เมื่อคืนหลังจากได้ดูไอดอลในวัยเด็ก ตอน ม. ปลายที่ทำให้ผมมาเล่นเซ็นเตอร์ใส่เบอร์6 (ตอนเริ่มเล่นบอลโกลหนูผมเล่นกองหน้า) แล้วเลยอยากย้อนอดีตในตอนนั้นซะหน่อยครับ (รูปนี้เลยที่ติดผนังห้องนอนตอนนั้น)


ในปี 1997 - 1998 ปืนใหญ่อาเซน่อลที่กำลังแรงขึ้นมาท้าชิงแชมป์พรีเมียร์ลีค
ส่วนทางฝั่งยูไนเต็ดเริ่มประสบปัญหาช่วงโรยราของแกนหลักในทีมหลายคน หนึ่งในนั้นคือ แกรี่ พัลลิสเตอร์ ปราการหลังคู่บุญของเซอร์อเล็กซ์ ได้เข้าสู่วัย 32 ปีทั้งฟอร์มการเล่น สภาพร่างกาย อาการบาดเจ็บสุดท้ายยูไนเต็ดต้องเสียแชมป์ให้กับอาเซน่อลไปในปีนั้นโดยแพ้ไป 1 คะแนน
ทำให้เซอร์อเล็กซ์มีความจำเป็นต้องปล่อยพัลลี่ออกจากทีมไปในปีนั้น
ทีมงานของเฟอร์กี้ไม่นิ่งนอนใจ เมื่อจบซีซั่นได้ดำเนินการติดต่อ PSV ทันทีเพื่อคว้าตัวกองหลังวัย 26ปีที่มีดีกรี Dutch Footballer of the Year 1997 ด้วยค่าตัว £10.6M ซึ่งเป็นสถิติโลกสำหรับตำแหน่งกองหลังในเวลานั้น
(นอกจากนั้นในปีนั้นยูไนเต็ดได้ซื้อ ดไวท ยอร์ค มาแทนไบรอัน แมคแคลร์ และ เยสเปอร์ บอมควิส มาเป็นแบคอัพให้ไรอัน กิกส์ ที่มีอาการบาดเจ็บบ่อยด้วย)

สตัมไม่ทำให้ผิดหวังมาสืบทอดเบอร์ 6 ต่อจากพัลลี่ และสามารถช่วยให้ยูไนเต็ดกระชากแชมป์กลับมาจากเจ้าปืนโตได้สำเร็จ ยังไม่พอยูไนเต็ดยังกวาดทริปเปิ้ลแชมป์ในปีแรกของสตัมด้วย เมื่อรวมตลอดระยะเวลา 3 ปีที่อยู่กับยูไนเต็ดแบบเต็มซีซั่นสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีคได้ทุกปี
พร้อมทั้งเป็นทีมแรกที่คว้าแชมป์สูงสุดของลีคอังกฤษได้ 3ปีติดกัน

Manchester United
* Premier League: 1998–99, 1999–2000, 2000–01
* FA Cup: 1998–99
* UEFA Champions League: 1998–99
Individual
* PFA Team of the Year: 1998–99 Premier League, 1999–2000 Premier League, 2000–01 Premier League
* UEFA Club Best Defender of the Year: 1998–99, 1999–2000

สำหรับความรู้สึกส่วนตัวของผมที่เริ่มดูบอลมาตั้งแต่ปี 1995 จนถึงปัจจุบัน 2019 ถ้าเทียบตอนพีคสุดผมให้สตัมเป็นเซ็นเตอร์ตัวกลางที่ดีที่สุด (นับเฉพาะที่เล่นให้ยูไนเต็ด และ ผมทันดู)
สตัมเป็นกองหลังที่ครบเครื่อง และ เป็นเซ็นเตอร์แบ็คแบบโมเดิร์นฟุตบอลในยุคนั้น สตัมเป็นเหมือนส่วนผสมที่รวม ริโอ กับ วิดิชเข้าด้วยกันสามารถเล่นได้ทั้ง2แบบไม่ว่าจะเป็นตัวซ้อนและตัวชนผสมกันครบเครื่องทั้งความเร็ว ดุดัน นิ่ง ทางบอล การอ่านเกมส์ สมาธิ ทีมเวิร์ค ลูกหนัก เข้าเร็วและแม่น ลูกกลางอากาศดี ออร่าความเป็นผู้นำในแนวรับ แถมยังเล่นบอลด้วยเท้าบนพื้นได้ดีอีก เป็นกองหลังทีแทบไม่มีจุดอ่อน จะมีจุดนึงที่มาตอนอายุไม่น้อยแล้ว และ เจ็บง่ายอายุใช้งานน้อย กับดันไปเขียนหนังสือ inside story เรื่องของทีมเยอะเกินไปเลยต้องไปก่อนเวลาอันควรได้อยู่ยูไนเต็ดแค่ 3ปี (แต่ช่วงนั้นสภาพร่างกายเริ่มไม่เหมือนเดิมแล้วด้วย) ก่อนที่จะย้ายไปลาซิโอในปี 2001-2002 ซึ่งเมื่อเสียสตัมไป ยูไนเต็ดก็เสียแชมป์ให้ปืนโตอาเซน่อลทันทีเลยในปีนั้น
จนสุดท้ายยูไนเต็ดต้องทุ่ม £29.1M เป็นสถิติโลกสำหรับตำแหน่งกองหลังอีกครั้งเพื่อดึง ริโอ เฟอดินานมาจากคู่อริแห่งสงครามกุหลาบอย่างลีดส์ ยูไนเต็ด มาสืบทอดเสื้อหมายเลข 6 ต่อจากสตัม (ก่อนหน้านั้นแมนยูดึงบลองส์มาเล่นเบอร์ 6 ก่อน แล้วเปลี่ยนเป็นเบอร์ 5 ริโอตอนมาร่วมทีมจึงต้องใส่เบอร์ 6 หลังจากบล็องส์ รีไทร์ ริโอถึงเปลี่ยนมาใส่เบอร์ 5 )


10 กองหลังที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ยูไนเต็ด (ของสตัมเริ่มที่นาที 14.25 )




ช็อตชนกลิ้งไป 3 คนเมื่อคืน





แทบเหมือนเดิมทุกอย่าง ลูกเก่ง Signature ของแกก็ยังใช้อยู่หลายรอบเมื่อคืน เวลาโดนกระชากแกจะวิ่งแซงแล้วใช้ความใหญ่ของช่วงไหลกับหน้าอกบังแล้วตัดหน้าเอาบอลมาได้เสมอเป็นลูกที่ผมชอบมากสมัยนั้น

นอกเรื่องนิดนึงครับ




กองหลังเซ็ทนี้โหดมากครับ

ผมว่าโหดทั้งรูปอ่ะครับ

จำได้เมื่อก่อนดูถ่ายสด UCL แมทช์นึง
Stam กระชากบอลจากหลังมาหน้าอย่างกับ Ronaldo
จำภาพใน Star Soccer ที่กางร่มถ่ายรูปกับเฟอร์กี้วันเซนต์สัญญาได้อยู่เลย
กองหลังที่ดีที่สุดตลอดกาลของแมนยู

ผมก็ชอบสตัมสุดละในแผงหลังแมนยู นับแค่ที่ผมทันดูนะ เสียดายอยู่ด้วยกันไม่นาน

ดูก็รู้ว่ามีกล้ามเนื้อ core ที่แข็งมาก วิ่งชนทีเหมือนชนกำแพง

นอกเรื่องนิดนึงครับ




กองหลังเซ็ทนี้โหดมากครับ

ใหญ่ทั้งช่วงไหล่ ต้นขาก็ใหญ่มากเลยครับ เลยทั้งแกร่งและเร็ว พอวิ่งแข่งเบียดกันแล้วเอาไหล่เกยขาคร่อมบอลแล้วหักกลับ แกแย่งชนะทุกครั้งเลย สมัยนั้นหลังยูไนเต็ดดันสูงเช็คไลน์ด้วย Signature นี่เลยเข้ากับทีมยุคนั้นมาก

พอท่านพูดถึง สตั้ม ผมเลยนึกว่าเราน่าทุ่มเอา เดอ ลิกซ์ มาสานต่อจริงๆ

bruce-pallister, stam-johnsen, rio-vidic

ย้อนมามองแผงหลังปัจจุบัน

สมัยก่อนเฟอร์กี้นี่ทุ่มซื้อเซนเตอร์เป็นสถิติอังกฤษ-สถิติโลกตลอดเลยนะครับ
pallister
stam
rio
หวังว่าปีนี้โอเล่จะเอาเยี่ยงอย่าง

ตอนนั้น เค้าบอกว่ากองหลังคนเดียวที่วิ่งเร็วกว่าโด้อ้วน ก็คือสตัมนีาแหละ

สมัยนั้นผมดูบอลคู่ไปกับมวยปล้ำ บอกเลยนี่คือ "สโตน โคลด์" เวอร์ชั่นเล่นฟุตบอล

ความสูง ความใหญ่พอกันเลยครับ ประมาณ 190 สตัมไม่ได้ตัวสูงโย่งมาก
แต่มีกล้ามเนื้อ 2ช่วงที่หนามากคือ ช่วงแขนกับไหล่ และ ต้นขา แต่กลับสปริ้นท์ได้เร็ว
เดอลิกก็สูง 190 ตอนนี้เห็นกล้ามเนื้อ2ช่วงนี้ก็เริ่มใหญ่มากเหมือนกัน ถ้าจะให้เหมือนเป๊ะพอมาแล้วต้องจับโกนผมด้วย

New Ferdinand+ New Terry ไง

ปีนั้นใน UCL เจอกันด้วยครับ ทั้งยูเว่ และ อินเตอร์
เจอหมดเลยปีนั้น บาร์ซ่าในรอบแบ่งกลุ่ม
เท่ากับเจอ ท็อปของโลกเกือบครบ โด้อ้วน ริวัลโด้ ซีดาน เดล เอฟเฟ่ มัธเทอุส บาสเลอร์

นี่ภาพตามเลย 5555