ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status: พุงพลุ้ยคุยบอล กลับมาแล้ว
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Oct 2010
ตอบ: 4354
ที่อยู่: บนโลกนี้แหละ...
โพสเมื่อ: Thu Apr 25, 2019 21:51
(Day 45)สรุปข่าวประจำวันแค่ 7 นาทียกระดับความรู้รอบตัวของพวกท่าน
{ (Day 45) มาร่วมสละเวลาเล็กน้อยเพิ่มความรู้รอบตัวกันครับ }

---จุดประสงค์เพื่อ---

⦿ ผลักดันตนเองให้อ่านหนังสือ
⦿ เป็นแนวทางให้เพื่อนสมาชิกเห็นว่า อย่างน้อยที่สุด อ่านวันละ 7 นาทีก็เพิ่มพูนความรู้ให้แก่ตนเองได้
⦿ ตราบใดมีลมหายใจ การศึกษาคือการเรียนรู้ตลอดชีวิต





นักแสดงตลกชนะการเลือกตั้ง “ปธน.ยูเครน”






บีบีซี รายงานว่า นายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี (Volodymyr Zelensky) นักแสดงตลกโทรทัศน์วัย 41 ปี ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครนอย่างถล่มทลาย จากผลการนับคะแนนเบื้องต้น นายโวโลดีมีร์ได้รับคะแนนนำถึง 73 % ขณะที่คู่แข่งคือประธานาธิบดีรักษาการ เปโตร โปโรเชนโก (Petro Poroshenko) ได้รับคะแนนเพียง 24 %


นายเปโตร โปโรเชนโกประกาศยอมรับความพ่ายแพ้หลังจากมีการเผยแพร่ผลโพลเบื้องต้น แต่ประกาศว่าจะยังไม่วางมือทางการเมือง โดยมองว่านายเซเลนสกียังมีประสบการณ์ไม่มากพอที่จะยืนหยัดต่อต้านรัสเซียได้

นายโวโลดีมีร์ เซเลนสกีเป็นที่รู้จักจากการแสดงละครตลกเสียดสีชื่อดังในโทรทัศน์เรื่อง “Servant of the People” โดยรับบทเป็นประธานาธิบดี ก่อนจะหันมาเล่นการเมืองเป็นครั้งแรก

เขามีนโยบายที่จะเปิดการเจรจาสันติภาพเพื่อยุติการต่อสู้ระหว่างกลุ่มเรียกร้องแบ่งแยกดินแดนในยูเครนตะวันออกกับกองกำลังทหารและอาสาสมัครของยูเครนมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะการสู้รบโดยรอบไครเมียที่แยกตัวออกไปจากยูเครนในปี 2014 ด้วยการแทรกแซงจากรัสเซีย

จากผลการเลือกตั้งดังกล่าว นายดมิทรี เมดเวเดฟ (Mr. Dmitry Medvedev) นายกรัฐมนตรีของรัสเซียได้แสดงความคิดเห็น โดยหวังว่าประธานาธิบดียูเครนคนใหม่นี้จะช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศดีขึ้น ทั้งนี้ที่ผ่านมารัสเซียถูกกว่าหาว่าแทรกแซงยูเครนด้วยการหนุนหลังกลุ่มเรียกร้องแบ่งแยกดินแดน ซึ่งสร้างความขัดแย้งระหว่างสองชาติมาอย่างต่อเนื่อง








สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตั้ง “กระทรวงความเป็นไปได้” ที่แรกในโลก






เอเอฟพี รายงานว่าเมื่อวันอังคารที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้เปิดตัว “กระทรวงความเป็นไปได้ (Ministry of Possibilities)” หลังจากเมื่อ 3 ปีที่แล้วได้ตั้งกระทรวงแห่งความสุขขึ้นมา


ชีค ฮัมเดน บิน โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล มัคตูม นายกรัฐมนตรีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเจ้าผู้ครองนครดูไบ กล่าวถึงกระทรวง “แหวกแนว” แปลกใหม่นี้ว่า จะดำเนินงานโดยไม่มีรัฐมนตรีประจำกระทรวง หากแต่จะดำเนินงานโดยใช้ข้อมูลที่ป้อนเข้ามาจากคณะรัฐมนตรีทั้งหมด


“เราได้เปิดตัวกระทรวงความเป็นไปได้ เสมือนจริงแห่งแรกในโลก ระบบการทำงานใหม่ของรัฐบาลในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กระทรวงเสมือนจริงนี้ จะบริหารงานโดยคณะรัฐมนตรี โดยจะรวบรวมข้อมูลต่างๆ และช่วยวางระบบการทำงานของรัฐบาลในอนาคต” ชีค ฮัมเดน บิน โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล มัคตูม ทวีตในทวิตเตอร์


สำนักงานสื่อของดูไบ กล่าวว่ากระทรวงใหม่นี้ ยังจะช่วยลดเวลาแห่งการรอคอยสำหรับบริการต่างๆ ของภาครัฐ โดยชีค ฮัมเดน บิน โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล มัคตูม กล่าวว่า “ความท้าทายต่างๆ ในอนาคตจำเป็นต้องมีการพัฒนา ปรับโครงสร้างของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง… และคำว่าเป็นไปไม่ได้ ไม่มีในพจนานุกรมของเรา” อนึ่งเมื่อปี 2559 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ตั้งกระทรวงความสุขและความอดทน ขึ้นมา





เมื่อ “ยุโรปรีเซสชั่น” ส่อกระทบจีนแรงกว่า “สงครามการค้า”








ยังไม่ฟื้นไข้อย่างสมบูรณ์นับตั้งแต่วิกฤตหนี้กรีซเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ก็ถึงคราวที่ยุโรปกำลังถูกจับตามองอีกรอบอย่างหวั่นใจว่าจะกลับไปสู่ ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (รีเซสชั่น) อีกหรือไม่ เนื่องจากมีหลายปัจจัยรุมเร้าค่อนข้างหนัก กระทั่งธนาคารกลางสหภาพยุโรป (อีซีบี) ต้องเลื่อนแผนที่จะใช้นโยบายการเงินแบบปกติ และยังคงใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป เพราะเกรงว่าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงแรง ขณะเดียวกัน ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของยูโรโซนปีนี้ลงจาก 1.8% เหลือ 1.1%



โมฮัมเหม็ด เอล-เอเรียน หัวหน้าที่ปรึกษาเศรษฐกิจของอัลลิอันซ์ กรุ๊ป บริษัทที่ปรึกษาการเงินใหญ่อันดับ 3 ของโลกให้ความเห็นว่า มีโอกาสประมาณ 50-60% ที่เศรษฐกิจของยุโรปจะถดถอยในช่วงปลายปีนี้หรือไม่ก็ต้นปีหน้า เพราะเผชิญหลายปัญหาพร้อมกัน ทั้งกรณีเบร็กซิต การเปลี่ยนแปลงผู้นำครั้งใหญ่ในการเมืองเยอรมนี การประท้วงที่ยาวนานในฝรั่งเศส ตลอดจนรัฐบาลใหม่อิตาลีที่ดำเนินนโยบายแตกแถวออกจากยุโรป


หัวหน้าที่ปรึกษาเศรษฐกิจของอัลลิอันซ์ฯบอกว่า ไม่เห็นด้วยกับ มาริโอ ดรากี ประธานอีซีบีที่ประเมินว่า ในระยะสั้นมีโอกาส “ต่ำ” ที่เศรษฐกิจยูโรโซนจะถดถอย เพราะในมุมมองของตนเมื่อใดก็ตามที่เศรษฐกิจเติบโตเพียง 1% หรือต่ำกว่านี้ย่อมหมายถึงว่ามีความเสี่ยงสูงขึ้นที่จะเกิดสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์เรียกว่า “ความเร็วติดหล่ม” ซึ่งหมายถึงว่าแม้เรากำลังพยายามเคลื่อนที่ไปข้างหน้า แต่ก็ไม่สามารถไปได้เร็วเพียงพอ ด้วยเหตุนั้นจึงสูญเสียระดับความสูง (altitude)



หากเศรษฐกิจยุโรปถดถอยก็จะสร้างความเสี่ยงให้กับเศรษฐกิจจีน อันอาจส่งผลกระทบต่อจีนมากกว่าสงครามการค้ากับสหรัฐก็เป็นได้ เพราะยุโรปเป็นคู่ค้าใหญ่สุดของจีน แม้ว่าจีนได้ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายอย่างรับมือนับจากเกิดสงครามการค้ากับสหรัฐก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม แต่ก็ยังต้องรอดูว่ามาตรการกระตุ้นระยะสั้นจะค้ำจุนเศรษฐกิจได้นานแค่ไหน และจะสร้างสมดุลกับการปฏิรูประยะยาวที่จำเป็นได้หรือไม่



แม้ว่าจีนจะตระหนักถึงความจำเป็นในการปฏิรูป แต่ก็เร็วไปที่จะพูดว่าพวกเขาจะดำเนินการขั้นตอนที่จำเป็นต่าง ๆ เพราะจีนก็เป็นเช่นเดียวกับหลาย ๆ ประเทศที่ต้องมีการชั่งใจแลกเปลี่ยนระหว่างมาตรการกระตุ้นระยะสั้นกับการปฏิรูประยะยาว เพราะการปฏิรูปเกี่ยวพันกับการปรับโครงสร้างที่ต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล แต่ที่เห็นแน่ ๆ อย่างรวดเร็วคือต้นทุนที่ต้องจ่ายไป



“เศรษฐกิจจีนเปรียบเหมือนเครื่องบิน เจ้าหน้าที่พยายามเปลี่ยนเครื่องยนต์เก่าที่อ่อนล้าหมดแรงไปเป็นเครื่องยนต์ใหม่กลางอากาศ หากไม่มีลมหาง (ซึ่งก็คือเศรษฐกิจโลก) ที่แรงเพียงพอในการผลักดันไปข้างหน้า แถมลมหางดันกลายมาเป็นลมต้าน คุณก็ลังเลที่จะดับเครื่องยนต์เก่า ดังนั้น ความสำเร็จในการปฏิรูปเศรษฐกิจจีนจึงขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลกที่ดีในอนาคต” โมฮัมเหม็ดกล่าว



ความกังวลต่อการชะลอตัวแรงของเศรษฐกิจยุโรป กระทั่งทำให้อีซีบีเลื่อนการใช้นโยบายการเงินปกติ โดยเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ยไปจนถึงปีหน้า พร้อมกับอัดฉีดสภาพคล่องให้กับธนาคารมากขึ้น สร้างความวิตกว่าในที่สุดแล้วอีซีบีก็จะเดินรอยตามธนาคารกลางญี่ปุ่น จนทำให้เกิดภาวะที่อัตราเติบโตต่ำมาก เงินฝืด และสิ่งต่าง ๆ เลวร้ายลงเรื่อย ๆ แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยต่ำใกล้ศูนย์ นโยบายลักษณะนี้เคยทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นชะงักงันเป็นเวลานานติดต่อกันร่วม 20 ปี หรือที่เรียกว่า lost decade ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากฟองสบู่สินทรัพย์แตก



ทั้งนี้ นับจากวิกฤตการเงินโลกเมื่อปี ค.ศ. 2008 อัตราดอกเบี้ยทั้งในยูโรโซนและญี่ปุ่นไม่เคยปรับขึ้นเลย ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นไปแล้ว 9 ครั้ง ก่อนหน้านี้นักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็นจีได้ออกมาเตือนว่า ยูโรโซนเริ่มจะคล้ายกับญี่ปุ่น คือ อัตราเติบโตต่ำ เงินเฟ้อต่ำ และใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายมากเกินไป










ศรีลังการับ “การข่าว” ผิดพลาดครั้งใหญ่ ทำระเบิดตายหมู่







รัฐบาลศรีลังกาออกมายอมรับว่าเกิดความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่ทำให้ภาครัฐไม่สามารถป้องกันเหตุระเบิดในที่เทศกาลอีสเตอร์ เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 359 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 500 คน


ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าหน่วยข่าวกรองต่างชาติได้แจ้งเตือนว่ามีการวางแผนก่อเหตุในศรีลังกาล่วงหน้ามาระยะหนึ่งแล้ว ทำให้ประชาชนเกิดความโกรธแค้นที่หน่วยงานภาครัฐเพิกเฉยต่อคำเตือนดังกล่าวจนเกิดเหตุสลดครั้งใหญ่ขึ้น


ทั้งนี้รัฐมนตรีช่วยกลาโหมศรีลังกายอมรับระหว่างการแถลงข่าวว่า เกิดข้อผิดพลาดครั้งใหญ่ในการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองที่มีการเตือนการก่อเหตุที่ผู้บัญชาการตำรวจศรีลังกาได้รับมา เนื่องจากไม่มีการแจ้งให้นายกรัฐมนตรีรวมถึงรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญใดๆ ทราบเรื่อง อย่างไรก็ดีรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้


ขณะที่ประธานาธิบดีศรีลังกากล่าวว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในระดับผู้บัญชาการด้านความมั่นคงครั้งใหญ่ โดยต้องทำการปรับโครงสร้างทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ พร้อมกับเรียกร้องให้มีการประชุมพรรคการเมืองทั้งหมด เขายังมีกำหนดที่จะหารือกับผู้นำศาสนาในศรีลังกาด้วย


หลังมีการเปิดเผยว่าหนึ่งในผู้ลงมือก่อเหตุกำลังศึกษาต่ออยู่ในอังกฤษ รวมถึงเคยผ่านการศึกษาในออสเตรเลียก่อนที่จะกลับมายังศรีลังกา มีรายงานว่าหน่วยข่าวกรองของสหรัฐ อังกฤษ ออสเตรเลีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ต่างเสนอที่จะให้ความช่วยเหลือทางด้านข่าวกรองกับศรีลังกาเพิ่มเติม โดยขณะนี้ทีมงานของสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ (เอฟบีไอ) อยู่ในศรีลังกาแล้ว


รายงานข่าวเผยว่าหลังการประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ ทางการศรีลังกาได้จับกุมผู้ต้องสงสัยว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีครั้งนี้เพิ่มขึ้นอีก 18 ราย ทำให้ยอดผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวเพิ่มขึ้นเป็น 58 คนโดยทั้งหมดเป็นชาวศรีลังกา






อนามัยโลกแนะ ห้ามเด็กต่ำ 5 ขวบอยู่หน้าจอเกิน 1 ช.ม.ต่อวัน







องค์การอนามัยโลก (ฮู) ออกคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อาทิ โทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์พกพาของเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปีว่าไม่ควรมากเกิน 1 ชั่วโมงต่อวัน แต่จะดีกว่านั้นหากเด็กอยู่หน้าจอน้อยกว่าวันละ 1 ชั่วโมง นับเป็นครั้งแรกที่ฮู ซึ่งเป็นหน่วยงานเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและการสาธารณสุขภายใต้สังกัดของสหประชาชาติออกคำแนะนำในลักษณะดังกล่าว


ทั้งนี้ภายใต้คำแนะนำที่ออกมายังเตือนว่าควรให้เด็กที่มีอายุน้อยกว่า 18 เดือน หรือหนึ่งขวบครึ่งหลีกเลี่ยงการอยู่หน้าจอ ขณะที่ในเด็กอายุต่ำกว่าสองขวบ ผู้ปกครองควรเลือกรายการที่มีคุณภาพสูงเกี่ยวกับการให้การศึกษาที่เด็กๆ สามารถรับชมได้ โดยมีผู้ปกครองคอยให้คำแนะนำเพื่อให้เด็กเข้าใจสิ่งที่ดูด้วย


ฮูไม่ได้แจกแจงรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับผลร้ายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้มากเกินไป โดยระบุเพียงว่าจำเป็นที่จะต้องมีการออกข้อแนะนำนี้ขึ้นเนื่องจากพฤติกรรมของประชากรส่วนใหญ่ในยุคปัจจุบันที่มักจะคุ้นเคยกับการนั่งอยู่กับที่และไม่เคลื่อนไหวร่างกาย ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงหลักที่ทำให้คนเสียชีวิตรวมถึงทำให้เป็นโรคอ้วนเพิ่มมากขึ้น


อย่างไรก็ดีมีบางกลุ่มออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าคำแนะนำในการใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ของฮูไม่ได้นำเอาผลประโยชน์ที่ได้จากสื่อดิจิทัลมาพิจารณาร่วมด้วย







ทำไม? “ธนินท์ เจียรวนนท์” ต้องลาออกประธานกรรมการ CPF







จากที่ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร ได้ขอลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีภารกิจมากขึ้น ทำให้ไม่มีเวลาปฏิบัติงานให้กับบริษัทได้อย่างเต็มที่ โดยมีผลทันทีในวันที่ 24 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา
โดยที่ คณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหากรรมการของบริษัทอยู่ระหว่างการสรรหาบุคคลที่เหมาะสมเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทพิจารณาแต่งตั้งให้เข้าดำรงตำแหน่งที่ว่างลงต่อไป


ทั้งนี้นอกจาก CPF แล้วปัจจุบันเจ้าสัวธนินท์นั่งเป็นประธานกรรมการ2บริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯอย่าง บมจ.ซีพีออลล์ ยักษ์ค้าปลีกค้าส่ง ซึ่งปี2561 ที่ผ่านมาสร้างรายได้รวมถึง 527,859.75 ล้านบาท และบมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ซึ่งปีที่ผ่านมามีรายได้รวม177,525.69 ล้านบาท

แม้ว่าเป็นเรื่องปกติของธุรกิจที่จะต้องมีการปรับโครงสร้างองค์กร ด้วยเหตุผลที่แจ้งต่อสาธารณะและตลาดหลักทรัพย์ว่า “ภารกิจมากขึ้น” การที่นายธนินท์ ต้องถอยออกจากเก้าอี้ประธากรรมการCPF ในเวลานี้ ด้วยวัย 80ปี แต่ยังสนใจพัฒนาธุรกิจให้ทันสมัยอยู่เสมอ อาจเป็นไปได้ว่า ขณะนี้กลุ่มซี.พี.กำลังเตรียมพร้อมสำหรับเซ็นสัญญาสัมปทานโครงการลงทุนขนาดใหญ่ จะมีการปิดดีลโปรเจ็กต์รถไฟไฮสปีด เชื่อม 3 สนามบินที่มูลค่าลงทุนกว่า 2.24 แสนล้านบาท กับรัฐบาล

และนี่ถือเป็นโปรเจ็กต์ยักษ์ที่นอกจากจะพลิกโฉมประเทศไทย ขณะเดียวกันก็จะพลิกโฉมธุรกิจกลุ่มซี.พี.เช่นกัน






เพลิงไหม้ “นอเทรอดาม” ฟื้นวิกฤตสู่โอกาส “มาครง”








เปลวเพลิงที่ลุกโชนเหนือหลังคาไม้โอ๊กเก่าแก่ของมหาวิหาร “นอเทรอดาม” ที่ตั้งตระหง่านกลางแม่น้ำแซน กรุงปารีส ของประเทศฝรั่งเศสกว่า 850 ปี เมื่อ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา สร้างความตื่นตระหนกแก่ชาวฝรั่งเศสและผู้คนทั่วโลก โบสถ์คาทอลิกศิลปะโกธิกแห่งนี้นับเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญ และศูนย์รวมทางจิตวิญญาณของชาวฝรั่งเศส ทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจของประเทศมายาวนาน



“คามิล ปาสคาล” นักประวัติศาสตร์ชาวฝรั่งเศส กล่าวด้วยว่า “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงความเจ็บปวด แต่เป็นการจบชีวิตของความทรงจำและอัตลักษณ์ของฝรั่งเศส ที่มีมากว่า 8 ศตวรรษครึ่งที่ผ่านมา ไม่เคยมีเหตุการณ์สำคัญใดที่ไม่ได้รับการเฉลิมฉลองหรือย้ำเตือนโดยระฆังของนอเทรอดาม สิ่งที่ถูกเผาไหม้ในคืนนี้ คือ หัวใจของคนทั้งชาติ”

ขณะเหล่ามหาเศรษฐีเจ้าของแบรนด์ดังและองค์กรยักษ์ใหญ่ทั่วโลกที่ประกาศร่วมระดมทุนแล้วกว่า 1,000 ล้านยูโร เพื่อบูรณปฏิสังขรณ์มหาวิหารอย่างเร่งด่วน


รายงานของ “โปลิติโก” สำนักข่าวของสหรัฐอเมริการะบุว่า ในช่วงที่ผ่านมา “ฝรั่งเศส” เผชิญกับความรุนแรงที่สร้างความสูญเสียอยู่หลายครั้ง ทั้งจากการโจมตีโดยกลุ่มก่อการร้ายหลายระลอกในปี 2015 จนไปถึงกลุ่มผู้ชุมนุม “เสื้อกั๊กเหลือง” ที่ออกมาประท้วงต่อต้านการบริหารงานของรัฐบาลฝรั่งเศส ในช่วง 22 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความเสียหายต่อสถานที่สำคัญมากมาย โดยเฉพาะอาคารร้านค้าบนถนนฌ็องป์เซลิเซ่ ที่ได้รับความเสียหายทั้งจากการปล้นและการเผาทำลาย รวมถึง “อาร์กเดอทรียงฟ์” ที่ถูกพ่นสีทับอีกด้วย



เหตุการณ์เพลิงไหม้มหาวิหารนอเทรอดามในครั้งนี้ ทำให้ประธานาธิบดี “เอ็มมานูเอล มาครง” แห่งฝรั่งเศส ตัดสินใจเลื่อนกำหนดการเดิมที่จะแถลงการณ์นโยบายเพื่อตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อกั๊กเหลือง ก่อนที่จะแถลงการณ์อีกครั้งในเวลาต่อมา โดยได้กล่าวถึงเหตุการณ์เพลิงไหม้และแผนการฟื้นฟูมหาวิหารให้กลับมางดงามภายใน 5 ปี ด้วยความร่วมมือร่วมใจของชาวฝรั่งเศส

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวของ “โปลิติโก” ตั้งข้อสังเกตว่า คำพูดที่กระชับและท่าทีที่เคร่งขรึมของนายมาครงที่แสดงออกในระหว่างแถลงการณ์ เต็มไปด้วยสารทางการเมืองที่พุ่งตรงไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อกั๊กเหลืองที่ต่อต้านเขา อย่างคำกล่าวที่ว่า “ผมเชื่ออย่างจริงจังว่า สถานการณ์จะขึ้นอยู่กับเราว่าจะเปลี่ยนหายนะนี้ให้เป็นโอกาสที่จะร่วมมือกัน และคิดถึงเกี่ยวกับสิ่งที่เราเป็นอยู่ หรือสิ่งที่เราควรจะเป็น เพื่อพัฒนาพวกเราเอง”



ขณะที่ จอห์น ริชฟิลด์ บรรณาธิการข่าวต่างประเทศของ “ดิ อินดีเพ็นเดนต์” มองว่าเหตุการณ์เพลิงไหม้เกิดขึ้นในระยะเวลาที่ฝรั่งเศสไร้เสถียรภาพและกำลังแตกแยก ถ้อยแถลงของผู้นำมาครงเป็นความพยายามที่จะสร้างความเป็น “อันหนึ่งอันเดียวกัน” ของคนในชาติขึ้นอีกครั้ง

แม้ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อกั๊กเหลืองจะยุติการเคลื่อนไหวไปในไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่จะเกิดเหตุโศกนาฏกรรมนี้ ทว่าก็มีการนัดหมายและประกาศกร้าวว่า 20 เม.ย.นี้ จะชุมนุมครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อต่อต้านนโยบายของมาครง ซึ่งเดิมทางการฝรั่งเศสเกรงว่าจะเป็นการก่อจลาจลและปล้นสะดมในถนนฌ็องป์เซลิเซ่อีกครั้ง



อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้มหาวิหาร ซึ่งถือเป็นความสูญเสียของชาติ ก็ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่ากระแสการชุมนุมของเสื้อกั๊กเหลืองจะลดลง โดยริชฟิลด์มองว่า หากมีการชุมนุมจนเกิดจลาจลขึ้นอีก จะทำให้คะแนนนิยมของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองลดลงเช่นกัน

ขณะที่คงต้องจับตาว่าข้อเรียกร้องความสามัคคีของชาวฝรั่งเศสของมาครงเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่และมาครงจะสามารถพลิกวิกฤตเป็นโอกาส สร้างคะแนนนิยมจากการจัดการสถานการณ์ของชาติให้ผ่านพ้นความเลวร้ายไปได้ หรือฝรั่งเศสจะยังตกอยู่ในความวุ่นวายทางการเมืองต่อไป ท่ามกลางสัญลักษณ์ของชาติที่มอดไหม้






“ดิสนีย์” ท้าสู้ “เน็ตฟลิกซ์” ระเบิดศึก “โลกบันเทิง”








อุตสาหกรรมบันเทิงระดับโลกเปลี่ยนแปลงไปมากในช่วงหลายปีมานี้ จากที่เริ่มต้นจากผู้ผลิต-ผู้กำกับฯ สู่ค่ายหนัง-บริษัทจัดจำหน่าย แล้วมาถึงผู้ชม ทั้งในรูปของภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์, แผ่นดีวีดี หรือบลูเรย์พัฒนาการของเทคโนโลยีการสื่อสาร สร้างรูปแบบขึ้นมาใหม่ เรียกกันว่า “สตรีมมิ่ง” ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

ผู้ผลิตเครื่องรับโทรทัศน์ขานรับเรื่องนี้อย่างยินดี พัฒนาเครื่องรับให้สตรีมมิ่งโดยไม่จำเป็นต้องผ่าน “กล่อง” หรือ “คอมพิวเตอร์” ขณะที่บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสตรีมมิ่ง เริ่มทำรายได้จากการซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์มาให้ชมกันถึงบ้าน ในเวลาไหนก็ได้ที่ต้องการ




เมื่อเน็ตฟลิกซ์มีผู้สมัครรับชมเนื้อหาผ่านอินเทอร์เน็ตในราคาเดือนละ 8.99 ดอลลาร์ สูงถึง 140 ล้านคน โครงสร้างอุตสาหกรรมเดิมก็รวนไปหมด ทั้งเห็นช่องทางใหม่ ๆ และเริ่มรู้สึกถึงการคุกคาม

เมื่อผู้ผลิตภาพยนตร์ส่วนหนึ่งเห็นช่องทางสร้างสรรค์งานใหม่ โดยไม่ต้องง้อค่ายหนังผูกขาดอีกต่อไป ผู้ชมก็ได้รับชมสิ่งที่เป็น “ออริจินอลมูฟวี่” หรือ “ออริจินอลซีรีส์” ทำให้เจ้าของกิจการสตรีมมิ่งกลายเป็นค่ายหนังเองไปในตัว



ในขณะที่ค่ายภาพยนตร์ในระดับโลก เริ่มคิดมากขึ้นตามลำดับว่า ทำไมต้องนั่งรอเพียงส่วนแบ่งจากการสตรีมมิ่ง ทำไมไม่เป็นเจ้าของสตรีมมิ่งเสียเอง ?

เป็นเหตุผลที่ วอลต์ ดิสนีย์ บริษัทผู้ผลิตและเป็นเจ้าของเนื้อหาความบันเทิงอันดับต้นของโลกตัดสินใจเมื่อกลางเดือน เม.ย. เปิดตัว “ดิสนีย์พลัส” (Disney+) บริการสตรีมมิ่งเช่นเดียวกับเน็ตฟลิกซ์ เตรียมเปิดให้บริการในสหรัฐอเมริกาในเดือน พ.ย.นี้



ที่ผ่านมา เน็ตฟลิกซ์มีคู่ต่อสู้มากมาย รวมทั้งรายใหญ่อย่าง อเมซอน, ฮูลู จนถึงไพรม วิดีโอ และแอปเปิล ทีวี ที่เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นตามลำดับ แต่ไม่มีใครมี “อาวุธหนัก” จำนวนมากเหมือนกับที่ดิสนีย์

ตัวอย่างอาวุธ “ใหญ่ที่สุด” ของดิสนีย์ ในเวลานี้เพื่อต่อกรกับเน็ตฟลิกซ์ก็คือ “สตาร์ วอร์ส” และบรรดาสารพัดฮีโร่ ในเครือ “มาร์เวล” ทั้งหลาย ไล่ตั้งแต่สไปเดอร์แมน ไปจนถึงกัปตันอเมริกา



ดิสนีย์ประกาศยั่วน้ำลายเอาไว้ว่า บริการของตนจะรวมถึง “เดอะ ซิมป์สันส์” 30 ซีซั่น, “เดอะ แมนดาโลเรียน” ที่เป็นสเปซโอเปร่า ยอดฮิต, “มัลคอล์ม อิน เดอะ มิดเดิล” ซิตคอมซีรีส์ ฮิต 7 ซีซั่น จนถึงความบันเทิงสำหรับครอบครัว อย่าง “เดอะ ซาวด์ ออฟ มิวสิก”ยังมีสารคดีชั้นดีจากเนชั่นแนล จีโอกราฟิก คิดสนนราคาต่อเดือนแค่ 6.99 ดอลลาร์สหรัฐ ก็เท่ากับเป็นการเปิดศึกยึดหน้าจอทีวีกันไม่เพียงแต่ในสหรัฐ แต่ครอบคลุมไปทุกประเทศทั่วโลก

“ดิสนีย์พลัส” ตั้งเป้าเอาไว้ไม่มากไม่มาย แค่ขอ 60-90 ล้านสมาชิกในช่วง 5 ปีแรกเท่านั้นเอง



นักวิเคราะห์ในวงการแตกความเห็นต่อสงครามบันเทิงครั้งนี้ออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งบอกว่า ระดับราคาที่ “เซอร์ไพรส์” ของดิสนีย์พลัส กับเนื้อหาที่เป็นอาวุธสำคัญ น่าจะช่วยให้ดิสนีย์พลัส สั่นคลอนบัลลังก์ของเน็ตฟลิกซ์ได้ไม่ยาก

ลอรา มาร์ติน นักวิเคราะห์ของนีดแฮมแอนด์โค เชื่อว่าต้นทุนความเป็น “แบรนด์ที่คุ้นเคย” ซึ่งมีผลผลิตที่เรียกผู้ชมได้นับ 100 ล้านครัวเรือน แถมทั้งราคาที่ยวนใจจะช่วยให้ถึงที่สุดแล้ว ดิสนีย์พลัสจะสามารถโค่นเน็ตฟลิกซ์ได้



ขณะที่เน็ตฟลิกซ์ แม้จะเป็นบริษัททางด้านเทคโนโลยี แต่ไม่ได้มีหัวใจเป็นบันเทิงแท้ ๆ

รวมทั้ง จอห์น เมเยอร์ นักวิเคราะห์ของทรานส์ไปร์ เวนเจอร์ บริษัทเพื่อการลงทุน เชื่อว่าเน็ตฟลิกซ์จะยังคงมีแต้มต่อในฐานะที่เป็น “ผู้มาก่อน” แม้ว่าอาจต้องยอมเสียพื้นที่ในส่วนที่เป็นบันเทิงครอบครัว และผู้ชมหนุ่มสาวให้กับดิสนีย์พลัสไปบ้างก็ตามที

เพราะในความเป็นจริงแล้ว ในเวลานี้ เน็ตฟลิกซ์รู้ว่าผู้ชมต้องการอะไรมากที่สุด มากกว่าใครต่อใครในอุตสาหกรรมนี้แล้ว








 
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ


ออฟไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status: We're All Made Here
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 41328
ที่อยู่: อย่ารู้เลย..
โพสเมื่อ: Thu Apr 25, 2019 21:54
[RE: (Day 45)สรุปข่าวประจำวันแค่ 7 นาทียกระดับความรู้รอบตัวของพวกท่าน]
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status: Keep Walking
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 2659
ที่อยู่: Somewhere I Belong
โพสเมื่อ: Thu Apr 25, 2019 23:42
[RE: (Day 45)สรุปข่าวประจำวันแค่ 7 นาทียกระดับความรู้รอบตัวของพวกท่าน]
สุดยอดครับ โพสงี้เรื่อยๆ คอยติดตามนะคับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
I think a lot of time the reason that people pirate,is they want to access to good music.And they don't get it because the radio is so shit - Tom Yorke
ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 2508
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Apr 26, 2019 00:11
[RE](Day 45)สรุปข่าวประจำวันแค่ 7 นาทียกระดับความรู้รอบตัวของพวกท่าน
ติดตามครับ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 3250
ที่อยู่: Highbury
โพสเมื่อ: Fri Apr 26, 2019 08:24
[RE: (Day 45)สรุปข่าวประจำวันแค่ 7 นาทียกระดับความรู้รอบตัวของพวกท่าน]
รออ่านเรื่อยๆ ครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง

ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 1249
ที่อยู่: เมอร์ซี่ย์ไซด์ LiV
โพสเมื่อ: Fri Apr 26, 2019 11:45
[RE: (Day 45)สรุปข่าวประจำวันแค่ 7 นาทียกระดับความรู้รอบตัวของพวกท่าน]
ขอบคุณสำหรับสาระดีๆครับ
เป็นกำลังใจให้โพสต่อไปนะครับ
ตามอ่านอยู่
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
หงส์แดง ทแยงมุม เอ้ย!
เมืองทอง คะนองเดช เอ้ย!
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel