโยบายพร้อมรัฐบาลที่มีพปชร. เป็นแกนนำ


“นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ตัวแทนเข้าไปขับเคลื่อนนโนบายในนามรัฐบาล ส่วนการจัดสรรตำแหน่งการเมืองอื่นให้ อาทิ ผู้ช่วยรัฐมนตรี ที่ปรึกษารัฐมนตรี วันนี้ก็ได้มีการพูดคุยกันได้ข้อสรุปว่า ภาคใต้ ให้พ.อ.สุชาติ เสนอชื่อขึ้นมา ขณะที่ภาคอีสาน ก็ให้นายเอกราช เป็นผู้เสนอชื่อ”

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า จากนี้จะมีการพูดคุยกันให้มากขึ้นภายในพรรค และจะไม่มีการแบ่งกลุ่มอีกต่อไป ถึงแม้จะคิดเห็นต่างกันแต่ไม่แตกแยก

พ.อ.สุชาติ กล่าวว่า จากผลการชนะเลือกตั้ง 13 เขตในภาคใต้ สะท้อนว่า ประชาชนมีความเชื่อมั่นว่า พปชร. สามารถช่วยแก้ปัญหาต่างๆได้ และเมื่อมีการตั้งคณะรัฐมนตรี ชาวใต้ที่ตั้งความหวังไว้ ก็มีความห่วงใย ซึ่งส่วนตัวในฐานะแกนนำภาคใต้ ขอให้ความมั่นใจว่า ปัญหาต่างๆ นายกรัฐมนตรี จะดูแลตามนโยบายที่พูดคุยกับประชาชนไว้ ที่ผ่านมาไม่ได้กดดันเรื่องตำแหน่ง แค่อยากทราบแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายที่ได้หาเสียงไว้เท่านั้น

นายเอกราช กล่าาวว่า จากการออกมาให้สัมภาษณ์ 2-3 ครั้ง จนได้รับการประสานจากร.อ.ธรรมนัส วันนี้จึงได้มีการพูดคุยหารือ จนมีข้อสรุปว่า นายกรัฐมนตรี มีความเข้าใจในการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ที่ได้คุยกับประชาชนไว้ โดยที่ผ่านมา ไม่มีที่ประสานการขับเคลื่อนโยบาย จึงควรมีตัวแทนเข้าบริหาร แต่วันนี้ผู้ใหญ่มีความเข้าใจ และจะพิจารณาบุคคลที่เหมาะสมเข้าไปเป็นที่ประสาน โดยไม่จำเป็นต้องเป็นตัวเอง เพราะไม่ได้เรียกร้องเพื่อตัวเอง รวมถึงไม่จำเป็นต้องเป็นตัวแทนกลุ่ม ซึ่งขอแค่เป็นคนของรัฐบาล ที่จะเชื่อมถึงการบริหาร









 
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ


ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Feb 2009
ตอบ: 793
ที่อยู่: 2223
โพสเมื่อ: Wed Jun 19, 2019 02:53
[RE: (Day 66)สรุปข่าวประจำวันแค่ 7 นาทียกระดับความรู้รอบตัวของพวกท่าน]
ขอบคุณครับผม
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status: CEO @Manchester United FC
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Oct 2007
ตอบ: 7396
ที่อยู่: Old Trafford
โพสเมื่อ: Wed Jun 19, 2019 08:47
[RE: (Day 66)สรุปข่าวประจำวันแค่ 7 นาทียกระดับความรู้รอบตัวของพวกท่าน]
เดี๋ยวมาอ่านครับ

แผล่บไว้ก่อน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status: สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Sep 2018
ตอบ: 1882
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jun 19, 2019 10:29
[RE: (Day 66)สรุปข่าวประจำวันแค่ 7 นาทียกระดับความรู้รอบตัวของพวกท่าน]
โรฮินยาไม่จบไม่สิ้นจริงๆ อียูก้อเอาแต่พูดนั้นนี่ ตอนพวกนี้มาก้อพวกมีอำนาจตอนนั้นมาปล่อยไว้ไม่ใช่หรอ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel