อันนี้เขียนก่อนนะครับ ว่าไม่ได้ประชดประชัน หรือแดกดันผู้ป่วยโรคซึมเศร้าทุกประการ

เนื่องจากทั้งข่าวสาร หรือเหตุการณ์ในปัจจุบัน โรคหนึ่งที่พบได้ในสมัยนี้
รวมทั้งตามหน้าข่าว เพจ หรือ สื่อต่างๆคือโรคซึมเศร้า และผู้ป่วยก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี

โอเค ตรงนี้คือ Fact ที่รับได้ และผมก็เคารพผู้ป่วยโรคนี้จริงๆ

แต่ผมคิดว่าช่วงหลังๆ เหมือนคนรอบข้างผมเอง จะใช้ "คำว่าโรคซึมเศร้า" ง่ายขึ้น และเยอะขึ้นกว่าเดิม

จนเป็นเหมือนข้ออ้าง หรือเรื่องของการหาข้อแก้ตัวให้ตัวเองมากกว่า

คือบางทีคนเราเจอเรื่องเครียด เพื่อนร่วมงานแย่ๆ หัวหน้าแย่ๆ หรืองานกดดัน

แล้วเกิดจิตตก แต่ผมว่าเรื่องพวกนี้มัน ปรับอารมณ์ ทัศนคติ ความคิดได้ไง

แต่การเป็นโรคซึมเศร้า คือต้องมีการการมากกว่า 5 อย่าง จาก 10 อย่าง จากสัญญาณอาการของภาวะซึมเศร้า (ไม่ใช่เป็นแค่หนึ่ง หรือสองข้อ) ซึ่งมันเกี่ยวข้องกับเคมีในสมองอีกด้วย

และ จะต้องวินิจฉัยโดยแพทย์เท่านั้น

แต่ตอนนี้คือคนรอบตัวผมนี่แบบ "กูว่ากูเป็นโรคซึมเศร้าหวะ" "กูเป็นแน่ๆ" "กูว่ากูเป็นโรคซึมเศร้าชัวร์"

เฮ้ย.. เดี๋ยวก่อนดิ คือ จะวินิจฉัยเอง เป็นเองไม่ได้นะเว้ย -*-


ไม่ทราบว่ามีใครคิดแบบผม หรือเจอคนรอบตัวแบบผมบ้างหรือเปล่าครับ

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * ** * * * * * * * * * * * *

10 สัญญาณบ่งบอกโรคซึมเศร้า

ขอเรียกว่า โรคครอบจักรวาล
ไม่ขอพาดพิงถึงผู้ป่วยใดๆ แต่ขอวิเคราะห์อาการแต่ละอย่างที่ระบุว่าเป็นโรคชนิดนี้

1. มีอารมณ์ซึมเศร้า บางคนอาจมีอารมณ์หงุดหงิด ก้าวร้าว
- คือโดนด่าแรงๆแม่งก็เป็นทุกคนละ

2. ขาดความสนใจ ความชอบในกิจกรรมต่าง ๆ ที่เคยทำ
- เอิ่มเป็นตั้งแต่เด็กแล้วป่าววะได้ของเล่นสักพักนึงก็ไม่ชอบ ทำไรบ่อยๆมันเบื่อกันได้

3. เบื่ออาหารหรือเจริญอาหารมากขึ้น น้ำหนักลดลงหรือเพิ่มขึ้นมาก
- ไม่เมคเซนต์เลยสักนิด

4. นอนไม่หลับ หรือนอนนานกว่าปกติ
- ??????

5. เคลื่อนไหวหรือพูดจาช้ากว่าปกติ รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยตลอดเวลา
- เหนื่อยตลอดเวลา นี่เป็นซึมเศร้าจริงๆหรอ ส่วนเคลื่อนไหวพูดจาช้า เวลามีอะไรต้องคิดผมก็เดินช้าลง พูดช้าบ้างเร็วบ้างนี่ผมมองว่าไม่แปลกนะ

6. มองโลกในแง่ร้าย รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า โดดเดี่ยว และมีความรู้สึกผิด
- เวลาดาวน์ๆ มันก็มองโลกในแง่ร้ายบ้าง ผ่านไปวันสองวันได้เวลาทบทวนก็มีสติ สุดท้ายหาเหตุผลดีๆ มาเข้าข้างความผิดตัวเองอีก 55555555555

7. ไม่มีสมาธิ ความจำแย่ลง และขาดการตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ
- แก่ขึ้นสมาธิ สติลดลงอยู่แล้ว

8. รอบเดือนผิดปกติ มีความสนใจเรื่องเพศลดลงหรือมากขึ้น
- ความสนใจเรื่องเพศลดลงหรือมากขึ้น จะรู้ยังไง ว่ามันท่าเดิม

9. เจ็บปวดตามร่างกายโดยไม่ทราบสาเหตุ
- ยากและอันนี้ผมว่า ไม่น่าจะตรงกับซึมเศร้าเท่าไรนะ

10. มีความคิดที่จะฆ่าตัวตายหรือพยายามฆ่าตัวตาย ทำร้ายตัวเอง
- ข้อนี้น่าจะเข้าข่ายสุดแต่บางทีเจอพวกแก้ปัญหาไม่ได้ หาทางออกแบบนี้แล้วก็อ้างโรคนี้ก็มี

ซึ่งบางทีแค่สอบตกเนี่ย มันก็เกิดอาการเกิน 5 ข้อไปแล้ว อาการโคตรครอบคลุมเลย

ผมมีอาการมากกว่า 5 ข้อที่บอกและเป็นมานานละ
โดยการพยายามสำรวจและมองตัวเองอยู่ตลอด
แต่ก็ไม่กล้าฟันธงว่าตัวเองเป็น

คิดไว้แล้วว่าซักวันนึงคงต้องไปหาหมอ เพราะผลของการที่เรามีอาการแบบนั้น บ่อยครั้งที่นำพาไปสู่เรื่องแย่ๆ

เยอะจริงๆ ยิ่งคุณแม่หลังคลอดนะ

"กุเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอดเหมือนดาราคนนั้นแน่ๆ
"

อยากรู้เหมือนกันว่ามึงเศร้าจริงหรือคิดไปเอง

หรืออยากเป็น หรืออยากโพสเฟส

จะพูดก็ลำบากใจ เรื่องอารมณ์มันละเอียดอ่อนอยู่

ที่เจอมีอยู่สองอย่าง เป็นจริงๆ กับ เรียกร้องความสนใจ

ผมว่าคนที่เป็นจริงไม่ค่อยมาป่าวประกาศว่ากูเป็นโรคซึมเศร้านะ

ยกเว้นกรณีที่หายแล้ว แล้วมาแชร์ให้คนอื่นในการรักษา

ตอนนี้ผมซึมเศร้ามากเลยครับ ชื้อ28ออก29

ผมเป็นซัก 8 ข้อ

แต่นี่ก็คิดว่าตัวเองไม่ได้เป็นนะ ไม่ได้อยากตาย แต่ก็เพราะคิดแค่ว่าชีวิตยังมีความสุขดี ถ้าทุกข์ก็ไม่แน่

ขอเสริมอีกอันที่สำคัญครับ
โรคซึมเศร้า จะต้องกระทบต่อชีวิต หรืองานประจำด้วยครับ

เช่น หมาตาย เศร้าสองวัน หาย กลับไปทำงานได้ = ไม่ใช่โรค
หมาตาย เศร้าสามสัปดาห์ กลับมาทำงานได้ตามปกติ = เป็นคนเศร้าง่าย แต่ไม่ใช่โรค
หมาตาย เศร้าเดือนนึง เศร้าจนไม่อยากไปทำงาน ขาดเรียน ไม่พบปะใคร อาการมากกว่าห้าข้อ = โรคซึมเศร้า

ผมมี 7 ข้อมา 2 ปีกว่าๆละ แต่ไม่ได้เป้น

ไอ้กินเยอะกินน้อย มีอารมทางเพศมากน้อย ผมว่ามันปกตินะ

ผมว่าส่วนนึงเพราะชื่อมันไม่เคลียร์ด้วยมั้งครับ แบบมันสื่อไปทางซึมๆ เซ็งๆ เศร้าๆ เสียใจ เหงาๆ แฮงค์ๆ
ทั้งที่จริงๆแล้วมันน่าจะคือความเครียด อาการดาวน์ ความรู้สึกจมอยู่ข้างในแบบอาจจะรู้สาเหตุหรือไม่รู้ก็ตามมากกว่า
พอชื่อมันกำกวมก็เลยลำบากคนป่วยจริงๆไปเลย ปกติจะบอกใครว่าป่วยเป็นโรคนี้ก็ยิ่งยากอยู่แล้วด้วย

เป็นเรื่องเกี่ยวกับสารเคมีในสมองล้วนๆ ส่วนมากเกิดจากเจอเหตุการณ์หนักๆมา ( แล้วแต่คนว่าต้องหนักแค่ไหน )

แล้วก็ซึมเศร้ามี 2 ขั้น
1. ภาวะซึมเศร้า - อันนี้เกิดจากสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ อาการจะเบากว่า
2. โรคซึมเศร้า - อันนี้เกิดจากหลั่งน้อยมาก หรือแทบไม่หลั่งเลย จึงต้องกินยาเพื่อชดเชยส่วนนี้

ที่คุยกับหมอมา เค้าบอกว่า ภาวะซึมเศร้านี่แทบจะเป็นเกือบทุกคนเลยแหล่ะ แต่มันหายได้ ไม่ได้เป็นตลอด แต่ถ้าเป็นโรคนี่ เป็นตลอดเลย

ผมไม่ได้ไปอ้างกับใครนะ

แต่ถ้าถามผม ผมว่าผมมีอาการ แต่อาจจะยังไม่หนักเท่าหลายๆคนที่เป็น เลยยังไม่ได้ไปหาหมอ (ผมเคยคิดฆ่าตัวตายนะ แต่ถ้าไม่ใช่คนสนิทจริงๆผมก็ไม่ได้เล่าออกไป ผมมองว่าต่อให้เราพูดออกไป ถ้าไม่ได้สนิทจริงๆเค้าไม่มานั่งสนใจหรอก แต่ละคนก็มีเรื่องเครียด ดีไม่ดีโดนเอาไปนินทาหรือหาว่าหาข้ออ้างอีก ขนาดคนสนิทเหมือนเค้าไม่ได้เชื่อในโรคนี้ด้วย พูดไปก็ไม่เข้าใจอีกนั่นแหล่ะ555)

คหสต ผมว่าคนเป็นเยอะขึ้นในสังคมสมัยนี้ เหมือนมันถูกคาดหวังให้สำเร็จตลอดเวลาอ่ะ ละโซเชี่ยลคนก็โพสแต่ด้านดีๆ มันทำให้เรากดดันไม่รู้ตัวไปด้วยว่าคนรอบตัวมีชีวิตดีหมด

อย่างญี่ปุ่น เกาหลีนี่สังคมกดดันกว่าเรา คนฆ่าตัวตายปีนึงติดอันดับโลกเลยมั้ง เพราะเหมือนคนเค้าเครียดตลอดเวลา ตั้งแต่เด็กเลย ถูกคาดหวังให้สอบได้คะแนนดี ได้มหาลัยดีๆ อะไรพวกนี้

ส่วนคนที่เอาโรคนี้มาอ้างตลอดเวลา โดยส่วนตัวผมคิดว่าคงมีคนเป็นจริง แต่หลายๆคนไม่ได้เป็นหรอก
คือเท่าที่ตามข่าวหรือคนใกล้ตัวที่เป็น(หาหมอแล้ว) คนที่เป็นไม่ได้ป่าวประกาศเลยนะว่าเป็น เค้าเก็บเงียบๆด้วยซ้ำ
หรือตามข่าว ก็จะมีมาตลอดว่าผู้ตายเป็นคนร่าเริง ผมมองว่าคนเป็นส่วนใหญ่เค้าแอบอาการตัวเองด้วยซ้ำไป (อาจจะไม่ได้แอบหรอก แต่เหมือนพออยู่คนเดียวหรือเครียดจัดๆละอาการกำเริบรึเปล่าผมก็ไม่แน่ใจ)

แฟนเราเป็น คือตอนเป็นหนักๆ นี่เรายังรู้สึกแย่ตาม อยู่ๆก็ร้องไห้ ซึม หงุดหงิด

สารพัดจนเกือบเลิกกัน แต่ไปหาหมอ รพ.มนารมย์ แล้วดีขึ้นจนถึงทุกวันนี้

ก่อนหน้านั้นไปหาหลาย รพ. ไม่ดีขึ้น มาจบที่ รพ.มนารมย์

คนที่เป็นเค้าเป็นจริงๆ ส่วนคนไม่ได้เป็นแต่ชอบอ้างก็มีเยอะขึ้น เท่านั้นเอง

โรคซึมเศร้ามีหลายระดับครับ

มีตั้งแต่เป็นน้อยๆ ไปจนถึงเป็นหนักๆ

บางคนมีอาการโรคซึมเศร้าจริงแต่เป็นไม่นาน แบบนี้เรียกว่า Adjustment disorder ก็เป็นโรคทางจิตเวชประเภทนึงเหมือนกัน

ยิ่งหลังคลอดนี่ยิ่งหนักเลย อันตรายมาก เรียกว่าภาวะ postpartum blue เกิดกับแม่หลังหลังคลอด อาการจะรุนแรงมาก ถ้าเจอใครสงสัยจะเป็นภาวะนี้ต้องรีบพาไปพบจิตแพทย์

มีอาจารย์หมอท่านนึง หลังคลอดเจอภาวะนี้ไป แต่ไม่มีใครสนใจเพราะคิดว่าเป็นหมอ น่าจะจัดการได้ สุดท้ายฆ่าตัวตายหลังจากนั้น 2 วัน

เอาจริงๆคนรอบตัวท่านบางคนอาจจะเป็นจริงๆ บางคนอาจเป็นแค่ adjustment disorder

แต่ความเป็นจริงก็คือคนไทยเข้าพบจิตแพทย์น้อยมากๆ ไม่มีใครเดินดุ่มๆเข้าไปปรึกษาเลยเพราะกลัวโดนหาว่าบ้า

เจออีกทีคืออาการหนักแล้ว คนรอบข้างนำส่งเพราะพยายามฆ่าตัวตาย ถึงตอนนั้นก็รักษายากละ