กมธ.สื่อฯ สนช. พบหลักฐานใหม่คดี ‘ไร่ส้ม-สรยุทธ’ ที่แท้ อสมท ร่วมโฆษณาเกินเวลาด้วย เป็นเงินกว่า 237 ล้าน ที่ผ่านมาคณะทำงานตรวจสอบ-สตง. ไม่เจอเพราะตรวจแค่ฝ่าย บ.ไร่ส้ม อย่างเดียวเจอผู้บริหาร-ฝ่ายขาย-ฝ่ายกลยุทธ์การตลาด มีเอี่ยวแต่ไม่เคยถูกสอบ ชี้แสวงหาผลประโยชน์มิชอบ-ผิดสัญญาเอกชน ชงนายกฯ-คลัง-ยุติธรรม-ปธ.ป.ป.ช.-กก.ผู้จัดการใหญ่ อสมท รับทราบแล้ว

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะทำงานพิจารณาศึกษากรณีการทุจริตค่าโฆษณาระหว่างบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สารสนเทศ และการสื่อสารมวลชน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในกรณีนี้ และทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี รมว.คลัง รมว.ยุติธรรม ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ประธานกรรมการการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เพื่อดำเนินการต่อไป

โดย กมธ.ชุดดังกล่าว ตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมจากนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรชื่อดัง เจ้าของบริษัท ไร่ส้ม จำกัด รวมถึงเชิญผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ผู้ว่า คตง.) ตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และผู้บริหารระดับสูงในบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) มาให้ถ้อยคำ พบว่า ในการทำสัญญาระหว่างบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไร่ส้ม จำกัด กรณีดำเนินรายการ ‘คุยคุ้ยข่าว’ ที่ออกอากาศทาง อสมท ระหว่างปี 2547-2549 พบว่า มีการตกลงว่า ในช่วงวันจันทร์-ศุกร์ ในเวลา 30 นาที บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ออกอากาศรายการโฆษณาได้จำนวน 2 นาที 30 วินาที และช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ในเวลา 1 ชั่วโมง สามารถออกรายการโฆษณาได้จำนวน 5 นาที โดยเป็นการทำสัญญาแบบ Time Sharing (50/50)

อย่างไรก็ดีจากการศึกษาเพิ่มเติม พบข้อมูลว่า หนังสืออนุมัติการดำเนินการร่วมผลิตรายการให้แก่บริษัท ไร่ส้ม จำกัด หมายถึงข้อตกลงที่ให้ผู้ร่วมผลิตรายการทั้งสองฝ่ายมีสิทธิในการขายเวลาโฆษณาในรายการฝ่ายละเท่า ๆ กัน ดังนั้นกรณีบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ได้รับส่วนแบ่งในการออกอากาศรายการโฆษณาจำนวน 2 นาที 30 วินาที (วันจันทร์-ศุกร์) และ 5 นาที (วันเสาร์-อาทิตย์) ฝ่าย อสมท จึงมีส่วนแบ่งออกอากาศรายการโฆษณาเท่ากันกับบริษัท ไร่ส้ม จำกัด แม้ว่าจะไม่มีการกำหนดส่วนแบ่งการออกอากาศรายการโฆษณาของ อสมท ไว้ในสัญญาร่วมกันดำเนินรายการก็ตาม

คณะทำงานฯ กมธ.ชุดนี้ พบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่า แม้จะปรากฎว่าฝ่ายบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ออกอากาศรายการเกินว่า 2 นาที 30 วินาที (วันจันทร์-ศุกร์) และ 5 นาที (วันเสาร์-อาทิตย์) แต่ปรากฏว่า ระหว่างปี 2547-2549 ฝ่าย อสมท ได้ออกอากาศรายการโฆษณาในส่วนของตนเกินว่าจำนวนส่วนแบ่งเช่นกัน รวมเวลาส่วนเกินของฝ่าย อสมท เป็นจำนวน 1,085 นาที 16 วินาที คิดเป็นมูลค่า 237 ล้านบาท ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ยุติในคดีพิพาทเป็นคดีปกครองระหว่างบริษัท ไร่ส้ม จำกัด และ อสมท

นอกจากนี้คณะทำงานฯ ยังตรวจสอบเอกสารหลักฐานใบ BR พบข้อมูลยืนยันว่า อสมท มีโฆษณาเกินกว่าข้อตกลงจริง ส่วนที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดต่าง ๆ รวมถึงสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หลังจากเกิดเหตุนั้นได้รับคำชี้แจงว่า เป็นเพราะตรวจสอบโฆษณาเกินแต่เฉพาะฝั่งบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ฝ่ายเดียว โดยไม่ได้ตรวจสอบโฆษณาในฝั่ง อสมท เนื่องจากไม่เคยทราบว่ามีหนังสืออนุมัติการดำเนินการร่วมผลิตรายการให้แก่บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ที่กำหนดข้อตกลงการแบ่งผลประโยชน์ Time Sharing (50/50)

คณะทำงานฯ จึงสรุปข้อเท็จจริงว่า ในช่วงเวลาเกิดเหตุ อสมท ได้ออกอากาศรายการโฆษณาเกินส่วนแบ่งที่ตนมีสิทธิได้รับตามสัญญาร่วมผลิตรายการที่ทำกับบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ไปขายเวลาโฆษณาในฝ่าย อสมท และนำเวลาโฆษณาที่ขายได้เกินกว่าเวลาโฆษณาที่ได้รับอนุญาตจากบริษัท ไร่ส้ม จำกัด มาลงเป็นเวลาโฆษณาในรายการ ‘คุยคุ้ยข่าว’ การกระทำดังกล่าวของ อสมท ย่อมเป็นการแสวงหาประโยชน์มิชอบ ผิดสัญญาที่ได้กระทำกับคู่สัญญาที่เป็นเอกชน โดย อสมท เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งสถานีโทรทัศน์และเป็นรัฐวิสาหกิจ จะอ้างความเป็นเจ้าของสถานีเพื่อปัดความรับผิดชอบไม่ได้ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นการดำเนินกิจการโดยปราศจากหลักธรรมาภิบาล และยังเป็นการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการออกอากาศรายการโทรทัศน์ คือระเบียบว่าด้วยวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ. 2535 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ในขณะเกิดเหตุ รวมทั้ง พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537

“จึงเห็นว่า ผู้บริหารของ อสมท ในช่วงเกิดเหตุ ประกอบด้วย ผู้บริหารฝ่ายขาย ผู้บริหารฝ่ายกลยุทธ์การตลาด รวมทั้งผู้บริหารของ อสมท ที่เกี่ยวข้องกับการอนุมัติให้ออกอากาศเกินกว่ากฎหมายกำหนด ข้อตกลงตามสัญญาร่วมดำเนินรายการโทรทัศน์ระหว่าง อสมท กับบริษัท ไร่ส้ม จำกัด และได้รับเงินค่ารางวัลนำเข้าที่เพิ่มมากขึ้นกว่าจำนวนเงินที่จะได้รับตามกฎหมาย ตามสัญญาร่วมดำเนินรายการโทรทัศน์ระหว่าง อสมท กับบริษัท ไร่ส้ม จำกัด และระเบียบของ อสมท ปฏิบัติหน้าที่โดยบกพร่องด้วยการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย สัญญาร่วมดำเนินรายการโทรทัศน์ และละเลยการกำกับควบคุมตรวจสอบให้การออกอากาศรายการโฆษณาเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อประโยชน์ที่ตนเองจะได้รับ” คณะทำงานฯ ดังกล่าว ระบุ

Cr.https://www.isranews.org/isranews-news/72933-isranews787881-72933.html

ต้องยอมรับว่ารายการคุยคุ้ยข่าวช่วงนั้นเรทติ้งสูง ตัวทำเงินเลยจริงๆ

สุดท้ายขอให้คนโกงโดนกฏหมายเล่นงานตามๆกันไปให้หมดนะครับ อย่าให้มีใครเหลือรอดได้หล่ะ

เรื่องแบบนี้ ถ้าเอกชน กับเอกชน ฟ้องร้องจ่ายชดเชยกันไป น่าจะจบ ต่างคนก้ต่างพึงพากันและกัน

อ่านแล้วงงๆ คือทีแรกไร่ส้มผิดโดนคดีโกงเวลาโฆษณา อสมท แล้วสรุป อสมท ร่วมโกงด้วยจากหลักฐานใหม่
ใช่มั๊ยครับ ตกลงโกงใคร งง

คิดไว้แล้วมันต้องมีคนในร่วมมือด้วย

อ่านแล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจ สรุปว่า อสมท โฆษณาเกินเอง แล้วยัดเวลาที่เกินมาให้ไร่ส้มเป็นฝ่ายผิด แบบนี้เหรอ? เพราะใช้อำนาจว่าตนเป็นเจ้าของสถานี แบบนี้รึป่าว?


ถ้าใช่ตามนี้ สรยุทธ์มีสิทธิรอดคุกเลยนะ แถมอาจได้ฟ้อง อสมท กลับด้วย

ใช่ฮะ สรยุทธซวยตรงที่อสมท.ดันเป็นรัฐวิสาหกิจ

ไม่เชิงครับ เหมือนประมาณว่า รายการคุยคุ้ยข่าวโฆษรา2นาที ไร้ส้มมีสิทธิโฆษณานาทีครึ่ง อสมท.เจ้าของช่องอีกครึ่งนาที ปรากฎโฆษณาเกิน กลายเป็น2นาทีครึ่งมาตลอด ไร่ส้มเลยโดนเล่น

สืบไปสืบมา ไม่ใช่แค่ไร่ส้ม ไอที่เกินมาครึ่งนาทีทั้งไร่ส้มทั้งอสมท.ก็โฆษณาเกินกันทั้งสองฝ่าย ในส่วนที่อสมท.โฆษณาเกินเอง ผู้บริหารขณะนั้นก็ต้องรับผิด น่าจะยังงั้นนะ ก็ไม่ได้เกี่ยวโดยตรงกับคดีสรยุทธ์