ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
แข้งบุนเดสลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 7318
ที่อยู่: อิน ยัวร์ แอ่รีย้ะ
โพสเมื่อ: Sat Jun 15, 2019 15:18
คำตอบของแลมพาร์ด


สิ่งที่หลายคนมักจะลืมไป คือแฟรงค์ แลมพาร์ด ย้ายมาเชลซี ก่อนโรมัน อบราโมวิช จะเทกโอเวอร์

เชลซีในยุคนั้น มีประธานสโมสรคือเคน เบตส์ จะว่ารวยก็ใช่ แต่ก็ไม่ใช่มหาเศรษฐีแบบอบราโมวิชแน่ๆ ดังนั้นตอนที่แลมพาร์ดย้ายมาสแตมฟอร์ด บริดจ์ เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าทีมจะกลายเป็นเจ้าบุญทุ่ม ซื้อนักเตะระดับโลกมารัวๆขนาดนี้

ในปี 2001 แลมพาร์ดอายุ 23 ปี เขาเป็นคนหนุ่มไฟแรง ณ เวลานั้นมีดีกรีทีมชาติอังกฤษเรียบร้อยแล้ว

ซึ่งเมื่อเจ้าตัวมีเจตจำนงจะอำลาเวสต์แฮม ยูไนเต็ด จึงมีสโมสรมากมายเข้ามายื่นข้อเสนอให้

ทีมเต็งหนึ่งที่จะได้ตัวแลมพาร์ด จริงๆแล้วคือลีดส์ ยูไนเต็ด

เทียบสถานภาพชั่วโมงนั้น ลีดส์ ดูเป็นทีมที่มีอนาคตมากกว่า พวกเขาจบท็อปโฟร์ในพรีเมียร์ลีก ขณะที่ในแชมเปี้ยนส์ลีก ก็เข้าไปไกลถึงรอบรองชนะเลิศ

ผู้เล่นในทีมเต็มไปด้วยตัวท็อป ทั้งมาร์ค วิดูก้า, แฮร์รี่ คีลล์, ลูคัส ราเดเบ้ รวมถึงเพื่อนสนิทของเขาที่โตมาจากทีมเยาวชนด้วยกัน ริโอ เฟอร์ดินานด์ ก็เล่นอยู่กับลีดส์ ยูไนเต็ด

อย่างไรก็ตาม แลมพาร์ด กลับปฏิเสธทุกข้อเสนอ แล้วเลือกย้ายไปเชลซี ที่ได้อันดับ 6 ในฤดูกาล 2000-01 แทน

คำถามที่ทุกคนสงสัย ณ เวลานั้น คือทำไมเป็นเชลซีล่ะ?

---------------------------------------

ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้น ต้องอธิบายแบ็กกราวน์ชีวิตของแลมพาร์ดเล็กน้อย

ซึ่งต้องเริ่มต้นจากคุณพ่อของเขา ที่มีชื่อว่า "แฟรงค์" เช่นเดียวกัน นั่นคือแฟรงค์ แลมพาร์ด ซีเนียร์

แฟรงค์ ซีเนียร์ กับ แฮร์รี่ เรดแน็ปป์ เป็นเพื่อนซี้กันตั้งแต่เป็นนักเตะ

ทั้งคู่เป็นเด็กปั้นของสโมสรเวสต์แฮมและโตขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ด้วยกัน ด้วยความที่อายุห่างกันแค่ 1 ปี ทำให้ทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันมาตลอด คือสนิทกันทั้งในสนาม และนอกสนาม

ตอนเป็นนักเตะอาชีพ แฟรงค์ ซีเนียร์ กับ แฮร์รี่ เรดแน็ปป์ มีโอกาสเจอสองพี่น้องสาวสวย แพ็ท แฮร์ริส และ แซนดร้า แฮร์ริส

ปรากฏว่าแฟรงค์จีบแพ็ท ส่วนแฮร์รี่จีบแซนดร้า ซึ่งก็จีบติดทั้งคู่

เวลาต่อมาแฮร์รี่กับแซนดร้าแต่งงานกัน และมีลูกชายชื่อเจมี่ เรดแน็ปป์

ขณะที่แฟรงค์กับแพ็ทก็แต่งงานตามกันไป และมีลูกสาว 2 คนชื่อ แคลร์กับนาตาลี ตามมาด้วย ลูกชายคนสุดท้องที่ชื่อแฟรงค์ แลมพาร์ด จูเนียร์

ดังนั้นในความรู้สึกของตระกูลเรดแน็ปป์ กับ ตระกูลแลมพาร์ด จึงมีความลึกซึ้งมากกว่าการเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่มันกลายเป็นครอบครัวเดียวกันไปแล้ว

---------------------------------------

หลังจากที่แฮร์รี่ เรดแน็ปป์ แขวนสตั๊ดในปี 1982 เขาตัดสินใจทำงานเป็นผู้จัดการทีม โดยเริ่มต้นจากการคุมบอร์นมัธ

เรดแน็ปป์พาบอร์นมัธที่อยู่ดิวิชั่น 4 กระโดดมาอยู่ดิวิชั่น 2 ได้สำเร็จ ขณะที่ในเอฟเอคัพ 1984 ก็ทำผลงานช็อกโลก เมื่อโค่นแมนฯยูไนเต็ดได้สำเร็จในรอบ 3

ด้วยผลงานที่ดีเยี่ยมแบบนี้ ทำให้เวสต์แฮมดึงเขามาเป็นกุนซือคนใหม่ ในปี 1994

เรดแน็ปป์ เมื่อได้เป็นผู้จัดการทีมแล้ว ก็ไปจ้างเพื่อนซี้ แฟรงค์ แลมพาร์ด ซีเนียร์ มาเป็นผู้ช่วย และในปีเดียวกันนั้นเอง ก็จัดการเซ็นสัญญาแฟรงค์ แลมพาร์ด จูเนียร์ มาเป็นนักเตะเยาวชนของสโมสร

แฟรงค์ แลมพาร์ด จูเนียร์ เล่นกับทีมเยาวชนแค่ 1 ปี ก็ถูกดันมาเล่นทีมชุดใหญ่ ตอนมีอายุแค่ 17 ปีเท่านั้น

ในสายตาของแฮร์รี่ และ แฟรงค์ ซีเนียร์ มองว่าเจ้าเด็กแฟรงค์มันเก่งจริงๆ ก็ควรได้โอกาสลงสนาม แต่ ณ เวลานั้น ไม่มีใครเชื่อหรอก คนอื่นก็มองว่า แฟรงค์ จูเนียร์ เล่นเส้นเล่นสายกันเห็นๆ ใช้อำนาจของลุงกับพ่อ ผลักดันตัวเองให้ติดทีมชุดใหญ่นี่หว่า

ดังนั้นสำหรับแฟนๆเวสต์แฮม จึงรู้สึกคลางแคลงใจในตัวแลมพาร์ดมาตลอด และตั้งคำถามว่าแฟรงค์ จูเนียร์ มันเป็นของจริง จริงๆหรอ?

ในขณะที่ริโอ เฟอร์ดินานด์ หรือโจ โคล ถูกยกย่องว่าเป็นดาวรุ่งพรสวรรค์ของสโมสร แต่ในสายตาแฟนเวสต์แฮมจะมองแลมพาร์ดเป็นอีกแบบ

สตอรี่ของแลมพาร์ดกับเวสต์แฮมจากนั้น คือเขาพยายามเต็มที่เพื่อพิสูจน์ตัวเอง จนยึดตัวจริงอย่างไม่มีข้อกังขา ซึ่งเราจะหยิบเรื่องนี้มาเล่าให้ฟังภายหลัง

แต่ประเด็นที่จะเล่าต่อจากนี้ คือสำหรับแลมพาร์ด ในเมื่อจุดเริ่มต้นที่เขาได้เล่นทีมชุดใหญ่ มันเกิดจากการที่คุณพ่อ และคุณลุง ดันเขาขึ้นมาติดทีม ดังนั้น จุดจบของเขากับเวสต์แฮม ก็มาจากเหตุของครอบครัวเช่นเดียวกัน

---------------------------------------

เดือนพ.ค. 2001 แฮร์รี่ เรดแน็ปป์ ไปให้สัมภาษณ์กับนิตยสารแฟนซีน ว่าเขาไม่ค่อยพอใจประธานสโมสรที่ขายริโอ เฟอร์ดินานด์ให้กับลีดส์ ยูไนเต็ด

เทอร์รี่ บราวน์ ประธานสโมสรเวสต์แฮมได้อ่านบทสัมภาษณ์ชิ้นนั้น และไม่พอใจเรดแน็ปป์อย่างรุนแรง ทั้งคู่ทะเลาะกันหนัก จนสุดท้ายบราวน์ ประกาศไล่เรดแน็ปป์ออกจากตำแหน่ง

ไม่เพียงแค่เรดแน็ปป์ แต่บราวน์ยังไล่แฟรงค์ ซีเนียร์ ในฐานะผู้ช่วยออกอีกคนด้วย

นั่นกลายเป็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก สำหรับแฟรงค์ จูเนียร์ โอเคใช่ เขาเป็นผู้เล่นของสโมสร แต่ในเมื่อเวสต์แฮม ไล่พ่อกับลุงของเขาออกจากตำแหน่ง เพียงเพราะบทสัมภาษณ์ชิ้นเดียว ทำให้เขาเองก็รู้สึกไม่ยุติธรรม

"สถานการณ์ของแฟรงค์เป็นเรื่องช่วยไม่ได้จริงๆ เขาจะเตะฟุตบอลให้เวสต์แฮมต่อได้อย่างไรเมื่อดูจากสิ่งที่ทีมทำกับพ่อของเขาแบบนั้น" สตีฟ คัตเนอร์ เอเยนต์ของแลมพาร์ดกล่าว

ขณะที่ตัวแลมพาร์ดเองก็ยอมรับชัดเจนว่า "ผมไม่อาจเล่นให้เวสต์แฮมได้อีกต่อไป ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องทีน่าจะเข้าใจกันได้ เมื่อผมคิดว่าพวกเขาถูกไล่ออก ทำให้ผมรู้สึกสลดใจ"

"เวสต์แฮม คือชีวิตของผม แน่นอนผมมีความทะเยอทะยานอยากจะเล่นให้สโมสรที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ มีผลทำให้ผมตัดสินใจอะไรได้ง่ายขึ้น"

ทางเวสต์แฮมเองจริงๆไม่อยากเสียแลมพาร์ดไปหรอก เพราะอย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นดีกรีนักเตะทีมชาติอังกฤษ แต่จากเรื่องที่เกิดขึ้น มันก็ยากแล้วที่ตัวแลมพ์จะอยู่กับทีมต่อ

เมื่อมีข่าวหลุดออกไปว่าแลมพ์พร้อมย้ายทีม 3 ทีมที่ยื่นข้อเสนอเข้ามา มีแอสตัน วิลล่า, ลีดส์ และ เชลซี

แอสตัน วิลล่า นั้นแลมพาร์ดไม่ได้พิจารณานัก เพราะอันดับในลีกอยู่ที่ 8 ของตาราง และถ้าเทียบกันแล้วลีดส์กับเชลซี ดูสามารถไปได้ไกลกว่า

ว่ากันตามจริง ลีดส์น่าสนใจมากสุด เพราะเป็นช่วงขาขึ้นของสโมสร ณ เวลานั้น ยังไม่มีใครรู้ปัญหาการเงินที่ซ่อนอยู่ของทีม ลีดส์จึงดู เป็นทางเลือกที่น่าจะตอบโจทย์ที่สุด

โค้ชของลีดส์ก็เป็นเดวิด โอเลียรี่ ที่เป็นลอนดอนเนอร์เหมือนกับแลมพาร์ดดังนั้นน่าจะคุยกันรู้เรื่อง

ขณะที่เชลซี ดูจะเป็นชอยส์ที่น่าลำบากใจกว่า

นั่นเพราะเชลซีกับเวสต์แฮม เป็นคู่ปรับร่วมลอนดอน โอเค พวกเขาอาจไม่ใช่คู่แค้นกันโดยตรงแบบเวสต์แฮม-มิลล์วอลล์ แต่ยังไงเสียถ้าย้ายไป แลมพาร์ดก็จะต้องโดนโห่แน่ๆ

นอกจากนั้นคู่แข่งในตำแหน่งมิดฟิลด์ของเชลซีก็น่ากลัวกว่า มีกองกลางแชมป์โลก เอ็มมานูเอล เปอตีต์, มีแซม ดัลลา โบน่า กับ โจดี้ มอร์ริส ซึ่งเป็นลูกหม้อสโมสรทั้งคู่ มี "ย็อคก้า" สลาวิซ่า โยคาโนวิช มิดฟิลด์ทีมชาติยูโกสลาเวีย

คือไม่มีอะไรการันตีว่าแลมพาร์ดย้ายมาจะเป็นตัวจริง

ขณะที่ข่าวคราวเรื่อง เคน เบตส์ ประธานสโมสรเชลซี มีหนี้สินเพียบก็ดังหนาหู จะถังแตกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

บางทีการย้ายไปทีมที่มีฐานะทางการเงินมั่นคงอาจจะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า

อย่างไรก็ตาม แลมพาร์ดตัดสินใจลองไปคุยดูก่อน ถ้าได้ฟังแนวทางของสโมสร ต่อให้ไม่เลือกก็ไม่เห็นเป็นไร

เขามีโอกาสได้คุยกับเคลาดิโอ รานิเอรี่ ผู้จัดการทีมเชลซี และกลุ่มนักเตะบางคน รวมถึงกลุ่มแฟนคลับของสโมสร

สิ่งที่แลมพาร์ดได้เห็นข้อแตกต่างระหว่างเชลซีกับตัวเลือกอื่นๆ คือ แฟนบอลของสโมสร มีจิตวิญญาณของความเป็นผู้ชนะสูงมาก

กล่าวคือแม้ทีมจะเพิ่งอันดับ 6 ในตาราง แถมมีแต้มตามหลังแชมป์แมนฯยูไนเต็ดถึง 19 แต้ม แต่แฟนๆของเชลซียังคงเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมว่า พวกเขาสามารถลุ้นแชมป์ได้

ขณะที่ทีมอื่นๆมองแค่การจบอันดับ 1 ใน 6 เป็นอย่างน้อย แต่แฟนบอลเชลซี ต่างมีความเชื่อว่าสักวันพวกเขาจะไปถึงแชมป์พรีเมียร์ลีก

ซึ่งมันทำให้แลมพาร์ดรู้สึกดี เพราะตัวเขาวางเป้าหมายในการค้าแข้งไว้สูง ดังนั้นก็อยากให้แฟนบอลมีความทะเยอทะยานในระดับเดียวกัน

อีกจุดที่เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้แลมพาร์ดตัดสินใจได้เด็ดขาด คือ เคลาดิโอ รานิเอรี่

รานิเอรี่ บอกกับแลมพาร์ดว่า "ฉันรู้สึกว่าตัวเองคือมิเกลันเจโล่ ถ้าหากมีวัตถุดิบที่ดี มีหินอ่อนคุณภาพ ก็สามารถปั้นผู้เล่นระดับท็อปได้"

แล้วนายเป็นหินอ่อนคุณภาพหรือเปล่าล่ะ แลมพาร์ด?

รานิเอรี่ ยืนยันว่าถ้าอยู่ที่เชลซี เขาสามารถพัฒนาตัวเองได้ เพราะที่เชลซี ไม่มีใครมองเขาเป็น "แฟรงค์ จูเนียร์"

ถ้าอยู่เวสต์แฮมต่อ ในสายตาของแฟนๆเวสต์แฮมก็มองเขาเป็นแค่เด็กเส้นของพ่อ หรือถ้าย้ายไปลีดส์ก็มีริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่รู้จักเขาในฐานะแฟรงค์ จูเนียร์อยู่ดี

แต่ถ้าเลือกมาเชลซี ที่สโมสรแห่งนี้ไม่สนใจว่าคุณจะเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ทุกคนจะวัดกันแค่เรื่องในสนามเท่านั้น

และการที่ไม่มีเสียงนกเสียงกาแบบนั้น น่าจะทำให้แลมพาร์ดพัฒนาเกมฟุตบอลได้ดีขึ้น

ซึ่งด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้สุดท้ายแลมพาร์ดเลือกย้ายไปเชลซีด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์

---------------------------------------

พอแลมพาร์ดเลือกย้ายไปเชลซี ช่วงแรกๆก็ถือว่า ยังลุ่มๆดอนๆอยู่

ปี 2001-02 เชลซีจบอันดับ 6 อีกครั้ง พลาดสิทธิไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก

ปี 2002-03 เคน เบตส์ถูกเปิดเผยว่า มีหนี้สินคั่งค้างถึง 80 ล้านปอนด์ นั่นทำให้เชลซีมีงบประมาณซื้อนักเตะในซีซั่นนั้นแค่ 5 แสนปอนด์เท่านั้น

แถมยังต้องโละผู้เล่นออกจากทีมจำนวนมากเพื่อลดค่าใช้จ่าย ทั้งแซม ดัลลา โบน่า, สลาวิซ่า โยคาโนวิช, มาร์ก บอสนิช และ มิเกล ฟอร์สเซลล์ ส่วนโรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ ก็ประกาศแขวนสตั๊ด

ณ เวลานั้น มีข่าวว่านักเตะหลายคนเตรียมจะชิ่งหนีสโมสร เพราะความไม่แน่นอนในเรื่องการเงิน

อย่าลืมว่า ถ้าหากสโมสรไม่สามารถชำระหนี้สินได้ มีสิทธิจะถูกสั่งปรับแต้ม หรือปรับตกชั้น เหมือนเคสของพอร์ทสมัธ ที่เล่นพรีเมียร์ลีกอยู่ในปี 2010 แต่พอเคลียร์ปัญหาการเงินไม่ได้ ก็โดนตัดแต้มรัวๆ จนทีมหล่นไปเล่นลีกทู ในปี 2013 คือ 3 ปีตกไป 3 ดิวิชั่น

แต่แม้จะมีข่าวไม่ดีเกี่ยวกับเชลซีมากมาย แลมพาร์ดก็ยังสู้ต่อไป เขาเลือกเชลซีไปแล้ว และจะไม่ย้ายทีมหนี เมื่อแฟนบอลยังคงสู้ ยังคงเชื่อมั่นว่าทีมจะประสบความสำเร็จได้ เขาก็จะเชื่อแบบนั้นเช่นกัน

กรกฎาคม 2003 หลังจากอยู่ในภาวะตึงเครียดมาทั้งในซีซั่น ในที่สุด โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีรัสเซีย ก็เข้ามาเทกโอเวอร์เชลซี โดยจ่ายหนี้สินคั่งค้างให้ทั้งหมด และนำเงินมหาศาลมาลงทุนพัฒนาทีม

สำหรับแลมพาร์ด จึงได้เห็นการเปลี่ยนผ่านของเชลซี ตั้งแต่ช่วงที่เป็นหนี้สินไม่มีเงินซื้อนักเตะมาสู่ยุคที่เชลซีกลายเป็นมหาเศรษฐี

สุดท้ายในซีซั่น 2004-05 ในที่สุด แลมพาร์ดก็ไปถึงแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรกได้สำเร็จ

และรู้หรือไม่ เขาเป็นนักเตะคนเดียวในทีมเชลซีชุดนั้นที่ลงเล่นตัวจริงครบทั้ง 38 นัดด้วย

ลองคิดดูว่า ถ้าวันนั้นแลมพาร์ดเลือกอยู่เวสต์แฮมต่อ หรือเลือกไปลีดส์ หรือไปวิลล่า บางทีเขาอาจจะไม่ได้เห็นความสำเร็จอันหอมหวานแบบนี้

"เชลซีคือการย้ายทีมที่ถูกต้อง" แลมพาร์ดพูดตั้งแต่วันแรกที่ย้าย และพูดอีกหลายครั้งจนถึงวันนี้

---------------------------------------

ในเวลานี้ แลมพาร์ด มีโอกาสสูงมากที่จะย้ายกลับมาเป็นผู้จัดการทีมของเชลซีอีกครั้ง

หลายคนบอกว่ามันเร็วเกินไปไหม เก็บประสบการณ์กับดาร์บี้ต่อไปอีกสักปีก็ได้ หากกระโดดมาเจอการแข่งขันระดับสูงเร็วขนาดนี้ เขาอาจจะโดนยิงเละเทะจนเสียความมั่นใจไปเลยก็ได้

ยิ่งการที่เชลซีซื้อใครไม่ได้ แถมเสียเอแด็น อาซาร์ไปแล้ว มันยิ่งยากลำบากเข้าไปใหญ่

แน่นอนเหตุผลเหล่านี้เข้าใจได้ แต่อย่าลืมว่าแลมพาร์ดนั้นเป็น Fighter

ในอดีตเขาเลือกย้ายมาเชลซี ทั้งๆที่มีทางเลือก Play Safe มากกว่านั้นตั้งเยอะ อยู่กับทีมอื่นการันตีตัวจริงแน่ๆ แต่เขาก็ยังมาวัดใจกับเชลซี แล้วเริ่มนับหนึ่งสร้างแชมป์ไปด้วยกัน

ในสถานการณ์น่าอึดอัดใจของเชลซี ณ เวลานี้ คนที่จะกอบกู้ทีมได้ ต้องมีความเข้าใจใน DNA ของสโมสรอย่างลึกซึ้ง ต้องรู้ว่าแฟนบอลต้องการ "คว้าแชมป์" แค่ไหน แม้จะไม่มีความพร้อมเลยก็ตาม

ดังนั้นกวาดสายตาไปทั่วโลกตอนนี้ คนที่รู้จักเชลซีเป็นอย่างดี ถ้าหากไม่นับโชเซ่ มูรินโญ่ ที่คุมเชลซีมาแล้วสองรอบ

อีกคนเดียวที่เหลือ จะเป็นใครไปได้ล่ะ

ถ้าไม่ใช่ซูเปอร์แฟรงค์

Cr.วิเคราะห์บอลจริงจัง

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ
แก้ไขล่าสุดโดย เกรียนโอ้_Balotelli เมื่อ Sat Jun 15, 2019 15:19, ทั้งหมด 1 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ


ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ก.
Status: นั้นไงกูว่าแล้ว
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 07 Sep 2013
ตอบ: 1616
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Jun 15, 2019 15:40
คำตอบของแลมพาร์ด
มีหลายอย่างที่พึ่งรู้นะ เพราะไม่ใช่แฟนทีมนี้ เช่นรานิเอรี่เคยคุมเชลซี เขียนวิเคราะห์ดีครับ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Jan 2008
ตอบ: 3816
ที่อยู่: STAMFORD BRIDGE
โพสเมื่อ: Sat Jun 15, 2019 15:45
ถูกแบนแล้ว
[RE: คำตอบของแลมพาร์ด]
พึ่งรู้ความสัมพันธ์ของตระกูลเรดแน็ปป์ กับ แลมพาร์ด ก็วันนี้แหละ ก็งงว่าเป็นญาติกันยังไง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 10417
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Jun 15, 2019 15:50
[RE: คำตอบของแลมพาร์ด]
ถ้ามาแล้วพาทีมจบTOP4ด้วยนักเตะที่มีอยู่ตอนนี้ก็ถือว่าโอเคแล้วหละ
ไม่ต้องถึงขั้นแชมป์หรอก เพราะพวกทีมลุ้นแชมป์ทรัพยากรนักเตะเค้า ดีมากๆ ไหนจะมีโค้ชที่ท็อปๆของโลกอีก

คุณภาพนักเตะตอนนี้ให้พอๆกับ แมนยู น่อล อะ
แต่อย่าลืมว่าเค้าเสริมได้ ส่วนเชลซีมีเพียงกำลังเสริมที่ปล่อยยืมไปเท่านั้น
แล้วฟอร์มแต่ละคนก็ไม่ได้ดีขนาดที่จะเอามาใช้ในทีมให้ลุ้นแชมป์ได้เลย

ฉนั้น ถ้ามาแล้วพาทีมจบTOP4ได้ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว

กลับกับถ้าทำไม่ได้ แต่พอมีทรงบอล ผมก็ยังเชียร์ให้คุมต่อเหมือนเดิม

หวังว่าแฟนบอลคงเข้าใจสถานการณ์ทีมปัจจุบันนะ ไม่ใช่ใจร้อนให้ปลดลูกเดียว
มันก็ไม่ต่างอะไรกับการที่ เอาตำนานมาฆ่าเล่น
7
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Apr 2009
ตอบ: 969
ที่อยู่: Stamford Bridge
โพสเมื่อ: Sat Jun 15, 2019 16:27
[RE]คำตอบของแลมพาร์ด
ตลอดเวลาที่แกเป็นนักเตะ ผมเชื่อมั่นในตัวแลมพาร์ดคนนี้เสมอ

เพราะฉะนั้น ผมก็ยังคงเชื่อมั่นในตัวแลมพาร์ดต่อไป ไม่ว่าจะเปลี่ยนสถานะจากนักเตะตำนานสโมสร กลายมาเป็นผู้จัดการทีม

ผมเชื่อมั่นอีกด้วยว่าแลมพาร์ดนี่แหละ จะกลายมาเป็นตำนานผู้จัดการทีมของเชลซี เทียบเท่ากับที่มูรินโญ่เคยทำเอาไว้

...แล้วหวังว่าวันนึง ทีมเชลซีจะมีตำนานผู้จัดการทีมที่ชื่อว่า แฟรงค์ แลมพาร์ด
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะลา ลีกา
Status: อัจฉริยะ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 13224
ที่อยู่: โชโฮคุ
โพสเมื่อ: Sat Jun 15, 2019 17:03
คำตอบของแลมพาร์ด
อ่านแฃ้วขึ้น ลุยเลยแลมพ์
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status: king london#26
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Sep 2013
ตอบ: 3215
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Jun 15, 2019 17:19
คำตอบของแลมพาร์ด
บอกเลยสำหรับคนนี้​จิตใจโครตแกร่ง​ ดูเกมส์การแข่งขันใน​uclได้​ ที่จำได้แม่นๆก็คือนัดชิงกับแมนยู
ตอนที่จังเทอรี่พลาดโทษตัดสิน​ แลมพ์​เข้าไปปลอบ

และไม่มีอาการเสียใจไรสักนิด​ ลองไปดูคลิปย้อนหลังได้
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 3355
ที่อยู่: Stamford Bridge #
โพสเมื่อ: Sat Jun 15, 2019 17:25
[RE: คำตอบของแลมพาร์ด]
Super Frank is Back
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งเจลีก
Status: Condition Red
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 16500
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Jun 15, 2019 17:34
คำตอบของแลมพาร์ด
ผมเชียร์ให้แลมพ์มาคุมเชลซีนะ ตั้งแตาผมดูบอลมา ตั้งแต่ปี2003 ก็เห็นแลมพ์ อยู่้เชลซีมาตลอด คงจะมันน่าดูถ้า แลมพ์คุมเจอโซลชา แล้วอนาคต เจอร์ราดกลับมาคุมลิเวอร์ แค่คิดก็มันแล้ว
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status: CFC
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Mar 2019
ตอบ: 991
ที่อยู่: มิติควอนตัม
โพสเมื่อ: Sat Jun 15, 2019 18:06
[RE: คำตอบของแลมพาร์ด]
come on chelsea
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Mar 2019
ตอบ: 10735
ที่อยู่: The fields of Anfield Road.
โพสเมื่อ: Sat Jun 15, 2019 18:22
[RE: คำตอบของแลมพาร์ด]
นักเตะทีมคู่แข่งที่ผมชอบสมัยเชียร์บอลแรกๆนะ
แมนยู-เบคแฮม
อาเซน่อล-เบิร์กแคม
และเชลซี ก็คือเฮียแลมพ์
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Dec 2009
ตอบ: 3399
ที่อยู่: เซียนอยู่ตึก
โพสเมื่อ: Sat Jun 15, 2019 18:29
[RE]คำตอบของแลมพาร์ด
ถ้าฟาเบรกัสยังอยู่จะเป็นยังไงนี่ งัดกับเเลมพ์ประจำ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 May 2011
ตอบ: 2330
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Jun 15, 2019 19:46
ถูกแบนแล้ว
[RE: คำตอบของแลมพาร์ด]
ได้มากกว่า ความคิดแฟร้ง คือประวัติทีม เชลซี ที่ผมเชียร์ ในมุมที่ไม่เคยรู้มาก่อน

เริ่มเชียร์เชลซี ตอนรู้ว่า มูรินโย่ ย้าย มา ประวัติก่อนหน้าเลยแทบไม่รู้เลย พึ่งได้รุ้วันนี้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Nov 2010
ตอบ: 1891
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Jun 15, 2019 20:12
[RE: คำตอบของแลมพาร์ด]
เคยอ่านผ่านๆว่ามีคนดูถูกว่าที่แลมพาร์ดขึ้นชุดใหญ่ได้เพราะเป้็นเด็กเส้น แต่ตอนนี้เค้าพิสูจน์ให้เห็นแล้ว
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 359
ที่อยู่: ภูเขา น้ำตก ต้นไม้ ท้องฟ้า
โพสเมื่อ: Sat Jun 15, 2019 20:37
[RE: คำตอบของแลมพาร์ด]
ชอบความเป้นนักสู้ในตัว แฟรง แลมพาร์ด มาก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel