สถิติน่าสนใจหลังเกมส์เซาแธมตัน + บทความแมคโทมิเน่เจ้าหนูสายเลือดปีศาจ
ratings vs Southampton (Whoscored)
De Gea 5.5
Young 6.9
Lindelof 6.5
Smalling 7.0
Shaw 6.8
McTominay 6.9
Andreas 7.5
Pogba 6.1
Alexis 6.0
Rashford 6.5
Lukaku 8.5
Dalot 6.8
Fred 6.2
Chong 6.0
ลูกากู vs เซาแธมตัน
ยิง5 ครั้ง เข้ากรอบ4ครั้ง ได้ 2 ประตู
เลี้ยงหลบสำเร็จ3
ครอสบอล 3
โหม่งชนะ 2
สร้างโอกาส 1
ซีซั่น2017-18 0.5 ประตูต่อ 90นาที
ซีซั่น2018-19 0.6 ประตูต่อ 90นาท
2ประตูวันนี้ทำให้ลูกากู ทำประตูได้เป็นลูกที่ 12 ขึ้นเป็นคนที่ยิงได้มากที่สุดในทีมแมนยู และ ทำประตูได้เท่ากับ อาซาร์ สเตอริ่ง และ ลากาแซต
ดาโล่ vs เซาแธมตัน
100% เลี้ยงหลบสำเร็จ
ยิง 2
คีย์พาส 2
แอสซิส 1
เปเรร่า vs เซาแธมตัน
77% ผ่านบอลสำเร็จ
11 จ่ายบอลเข้าพื้นที่สุดท้าย
6 ชิงบอลกลับมาครอบครอง
2 ตัดการผ่านบอล
2 โดนทำฟาวส์
1 แอสซิส
1 ประตู
ลินเดอเลิฟ
จ่ายบอลสำเร็จ 67ครั้ง & โหม่งชนะ (7/7)
แมคโทมิเนต์
ตัดการผ่านบอลได้ 3 ครั้งสูงที่สุดในสนาม
ฝากบทความถึงเจ้าหนูแมคโทมิเน่ด้วยครับ
“ เขาเป็นเด็กสูงและแข็งแรง เข้าแท็คเกิ้ล วิ่ง และ จ่ายบอลได้ดี” แพ็ดดี้ ครีแลนด์ อดีตตำนานของแมนยูช่วงปี 60 ได้ให้สัมภาษณ์กับ ESPN “ เขามีหัวสมองด้านฟุตบอลที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นเมื่อต้องเล่นในตำแหน่งที่สำคัญที่สุดในสนามอย่างมิดฟิลด์ที่ต้องตัดสินใจในการผ่านบอลแต่ละครั้งเพื่อนำชัยชนะให้กับทีม
การที่โอเล่ชื่นชม เขาว่า "ยอดเยี่ยม" เป็นอีกสิ่งที่ทำให้แมคโทมิเน่เล่นได้อย่างมั่นใจ
"ถ้าคุณลงไปเล่นโดยรู้ว่าผู้จัดการของคุณเชื่อในตัวคุณอย่างโอเล่เชื่อในสก็อตแบบตอนนี้ มันจะเป็นโบนัสใหญ่เลยเพราะจะทำให้เพื่อนร่วมทีมมั่นใจไปด้วยเมื่อเวลาเล่นร่วมกัน”
หลังจากได้ลงเล่นเปิดตัวในนัดเจอArsenal เมื่อสองปีที่แล้ว แมคโทมิเน่ ได้เล่นไป 21 ครั้ง โดยเป็นตัวสำรอง 16 เกม และ ได้ติดทีมชาติสก็อตแลนด์ เขายังอยู่ในช่วงบ่มเพาะเพื่อที่จะสุกงอมเต็มที่ในช่วงอายุ 26 แต่ในที่สุดเขาเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญใน Team Squad ได้รับความไว้ใจให้มาทดแทนการขาดหายไปของตัวหลักอย่างมาติช
แมคโทมิเน่ เกิดและเติบโตที่เมืองแลงคาสเตอร์ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ทางเหนือของแมนเชสเตอร์ 50 ไมล์ โดยเข้าร่วมศูนย์ฝึกอบรมของยูไนเต็ดในเมืองเพรสตันตั้งแต่อายุเพียง 5 ปี ตอนอายุ 17 สูงเพียง 5 ฟุต 6 นิ้ว (165cm) แต่ตอนนี้ความสูงพุ่งเป็น 193cm
เขาย้ายไปแมนเชสเตอร์และเข้าโรงเรียนที่ Ashton-on-Mersey ร่วมกับผู้เล่นคนอื่น ในฐานะส่วนหนึ่งของ โปรแกรม MANUSS ซึ่งเป็นโปรแกรมที่นักฟุตบอลเยาวชนที่มีแววจะได้รับการศึกษาภาคพื้นฐานที่ดีควบคู่ไปด้วย
สัปดาห์ที่ผ่านาเป็นอีกครั้งที่ แมคโทมิเน่ แสดงให้เห็นว่า สามารถกลับมาจากอาการบาดเจ็บ และ เรียนรู้จากผู้เล่นชุดใหญ่ที่มีประสบการณ์มากกว่า และ แสดงให้เห็นใน 2 เกมส์ล่าสุดว่า เติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ถึงแม้ว่าเขายังมีงานที่ต้องพัฒนาอีกเยอะ
แมคโทมิเน่เป็นตัวอย่างและเป็นความหวังให้กับเหล่าดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ของเรา ที่จะก้าวเข้าสู่ทีมในอนาคต ซึ่งแตกต่างจากที่ ซิตี้ที่มีระบบเยาวชนที่ยอดเยี่ยม แต่ผู้จัดการไม่เต็มใจที่จะดันเยาวชนท้องถิ่นไปสู่ระดับสูงสุดแบบที่เราทำกันที่ยูไนเต็ด
Credit ข้อมูลบางส่วนแปล จาก espn สัมภาษณ์ แพดดี้ คลีแลนซ์ อดีตตำนานยูไนเต็ดยุค60
http://global.espn.com/football/club/manchester-united/360/blog/post/3787696/scott-mctominay-takes-the-chance-to-show-his-worth-at-manchester-united
จากบทสัมภาษณ์ และ เท่าที่ผมตามอ่านคอมเม้นต์ จากสื่อ แฟนที่อังกฤษ พอใจกับผลงานของแมคโทมิเนตนะครับ
สำหรับดาวรุ่งประสบการณ์ลงเล่นในพรีเมียร์ลีคเคยเป็นตัวจริงไม่ถึง 50 นัดในตำแหน่งมิดฟิลด์ แล้วต้อง ลงนัดแดงเดือด หนึ่งในเกมส์ใหญ่ที่ยากที่สุดในโลกแต่ผลงานออกมาได้ขนาดนี้ อย่างที่โอเล่พึ่งบอกว่าดาวรุ่งที่ขึ้นมาถ้าเป็นนักเตะในตำแหน่งแนวรับจะแจ้งเกิดได้ช้าและยากกว่านักเตะในเกมส์รุกเพราะต้องอาศัย การอ่านเกมส์ ความเข้าใจเกมส์ เข้าใจแทคติค ซึ่งพวกนี้ต้องสะสมประสบการณ์ค่อนข้างเยอะ เพราะถ้าพลาดแล้วทีมเสียประตูทีมจะเสียหาย
ส่วนตัวเท่าที่ผมตามดูสไตลการเล่นจะคล้ายคาร์ริคมากกว่ามาติช ส่วนใหญ่แปบอล Simple pass ง่ายๆ เป็นเส้นตรง ระยะ 5-15หลาไปที่เท้าเพื่อนแทบไม่พลาดเลย และ มีความขยัน work rate และ อัตราการวิ่งต่อเกมส์ค่อนข้างสูง แต่ด้วยสไตล์ จะไม่ใช้ตัวที่ใช้ความเร็วเข้าแทคเกิ้ลแบบก็องเต้ แต่เป็นการวิ่ง cover พื้นที่โซน เพื่อชะลอเกมส์ กับอาศัยการยืนตำแหน่งในเขตโทษเพื่อช่วย แบ็คโฟร์ ทำให้เมื่อดูจากในจอทีวีแล้วจะรู้สึกว่าไม่มีอะไรโดดเด่นหรือบิ้กเพลย์การแทคเกิ้ลตัดบอลสวยๆ
แต่จะมีประโยชน์มากในระบบแทคติคของโอเล่ ที่เน้นการฟอร์มแนวรับ และ การคุมโซนพื้นที่ แบบทั้งทีม ซึ่งหลังจากที่โอเล่ปรับวิธีตั้งรับของยูไนเต็ดเป็นระบบนี้ ส่งผลให้ 11 นัด เสียไปเพียง 7 ประตู (เฉลี่ย0.6ประตูต่อเกมส์) และ เก็บคลีนชีทได้ถึง 5 นัด
แน่นอนยังมีสิ่งที่ต้องพัฒนาจากตำแหน่งมิดฟิล์ดตัวรับ
ถ้าเสริมฟิตเนสให้กล้ามเนื้อแข็งแกร่ง โหด ดุ กว่านี้ เวลาเบรคเกมส์ชนได้กระจายแน่ และ ด้วยส่วนสูงถึง 193cm จะสามารถช่วยลูกกลางอากาศในเกมส์รับได้เยอะด้วย
ด้านการโฮลดิ้งบอลขึ้นเกมส์ ยังขาดเรื่องบอลยาว กับการถอยลงมาหาช่องเรียกบอลให้ดีกว่านี้อีกหน่อย ซึ่งเรื่องพวกนี้คิดว่าประสบการณ์ชั่วโมงบินสูงขึ้นจะทำให้ดีขึ้นกว่านี้ครับ
ที่อยากให้แฟนผีให้โอกาส เพราะสิ่งที่แมคโทมิเนย์มีแล้วหาจากคนอื่นไม่ได้ง่ายๆ
ทั้งสายเลือด และ หัวใจยูไนเต็ดตั้งแต่เกิด โดยเกิดแลงคาสเตอร์ซึ่งอยู่ห่างจากแมนเชสเตอร์ไปเพียง 50 ไมล์ เป็นเด็กศูนย์ฝึกของสโมสรตั้งแต่ 5 ขวบ และค่อยไล่ลำดับขึ้นมาทีละชุด ซึ่งจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเตะเยาวชนที่กำลังรอวันขึ้นมาชุดใหญ่ได้ดีมาก
ตำแหน่งแรกตอนเด็กเริ่มคือกองหน้าก่อนค่อยปรับมาเป็นมิดฟิลด์ ปัจจุบันพึ่งขยายสัญญาไปยาวถึงปี2023รับโดยรับค่าเหนื่อยอยู่แค่ 30000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
อีกอย่างนึงคือ ตั้งแต่โอเล่เข้ามา 33 ประตูที่แมนยูทำได้ มาจากนักเตะที่เติบโตมาจากอะคาเดมี่ของทีมถึง 19 ประตู ถ้ารวมทั้งฤดูกาลคือ 25 ประตู มากที่สุดในพรีเมียร์ลีค
ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโอเล่ได้มอบบทบาทสำคัญกับนักเตะที่เติบโตมาจากอะคาเดมี่ขนาดไหน
ยูไนเต็ด เอ็กซ์ตร้าเคยทวิตไว้ว่าแฟน ติดภาพว่าแมคโทมิเนต์ขึ้นมาปุ้บต้องเล่นได้พีคแบบพอล สโคลเลย ซึ่ง มันไม่ง่ายแบบนั้น การสร้างดาวรุ่งมันต้องอดทนและให้เวลา
ซึ่งตอนนี้เริ่มผลิดอกออกผลบ้างแล้วเมื่อดูจาก ผลงาน2นัดล่าสุด
นัดแดงเดือด
ระยะทางที่วิ่ง 11.79 km (วิ่งมากที่สุดในสนาม)
แย่งบอลกลับมาครอบครอง: 7 (มากสุดในทีมแมนยู, มากสุดเปนอันดับ2ในสนาม)
บล็อก: 2 (มากสุดในสนาม)
ตัดการผ่านบอล: 2 (มีแค่ป็อกบา กับ เฮนเดอสันที่มากกว่า)
โหม่งสกัดในเขตโทษ: 2 (มีแค่ลินเดอเลิฟกับ อ. ยัง ที่มากกว่า)
นัดพาเลช
84% จ่ายบอลสำเร็จ
5 โดนทำฟาวส์ (มากที่สุดในสนาม)
5/5 โหม่งสกัดในเขตโทษ
3/3 เคลียร์บอลจากเขตโทษ
2 แทคเกิ้ล
2 นำบอลกลับมาให้ทีมครอบครอง