กระแส “โค้ชนอก” หรือ “โค้ชไทย” ใครเหมาะสมคุม “ช้างศึก” ? ถ้าหยั่งเสียงเวลานี้ เชื่อเหลือเกินว่า เสียงสนับสนุน “โค้ชไทย” จะมีเกินครึ่ง จากผลงานประวัติศาสตร์ของ “โซลโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ที่ได้ใจแฟนบอล หลังพลิกวิกฤติเป็นโอกาสผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ฟุตบอล “เอเชียน คัพ 2019” ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 47 ปี ที่ช่วยให้คนไทยลืมความล้มเหลวของ มิโลวาน ราเยวัช

แต่เรื่องเงินๆ ทองๆ ของบาดใจ เมื่อมีกระแสข่าวลอยมาว่า คนบางคนพยายามใช้กำลังภายในยัดเยียด “โค้ชต่างชาติ” ให้สมาคมฯพิจารณา เพื่อส่วนแบ่งผลประโยชน์ของตัวเอง!!! โดยยกเหตุผลที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งกุนซือถาวรของ “โซลโต่ย”

1.เรื่องของไลเซนส์?

ปัจจุบัน ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ถือใบอนุญาตผู้ฝึกสอนระดับ AFC 'A' Coaching Certificate ทำให้หลายคนเป็นกังวลกับเรื่องใบอนุญาตที่ทาง AFC กำหนดไว้ว่าเฮดโค้ชทีมชาติทุกคนจะต้องถือใบอนุญาติระดับ AFC 'Pro' Diploma

แต่เนื่องจากปัจจุบัน สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กำลังเปิดคอร์สอบรมผู้ฝึกสอน AFC 'Pro' Diploma Coaching Course ครั้งที่สอง และมีชื่อของศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ทำให้เขามีโอกาสที่จะทำหน้าที่ต่อไป โดยสามารถทำเหมือนในเคสของ "เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง" ที่ในช่วงปี 2016 ยังถือใบอนุญาตระดับ "เอ ไลเซนส์" ให้คุมทีมต่อไป พร้อมชี้แจงว่ากำลังอยู่ในช่วงของการอบรมโค้ชระดับสูงที่สุดอยู่ในขณะนั้น

2.ผลงาน?

ผลงานสองนัดที่ผ่านมา ทัพ “ช้างศึก” ภายใต้การคุมทีมของ ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ถือว่าเป็นที่ยอมรับ เพราะหลังจากพ่ายต่อ อินเดีย 1-4 ในนัดแรก ทำให้แฟนบอลหลายคนที่สบประมาทว่าทีมชาติไทยน่าจะต้องเก็บข้าวของกลับบ้านเป็นทีมแรก

แต่สุดท้ายสองนัดที่ผ่านมา กับการเจอกับชาติตะวันออกกลาง ที่มีฟีฟ่า แรงกิ้ง สูงกว่า “โซลโต่ย” สามารถพาทีมเก็บแต้มและผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ในฐานะรองแชมป์กลุ่มได้แบบน่าเหลือเชื่อ

3.สตาฟฟ์โค้ชและนักเตะให้การยอมรับ?

สังเกตได้ชัดจากนัดเสมอกับ ยูเออี หลังจากที่ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ยิงประตูตีเสมอได้ นักเตะทั้งหมด รวมถึง “เจ้านิว” วิ่งมากอด “โค้ชโต่ย” อย่างมีความสุข ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นยากกับโค้ชชาวต่างชาติ แต่กับ “โค้ชโต่ย” สำหรับเขาแล้ว นักฟุตบอลทุกคนเปรียบเสมือนกับลูกที่พร้อมจะให้ใจแลกใจเสมอ ซึ่งบางทีการปลุก “ช้างศึก” ก็ต้องใช้เลือด “ช้างศึก”

นอกจากนี้ บทสัมภาษณ์ล่าสุดของ ทริสตอง โด ก็ยืนยันว่า การซ้อมของ ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย นั้นทำให้บรรยากาศในทีมมีความสุขและทุกคนก็กลับมายิ้มกันอีกครั้ง

4.ประสบการณ์?

จากนักฟุตบอลสโมสรโอสถสภา สู่การเป็นผู้ช่วยโค้ช สร้างบารมีในการปลุกปั้นเด็กๆ มากมาย จนเข้ามาคุม ไทย-ฮอนด้า ลาดกระบัง เอฟซี และพาทีมคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 จนได้รับรางวัลผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม จาก การกีฬาแห่งประเทศไทย ในปีดังกล่าว ก่อนจะก้าวมาเป็นผู้ช่วยของ มิโลวาน ราเยวัช และอยู่กับทีมมาอย่างยาวนาน พร้อมทั้งเรียนรู้เรื่องต่างๆ มากมาย

5.มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่สมาคมฯกำหนด?

หลังจากปลด มิโลวาน ราเยวัช จากตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ ได้กำหนด 4 เงื่อนไขสำหรับ “โค้ชใหม่” ประกอบไปด้วย

1.คนไทยหรือต่างชาติก็ได้ แต่ต้องเต็มใจทำงานตรงนี้
2.บรรลุข้อตกลงและยอมรับเงื่อนไขของสมาคมฯ
3.มีคุณสมบัติเหมาะสม ตามความต้องการของสมาคมฯ
4.ค่าจ้างที่ไม่ได้สูงมาก

ซึ่งเชื่อว่าทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมา “โซลโต่ย” พร้อมที่จะรับหน้าที่เป็นเฮดโค้ชอย่างแน่นอน

โดยเฉพาะข้อสุดท้ายที่ นายกสมาคมฯ ย้ำว่าสำคัญสุด ซึ่งจากการทำงานที่ผ่านมา “โซลโต่ย” ยอมรับว่าแทบไม่เคยได้จับเงินแสน เพราะค่าเหนื่อยหรือเงินเดือนจากการเป็นโค้ช เจ้าตัวแทบไม่เคยได้สูงเกินกว่าห้าหลัก แต่หากเป็นโค้ชต่างชาติ แน่นอนว่าย่อมมีค่าจ้างที่สูงกว่ามาก

ซึ่งทุกเงื่อนไขที่กล่าวมา “โซลโต่ย” จึงน่าจะเหมาะสมกับตำแหน่งกุนซือถาวรของ “ช้างศึก” โดยเฉพาะการรวมใจนักเตะและกอบกู้ศรัทธากลับคืนมาอีกครั้ง

และหากรอบ 16 ทีมสุดท้าย “ช้างศึก” สามารถสร้างปาฏิหาริย์บทใหม่ขึ้นมาได้อีก เชื่อได้เลยว่า คงไม่มีแฟนบอลคนไหนกล้าปฏิเสธ “โซลโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ในการคุมทีมชุดใหญ่แบบถาวรแน่นอน

เอาโค้ชไทยนี่แหละครับ ผมมองว่าเลิกใช้โค้ชต่างชาติดูซักพักก่อน เพราะมันวนลูปอยู่แบบนี้ประจำ

ลูปของไทยที่ผ่านมาคือ

-ใช้โค้ชต่างชาติราคาแพง
-ผลงานไม่ดีปลดแถมจ่ายค่าปลดจากสัญญาที่เหลือ
-ใช้โค้ชไทยรักษาการแทน
-กลับไปใช้โค้ชต่างชาติแล้วก็ปลดอีก

อยากให้ลองโค้ชไทยหรือในแถบเอเชียที่รู้จักบอลในทวีปนี้ดี เน้นการต่อบอลกันแบบพวกญี่ปุ่น เกาหลี น่าจะเข้ากับทีมชาติที่สุดแล้ว อีกอย่างอุปสรรคเรื่องการสื่อสารที่นักเตะอาจจะเข้าใจไม่เต็มร้อยด้วย เพราะงั้นโค้ชไทยน่าจะตอบโจทย์ได้มากกว่า

สนับสนุนโคชคนไทยอีกเสียง น่าจะสื่อสารกันได้เข้าใจง่ายและไวกว่าต้องมีล่ามแปลอีกที

เฮดโค้ช=ไทย แต่ที่ปรึกษาเทคนิค=นอก ผมว่าน่าจะลงตัว

อย่างน้อยโค้ชไทยก็ได้ซึมซับเทคนิคใหม่ๆที่เป็นสากลเพิ่มด้วย

โค้ชโต่ย+โค้ชโชค นี่แหล่ะ

ผลงานขนาดนี้ไม่ให้คุมต่อก็เกินไป

น่าสนในนะ เพราะหลังจากนี้เราก็ไม่มีรายการใหญ่ๆไปอีกซักพักเป็นโอกาสให้ได้ลองทีมพิสูจผลงานในเกมอุ่นเครื่อง


ถ้าโค้ชต่างชาติอยากให้ลงโค้ชญุี่ปุ่น

ข้อดีโค้ชไทย
- สื่อสารกันรู้เรื่องเต็มที่
- นักเตะมีความเกรงใจพอสมควร
- ค่าจ้างถูกกว่า

ข้อเสียโค้ชไทย
- ความรู้ ประสบการณ์
- ทีมงาน "อาจจะ" ไม่ฟูลไทม์ทุกคน
- โอกาสที่จะมีรายการคุณขอมาสูงกว่าโค้ชนอก

ดูกันยาวๆ ครับ
เชียร์ครับ บอลไทย

ผมก็ยังอยากได้ซิโก้อยู่ดี ไม่ได้อีโก้นะแต่ผมชอบสไตล์พี่แกจริงๆ

ส่วนตัวผมอยากให้แกและโค้ชโชคกลับมาเป็นผู้ช่วยเหมือนเดิมนะ

ดูที่ผลงานสิ
ผลงานดีก็จ้างต่อ...

ก็ดีครับ ขนาดต่างชาติยังยอมเอามาเสี่ยงได้ ทำไม่ไม่เสี่ยงกับโค้ชไทยบ้าง ดูทีมงานโค้ชชุดนี้แล้วดูสนิทสนม ผูกพันกับนักเตะดีนะครับ อีกอย่างโค้ชโต่ยแกดูนอบน้อมถ่อมตนมากเลย ไม่แอ็ค อิอิ

สไตล์แกก็ดีนะครับ แต่ถ้าแกยังคุมอยู่ผมคงไม่รู้จักกองหลังตัวสูงหลายคนที่เล่นอยู่ตอนนี้ แต่คงจะเห็นธนบูรณ์เล่นกองหลังอยู่เหมือนเดิม ซึ่งขัดกับที่เคยได้ยินมาว่าไทยเราไม่มีกองหลังให้เลือกใช้ แล้วยุคนี้มาจากไหนตั้งหลายคน

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าโค้ชโต่ยตกลงว่าจะไปคุมทีมโรงเรียนเเก่าของผม
ก่อนที่จะไปเอเชียนคัพแล้ว
.
.
แต่ถ้ามันเป็นโอกาสที่ดีของพี่ที่ได้คุมทีมชาติ ก็ไปเถิดครับ
ผมก็คนไทยคนนึงเหมือนกัน