รู้จัก "ทีมชาติจีน" ชุด เอเชี่ยน คัพ 2019

#ข้อมูลทั่วไป
- ความสูงเฉลี่ยเป็นอันดับ 3 ในเอเชี่ยน คัพ 2019 ด้วยความสูงเฉลี่ยราว 182 เซ็นติเมตร เป็นรองเพียง อิหร่าน และ เกาหลีใต้
- อายุเฉลี่ยทั้งทีม คือ 28.7 ปี ซึ่งสูงที่สุดในรายการนี้
- เป้าหมายขั้นต่ำของพวกเขาในรายการนี้ คือ "รอบ 8 ทีมสุดท้าย" (ถึงแม้เดิมทีในแผนปฏิบัติการของสมาคมฟุตบอลจีน จะตั้งเป้าไว้ว่า "รอบรองชนะเลิศ" แต่หลังจาก ตู้ เจ้าไฉ มานั่งรักษาการนายกสมาคมฯ เมื่อปีที่แล้ว ก็ได้เปลี่ยนเป้าหมายตรงจุดนี้ไปด้วย)

#นักเตะตัวหลักที่บาดเจ็บและถอนตัว
- เจิง เฉิง (ผู้รักษาประตูมือหนึ่ง)
- หลี่ ฉิวเผิง (แบ๊คซ้ายตัวหลัก)
- จาง ชิวเหวย
- หวง จื่อชาง

#จุดแข็ง
- ความสูงและสรีระที่ได้เปรียบทำให้ลูกกลางอากาศเป็นอาวุธหลักที่ทีมชาติจีนใช้มาตลอด
- ลูกนิ่ง คืออีกอาวุธของจีน เนื่องจากความสูงและสรีระที่ได้เปรียบ และรายการนี้พวกเขาได้ประตูจากลูกนิ่งมากกว่าโอเพ่น เพลย์ เสียอีก
- แผนการเล่นที่ไม่ตายตัว (จนบางทีนักเตะวิ่งมั่วก็มีให้เห็น 5555) เอาเป็นว่าถ้าเขาจัด 4-5-1 หรือ 5-3-2 อันนี้ไม่น่ากลัวครับ แต่ผมคิดว่าเจอไทยเราเขาน่าจะจัดเกมรุก 4-2-1-3 หรือ 4-3-3 ตามถนัดมากกว่า (ซึ่งแบบนี้ต้องอย่าประมาท)
- ลูกหนัก เข้าบอลถึงลูกถึงคนสไตล์จีน มีให้เห็นทุกนัดอยู่แล้ว
- ลิปปี้ กุนซือคนนี้ดึงความสามารถของนักเตะออกมาได้ดีมาก แผนการเล่นที่ยืดหยุ่นตลอดเวลาก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่เราประมาทไม่ได้ครับ

#จุดอ่อน
- อยู่ที่ "แบ๊คซ้าย" มือสามอย่าง "หลิว หยาง" ด้วยประสบการณ์ที่ยังน้อยเห็นได้ชัดว่าเมื่อถูกคู่ต่อสู้เจาะทางฝั่งซ้ายจะมีปัญหาตลอด (ส่วนตัวมองว่า ลิปปี้ อาจจะพลาดไปนิดที่ไม่เรียก เจียง จื้อเผิง แบ๊คมากประสบการณ์มาแทน) แถม หยู ฮั่นเชา กราบซ้ายอีกคนเจ็บหนักน่าจะพักยาวแล้ว
- เจ้า ซู่รื่อ กลางรับฝั่งซ้ายก็เป็นอีกคนที่ยังสอดประสานกับ หลิว หยาง ไม่ลงตัวสักทีในเกมรับ ดังนั้นผมคิดว่าตรงนี้คือจุดบอดของทีมชาติจีนชุดนี้
- แบ๊คทั้ง 2 ฝั่งเป็นสไตล์ขึ้นสุด-ลงสุด และเป็นแบ๊คดั้งเดิม คือ ลุยสุดเส้นหลังอย่างเดียว ไม่ค่อยมีมิติอื่นให้เห็น ดังนั้นหากไทยเราอดทนดักให้ได้แล้วมีจังหวะโต้กลับดีๆ ผมคิดว่ามีลุ้นได้เลย
- "ความฟิต" อย่างที่บอกไปข้างต้น ด้วยอายุเฉลี่ยโดยเฉพาะตัวจริงที่มากกว่าชาวบ้านแถมพักน้อยกว่าเรา 2 วัน พอโดนเพรสซิ่งเร็วเมื่อไหร่ มีปัญหาทันที โดยเฉพาะ เจิ้ง จื่อ กัปตันทีมที่อายุใกล้ 39 ปีแล้ว ถ้าโดนบอลเร็วและบดหนักๆมีเป๋เหมือนกันครับ
- เพลย์เมกเกอร์ของจีน ณ เวลานี้มีเพียงคนเดียวที่มีประสิทธิภาพ นั่นคือ "หาว จุ้นหมิ่น" ถ้าปิดตัวนี้ได้ก็งานเบาลงไปเยอะครับ
- นักเตะจีนชุดนี้ส่วนใหญ่ไม่เน้นลีลา พวกสับหลอกนี่แทบไม่เห็น ส่วนใหญ่สไตล์ตรงๆทื่อๆ แบบโบราณมีให้เห็นอยู่ประจำ ดังนั้นผู้เล่นเกมรับเราดักทางไม่ยากครับ

#จุดที่ต้องระวัง
- การขึ้นเกมส่วนใหญ่จะขึ้นทาง "กราบขวา" โดยมี จาง หลินเผิง, อู๋ ชี, และ หาว จุ้นหมิ่น เป็นตัวคอยสอดประสาน อันนี้ต้องระวัง เพราะ น่ากลัวกว่าฝั่งซ้าย
- แผนการเล่นที่ยืดหยุ่นได้ตลอด สังเกตุเบื้องต้นเลย คือ ถ้าไลน์อัพออกมาแล้วยืน 4-1-3-2 หรือ 4-3-3 มาอีหรอบนี้จะคนละม้วนกับนัดที่เจอ เกาหลีใต้ แน่นอนครับ (ลองถอดเทปนัดเจอ ฟิลิปปินส์ ดูจะเห็นภาพชัด)

#นักเตะที่ต้องระวัง
- อันนี้เน้นย้ำนะครับ ผมยังมองว่าคนที่ต้องระวังอันดับแรก คือ "หาว จุ้นหมิ่น" (เบอร์ 11) ไม่ใช่ "อู๋ เหล่ย" เพราะตราบใดที่น้องอู๋ไม่มีคนป้อนบอลให้ก็ลดความอันตรายลงไปเยอะ ดังนั้นอย่าปล่อยให้ หาว จุ้นหมิ่น อดีตนักเตะ ชาลเก้ 04 มีพื้นที่คายบอลเด็ดขาด พี่แกมาเนิบๆ ถึงจะไม่หวือหวาเหมือน ชนาธิป ของเรา แต่คุณภาพขอเตือนว่าอย่าประมาท
- อู๋ เหล่ย อันนี้ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณ ผมเชื่อว่าหลายคนรู้จักเขาดีอยู่แล้วสำหรับดาวซัลโวไชนีส ซูเปอร์ลีก 2018 เอาเป็นว่าอย่าให้ได้บอลในเขตโทษบ่อยๆเป็นพอครับ
- เซียว จื้อ ศูนย์หน้าตัวเก็บบอลขนานแท้ สูง ใหญ่ พักบอลดี เพิ่งหายเจ็บกลับมาซ้อมได้วันนี้
- เหวย ชื่อหาว ปีกตัวนี้มีความเร็วครับ น้องแกเจ็บเพิ่งกลับมาซ้อมได้วันนี้เช่นกัน

#ข้อแนะนำ
- อันดับแรก ณ เวลานี้ อู๋ เหล่ย ยังอยู่ที่ ยูเออี นะครับ ล่าสุดลงซ้อมกับทีมแล้วแต่ประคบน้ำแข็งที่หัวไหล่ไว้ ซึ่งถ้าไม่เจ็บเพิ่มก็พร้อมลงสนามพบ ไทย แน่นอน (ถึงจะไม่ 100% ก็ตาม)
- การเข้าบอลหนักหน่วงเป็นสไตล์ของนักเตะจีนที่เล่นกันประจำในลีกอยู่แล้ว ดังนั้นทั้งนักเตะและแฟนบอลเราอย่าไปหัวร้อนตามนะครับ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกรรมการน่าจะดูบอลสนุกกว่า แต่ถ้าพลิกเอาความจุดเดือดต่ำของนักเตะจีนบางคนมาใช้ให้เป็นประโยชน์ก็จะดีเยี่ยมครับ
- เอาจริงๆนะ ทำไมคิดถึง "ศศลักษณ์ ไหประโคน" ขึ้นมายังไงก็ไม่รู้...

เอาพอหอมปากหอมคอเนาะ ที่เหลือเชิญได้ที่ เล่าเรื่องบอลจีน - Chinese Super League เด้อพี่น้อง!

เครดิต: สมาชิกหมายเลข 1968593 แห่ง pantip.com https://pantip.com/topic/38467737

เครดิตต้นบทความ : https://www.facebook.com/eamxindi.yongpanit https://www.facebook.com/ChineseSuperLeagueThailand/

ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว โค้ชโอเล่ กุนนาร์ โซลโต่ย ปล่อยของที

ไม่มีใครคิดว่าเราจะชนะมั้งหรอ

ขอบคุณบทความดีๆครับ ไม่รู้ทำไม ผมถึงรู้สึกว่านัดนี้เราควรกลับไปเล่น 4-2-3-1 นะ เชื่อว่าถ้ากลางเรายืนชิดๆกัน กลับไปเคาะบอลสั้นเน้นครองบอล บดไปเรื่อยๆเด่วจีนเสียท่าเราเอง และ นัดนี้ใช้กอล์ฟหรือมุ้ยแต่คนเดียวพอมั้งครับ เอาโดหรือศศลักษณ์ ขึ้นไปเล่นปีกขวาเอาเร็วคล่องของเราไปป่วนซ้ายเค้าหน่อยดีไหมครับ

กราบขวาอยากให้เป็นคนอื่นบ้างที่ไม่ใช่กอล์ฟ เกมเราตันมาก
จะเห็นว่าพื้นที่ตรงนั้นเราไม่ได้ประโยชน์จากเกมรุกของกอล์ฟเลย
ตรงนั้นจะเป็นโดหรือนิวที่สอดขึ้นไปมากกว่า
แล้วการที่ตำแหน่งอื่นเติมไปบ่อยๆก็เหมือนดาบสองคม โดนสวนขึ้นมามีหงาย
กอล์ฟไม่ใช่ตัวปั้นตัวชง ไปอยู่เป้ามีประโยชน์กว่า
จริงๆเป็นโดกับศศลักก็ได้ สลับกันขึ้นลงเพราะรับรุกได้ทั้งคู่
หรือจะโดกับศุภชัยก็ได้อีกแหละ ดีกว่าใช้กอล์ฟยืนริมเส้นแน่ๆ

เพจนี้คิดเหมือนผมอย่างนึง อยากเห็นศศลักษณ์ลงบ้าง

ผมไม่ชอบกล์อฟ เลย ทำอะไรไม่ได้เลย ปีกขวา

เเล้วไม่ไล่บอล ด้วยนะ โด งานหนักประจำ

ผมนี่อยากดันโด ขึ้นไป ตำเเหน่งกล์อฟ เเล้วเอา ศศลักษณ์ ลงตรงโด

เเหล่มเลย

ศศลักษณ์ ไหประโคน ทีเถอะ ให้เด็กมันโชว์ของหน่อย อย่างน้อยความเร็วมันก็น่าจะทำประโยชน์ได้ดีกว่า กอล์ฟนะ

แต่อย่าเอาปีโป้ลง อันนี้ขอ

คิดเหมือนกันเลยครับ เพราะดูแล้วนัดล่าสุด ฝั่งขวาเราไม่ค่อยได้ประโยชน์จากกอล์ฟเลยครับ