อาร์แซน เวนเกอร์ขงเบ้งเลือดน้ำหอมบอกกับซีเนอดีน ซีดานว่าถ้าอยากทำงานในระดับท็อป ก็ควรเลือกพรีเมียร์ลีกเป็นสถานีถัดไปของเขา

อดีตบอสของเรอัล มาดริดยังว่างงานอยู่หลังก้าวลงจากตำแหน่งกุนซือในรั้วเบร์นาเบว จากการพาทีมคว้าแชมเปี้ยนส์ลีกได้ 3 สมัยติดต่อกันในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

ซีดานตกเป็นข่าวกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอย่างหนาหูท่ามกลางความกดดันที่ถาโถมใส่โจเซ่ มูรินโญ่กุนซือคนปัจจุบัน

เวนเกอร์ที่เพิ่งออกจากตำแหน่งนายใหญ่ของอาร์เซน่อลในช่วงซัมเมอร์ ก็บอกว่าในปัจจุบันนี้หากอยากจะทำงานในระดับท็อปก็ต้องเลือกมาที่อังกฤษ

เวนเกอร์บอกกับ beIN Sports ว่า "ใช่ ทำไมจะไม่ล่ะ? ถ้าคุณอยากทำงานในระดับท็อป ทุกวันนี้ก็คือที่อังกฤษ"

"แต่ก็มีความไม่แน่นอนมากมายจากเบร็กซิท และความไม่แน่นอนในเรื่องที่ว่าการเงินของพรีเมียร์ลีกจะยังเหนือกว่าที่อื่นต่อไปหรือไม่ เราจะได้ทราบกันในไม่ช้า"

"อังกฤษเป็นประเทศเดียวที่มี 6 สโมสรแข่งขันกันเพื่อแย่งแชมป์"

"ในประเทศอื่นน่ะพอถึงช่วงเดือนธันวาคมคุณก็แทบจะบอกได้แล้วล่ะว่าใครจะคว้าแชมป์ และก็จะมีบางประเทศแบบฝรั่งเศสที่คุณบอกได้ตั้งแต่เดือนกันยายน"

เวนเกอร์ชี้ว่าซีดานสัมผัสประสบการณ์บนจุดสูงสุดของงานคุมทีมมาแล้ว และแนะนำให้ลองมองโปรเจ็คท์ระยะยาวเป็นงานถัดไปของเขา

"เขาอยู่ในจุดที่ยากลำบากมาก เขาผ่านการอยู่กับสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในโลกมาแล้วและมีแต่จะไปคุมทีมใหญ่สุดในโลกทีมที่สองเท่านั้น"

"นั่นหมายความว่าเขาอยู่ตรงหน้าของอะไรบางสิ่ง หรือไปจับงานโปรเจ็คท์ในระยะยาวและไปสู่อีกด้านนึงของงานนี้ และอยากมีส่วนร่วมในการสร้างสโมสร"

"หรือไปอยู่กับสโมสรที่แข่งขันได้อย่างทันที, สโมสรที่คว้าแชมเปี้ยนส์ลีกอีกครั้ง ส่วนตัวแล้วนั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย"

"ในกรณีของเขาน่ะ เป็นผมคงเลือกอีกมุมนึงของงานนี้"

มาสร้าง ยูไนเต็ด ในระยะยาวที

วางแนวทางตั้งแต่เยาวชนขึ้นมาไปจนถึงทีมชุดใหญ่ ให้ซ้อม ให้เล่น ไปในแนวทางเดียวกัน พัฒนาไปในปรัชญาเดียวกันทั้ง ชุดใหญ่-ชุดเยาวชน ซึ่ง มูริณโญ่ ขาดตรงนี้ เพราะ มูริณโญ่ จะสังเกตเขาได้จากการทำทีมของเขาแล้ว ดูจะโฟกัสและมุ่งเน้นไปที่ทีมชุดใหญ่แค่อย่างเดียวเท่านั้นโดยส่วนมาก "ทำทีมชุดใหญ่ยังไงให้แข็งแกร่ง" "ทำทีมชุดใหญ่ยังไงให้เป็นแชมป์" ส่วนเรื่องพัฒนาเยาวชนให้เป็นเรื่องของสโมสรไป

คือเข้าใจแหละว่าผู้จัดการทีมทุกคนก็ต้องคิดถึงเรื่องนั้น

แต่ยกตัวอย่างเช่น อาร์แซน เวงเกอร์, เป็ป กวาดิโอล่า วางตั้งแต่เยาวชนเลยว่าต้องเล่นยังไงทิศทางไหน ไม่ใช่แค่โรงเรียนที่เอาไว้เฟ้นหาเฉพาะเด็กเก่ง แต่เป็นโรงเรียนที่บ่มเพาะระบบให้กับผู้เล่นที่โตจากอคาเดมี่นี้เลยว่า ทุกคนเล่นแบบนี้ ไม่ใช่เล่นแบบตามมีตามเกิดตามความเก่งของแต่ละคน ใครเด่นสุดจับขึ้นชุดใหญ่ อะไรแบบนั้น แต่อคาเดมีแบบนี้สอนให้เด็กเล่นด้วยกัน ด้วยระบบแบบเดียวกันกับทีมชุดใหญ่ คือต่อให้นักเตะซีเนียร์อายุ 30 กว่า จนถึงเด็กที่ย่างเท้าเข้าสู่อคาเดมี่มาวันแรก 8 ขวบ 9 ขวบ ก็ต้องเล่นในปรัชญาเดียวกัน

เวลาเลือกนักเตะเข้าสู่สโมสรจากการซื้อขาย ก็ต้องเลือกนักเตะที่มีลักษณะการเล่นที่เข้ากับรูปแบบ เข้ากับสไตล์และอัตลักษณ์การเล่นของสโมสรเช่นกัน ไม่ใช่เลือกเอาสุ่มสี่สุ่มห้า ต่อให้นักเตะคนนั้นจะเก่งแค่ไหนก็ตาม ก็ต้องเลือกสไตล์ที่เข้ากับระบบที่สโมสรวางไว้เป็นลำดับแรก ยกตัวอย่างเช่น ลูกากู ต่อให้เขาจะยิงให้ที่อื่นกระจายระเบิดระเบ้อ แต่ถ้าพิจารณาดูแล้วว่า เขาเก่ง แต่ไม่เข้ากับปรัชญาและรูปแบบการเล่นที่สโมสรวางไว้ ก็ไม่เอา

แบบนี้สโมสรจะเติบโตและรักษามาตรฐานได้ในระยะยาว ไม่ใช่หมดยุคเจนเนอเรชั่นนักเตะยุคใดยุคนึงแล้วก็ดร็อป เพราะทุกคนที่เข้ามาแทนคนที่โรยราออกไป ก็ไม่ต้องปรับตัวอะไร แค่เล่นในรูปแบบเดียวกัน ไม่ต้องปรับตัวกับแทคติคมากมาย จนนำมาซึ่งคำว่า "ไม่เข้าระบบ" เพราะนักเตะรู้มาอยู่แล้วว่าทีมต้องเล่นยังไง ตำแหน่งไหนวิ่งไปทางไหน ระบบ รุก-รับ ของทีมเป็นแบบใด จากนั้นก็เป็นเรื่องของฝีเท้าของนักเตะคนนั้นๆว่าสามารถทดแทนหรือดีกว่าคนที่จากไปได้หรือเปล่า ส่วนนักเตะก็สามารถเอาเวลาไปพัฒนาฝีเท้าได้เต็มที่ ไม่ต้องเอาเวลามาพร่ำสอนกรอก ปรัชญา, แทคติค, สไตล์การเล่นของทีม เข้าสมองใหม่

เอ็ดวิ่งดิเอ็ด

เซาท์แธทตันแน่นอน

ฟูแล่มป่ะ ...

ได้ลาลีก้า+3แชมป์UCL ต้องท๊อปแค่ไหนอีกเหี่ยว 6ทีมแย่งแชมป์ลีกกับทีมระดับบิ๊ก 10ทีมแย่งUCL

ไปแทนพอชที่สเปอร์แน่เลย

เหี่ยว บอก บาเยิน ขอข่อยเด้อ

อยากให้ซีดานไปสร้างทีมของแกเองจริงๆ มิลานหรือโมนาโกก็น่าสน ถ้ามีตังค์ให้พี่แกช็อปเยอะๆ

กลับมาดริดดีก่า เดียวเขี่ยเบลทิ้งให้

ปลดมูซักทีเถอะพ่อ ..

อบากเห็นมาคุมผีแดงมากๆ

บอลลีกกับบอลถ้วยมันต่างกันนะครับ

ลีกกะลาคือทีมมันสูสี การเงินทีมเล็กก็พอทุ่มได้ ข้อนี้ ลีกอื่นแทบไม่มียิ่ง ลาลีก้า ก็ตามที่เห็นนะครับ บอลถ้วยเล่นในบ้าน 1 นัด นอกบ้าน 1 นัด อะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่บอลลีกแข่งระยะยาวต้องสม่ำเสมอจริงๆครับ

ปล.ผมไม่ได้ว่าซีดานไม่เก่งนะ

มาสร้าง ยูไนเต็ด ในระยะยาวที

วางแนวทางตั้งแต่เยาวชนขึ้นมาไปจนถึงทีมชุดใหญ่ ให้ซ้อม ให้เล่น ไปในแนวทางเดียวกัน พัฒนาไปในปรัชญาเดียวกันทั้ง ชุดใหญ่-ชุดเยาวชน ซึ่ง มูริณโญ่ ขาดตรงนี้ เพราะ มูริณโญ่ จะสังเกตเขาได้จากการทำทีมของเขาแล้ว ดูจะโฟกัสและมุ่งเน้นไปที่ทีมชุดใหญ่แค่อย่างเดียวเท่านั้นโดยส่วนมาก "ทำทีมชุดใหญ่ยังไงให้แข็งแกร่ง" "ทำทีมชุดใหญ่ยังไงให้เป็นแชมป์" ส่วนเรื่องพัฒนาเยาวชนให้เป็นเรื่องของสโมสรไป

คือเข้าใจแหละว่าผู้จัดการทีมทุกคนก็ต้องคิดถึงเรื่องนั้น

แต่ยกตัวอย่างเช่น อาร์แซน เวงเกอร์, เป็ป กวาดิโอล่า วางตั้งแต่เยาวชนเลยว่าต้องเล่นยังไงทิศทางไหน ไม่ใช่แค่โรงเรียนที่เอาไว้เฟ้นหาเฉพาะเด็กเก่ง แต่เป็นโรงเรียนที่บ่มเพาะระบบให้กับผู้เล่นที่โตจากอคาเดมี่นี้เลยว่า ทุกคนเล่นแบบนี้ ไม่ใช่เล่นแบบตามมีตามเกิดตามความเก่งของแต่ละคน ใครเด่นสุดจับขึ้นชุดใหญ่ อะไรแบบนั้น แต่อคาเดมีแบบนี้สอนให้เด็กเล่นด้วยกัน ด้วยระบบแบบเดียวกันกับทีมชุดใหญ่ คือต่อให้นักเตะซีเนียร์อายุ 30 กว่า จนถึงเด็กที่ย่างเท้าเข้าสู่อคาเดมี่มาวันแรก 8 ขวบ 9 ขวบ ก็ต้องเล่นในปรัชญาเดียวกัน

เวลาเลือกนักเตะเข้าสู่สโมสรจากการซื้อขาย ก็ต้องเลือกนักเตะที่มีลักษณะการเล่นที่เข้ากับรูปแบบ เข้ากับสไตล์และอัตลักษณ์การเล่นของสโมสรเช่นกัน ไม่ใช่เลือกเอาสุ่มสี่สุ่มห้า ต่อให้นักเตะคนนั้นจะเก่งแค่ไหนก็ตาม ก็ต้องเลือกสไตล์ที่เข้ากับระบบที่สโมสรวางไว้เป็นลำดับแรก ยกตัวอย่างเช่น ลูกากู ต่อให้เขาจะยิงให้ที่อื่นกระจายระเบิดระเบ้อ แต่ถ้าพิจารณาดูแล้วว่า เขาเก่ง แต่ไม่เข้ากับปรัชญาและรูปแบบการเล่นที่สโมสรวางไว้ ก็ไม่เอา

แบบนี้สโมสรจะเติบโตและรักษามาตรฐานได้ในระยะยาว ไม่ใช่หมดยุคเจนเนอเรชั่นนักเตะยุคใดยุคนึงแล้วก็ดร็อป เพราะทุกคนที่เข้ามาแทนคนที่โรยราออกไป ก็ไม่ต้องปรับตัวอะไร แค่เล่นในรูปแบบเดียวกัน ไม่ต้องปรับตัวกับแทคติคมากมาย จนนำมาซึ่งคำว่า "ไม่เข้าระบบ" เพราะนักเตะรู้มาอยู่แล้วว่าทีมต้องเล่นยังไง ตำแหน่งไหนวิ่งไปทางไหน ระบบ รุก-รับ ของทีมเป็นแบบใด จากนั้นก็เป็นเรื่องของฝีเท้าของนักเตะคนนั้นๆว่าสามารถทดแทนหรือดีกว่าคนที่จากไปได้หรือเปล่า ส่วนนักเตะก็สามารถเอาเวลาไปพัฒนาฝีเท้าได้เต็มที่ ไม่ต้องเอาเวลามาพร่ำสอนกรอก ปรัชญา, แทคติค, สไตล์การเล่นของทีม เข้าสมองใหม่

ต้อง PSG น่าจะเหมาะ ฟรีเมียร์คงมีแต่เซลซีที่เป็นไปได้ เพราะอีก 4 ทีมทั้งลิเวอร์ แมนซิ อาเซนอล สเปอร์ มีคนทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้ว ส่วนแมนยูคงไม่กล้าเสี่ยง แฟนแมนยูก็ไม่ใช่ เคยเป็นนักเตะแมนยูก็ไม่ใช่ /

"ในประเทศอื่นน่ะพอถึงช่วงเดือนธันวาคมคุณก็แทบจะบอกได้แล้วล่ะว่าใครจะคว้าแชมป์ และก็จะมีบางประเทศแบบฝรั่งเศสที่คุณบอกได้ตั้งแต่เดือนกันยายน"

จริงของเจ๊ อีกหน่อยน้องเป้ เนมาร์ คงรอเตะแต่ UCL บอลโลก ส่วนบอลลีคแข่งให้มันจบๆ ไป