#วิเคราะห์ไปบ่นไป
วันนี้อยากจะนำเสนอในมุมมองของแฟนบอลที่ต้องอึดอัดอดทนมาเป็นเวลาเกือบ 2 ฤดูกาล...
ในหัวข้อหัวที่จะบ่น เกิดอะไรขึ้นกับ “บาร์เซโลน่า” ผลงานไม่เลวแต่ไม่ “ถูกใจ” แฟนบอล...?
เราจะมาบ่นให้ฟังแบบง่ายๆ กัน...
แฟนบอลทีมอื่นอาจจะสงสัยว่า บาร์ซ่า นำเป็นจ่าฝูงทิ้งห่างผู้ไล่ล่าทั้งหลายตั้งหลายแต้ม แถมบอลถ้วยที่เหลือไม่ว่าถ้วยเล็กใหญ่ก็มีโอกาสที่หวังได้ถึงขั้นหลุดเข้าไปถึงรอบ Final ให้ได้ลุ้น !
จากที่ฟังมามันน่าจะ Happy สิ แต่ทำไมแฟนบอลของทีมบารซ่า ถึงค่อนข้างจะไม่ปลื้มแม้ผลงานจะเข้าขั้นดีถึงแม้จะไม่สมบูรณ์แบบก็เถอะ...
งั้นก็เข้าถึงปัญหากันไปเลยดีกว่า ปัญหาที่ว่าที่ทำให้แฟนบอลของทีมโคตรต่างดาวที่นำโดยดาวเตะจากนอกโลกอย่าง ลีโอ เมสซี่ ปวดกระบานกุมขมับ ก็ไม่ใช่ใครที่ ชื่อนั่นคือ “เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้” บอสใหญ่ของพวกพี่แกนั้นแหละครับ...
บัลเบร์เด้ รับช่วงต่อในการคุมทีมต่อจากหลุยส์ เอ็นริเก้ (อินดี้เก้) เมื่อฤดูกาลที่แล้ว จากปัยจัยหลายอย่างๆ ที่เกิดขึ้นในทีม ทำให้ น้าบัลได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างในทีมดังนี้...
1.สไตล์ของทีมที่เปลี่ยนไป
- ปกติแล้วในช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ใช่แล้วครับ บาร์ซ่าคือทีมที่เล่นเกมรุก และ เอนเตอร์เทนคนดูได้ดีที่สุดในโลก แต่บัลเบร์เด้ ได้นำฟุตบอลที่เน้นผลเข้ามาแทนที่ ซึ่งมันขัดแย้งกับสไตล์ฟุตบอล DNA ของทีมที่มีอยู่อย่างสิ้นเชิง
เนื่องด้วยการเสียเนย์มาร์ ทำให้ ทีมต้องเล่นแผน 4-4-2 เป็นส่วนใหญ่เมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยมาเน้นแพคแดนกลางให้แน่นขึ้น เน้นเกมรับมากกว่าเกมรุก ขึ้นนำแล้วเน้นผล ไม่เสี่ยงรุกต่อ ประดุจวิญญานของมูริญโญ่ เข้าสิงซะอย่างนั้น..!!
ถึงแม้ว่าฤดูกาลปัจจุบัน จะกลับมาใช้แผน 4-3-3 ที่คุ้นเคย เพราะความพร้อมและความหลากหลายของนักเตะที่มีมากขึ้น
ก็ยังเอาชนะปัญหาความใจไม่ถึงของ บัลเดร์เด้ ไม่ได้เหมือนเดิม ทำให้เราเห็นมาตลอดกับทีมรุกอย่างบาร์ซ่า ที่ขึ้นนำแล้วถอยลงไปเล่นเกมรับซึ่งมันโคตรจะผิดธรรมชาติกับทีมที่มีแนวรุกที่โหดสัสรัสเซียแบบนี้...
ในบางครั้งทำให้แฟนๆ ต่างคิดว่า บัลเบร์เด้ นี้เก่งมากนะ เปลี่ยนจากทีมทรงบอลบุกลุ้นแชมป์ ให้กลายเป็นเสมือนทีมกลางตารางที่เล่นกันแบบที่พอใจกับผลเสมอไม่แคร์รูปเกมที่เกิดขึ้นได้ซะอย่างนั้น...!!
ในแง่ด้านดีๆ เกมรับดูดีขึ้นจริง แต่เกมรุกก็ยังต้องฝากความหวังไว้กับ เมสซี่ เหมือนเดิม ตรองใจกันดูให้ดีว่านี้คือสิ่งที่แฟนๆ บาร์ซ่า ต้องการจริงๆ หรือไม่ ?
2.บทบาทที่เปลี่ยนไปของนักเตะ และ ลูกรัก...!!
- ในวันนี้ที่ไม่มี ชาบี และ อิเนสต้า 2 นักเตะฝีเท้าระดับเทวดาที่คอยเสกเวทมนต์ในแดนกลางของบาร์ซ่า อีกแล้ว...
นอกจาก เมสซี่ ที่พลิกบทบาทตัวเองลงมาปั้นเกมอย่างเต็มตัวในช่วงหลายปีให้หลัง
ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเสมือนกระดูกสันหลังของทีมที่ค่อยปิดทองหลังพระมาเป็นเวลานานที่มีนามว่า "เซร์คิโอ บุสเก็ตส์"
ก็ต้องปรับบทบาทจาก โฮลบอล คุมจังหวะของทีม ช่วยเบรคเกมก่อนจะถึงกองหลัง ก็ต้องปรับตัวรับภาระหน้าที่เพิ่มขึ้นไปอีก คือการขึ้นไปออกบอลให้กับเพื่อนร่วมทีมมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ในวันที่ ไม่มี 2 เทพ (ชาบี & อิเนสต้า)
(อันนี้เป็นสิ่งที่ดีและแฟนบอลก็ Happy กับมัน แต่ที่สิ่งเบื่ออยู่ด้านล่างนี้...)
จนทำให้เกิด "ตำแหน่งลูกรัก" ขึ้นมาในทีมที่ไม่ว่าจะยังไงพี่แก "อีวาน ราคิติช" ก็จะได้ลงเสมอเพื่อที่จะเล่นตามแท็คติคที่น้าบัลแกวางไว้ให้
ปกติเจ้าตัวก็เป็นกลางที่ค่อนข้างมีความเร็วที่ช้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่เดิม ราคิติชเป็นนักเตะที่เก่งมากๆ คนนึง ซึ่งถนัดการปั้นเกมแล้วก็มีทีเด็ดในการยิงไกลอีกด้วย แล้วก็เล่นเข้าขากับเมสซี่มากที่สุดคนนึงตั้งแต่ ชาบีจากไป
ราคิติช ถูกน้าบัลติดตั้งบทบาทใหม่ให้ในช่วงเวลาที่ผ่านมา คือ การซับพอร์ตบุสเก็ตส์ หรือ ทำหน้าที่แทนในตอนที่ บุสเก็ตส์ ไม่พร้อม...
หน้าที่ใหม่ที่มอบให้กับ ราคิติช ใหม่ ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นนักเตะที่ต้องช่วยเกมรับมากกว่าเดิม จะเรียกว่าเป็น ตำแหน่ง Box 2 Box ก็ห่วยแตกซะเหลือเกิน เพราะสิ่งที่เจ้าตัวทำได้มากที่สุดในตอนนี้ คือการแปะบอลไปมา วิ่งตัดบอลก็ไม่ทันคู่แข่งอีกด้วย...
ราคิติช ถูกใช้งานในลักษณะที่ไม่เหมาะจนทำให้ฟอร์มของเจ้าตัวไม่ดีเหมือนยามที่เล่นในตำแหน่งที่เคยถนัดจริงๆ
ถ้าเกิดวันไหน เจ้าตัวได้ยืนคู่กับ วิดัล ด้วยแล้วอยากจะบอกว่าหายนะแห่งความมั่วมันมีอยู่จริง....
ซีซั่นหน้า การเข้ามาของเด็กเทพ แฟรงกี้ เดยอง อาจจะทำให้ ราคิติช ต้องสั่นสะเทือนก็เป็นได้...
นี้คืออีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แฟนบอลสุดแสนจะเซ็งเกินบรรยาย
(นี่ยังไม่รวมถึงเรื่องตำแหน่งคูตี้ ที่ไม่รู้จะให้เล่นกลาง หรือ ปีก (หน้าซ้าย) กันแน่...!!)
3.การเสริมทัพ (ที่ดูแล้วไม่ตรงจุด...)
- การเสริมทัพในยุคของ น้าบัล และ บอร์ดบริหารชุดนี้ ต้องบอกได้เลยว่าปวดตับพอสมควร ตัวอย่างที่เห็นชัดๆ ตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วจนถึงปัจจุบัน คือการเสริม นักเตะที่มีสไตล์ไม่เข้ากับทีมเข้ามาแล้วเข้ามาอีก ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด.. เช่น เปาลินโญ่ , วิดัล ซึ่ง ทั้งคู่เป็นนักเตะประเภทสไตล์ Box To Box เป็นสไตล์ประเภทที่บาร์ซ่า ไม่ค่อยมี และ ไม่นิยมใช้ซักเท่าไหร่ แต่สไตล์นี้เป็นที่โปรดตาโปรดใจแก่ บัลเบร์เด้ ยิ่งนัก เอามาเพิ่มความแน่นในแดนกลางหวังจะใช้ประโยชน์และรับทั้งรุก (รับซะส่วนใหญ่) โดยคู่ก็ต่างทำผลงานได้พอใช้ ไม่ได้แย่มาก แต่ก็ไม่ได้ดีนัก
ที่สำคัญทั้งคู่เองก็เป็นนักเตะที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่เหมาะกับสไตล์ของบาร์ซ่า...
ส่วนที่เสริมทัพเข้ามาที่เข้าตาจริงๆ ก็คงเป็น อาร์ตูร์ เมโล่ กองกลางหนุ่มจากบราซิลที่เข้ามาอุดรอยต่อช่องว่างที่หายไปของ อิเนสต้า ตำนานของทีมที่อำลาทีมไปในช่วงเวลาที่ผ่านมา และ เดมเบเล่ ไอ้เจ้าหนูเกมเมอร์ที่กำลังดีวันดีคืนรอวันจะขึ้นมาเป็นตัวฝากความหวังได้ในอนาคตถ้าไม่ตกม้าตายเพราะเรื่องระเบียบวินัยซะก่อน...
ในรายของคูตี้ ซึ่งฟอร์มดร็อปลงอย่างเห็นได้ชัด โดยภาพรวม คูตี้ยังเป็นนักเตะระดับท็อปที่มองมีอนาคตที่พร้อมจะช่วยบาร์ซ่าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่อาจจะไม่ใช่ในสไตล์การทำทีมของ บัลเบร์เด้...
ล่าสุด การปล่อย มูเนียร์ ออกไปแล้วไปยืม เควิน พรินซ์ บัวเต็ง เป็นการยืนยันอีกครั้งว่า บอร์ดบริหาร กับ น้าบัล เองได้เลือกนักเตะเข้ามาเป็นแบ๊คอัพสำรองในแดนหน้าได้ไม่ถูกต้องกับสไตล์ของทีมอีกครั้งนึง ตอนนี้ก็ยังตัดสินอะไรไม่ได้ เพราะเจ้าตัวเองก็พึ่งได้มีโอกาสลงไปสัมผัสสนามเพียงน้อยนิด ซึ่งดูจากทรงแล้วก็ไม่ต้องไปหวังอะไรกับพี่แกมากหรอก
สุดท้ายลืมไปรึเปล่าว่าหมอนี้เองก็ไม่ใช่กองหน้าอาชีพอะไร...
4.ประมาทคู่แข่งจนเกือบหายนะ...
- ในหลายครั้งทั้งในบอลลีก หรือ บอลถ้วย น้าบัล แกก็ค่อนข้างจะจัดตัวที่จะประมาทคู่ต่อสู้เกินไป ทำเหมือนเขาไม่มีตีนในบางนัด ซึ่งจะบอกว่าเป็นการโรเตชั่น ก็พอจะฟังขึ้นบ้าง...
ยกตัวอย่างใน บอลถ้วย โกปาเดเรย์ ที่ถูก เซบีย่าทุบเข้าให้ก่อน 2 - 0 ก่อนที่จะมาเน้นจริงจังแบบเต็มสูบลืมตายในเลกที่ 2 สุดท้ายก็ต้องพึ่งความมหัศจรรย์ของผู้เล่นอย่างเมสซี่ และ เดอะ แก๊งค์ คนอื่นๆ ในการพลิกนรกกลับมาชนะโดยสกอร์รวมถึง 6-1 !
คำถาม ถามว่า... ถ้าหากวันนึง ลีโอ และ พ้องเพื่อนไม่สามารถเค้นฟอร์มระดับเทวดาออกมาได้แบบนี้ตลอดล่ะ จะทำยังไงกัน ? (แค่คิดก็สยองแล้วไอ้หำเอ๊ย!!)
5.ความเจ็บช้ำน้ำใจจากสิ่งที่เกิดขึ้นในฤดูกาลที่แล้ว
- ผลจากการตกรอบในรายการ UCL แบบโง่ๆ จากการแพ้ด้วยกฏอเวย์โกลให้กับยอดทีมแห่งกรุงโรม ด้วยแท็คติคขี้ขลาดตาขาว รับเน้นผลตามสไตล์น้าบัล จนทำให้โรม่าได้ลืมตาอ้าปากเข้ารอบต่อไปแทน ทั้งที่นัดแรกเราชนะมาแบบสบายๆ แท้ๆ
ภาพวันนั้นยังคงตามหลอกหลอนทั้งนักเตะ รวมถึงแฟนๆ จนมาถึงทุกวัน นับเป็นการพ่ายแพ้ตกรอบแบบขายขี้หน้าที่สุดครั้งนึงเลยก็ว่าได้...
สุดท้ายก็ต้องให้เครดิตโรม่าด้วยที่ทำได้ดีสุดๆ ในครั้งนั้น...!
สุดท้ายเคราะห์ซ้ำกรรมซัดยังไม่หมดไป หลังจากตกรอบ UCL แบบน่าเจ็บใจจนอยากจะเอาปี๊บคลุมหัว ความหวังสุดท้ายที่จะเรียกศรัทธากลับมาให้กับแฟนๆ ได้เชื่อใจอีกครั้งคือการ เป็นแชมป์ไร้พ่ายเป็นทีมแรกของลีกสเปน !!
แต่สุดท้ายก็อย่างที่ว่านั้นล่ะ บัลเบร์เด้ ก็เสกให้ทีมแพ้แค่นัดเดียวตลอดฤดูกาลจนพลาด ตำแหน่งแชมป์แบบไร้พ่ายไปอย่างชนิดที่คับแค้นกระดองใจ !!
บ่นมายาวคงรู้แล้วนะครับ ปัญหาที่ทำให้แฟนๆ บาร์ซ่ายังไม่ปลื้มกับสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร...
สุดท้ายก็โทษใครไม่ได้นอกจากบอร์ดบริหารสุดงามไส้ชุดนี้
ที่สำคัญตอนนี้ ถ้าไม่เอา บัลเบร์เด้คุมต่อ ก็ยังมองไม่เห็นว่าจะให้ใครที่ไหนที่ดีพร้อมจะมาคุมแทนในเวลานี้อีกต่างหาก !!
*อัพเดตล่าสุด*
ยืนยันเป็นที่เรียบร้อยไม่กี่วันที่ผ่านมา “เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้” นายใหญ่คนปัจจุบันได้รับการต่อสัญญาในการคุมยอดทีมแห่งแคว้นคาตาลัน ต่อไปเป็นเวลาอีก 1 ฤดูกาล
อกอีแป้นจะแตกสลายลุ้นให้มีข่าวปลด ดันมีข่าวต่อสัญญาซะได้
ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ฝากบทความจากใจแฟนบาร์ซ่าด้วยนะครับ