อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ฉะเดือด! ธนาธร หลังได้ฟังนโยบายปราบปรามรัฐประหาร
เปิดดูคลิปจากเว็บเฟสบุค
ฟังกันให้จบ
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ฉะเดือด! ธนาธร หลังได้ฟังนโยบายปราบปรามรัฐประหาร ให้ผู้ที่มีความผิดในเหตุการณ์เข้าสู่กระบวนยุติธรรม ด้าน มาร์ก สวนกลับ ยกตัวอย่างจากที่ตนเคยผ่านรัฐประหารมาก่อนแล้ว
จากรายการ ทุบประเด็น ทางช่อง BrightTV20 ได้เชิญหัวหน้าพรรค แต่ละพรรคมาร่วมดีเบทกัน ทั้งนี้ ความน่าสนใจของคลิปเทปนี้ อยู่ตรงนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ ที่หลายคนจับตามองอยู่
โดยธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ออกมาให้รายละเอียดเกี่ยวกับนโยบาย และทิศทางของพรรคที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงเศรษกิจต่างๆ ให้กับประเทศ โดยหนึ่งในการเปลี่ยนแปลง ที่ธนาธรจะทำนั้น นั่นก็คือ "การยุติรัฐประหาร"
ซึ่ง ธนาธร กล่าวว่า "ภารกิจอันดับหนึ่งของ พรรคอนาคตใหม่ เราต้องร่วมกันหยุดยั้งอำนาจของ คสช.ให้ได้ อย่างที่สอง ก็คือการปรับแก้ รัฐธรรมนูญ ฉบับปี 60 ทั้งฉบับ เพราะว่ากฎกติกาไม่เป็นธรรม ที่มาเนื้อหาไม่เป็นธรรม และอย่างที่สาม ต้องล้มล้างผลพวงของรัฐประหารทั้งหมด เพื่อจะให้ไม่เกิดการทำรัฐประหารอีกในอนาคต ในประเทศไทย ผมยกตัวอย่าง เช่นว่า คนที่มีส่วนในการปราบปรามประชาชน ที่ไม่เคยถูกลงโทษมาเลย ตั้งแต่อดีต จนปัจจุบัน ไม่ว่าจะปี 16 ตุลา 19 ไม่ว่าจะพฤษภา 35 ไม่ว่าจะเป็นเมษา พฤษภา 53 ไม่เคยมีคนที่ปราบปรามประชาชน เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม"
ต่อมา ธนากร ได้สรุปว่า "วิธีเดียวที่จำนำสังคมกลับไปสู่ความสงบสุข วิธีเดียวที่จะนำสังคมกลับสู่ประชาธิปไตย คือทำสิ่งที่ผิดพลาดในอดีตให้ถูกต้องเสียก่อน นั่นก็คือ คนที่มีส่วนร่วมในการทำผิดทั้งหมด ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และถ้าคนกลุ่มนี้มีอำนาจและไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เราก็ปรองดองไม่ได้"
ต่อมา ด้าน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ออกมาโต้แย้ง ธนาธร โดยกล่าวว่า "จริงครับ การก่อรัฐประหาร มันก่อให้เกิดบทเรียนและก็บาดแผล หลายต่อหลายครั้ง แต่เมื่อสักครู่ที่หยิบยกมาว่าเหตุการณ์ต้องชำระล้างนั้น ไม่ครบนะครับ เมื่อกี้ข้ามเหตุการณ์ช่วงในการชุมนุม 48 - 49 - 50 แต่ 52 - 53 ขอให้ข้อเท็จจริงนิดนึง ผมเคยผ่านเหตุการณ์นั้นมา ผมเปิดโอกาสให้มีการสอบข้อเท็จจริง โดยคณะกรรมการอิสระ ซึ่งผมไม่เคยเข้าไปแทรกแซงเลย ผมถูกนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยส่งไปที่ปปช. ทั้งกระบวนการที่รัฐบาลต่อมา จนถูกนำตัวไปขึ้นศาล เพราะฉะนั้นคดี 52 - 53 คดีเหล่านั้นมันมีข้อยุติแล้ว"
Credit Bright TV