บันทึก 11 ปีแข้งไทยในรัง เลสเตอร์ ซิตี้ และก้าวต่อไปของ "ลีออน เจมส์"
“ชุดยู 23 ของเลสเตอร์ ในการแข่งขันแต่ละนัด จะมีนักเตะจากชุดใหญ่ 5-6 คน ลงมาเล่นเรียกความฟิต พื้นที่ตรงนี้มันหายไป” ลีออนเล่าถึงความจริงที่ไม่มีใครเคยรับรู้
“สมมติว่า ผมต่อสัญญาออกไป ผมต้องขึ้นไปเล่นชุดยู 23 ผมจะมีโอกาสได้ลงสนามน้อยมาก มีรุ่นพี่สองคนที่รู้จัก คนแรกได้เล่น 35 นาที ทั้งฤดูกาล อีกคนได้เล่นแค่ 3 นัด มันเหมือนกับเสียเวลาฟรีไปหนึ่งปี”
“ถ้าอยู่กับเลสเตอร์ปีหน้า ผมจะได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นมาก แต่มันไม่สำคัญ เพราะสิ่งสำคัญคือ ผมต้องลงเล่นให้มากที่สุด หลายคนอาจไม่ได้มองแบบนี้ ไม่ได้เล่นแต่เงินเยอะ เขาโอเค แต่สำหรับผม มันไม่ใช่”
จากประสบการณ์ตรง ที่ลีออนได้เห็นรุ่นพี่หลายคนย้ายออกจาก เลสเตอร์ ซิตี้ เพื่อลงไปค้าแข้งให้กับสโมสรลีกล่าง จนได้โอกาสลงเล่นในทีมชุดใหญ่ แม้จะเป็นช่วงเวลา 10 หรือ 15 นาทีต่อเกม ลีออนมองเห็นว่า เรื่องดังกล่าวมีประโยชน์มากสำหรับผู้เล่นเยาวชนแบบเขามากกว่า
“ผมอยู่กับเลสเตอร์มาเกิน 11 ปี ผมอยากหาเส้นทางอื่น ความท้าทายอื่น สภาพแวดล้อมมันเหมือนเดิมเกินไป อีกอย่างถ้าอยู่ต่อ ผมเสียเวลาไปหนึ่งปี เรื่องนี้ห้ามเด็ดขาดเลยครับ เพราะช่วงอายุ 17 ถึง 19 นักบอลต้องพัฒนาให้ได้มากที่สุด ลงเล่นเท่าที่จะทำได้”
“นี่คือเหตุผลที่ผมไม่ต่อสัญญากับเลสเตอร์ เพราะเป้าหมายของผมคือการลงสนามให้มากที่สุด ผมต้องการทีมที่ให้โอกาสผมลงสนาม จะเป็นทีมลีกไหนไม่สำคัญ จะได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพราะตอนนี้ผมอายุ 17 ปีแล้ว”
“ถ้าผมไม่มีโอกาสเล่นในยู 23 ตอนนี้ เมื่ออายุเกินกว่าชุดนี้ไป ผมจะสู้ใครไม่ได้เลย ผมยังต้องพัฒนาตัวเองให้มากกว่านี้ ขอแค่มีโอกาสเล่นในยู 23 ก่อน ถ้าผมทำผลงานได้ดีตรงนั้น ผมจะได้โอกาสขึ้นชุดใหญ่เอง”
“ตอนนี้ผมมีเอเยนต์ เขาแจ้งว่ามีสองสโมสรที่สนใจในตัวผม แต่ทุกอย่างต้องรอจนกว่าจะถึงช่วงเปิดฤดูกาล ผมถึงเข้าไปทดสอบฝีเท้าได้ ผมจึงเดินทางมาเตรียมความพร้อมที่ประเทศไทยก่อน”
ลีออน เจมส์ เข้าเรียกความฟิตกับสโมสรดังในประเทศไทย อย่าง อาร์มี่ ยูไนเต็ด และ สุโขทัย เอฟซี โอกาสดังกล่าวทำให้ตัวเขาได้สัมผัสรูปแบบการเล่นฟุตบอลบนแผ่นดินสยาม ซึ่งลีออนยอมรับว่า มีความแตกต่างกับที่อังกฤษค่อนข้างมาก
“ทักษะนักเตะไทยดีครับ ไม่แตกต่างจากอังกฤษ แต่บอลไทยเล่นกันช้าจังหวะกว่ามาก ที่อังกฤษเขาจะเล่นกันเร็ว เน้นโยนบอลเป็นหลักด้วย ส่วนบอลไทยเน้นการครองบอลมากกว่า”
“อีกอย่างที่ต่างคือเรื่องการซ้อม บอลอังกฤษจะเข้าปะทะแรงมาก แม้เป็นการซ้อม ทุกคนไม่มียั้ง ไม่มีการเกรงใจว่าเป็นเพื่อนร่วมทีมกัน”
อ่านเต็มๆที่ :
https://www.mainstand.co.th/catalog/2-Converse/804-%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%99+%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B9%8C?fbclid=IwAR2wl_3CRU4P21arL9Lc21A69G-okEgBRH2pTCGZTtmaHrpuZzfE5tbBVNM
ดูความคิดเด็กที่โตจาก ยุโรป กับเด็กที่โตที่บ้านเรา
ความคิดนี่ต่างกันเยอะมาก จริงจังกันตั้งแต่เด็กๆ
แล้วสโมสรไทย ดึงมาเพื่ออะไร ดึพวกลูกครึ่งมาดองกันเพียบ
ใครที่ฝึกฝนที่อคาเดมี่ ต่างประเทศ ผมไม่อยากให้กลับมาไทยเลย
น้องคอร์บินที่อยู่ อคาเดมี่แมนอยู่ นอกจากเทรนกับสโมสร ยังกลับมาฝึกส่วนตัวอีก
ความจริงจังต่างกัน ความเก่ง ความสามารถก็ต่างกันเช่นกัน
สโมสรไทย เล่นกันช้าจริงอย่างที่น้องมันบอกแหละ
ถ้าเร่งจังหวะการเล่น ความเหนื่อยเพิ่ม แต่ความฟิต ความชิน ความอึดก็จะเพิ่มตามไปด้วย