ทิศทางของฟอร์มูล่าวันปี 2021

ปี 2021 จะเป็นปีที่ F1 มีการเปลี่ยนแปลงกฎด้านเทคนิคขนานใหญ่อีกครั้ง หลายเดือนที่ผ่านมา บรรดาผู้บริหารของ F1 และ FIA ทำงานกันอย่างหนักเพื่อกำหนดกรอบที่เหมาะสมสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง เรามาฟังจากปากของ Ross Brawn บอสดูแลด้านการแข่งขัน F1 ของลิเบอร์ตี้มีเดีย พูดถึงแนวโน้มของ F1 ปี 2021 กันค่ะ

- เพิ่มโอกาสในการแซง

คำวิจารณ์หลักๆ เรื่องหนึ่งใน F1 หลายปีหลังมานี้เป็นเรื่องของการขาดโอกาสแซงกัน เรื่องนี้จึงเป็นหัวใจหลักของโปรเจกต์ปี 2021 จากการทดลองในอุโมงค์ลมขณะนี้ เมื่อรถตามคันหน้าจะเสียดาวน์ฟอร์ซ 5% ซึ่งเป็นอัตราที่น้อย เมื่อเทียบกับรถที่แข่งขันในปัจจุบัน หากรถตามกัน คันหลังจะเสียดาวน์ฟอร์ซถึง 50% การแก้ไขเรื่องนี้คือเล่นกับใต้ท้องรถ (ground effect) ให้มากขึ้นและทำให้ร่องอากาศที่รถคันหน้าแหวกไว้ราบเรียบขึ้น ทำให้รถตามติดกันได้ง่ายขึ้น

- หาความลงตัวสำหรับหน่วยเครื่องยนต์ (Power Units)

หน่วยเครื่องยนต์ของ F1 ในปี 2021 จะแรงขึ้นและเสียงดังขึ้น กฎที่จะออกมาจะทำให้ทีมลูกค้า (ทีมที่ต้องซื้อเครื่องจากทีมผู้ผลิต) มีความเท่าเทียมมากขึ้น พวกเขาจะได้เครื่องสเป็กเดียวกันกับทีมผู้ผลิต รวมถึงมีการควบคุมค่าใช้จ่ายสำหรับทั้งทีมลูกค้ากับผู้ผลิตเครื่อง นอกจากนั้น จะเน้นให้นักขับมีโอกาสควบคุมระบบบางอย่างในหน่วยเครื่องยนต์มากขึ้น เช่น energy recovery ซึ่งมาจากแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฮบริด เมื่ออยู่ในความควบคุมของนักขับเองมากขึ้นก็จะทำให้ใช้เป็นกลยุทธ์เพื่อการแซงได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับความเห็นชอบร่วมกันระหว่างผู้ผลิตเครื่องยนต์ในปัจจุบันแล้ว ทั้งเมอร์เซเดส เฟอร์รารี่ เรโนลต์ และฮอนด้า

- ควบคุมค่าใช้จ่าย

ในเรื่องนี้ผู้บริหาร F1 พยายามควบคุมค่าใช้จ่ายในการทำทีม โดยพิจารณาว่าสิ่งใดใช้ร่วมกันเป็นมาตรฐานกลางของ F1 ได้ ทีมจะได้หันไปลงทุนกับชิ้นส่วนที่มีผลกับประสิทธิภาพรถโดยตรงมากกว่า และต้องไม่ให้กระทบคุณค่าของการแข่งขัน F1 ตัวอย่างเช่น อุปกรณ์ทำงานพิต ซึ่งมีหลายอย่างที่แต่ละทีมใช้เหมือนกันอยู่แล้ว แต่บางอย่างทีมทำกันเองอย่างอุปกรณ์ดับเพลิง ถึงแม้จะมีความท้าทายด้านเทคนิคแต่ไม่ได้ช่วยอะไรในเรื่องของประสิทธิภาพ ทาง F1 สามารถช่วยลดต้นทุนตรงนี้ได้ด้วยการทำให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานกลาง

- เฟอร์รารี่ยังได้โบนัสประจำปีจากการเป็นทีมเก่าแก่หรือไม่?

เรื่องของส่วนแบ่งรายได้เป็นอีกหัวข้อที่ถกเถียงกันตลอด โดยเฟอร์รารี่เป็นทีมที่ได้ส่วนแบ่งหมวดของโบนัสมากที่สุดจากการเป็นทีมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานใน F1 ซึ่งอยู่ร่วมการแข่งขันมาตลอดตั้งแต่ฤดูกาลแรก ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนเจรจากันว่าจะออกมาอย่างไรในฤดูกาล 2021 แต่อย่างหนึ่งที่ทุกทีมต้องยอมรับคือเฟอร์รารี่เป็นทีมเก่าแก่ที่สุด เป็นแบรนด์ใหญ่ที่สุดของ F1 ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่บางทีมยังลงแข่งขันใน F1 ต่อไป แต่ทุกอย่างก็ต้องเหมาะสมและมีความสมดุล

- ต้องพิจารณาใหม่สำหรับโมเดลความเป็นพันธมิตรระหว่างฮาสกับเฟอร์รารี่

นับตั้งแต่ฮาสก้าวเข้ามาเป็นน้องใหม่ในปี 2016 พวกเขาเป็นพาร์ตเนอร์ของเฟอร์รารี่ในแง่ที่ซื้อชิ้นส่วนทุกชิ้นที่เอฟไอเอไม่ได้กำหนดว่าต้องผลิตเองจากม้าลำพอง นั่นเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ฮาสมีพัฒนาการดีขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งจบฤดูกาลที่แล้วด้วยอันดับที่ 5 ในขณะที่ทีมอย่างแม็คลาเรนหรือวิลเลียมส์ยังทำชิ้นส่วนรถกันเองเป็นส่วนใหญ่เพื่อให้เป็นทีมผู้สร้างรถอย่างแท้จริง ทาง F1 เห็นว่าโมเดลของฮาสเป็นสิ่งที่น่าสนใจ แต่ต้องให้ทีมอื่นหมดข้อกังขาในความร่วมมือกับทีมใหญ่ซึ่งเป็นเฟอร์รารี่ด้วย เพราะข้อบังคับบางอย่างอาจยังคลุมเครือ

- ความเป็นไปของสุดสัปดาห์การแข่งขัน

การเปลี่ยนแปลงจะเป็นเรื่องของการพัฒนามากกว่าการพลิกโฉม โดยจะปรับปรุงเพื่อให้เกิดความสนุกสนานยิ่งขึ้น จะมีการปรับรูปแบบการควอลิฟายให้เข้มข้นตลอด 1 ชั่วโมง และช่วยปรับปรุงสภาพการทำงานของทีม เพื่อให้รองรับกับปฏิทินการแข่งขันที่อาจมากกว่า 21 สนามต่อปีอย่างปัจจุบัน เช่น การกำหนดเวลาทำงานใหม่สำหรับคืนวันศุกร์และวันเสาร์ โดยไม่มีเคอร์ฟิวในคืนวันพฤหัสบดี เพื่อให้สามารถทำงานในคืนแรกได้เต็มที่ นอกจากนั้น F1 จะดูแลเรื่องการขนส่งชิ้นส่วนรถตลอดสุดสัปดาห์การแข่งขันอย่างเข้มงวดขึ้น จากที่ทุกวันนี้จะมีกล่องสินค้าที่บรรจุชิ้นส่วนของรถมาเพิ่มตลอดเวลาระหว่างสุดสัปดาห์ ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดค่าขนส่ง

สำหรับการสรุปกฎด้านเทคนิคของ F1 ฤดูกาล 2021 ขั้นสุดท้าย ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งทางผู้บริหาร F1 FIA และทีมแข่งจะพยายามสรุปออกมาให้ได้ภายในช่วงกลางปีนี้ เพื่อให้ทุกทีมมีเวลาเตรียมตัวทัน อย่างไรก็ตาม ข่าวล่าสุดจากเว็บไซต์ motorsport.com รายงานว่าในส่วนของกฎที่เกี่ยวกับแชสซีส์อาจออกมาล่าช้ากว่าที่วางแผนไว้ คือเลื่อนจากมิถุนายนไปเป็นราวตุลาคม ซึ่งทีมต่างๆ น่าจะเห็นด้วย เพื่อไม่ให้ทีมใหญ่ที่มีเงินทุนหนาได้เปรียบจากการที่กฎออกมาเร็วแล้วแบ่งทีมงานไปพัฒนารถของปี 2021 ตั้งแต่เนิ่นๆ

Cr: f1starfanclub

น่าจะอันลิมิต DRS ไปเลย อยากใช้ตรงไหนก็ใช้
เป็นการพัฒนาระบบ recovery battery ระบบใครดีก็ใช้ได้บ่อยขึ้น

สมัย 10 ปีที่แล้ว ชอบดู F1 มาก

แต่พอถึงปัจจุบันกลับชอบดู MOTO GP มากกว่าเยอะเลย


เพราะ F1 ปัญหาหลักๆคือแซงยากจริงๆ ทำให้ความสนุกลดลงเยอะมาก