ปี2020 หรือก่อน2020 ถ้าเกิดวิกฤตขึ้นจริง ทุกคนจะรับมือกันยังไงครับ
การกู้เงินยากขึ้นแน่นอน ดอกเบี้ยในการกู้ก็ต้องเพิ่มขึ้น หุ้นร่วง ราคาอสังหาก็น่าจะลด

คำถามคือ
-ควรลงทุนหรือย้ายเงินลงทุนไปไว้ไหนดีครับในช่วงนั้น ทองคำดีรึเปล่า
-ถ้าลงทุนกู้ แล้วปล่อยเช่าอสังหาในตอนนี้ พอเกิดวิกฤติขึ้น
จะได้รับความเสี่ยงในด้านไหนมั่งครับ นอกจากราคาที่ตกลง
-ในการกู้ซื้ออะไร ดอกเบี้ยจะปรับขึ้นหรือลงตลอดเวลา
หรือคงที่ตลอดในช่วงสัญญาครับ เช่น ถ้าเกิดวิกฤต สมมติดอกเบี้ยจาก6%
ขึ้นเป็น10% cashflowเราจะลดในช่วงนั้นเลยมั้ย (ไม่เคยมีประสบการณ์กู้ )
-บ.ใหญ่ๆจะต้องลดงบลง พนักงานประจำอย่างเราๆ ความเสี่ยงสูงขึ้นที่จะถูกไล่ออก
นอกจากเงินเฟ้อแล้ว ยังเรื่องของความไม่มั่นคงอีก
ทุกคนเตรียมรับมือกันยังไงมั่งครับ

พอดีไม่ค่อยมีความรู้ด้านนี้มาก เลยอยากรับมือไว้แต่เนิ่นๆ
ช่วงนี้เห็นข่าวจีนทะเลาะกับเมกา กลัวจะเกิดวิกฤตในปีหน้าจริงๆ
ช่วยแนะนำทีครับ ขอบคุณครับ

หากจะว่ากันตามหลักเศรษฐศาสตร์ ประเทศไทยกำลังขยายตัวได้ดี GDP 4%++ แต่สถานการณ์กำลังจะแย่ลงตามลำดับโดยเฉพาะ กลุ่มท่องเที่ยวที่เพิ่งพากลุ่มลูกค้าจีน ตอนนี้กลุ่มลูกค้าจีนหายไปมากแล้ว

การที่หลายคนออกมาบ่นเรื่องเศรษฐกิจ คงเป็นเพราะคนที่ได้รับผลประโยชน์รอบนี้ 3-4 ปีหลังเป็นกลุ่มนายทุนและคนรวยระดับบน 1% ของประเทศ​ จึงมีวลี "รวยกระจุก จนกระจาย" ทำให้คนทั่วๆไป รู้สึกเงินในกระเป๋าลดลง

 ดังนั้นถ้าวิกฤติเกิดขึ้นจริงๆ จะเกิดกับคนกลุ่มกลาง และล่างเป็นส่วนมาก

1. จะมีทรัพย์สินราคาถูกออกมาขายมากมาย เช่น ที่ดิน, และสมบัติต่างๆ ดังนั้นให้เก็บเงินสดไว้ให้ดี
2. อย่าสร้างหนี้สิน เนื่องจากเป็นช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น จะทำให้ดอกเบี้ยสูงขึ้น ภาระก็มาขึ้น
3. พัฒนาตัวเอง เสริมสร้างความรู้ เพื่อไม่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะตกงาน หรือขาดรายได้
4. ออกกำลังกาย ลดภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดจะเกิดขึ้น เช่นค่ารักษาพยาบาล
5. หลักเลี่ยงการลงทุนธุรกิจใหม่ หรือขยายกิจการ หากฐานลูกค้าเป็นลูกค้ากลุ่มระดับกลางและล่าง

อย่าประมาทและขอให้โชคดี ขอบคุณครัช

ตอนนี้อยู่ในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น เงินสดหายากและมีค่ามาก

มีบ้าน รถ ครบแล้ว งานก็คงไม่โดนบังคับออก เพราะเลือกรัฐวิสาหกิจ น่าจะมั่นคงอยู่ คงต้องเห็บออมเงินสดไว้กินไว้ใช้บ้าง ยังไม่มีเมีย พ่อ แม่ เป็นราชการ น่าจะหายห่วง

เก็บเป็น bit coint น่าจะปลอดภัยที่่สุด ?

Bitcoin หรอฮะ

1.ไม่มีใครทราบนะครับ คหสต ราคาทองอาจไม่เพิ่มมาก เพราะอเมริกาย้ายเงินจากสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น ทองคำ ไปพันธบัตร

2.ถ้าเกิดวิกฤต คงหาคนเช่ายาก อสังหาราคาไม่ค่อยตกนะ แต่อาจจม 3-5 ปี กว่าเศรษฐกิจจะฟื้น

3.ถ้า ธปท ขึ้นดอกเบี้ย พวกธนาคารก็จะปรับตาม ต้นทุนเงินกู้จะสูงขึ้นครับ แต่ถ้าเกิดวิกฤต ธปท ก็จะต้องลดดอกเบี้ยลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

4.ไม่มีความเห็น

ผิดถูกรอท่านอื่นชี้แนะครับ

ตุนกองทุนพันธบัตรเอาไว้ สะสมกระสุน พอผ่านไปปี2022ก็โยกไปกองทุนหุ้น

ถ้าเริ่มเก็บตั้งแต่วันนี้ ไม่ต้องกังวลเรื่องวิกฤตปี2020เลย


เจ๊งก่อนถึงแล้วล่ะ

ดูดุลการค้าไทยไปครับ ถ้ายังเป็นบวก ก็ไม่น่าเป็นไร แต่ถ้ามันเริ่มทรงๆ กราฟดิ่งลง หรือติดลบเมื่อไหร่ ก็ไปทอง ไม่ก็ เงินดอลล่าร์ แล้วก็ตัวใครตัวมันละครับ

สอบราชการแล้วทำงานนอกเวลาสะสมทองคำแท่งไว้มากที่สุดครับ

ขอตอบทีละคำถามนะครับ อันนี้ในมุมมองของผมนะครับ

1.ควรลงทุนในไหนดี ผมขอแนะนำซื้อทองเก็บในสัดส่วน 10% ของงบที่มีครับเป็นการประกันความเสี่ยง เพราะมันจะยังคงคุณค่าเดิมเสมอในเวลาเกิดวิกฤต
2.ลงทุนอสังหา ในเรื่องกู้แล้วปล่อยเช่า ต้องดูด้วยครับว่าซื้ออะไร บ้าน คอนโด ที่ดิน ตึกแถว แต่ละอย่างจะต่างกันไป แต่แนะนำว่าถ้ายังไม่เคยมีประสบการณ์การลงทุน หรือไม่มีความรู้ อย่าพึ่งกู้มาซื้อ นอกจากท่านจะเงินจมแล้วท่านอาจต้องขาดทุนด้วย ถ้าจำเป็นต้องใช้เงินในช่วงวิกฤต
3.ดอกเบี้ยจะเป็นไปตามเซ็นสัญญาไว้ อาจปรับเปลี่ยนได้ ถ้ามีการทำรีไฟแนนซ์ แต่การไปกู้หลังเกิดวิกฤตส่วนใหญ่อัตตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น และธนาคารจะปล่อยกู้ยากมากขึ้น
4.ส่วนนี้เป็นส่วนสำคัญสุด อันนี้คงต้องไปคิดแล้วแต่วิชาชีพ ปัญหาตอนนี้คือ เทคโนโลยีก้าวนำคนไปมาก มีเครื่องจักรแทนคน มี social media สิ่งสำคัญสุดคือการปรับตัวและเพิ่มความสามารถให้ทันโลกที่เปลี่ยนแปลงครับ

ในวิกฤตมีโอกาส พวกเซียนหุ้นหลายคนทีาพอร์ตใหญ่ๆทุกวันนี้ ก็รวยจากการลงทุนในหุ้นที่ตกลงไปต่ำมากๆ

ฟังเค้าวิเคราะห์มาอย่างเดียวนะ แบ่งไปลงใน ทอง ครับทุกสำนักบอกเหมือนกันหมด แต่แบ่งสัดส่วนกันเอาเอง

ในวิกฤต มีโอกาสเสมอ

หากจะว่ากันตามหลักเศรษฐศาสตร์ ประเทศไทยกำลังขยายตัวได้ดี GDP 4%++ แต่สถานการณ์กำลังจะแย่ลงตามลำดับโดยเฉพาะ กลุ่มท่องเที่ยวที่เพิ่งพากลุ่มลูกค้าจีน ตอนนี้กลุ่มลูกค้าจีนหายไปมากแล้ว

การที่หลายคนออกมาบ่นเรื่องเศรษฐกิจ คงเป็นเพราะคนที่ได้รับผลประโยชน์รอบนี้ 3-4 ปีหลังเป็นกลุ่มนายทุนและคนรวยระดับบน 1% ของประเทศ​ จึงมีวลี "รวยกระจุก จนกระจาย" ทำให้คนทั่วๆไป รู้สึกเงินในกระเป๋าลดลง

 ดังนั้นถ้าวิกฤติเกิดขึ้นจริงๆ จะเกิดกับคนกลุ่มกลาง และล่างเป็นส่วนมาก

1. จะมีทรัพย์สินราคาถูกออกมาขายมากมาย เช่น ที่ดิน, และสมบัติต่างๆ ดังนั้นให้เก็บเงินสดไว้ให้ดี
2. อย่าสร้างหนี้สิน เนื่องจากเป็นช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น จะทำให้ดอกเบี้ยสูงขึ้น ภาระก็มาขึ้น
3. พัฒนาตัวเอง เสริมสร้างความรู้ เพื่อไม่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะตกงาน หรือขาดรายได้
4. ออกกำลังกาย ลดภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดจะเกิดขึ้น เช่นค่ารักษาพยาบาล
5. หลักเลี่ยงการลงทุนธุรกิจใหม่ หรือขยายกิจการ หากฐานลูกค้าเป็นลูกค้ากลุ่มระดับกลางและล่าง

อย่าประมาทและขอให้โชคดี ขอบคุณครัช